เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 50 อำนาจแข็งแกร่งและการใช้อำนาจบาตรใหญ่ของลั่วซงเฉิง
กองทหารองครักษ์แห่งจิงตูก็คือหน่วยมังกรฟ้าที่มีเถี่ยฉุยเป็นผู้นำ คอยรักษาความมั่นคงปลอดภัยของจิงตู เนื่องจากในจิงตูมีกลุ่มอำนาจใหญ่และตระกูลใหญ่อยู่มากมาย ฝ่ายรักษาความปลอดภัยสารธารณะธรรมดาๆ มิอาจล่วงเกินได้ ดังนั้นเพื่อควบคุมเหล่าผู้มีอำนาจและตระกูลใหญ่ต่างๆ ที่ไม่เห็นกฏหมายอยู่ในสายตา คนระดับสูงของประเทศจึงตัดสินใจส่งหน่วยมังกรฟ้ามาเพื่อรักษากฏหมายและความสงบเรียบร้อยในจิงตู
หลานชายสองคนของลั่วซงเฉิง ลั่วเทาและลั่วเหลยถูกอู๋เสวี่ยฆ่าตายไปจริงๆ ลั่วซงเฉิงที่มีนิสัยปกป้องและถือหางพรรคพวก อีกทั้งจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต ย่อมไม่ยอมปล่อยเย่เทียนเฉินไปแน่ ลั่วซงเฉิงที่โกรธขั้นสุดก็คิดอย่างรวดเร็วว่า ครั้งนี้เขาไม่เพียงแต่ต้องฆ่าเย่เทียนเฉิน แต่ยังต้องทำลายตระกูลเย่ด้วย ดังนั้นจึงนำกองทหารคนสนิท และยังเรียกเถี่ยฉุยจากหน่วยมังกรฟ้ามา เพื่อที่จะบุกทะลวงไปยังบ้านหลักตระกูลเย่และจะฆ่าคนตระกูลเย่ก่อนโดยไม่สนใจถึงความถูกต้องเหมาะสมใดๆ รวมกับมีเถี่ยฉุยอยู่ด้วย ถึงตอนนั้นเชื่อว่าเบื้องบนของประเทศคงไม่ว่าอะไรเขาแน่ มีความโหดเหี้ยมอยู่เต็มร้อย
เสียงเตะดังปัง เย่เทียนเฉินไม่สนใจพวกนี้ และไม่กลัวว่าทหารสองนายนี้มีปืน พวกเขากล้ามาขวางตนเองที่จะเข้าไปในบ้านหลัก แค่เตะก็ปลิวไปหนึ่งคน ส่วนทหารถือปืนที่เหลืออีกคนหนึ่ง ในตอนที่เตรียมใช้ปืนเล็งไปยังศีรษะของเย่เทียนเฉินก็ถูกเตะจนปลิวไปเช่นกัน
ที่เย่เทียนเฉินรีบร้อนฝ่าเข้าไปเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าเพื่อจะช่วยคนอื่นๆ ในบ้านหลักตระกูลเย่ แต่เป็นเพราะว่าเย่หงพ่อของตนอยู่ข้างใน ในความคิดของทุกคน ลั่วเหลยและลั่วเทาถูกตนเองฆ่าตาย ลั่วซงเฉิงย่อมนำบัญชีความแค้นนี้มาลงกับตนเอง ตอนนี้ตนเองไม่ได้อยู่ที่บ้านหลักตระกูลเย่ แต่เย่หงผู้เป็นบิดานั้นอยู่ ลั่วซงเฉิงย่อมไม่อาจปล่อยเย่หงผู้เป็นพ่อไปแน่นอน ด้วยเหตุนี้เย่เทียนเฉินจึงทะลวงเข้าไปข้างในอย่างรีบร้อนเช่นนั้น
ไม่รอให้หลัวเยี่ยนผู้เป็นแม่ได้สติกลับมา เย่เทียนเฉินก็ใช้ขาเตะนายทหารถือปืนทั้งสองจนปลิวไป จากนั้นจึงจูงเธอเดินเข้าไปยังห้องโถงสำหรับรับแขกของบ้านหลักตระกูลเย่
หนึ่งในทหารสองนายที่ถูกเย่เทียนเฉินเตะจนปลิวพยุงปืนกลขึ้นมา เล็งไปที่บริเวณหลังของเย่เทียนเฉินและเตรียมที่จะยิงออกไป แต่กลับถูกนายทหารอีกคนหนึ่งขวางเอาไว้
“อย่าวุ่นวายไป ถ้าหากยิงเย่เทียนเฉินตายไปจริงๆ เกรงว่าเรื่องนี้จะเป็นพวกเราที่ต้องแบกรับความผิด”
นายทหารที่ยกปืนกลขึ้นมาผู้นั้น กัดฟันอย่างดุร้าย สุดท้ายก็วางปืนกลลง สหายร่วมรบข้างกายเขาพูดได้ไม่ผิด ไม่ว่าจะพูดอย่างไรตระกูลเย่ก็เป็นตระกูลที่ยังพอมีหน้ามีตาในจิงตู อย่างไรเสียเย่หย่วนซานผู้อาวุโสตระกูลเย่ก็เคยกุมอำนาจอยู่ในมือ ลั่วซงเฉิงฆ่าเย่เทียนเฉินตายอาจจะไม่ร้ายแรง แต่หากพวกเขาที่ฐานะแตกต่างกับลั่วซงเฉิงราวฟ้ากับเหวลั่นไกยิงเย่เทียนเฉินตาย ถึงตอนนั้นเบื้องบนสอบสวนลงมา ต้องยัดความผิดมาให้พวกเขาแน่ เช่นนั้นคงต้องตายโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม
ตอนนี้เอง เมื่อเย่เทียนเฉินไปรวมตัวในห้องโถงรับแขกของบ้านหลักตระกูลเย่ ลั่วซงเฉิง เถี่ยฉุย ผู้อาวุโสตระกูลเย่เย่หย่วนซาน เย่หวง เย่มู๋ไป๋และเย่เฮ่อกั๋ว ทั้งหกคนต่างก็มองหน้ากันด้วยสีหน้ามืดครึ้ม ภายในห้องโถงมีบรรยากาศขัดแย้งรุนแรงปะทุออกมาอย่างเข้มข้น ลั่วซงเฉิงมองเย่หงอย่างโหดเหี้ยม อยากที่จะฆ่าเย่หงให้ตายแล้วค่อยไปฆ่าเย่เทียนเฉิน
ปัง!
ลั่วซงเฉิงใช้มือตบลงบนโต๊ะน้ำชา ลุกขึ้นยืนแล้วพูดอย่างโหดเหี้ยมว่า “ผู้อาสุโสเย่ ผมจะไม่อ้อมค้อม หลานสองคนของผมลั่วเหลยและลั่วเทา ตายด้วยน้ำมือของเย่เทียนเฉินหลานของคุณ ตอนนี้ผมไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ส่งเย่เทียนเฉินมา ใช้ชีวิตแลกชีวิต ไม่งั้นอย่าหาว่าผมไม่เกรงใจ!”
ได้ยินคำพูดของลั่วซงเฉิง เย่หย่วนซานก็ขมวดคิ้ว ในปีนั้นตอนที่ตนยังอยู่ในตำแหน่ง ตำแหน่งสูงกว่าลั่วซงเฉิงไม่น้อย ตอนนี้ตนเองเกษียณแล้วก็ไม่มีผู้ใดเคารพเลยจริงๆ กล่าวไปแล้วลั่วซงเฉิงก็ถือว่าเป็นผู้น้อยของตนเอง แต่กลับกล้าใช้คำพูดเช่นนี้กับตน หากว่าเป็นเมื่อก่อน เกรงว่าลั่วซงเฉิงสิบคนก็ไม่พอให้ชายตาแล ดูท่าคนเราสังขารโรยราขึ้นทุกวันจริงๆ!
“รองผู้บัญชาการลั่ว เรื่องนี้ผมเห็นว่ายังต้องหาหลักฐาน ผมเชื่อว่าหลานของผมไม่ทำเรื่องเช่นนั้นแน่นอน” เย่หย่วนซานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ทำแน่? ผู้อาวุโสเย่ เรื่องนี้หลักฐานแน่นหนา ผมพูดได้ตรงนี้เลยว่า ถ้าหากวันนี้ตระกูลเย่ไม่ส่งเย่เทียนเฉินออกมา ผมก็ทำได้แต่ฆ่าหลานชายตระกูลเย่ของคุณเพื่อล้างแค้นให้หลานชายทั้งสองของผม!” ลั่วซงเฉิงกล่าวเสียงดังอย่างจองหองอวดดี
“คุณ…ลั่วซงเฉิง คุณนี่ช่างไม่เจียมตัวบ้างเลย คนแก่อย่างผมต่อให้ลงจากตำแหน่งแล้ว แต่หากกล้าลั่นไกในตระกูลเย่ของผมล่ะก็ เกรงว่าตระกูลลั่วของคุณเองก็ไม่ได้อยู่ดีแน่!”
เย่หย่วนซานเองก็ถูกทำให้โกรธเสียแล้ว ต่อให้ตระกูลเย่จะตกต่ำกว่านี้ ก็ไม่มีใครกล้ามาอวดดีที่ตระกูลเย่ขนาดนี้ ไม่เห็นตนเองอยู่ในสายตาเลย ตอนนี้ลั่วซงเฉิงไม่เพียงแต่นำทหารพร้อมด้วยอาวุธปืนมาล้อมตระกูลเย่ทั้งหมด แล้วยังจะฆ่าปิดปากคนตระกูลเย่อีกด้วย ต่อให้เป็นคนที่สุขุมกว่านี้ก็เกรงว่าจะทนไม่ไหว
“เฮอะ ผู้อาวุโสเย่ หากไม่ใช่เพราะผมเห็นว่าคุณเป็นผู้อาวุโส ผมคงไม่มาพูดจามากความกับคุณหรอก ผมลั่วซงเฉิงไม่ใช่จะล่วงเกินกันง่ายๆ เย่เทียนเฉินไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ กล้าฆ่าหลานชายทั้งสองของผม ต่อให้เป็นเทพเทวดาก็ช่วยเขาไม่ได้แล้ว วันนี้เขาต้องตายแน่นอน!” ในที่สุดลั่วซงเฉิงก็คำราม พูดจาแตกหักออกมาอย่างเปิดเผย
“พี่ซงเฉิง ผมคิดว่าเรื่องนี้มีการเข้าใจผิด เทียนเฉินแม้จะเสเพลไปบ้าง แต่เกรงว่าไม่กล้าลงมือฆ่าหลานชายทั้งสองของพี่แน่ ผมคิดว่าเรื่องนี้ยังต้องตรวจสอบอีก!” เย่หงกล่าวอย่างไม่เชื่ออยู่อีกด้านหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นเย่เทียนเฉินผู้เป็นลูกทำหรือไม่ เย่หงก็ล้วนแต่ไม่เชื่อ นั่นเป็นลูกชายของตนเอง คนเป็นพ่อ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ย่อมยืนอยู่ข้างลูกชายของตนแน่นอน หากว่าพิสูจน์และยืนยันแล้วว่าเย่เทียนเฉินลูกชายของตนฆ่าหลานชายทั้งสองของลั่วซงเฉิงจริงๆ เช่นนั้นก็นับว่าเย่เทียนเฉินเดินอยู่บนเส้นทางแห่งความตายไปแล้ว เย่หงย่อมไม่อาจทนเห็นฉากนี้ได้
ลั่วซงเฉิงมองเย่หง ทันใดนั้นก็ควักปืนพกกระบอกหนึ่งออกมา ชี้ไปยังหัวของเย่หง พลางเปิดปากกล่าวอย่างโหดเหี้ยมว่า “เย่หง แกสอนลูกได้ไม่ดี ในเมื่อเย่เทียนเฉินไม่กล้าปรากฏตัว ฉันก็ทำได้แต่ลงมีดที่แกก่อนแล้ว ฆ่าแกก่อน ฉันจะทำให้เย่เทียนเฉินได้ลิ้มรสความทุกข์ที่ต้องสูญเสียญาติมิตรไป”
ใครก็คิดไม่ถึงว่าลั่วซงเฉิงจะโหดร้ายและใช้อำนาจบาตรใหญ่เช่นนี้ กล้านำปืนออกมาจริงๆ ท่าทางเช่นนั้นราวกับว่ากล้าลั่นไกยิงเย่หงให้ตาย เมื่อพบกับฉากนี้ เย่หย่วนซานก็ตกตะลึง ส่วนเย่มู่ไป๋และเย่เฮ่อกั๋ว ทั้งสองก็ยิ่งตกใจจนหน้าถอดสี ไม่กล้าพูดอะไรสักคำ เถี่ยฉุยที่อยู่อีกด้านและไม่พูดอะไรมาโดยตลอดก็ตกตะลึงเช่นกัน เขาคาดคิดไม่ถึงว่าลั่วซงเฉิงจะดูราวกับว่ากล้าฆ่าคนในตระกูลเย่จริงๆ
“พี่ลั่ว เรื่องนี้ยังต้องตรวจสอบอีก อย่างไรเสียเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าหากว่าเย่เทียนเฉินไม่ได้เป็นคนทำ งั้นก็เป็นเรื่องแน่!” เถี่ยฉุยรีบกล่าวเตือนลั่วซงเฉิง
“เฮอะ มีทั้งพยานทั้งหลักฐาน บนกำแพงห้องที่เหลยเอ๋อร์กับเทาเอ๋อร์ตายยังมีข้อความที่เย่เทียนเฉินทิ้งไว้ มันดิ้นไม่หลุดแน่ ฉันฆ่าเย่หงก่อนแล้วค่อยฆ่าเย่เทียนเฉินเพื่อแก้แค้นให้หลานชายทั้งสองของฉัน” ลั่วซงเฉิงสบถเสียงเย็น
“ช้าก่อน ลั่วซงเฉิง คณะกรรมาธิการทหารใกล้จะจัดการเลือกตั้งแล้ว ถ้าหากคุณลั่นไกฆ่าคนในตระกูลเย่ของผม ต่อให้คุณมีเหตุผล ก็เกรงว่าจะกระทบต่อหน้าที่การงานของคุณแน่ คุณต้องคิดให้ดี!” เย่หย่วนซานกล่าวเสียงเข้ม
ลั่วซงเฉิงขมวดคิ้ว ความจริงแล้วตอนที่เขากำลังมาเขาก็คิดดีแล้ว ต้องอาศัยตอนที่คนระดับบนยังไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ฆ่าคนของตระกูลเย่ด้วยตนเองซะ ถึงตอนนั้นก็บอกไปว่าตนเองหุนหันชั่ววูบเพราะความเสียใจจากการสูญเสียหลายชายที่รักทั้งสอง รวมกับมีเถี่ยฉุยหัวหน้าหน่วยมังกรฟ้าเป็นพยานอยู่ด้านข้าง เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ หากว่าเถี่ยฉุยไม่พูดเข้าข้างตนเอง ก็เกรงว่าเขาเองก็หนีไม่พ้นความผิด นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ลั่วซงเฉิงระดมคนมากมายและให้เถี่ยฉุยส่งหัวกะทิของหน่วยมังกรฟ้ามา
แต่ว่าที่เย่หย่วนซานพูดก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล ต่อให้ตนเองสูญเสียหลายชายทั้งสองไป แต่ก็ยังมีคนรุ่นหลังคนอื่นๆ อยู่อีก มิใช่มีเพียงแค่ลั่วเหลยและลั่วเทาสองพี่น้อง ด้วยอำนาจของตนเอง ต้องการจะจัดการตระกูลเย่นั้นก็เกินพอแล้ว แต่ว่าการเลือกตั้งคณะกรรมาธิการทหารในครั้งนี้ เกรงว่าจะเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของตนที่จะได้เข้าสู่คณะกรรมาธิการทหาร หากไม่ฉวยโอกาสนี้ไว้ให้ดี ต้องการทำให้ตระกูลลั่วยกระดับขึ้นอีกขั้นก็เป็นเรื่องยากแล้ว
“ผมจะนับถึงสาม ถ้าหากพวกคุณไม่ส่งเย่เทียนเฉินมาล่ะก็ ก็อย่ามาโทษที่ปืนในมือผมไม่มีตาแล้วกัน…”
“หนึ่ง!” ลั่วซงเฉิงนับเสียงดัง
“พะ…พี่ลั่ว เรื่องนี้พวกผมสองคนไม่เกี่ยว เป็นเย่เทียนเฉินทำทั้งหมด พี่ต้องการแก้แค้นให้หลานชายของตัวเองก็ไปหาเขาเถอะ!” เย่มู่ไป๋ตกใจกลัวจนรีบเปิดปากพูด
“สอง!”
“นะ…น้องสาม นายสอนลูกได้ไม่ดี เย่เทียนเฉินถึงได้ทำตัวกบฏแบบนี้ นายยังจะปกป้องเขาไปทำไมอีก ส่งเขาให้พี่ลั่วลงโทษซะ จะได้ไม่ทำให้พี่ลั่วต้องโกรธ…” เย่เฮ่อกั๋วรีบเปิดปากกล่าวตำหนิเย่หง
เย่หงได้ยินคำพูดของพี่ชายทั้งสองก็รู้สึกโกรธ ในยามปกติพวกเขาทั้งสองก็มักจะตำหนิและบีบคั้นตนเอง แต่เพราะเห็นแก่หน้าของเย่หย่วนซานผู้เป็นบิดาบวกกับเย่หงต้องการให้ครอบครัวมีความสมัครสมานสามัคคี จึงไม่คิดเล็กคิดน้อยกับพวกเขา จะอย่างไรก็เป็นครอบครัวเดียวกัน เลือดย่อมข้นกว่าน้ำมิใช่หรือ?
ที่ไหนได้เย่มู่ไป๋และเย่เฮ่อกั๋วกลับไม่คำนึงถึงสถานภาพนี้ จะดีร้ายตระกูลเย่ของตนก็เคยรุ่งโรจน์มาก่อน ตอนนี้ถึงกับถูกคนบุกมาถึงประตู ปิดล้อมทั้งตระกูลเย่ บีบบังคับให้พวกเขาส่งคน ถ้าไม่ส่งคนก็ต้องตาย นี่ช่างไร้ศักดิ์ศรีสิ้นดี
“พี่ยิงเถอะ ไม่ว่าจะเป็นลูกชายของผมทำหรือไม่ ผมขอรับผิดชอบทุกอย่างเอง!” เย่หงกล่าวพลางมองลั่วซงเฉิงอย่างดุดัน
“ดี ดี เย่หง ฉันจะฆ่าแกก่อน แล้วค่อยไปฆ่าไอ้ลูกเต่าเย่เทียนเฉิน…”
คำพูดของลั่วซงเฉิงเพิงออกจากปาก นิ้วชี้ขวาของเขาก็ขยับไปที่ไกปืนช้าๆ เดิมทีเขาก็มาด้วยใจที่ต้องการฆ่าฟันอยู่แล้ว สาบานว่าจะทำลายตระกูลเย่ เตรียมที่จะฆ่าคนของตระกูลเย่ทั้งหมด ให้อำนาจใหญ่และตระกูลใหญ่ในจิงตูทั้งหมดได้รู้ว่าอย่ามาหาเรื่องเขาลั่วซงเฉิง และแสดงให้เห็นว่าอำนาจตระกูลลั่วของเขาแข็งแกร่งขนาดไหน
เย่หงหลับตา รอเวลาที่ลูกกระสุนปืนจะเจาะทะลุหัวใจ เขาไม่ทราบว่าเรื่องการฆ่าหลานชายทั้งสองของตระกูลลั่วนั้น ตกลงเย่เทียนเฉินผู้เป็นลูกได้ทำหรือไม่ แต่ว่าสิ่งเดียวที่เขาคิดอยู่ในใจ ณ ตอนนี้นั้นไม่ใช่ความปลอดภัยของตนเอง แต่เป็นการอธิฐานไม่ให้ลูกชายของตนปรากฏตัว จะอย่างไรก็อย่าปรากฏตัวออกมาเด็ดขาด บางทีนี่คงเป็นความรักอันยิ่งใหญ่ของผู้เป็นพ่อที่ซ่อนอยู่ภายในใจ
ครั้งนี้ใครก็ดูออก เดิมทีลั่วเหลยและลั่วเทาเป็นฝ่ายไปหาเรื่องเย่เทียนเฉินก่อนจึงถูกเย่เทียนเฉินลงมือสั่งสอนและฆ่าตายไป แต่ลั่วซงเฉิงกลับเข้าข้างพวกพ้องตนเอง ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม ต่อให้ตระกูลลั่วของเขาเป็นฝ่ายผิด ก็จะฆ่าเย่เทียนเฉินเพื่อล้างแค้นให้กับหลานชายทั้งสอง เหตุที่นำทหารคนสนิทพร้อมด้วยอาวุธปืนหลายสิบคนของตนมาปิดล้อมบ้านหลักตระกูลเย่ ก็เพื่อที่จะฆ่าล้างตระกูลเย่ ให้เถี่ยฉุยหัวหน้าหน่วยมังกรฟ้ามาก็เพราะไม่อยากให้คนระดับบนตรวจสอบ มีเหตุผลให้พ้นจากความผิด ลากเถี่ยฉุยลงน้ำด้วยกัน
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นแล้ว…
…………………………………………………………….