เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 59 ผู้หญิงไม่ได้หาเรื่องง่ายๆ หรอกนะ!
ในโลกก่อน ที่ผู้มีพลังพิเศษสามารถแข็งแกร่งถึงขั้นสามารถครอบครองทั้งโลกได้ ก็เป็นเพราะผู้มีพลังพิเศษบางคน ไม่เพียงมีพลังพิเศษในร่างกายที่แข็งแกร่งไร้ที่เปรียบ และยังสามารถดึงดูดพลังพิเศษภายในธรรมชาติมาใช้ได้อีกด้วย
ในธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ล้วนแต่มีพลังงานอยู่ ขอเพียงเป็นผู้มีพลังพิเศษที่แข็งแกร่งพอก็สามารถดึงดูดมาใช้ได้ ต้นไม้ใบหญ้า ดอกไม้สายน้ำ ภายในสิ่งที่ดูเหมือนไม่น่าสนใจพวกนี้ล้วนแต่มีพลังงานที่ทำให้ผู้คนมิอาจจินตนาการได้ดำรงอยู่ เคยมีบันทึกไว้ว่า ผู้แข็งแกร่งที่มีพลังพิเศษระดับเทพราชันถึงกับสามารถชักนำพลังของแสงดาวบนท้องฟ้า ฉีกกระชากความว่างเปล่า และท่องไปภายในอวกาศได้
ในขณะเดียวกันก็มีบันทึกอยู่ว่า ยอดฝีมือพรรควรยุทธโบราณนั้น จุดสูงสุดของการฝึกฝนวรยุทธก็คือหนึ่งหมัดทลายฟ้าเช่นเดียวกัน เกินจินตนาการของมนุษย์ธรรมดาไปมาก
ในโลกปัจจุบัน เรื่องเหล่านี้ไม่เป็นที่รับรู้ของผู้คน กระทั่งไม่ถูกคนยอมรับแล้ว คนหลายคนไม่รู้ว่าแต่ละสถานที่ในโลกนี้เกิดเรื่องที่ไม่อาจจินตนาการได้และไม่อาจใช้วิทยาศาสตร์มาอธิบายได้เหล่านั้น แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกัน ในเรื่องนี้มีความเกี่ยวพันกับยอดฝีมือพรรควรยุทธโบราณและผู้มีพลังพิเศษที่แข็งแกร่งเกินพิกัดอยู่
เย่เทียนเฉินเคยเป็นผู้มีพลังพิเศษระดับพระเจ้า ความสามารถของตนเดิมทีก็แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าย่อมรู้จักการใช้พลังธรรมชาติ หากผู้มีพลังพิเศษคนหนึ่งต้องการอาศัยพลังงานจากร่างกายให้ถึงขั้นเคลื่อนภูเขาพลิกมหาสมุทร ป่นภูผาแยกฟ้า นั่นเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ว่าพลังที่แฝงอยู่ในธรรมชาตินั้นไม่มีจำกัด และไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าหากสามารถคว้าเอาไว้และใช้พลังงานภายในธรรมชาติได้ เช่นนั้นคนๆ หนึ่งจามารถแข็งแกร่งได้ถึงขั้นไหนกัน? ช่างมิอาจจินตนาการได้จริงๆ นี่เป็นเรื่องที่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กระทั่งในโลกก่อน เย่เทียนเฉินก็ไม่เคยพบบันทึกเกี่ยวกับผู้มีพลังพิเศษระดับเทพราชันเลย ที่มีก็เป็นเพียงแค่ตำนาน
พลันนั้นเอง ในตอนที่เย่เทียนเฉินคิดถึงเรื่องราวของตนเองในโลกก่อนนั้น เขาก็รู้สึกว่าท้องของตัวเองปวดขึ้นมาอย่างรุนแรง ขณะเดียวกันก็มีเสียงดังโครกครากออกมา มีความรู้สึกต้องการพุ่งเข้าห้องน้ำทำธุระอย่างรุนแรง เกือบจะอั้นไม่ไหวอยู่แล้ว เย่เทียนเฉินรีบเด้งตัวขึ้นจากเตียง กำลังจะวิ่งออกไปจากห้องและพุ่งตรงไปยังห้องน้ำ แต่กลับพบว่าบริเวณก้นจานผลไม้มีกระดาษแผ่นหนึ่งอยู่ กำกางเกงไปพลางหยิบกระดาษขึ้นอ่านไปพลาง ทันใดนั้นเย่เทียนเฉินก็โกรธจนหน้าเขียว
“เจ้าคนชั่ว รู้ซึ้งถึงความร้ายกาจของคุณหนูใหญ่อย่างฉันหรือยัง? ก็รู้อยู่หรอกว่านายจะต้องแอบกิน เลยใส่ผงสลอดไว้ในผลไม้พวกนี้ เห็นผลทันทีเลยใช่ไหม? ฮี่ๆ ผู้หญิงไม่ได้หาเรื่องด้วยง่ายๆ โดยเฉพาะฉันฉีหรูเสวี่ย…”
“ฉีหรูเสวี่ย ฉันไม่จบกับเธอแน่ ช่างชั่วร้ายเหลือเกิน วางแผนใส่ฉัน…อา…”
เย่เทียนเฉินที่โกรธจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน พุ่งเข้าไปในห้องนำพร้อมกับคำสาปแช่งฉีหรูเสวี่ย ส่วนฉีหรูเสวี่ยนที่หลับฝันหวานอยู่ก็หัวเราะจรตื่นขึ้นมา เธอรู้ว่าคืนนี้เย่เทียนเฉินจะต้องใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำแน่นอน
เพื่อให้เจ้าคนชั่วเย่เทียนเฉินคนนี้ได้รู้ถึงจุดจบที่ทำให้ตนเองไม่พอใจ ฉีหรูเสวี่ยจึงคิดวิธีขึ้นมาอย่างเต็มที่ สุดท้ายจึงแสดงฝีมือบนความตะกละของเย่เทียนเฉิน ทำอยู่ทั้งคืน ถึงเตรียมจานผลไม้นี้เสร็จ ใส่ผงสลอดลงไปอย่างไร้ซุ่มเสียง แล้วเอาไปวางไว้ในตู้เย็นแช่ไว้คืนหนึ่ง กล่าวได้ว่าเป็นการวางยาบนยาพิษ เป็นการจับคู่กันระหว่างท้องร่องกับท้องร้อง
คืนนั้นย่เทียนเฉินวิ่งเข้าห้องน้ำสิบกว่ารอบ วิ่งจนขาแข้งอ่อน เกรงว่าหากไม่ใช่เพราะการสนับสนุนของพลังพิเศษในร่างกายเขาคงทรุดไปนานแล้ว ฉีหรูเสวี่ยยัยผู้หญิงป่าเถื่อน พยามยามทุกวิถีทางเพื่อแก้แค้นเย่เทียนเฉินที่เหยียดหยามตน ส่วนเย่เทียนเฉินท้องร่วงอยู่ในห้องน้ำกลับไม่รู้ว่ายังมีผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ที่ตอนนี้กำลังศึกษาข้อมูลของเขา สนใจในตัวเขาเป็นอย่างมาก
ชานเมืองของจิงตู ภายในคฤหาสน์หลังหนึ่งที่อยู่ติดทะเลสาบแห่งหนึ่ง หญิงงามคนหนึ่งร่างกายสูงเพรียว สวมชุดแฟชั่น เพิ่จะอาบน้ำออกมา สวมกระโกรงรัดรูป นั่งบนเก้าอี้อย่างเซ็กซี่ มืองามดั่งหยกหยิบข้อมูลมาชุดหนึ่ง กำลังอ่านอย่างมีสมาธิ ตอนที่เธออ่านข้อมูลชุดนี้จบ มุมปากก็ปรากฏรอยยิ้มที่ทั้งแปลกใจและเซ็กซี่ขึ้นสายหนึ่ง
“เย่เทียนเฉิน นายเป็นเศษสวะไม่เอาไหนคนหนึ่งจริงๆ หรือ? แต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่นายทำตั้งแต่กลับถึงเมือง มีความเป็นลูกผู้ชายมากเลย หรือว่านายจะระเบิดศักยภาพขึ้นมาได้จริงๆ?” ซูเฟยเฟยเปิดริมฝีปากแดง กล่าวกับตนเองอย่างเซ็กซี่หาที่เปรียบ
ก๊อกๆๆ ด้านนอกมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ซูเฟยเฟยตอบรับไป ก็มีหญิงสาวสวมชุดทำงานคนหนึ่งเดินเข้ามาจากข้างนอก นี่คือเลขาขอซูเฟยเฟย และก็เป็นแม่บ้านส่วนตัวของซูเฟยเฟยด้วย ชื่อว่าอาหมิ่น เดินมาถึงเบื้องหน้าของซูเฟยเฟยก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหนู มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ?”
“เรื่องเกี่ยวกับเย่เทียนเฉินที่ฉันให้เธอไปตรวจสอบ ตอนนี้ผลเป็นยังไงบ้าง?” ซูเฟยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“คุณหนู เย่เทียนเฉินเป็นลูกชายของเย่หงแห่งตระกูลเย่ ขึ้นชื่อว่าเป็นเศษสวะไม่เอาไหน เคยทำให้จิงตูต้องสั่นสะเทือนเพราะเรื่องหนึ่ง และกลายเป็นเรื่องน่าขบขันที่สุดในจิงตู ถูกคนหัวเราะเยาะและดูถูกมาโดยตลอด” อาหมิ่นยืนพูดเยื้องหน้าซูเฟยเฟย
“เรื่องน่าขบขันที่สุดในจิงตู?” ซูเฟยเฟยกล่าวถามด้วยความสงสัย
“ใช่แล้วค่ะ เย่เทียนเฉินเคบแอบดูหญิงสกุลหลิ่วอาบน้ำ ซึ่งก็คือหลิ่วหรูเหมย ผู้อาวุโสตระกูลหลิ่วโกรธมาก พ่อแม่ของเย่เทียนเฉินต้องไปขอโทษที่ตระกูลหลิ่วด้วยตัวเอง ส่วนเย่เทียนเฉินคุกเข่าอยู่ตรงประตูของบ้านตระกูลหลิ่วหนึ่งวันหนึ่งคืน…”
“มีเรื่องนี่ด้วย? ในข้อมูลที่ฉันได้มาทำไมไม่มี?”
ซูเฟยเฟยรู้สึกแปลกใจ ข้อมูลชุดนี้เธอเพิ่งได้รับมา อาศัยฐานะตระกูลซู อยากจะหานักสืบคนหนึ่งไปสืบข้อมูลเย่เทียนเฉินนั้นง่ายดายมาก เพียงแต่ว่าเรื่องใหญ่เช่นนี้ เธอกลับไม่รู้ ในข้อมูลชุดนี้ที่เธอได้มานั้นบอกว่าก่อนที่เย่เทียนเฉินจะอายุยี่สิบ เป็นคนไม่เล่าเรียนหนังสือมาตลอด ทั้งวันก็เป็นคนไม่เอาไหนที่รู้จักแต่ต่อยตีกับกกหญิง จากนั้นจึงไปเป็นทหาร และได้เป็นทหารหน่วยรบพิเศษ หลังจากที่ปลดประจำการกลับมา ตัวคนก็มีท่าทีเปลี่ยนแปลงไปมาก สำหรับเรื่องที่ว่าเวลาหนึ่งปีที่อยู่ในกองทัพ เย่เทียนเฉินเกิดอะไรขึ้นกันแน่นั้น กลับไม่รู้
“คุณหนูคะ คุณยุ่งอยู่กับกิจการของตระกูลมาตลอด อยู่ที่จิงตูน้อยมาก แน่นอนว่าต้องไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่วันทุกวันนี้เย่เทียนเฉินดูราวกับว่าถอดหนังเปลื่อนกระดูก หลังจากที่กลับมาที่เมือง ก็ทำเรื่องที่สั่นสะท้านใตคนติดๆ กัน คิดว่าคุณหนูคงจะราบแล้ว!” อาหมิ่นกล่าวรายงานต่อไป
“ฉันก็ได้ยินมาเหมือนกัน ถอนหมั้นกับตระกูลฉี อักลั่วเหลยและลั่วเทาแห่งตระกูลลั่ว ดูเหมือนเรื่องที่หลี่เถี่ยที่เป็นหัวหน้ากลุ่มอิทธิพลใต้ดินของจิงตูถูกกำจัดก็มีความเกี่ยวข้องกับเขา…” ซูเฟยเฟยก็ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเย่เทียนเฉินมาจริงๆ เพียงแต่จะอย่างไรเธอก็คิดไม่ถึง คนไม่เอาไหนคนหนึ่ง เศษสวะคนหนึ่งที่เคยถูกคนทั้งจิงตูหัวเราะเยาะ วันนี้กลายเป็นแข็งแกร่งเช่นนี้ ตกลงเขาผ่านอะไรมากันแน่? ชายคนนี้เหตุใดจึงเปลี่ยนไปกะทันหันเช่นนี้?
“ทำให้ผู้คนรู้สึกสงสัยจริงๆ” อาหมิ่นเองก็กล่าวออกมาพลางขมวดคิ้วงาม
ซูเฟยเฟยชะงักไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นที่มุมปากก็ปรากฏรอบบิ้มอันเซ็กซี่ขึ้นสายหนึ่ง ดูแล้วงดงามเป็นอย่างมาก อาหมิ่นเห็นดังนั้นจึงกล่าวด้วยร้อยยิ้มว่า “ฉันได้ยินมาว่าตอนนี้เย่เทียนเฉินเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของเครื่อไห่หวางแล้ว ถือหุ้นอยู่ห้าสิบเปอร์เซ็น คิดหาทางให้ฉันเข้าไปทำงานที่เครือไห่หวางให้ได้!”
“อะไรนะคะ? คุณหนูจะไปทำงานที่เครือไห่หวาง? หากว่าถูกผู้อาวุโสรู้เข้าล่ะก็ เกรงว่า…” อาหมิ่นดูเหมือนจะมีท่าทางกังวลใจเป็นอย่างมาก
“เรื่องนี้ฉันรับมือได้ เธอไปจัดการก็พอแล้ว” ซูเฟยเฟยกล่าวขัดคำพูดของอาหมิ่น
“งั้น งั้นคุณหนูคะ คุณจะไปเป็นผู้จัดการทั่วไปของเครือไห่หว่างหรือว่า…” อาหมิ่นเปิดปากถาม
“ไม่ต้อง แค่พนักงานเล็กๆ สักตำแหน่งก็พอแล้ว ฉันแอยากจะไปดูสักหน่อยว่าตกลงแล้วเย่เทียนเฉินเป็นคนยังไงกันแน่…” ซูเฟยเฟยกล่าวพลางยิ้มอย่างชั่วร้ายและน่ารัก
“ทราบแล้วค่ะคุณหนู ฉันจะไปจัดการตามนี้”
เห็นอาหมิ่นออกไปจากห้องของตนแล้ว ซูเฟยเฟยก็ยิ้ม สวยมากถึงขั้นสวยล่มบ้านล่มเมือง มีลักษณะใบหน้าที่ทำให้ฝูงชนต้องพลิกคว่ำ แต่ตอนนี้ในใจของเธอ มีเพียงเงาของเย่เทียนเฉินชายที่ชวนหาเรื่องให้ผู้คนเกลียด
“เย่เทียนเฉิน นายเจ้าคนชั่ว กล้ามาดูหมิ่นคุณหนูใหญ่คนนี้ ฉันจะทำให้นายรู้ว่าเสน่ห์ของคุณหนูใหญ่อย่างฉันต้านทานไม่ได้ คอยดูเถอะ ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับนายฉันจะขุดออกมาให้หมด ฉันไม่เชื่อหรอกว่า ด้วยเสน่ห์ของฉัน จะเอาชนะนายไม่ได้!” ซูเฟยเฟยเปิดริมฝีปากอันเซ็กซี่ของตนเองกล่าวออกมา
เพราะซูเฟยเฟยมีความอยากรู้อยากเห็นต่อเย่เทียนเฉินก็ดี หรือจะบอกว่าเย่เทียนเฉินดูหมิ่นเธอ ทำให้หญิงงามเกินพิกัดจนนี้ จิตใจอยู่ไม่สุขก็ดี สรุปว่าเธฮเคลื่อนไหวแล้ว เตรียมเข้าสู้เครือไห่หวาง ไปยังสถายที่ที่ใกล้กับเย่เทียนเฉิน ทำความเข้าใจและเอาชนะผู้ชายคนนี้อย่างถี่ถ้วน ไม่ว่าเธอจะชอบผู้ชายคนนี้หรือไม่
ผู้หญิง บางทีก็มีนิสัยเช่นนี้ ขอเพียงโมโหขึ้นมาก็ไม่สนใจไม่ดูแลอะไรทั้งนั้น ดังนั้นคำโบราณก็พูดไว้ถูกแล้ว ยอมล่วงเกินผู้ชายสิบคน ก็ไม่ขอล่วงเกินผู้หญิงคนเดียว ผู้หญิงมิอาจหาเรื่องได้ โดยเฉพาะผู้หญิงที่สวย
เย่เทียนเฉินถูกฉีหรูเสวี่ยผู้หญิงที่สวยและป่าเถื่อนคนนี้พลิกเกมจนครึ่งเป็นครึ่งตาย ท้องเสียไปหนึ่งคืนเต็มๆ ขารู้สึกอ่อนแรง หากไม่ใช่เพราะมีการสนับสนุนจากพลังพิเศษ คงทรุดตัวลงบนเตียงขยับไปไหนไม่ได้ไปตั้งนานแล้ว ป้องกันไม่ได้เลยจริงๆ ใครจะคิดว่าฉีหรูเสวียจะใส่ผงสลอดในผลไม้
เพราะว่าฉีหณุเสวี่ย “ลอบทำร้าย” ตนเอง เย่เทียนเฉินที่กำลังพบกับความทุกข์ทรมานไม่สิ้นสุด กระทั่งในฝันก็มิอาจคิดได้ว่า ยังไม่ทันกำจัดยัยเล็กพริกขี้หนูอย่างฉีหรูเสวี่ย ก็ต้องต้อนรับเจ้าหญิงจอมเกเรอย่างซูเฟยเฟย ชีวิตในภายภาคหน้าของเขาต้องอดกลั้นแล้ว
วันต่อมา เย่เทียนเฉินนอนอยู่บนเตียง สองขาอ่อนแรง สีหน้าซีดขาว เพราะท้องเสียไปหนึ่งคืน ถูกเสียงเคาะประตูเสียงหนึ่งปลุกให้ตื่น ก็โกรธจนอยากจะด่าคน เนื่องงจากไม่ต้องคิดเขาก็รู้ว่า ต้องเป็นฉีหรูเสวี่ยมาดูเรื่องตลกของเขาแน่ๆ ยัยผู้หญิงคนนี้จะต้องตั้งใจแน่ๆ ตอนนี้ถึงได้มายินดีในความโชคร้ายของผู้อื่น
“นี่ เจ้าคนชั่ว เปิดประตูหน่อย ทำไม? ลุกไม่ขึ้นเหรอไง?” ฉีหรูเสวี่ยยิ้มชั่วร้ายอยู่หน้าประตู ใช้แรงเคาะประตูไปพลางตะโกนเสียงดังไปพลาง
“ตอนนี้พี่ชายรู้สึกดีมาก นอนหลับสบายมาก อย่ามารบกวน” เย่เทียนเฉินโกรธจนพูดหยาบคายออกมา กล่าวไปทางประตูห้องนอน
“งั้นเหรอ? งั้นนายออกมาหน่อยสิ ให้ฉันดูหน่อยว่านายสบายดีไหม…” ฉีหรูเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะเม้มปาก แอบหัวเราะพลางกล่าว
“เชอะ ความหล่อของพี่ชายเธออยากจะเห็นก็สามารถเห็นได้รึไง? อย่าคิดว่าตัวเองสำคัญไปหน่อยเลย” เย่เทียนเฉินกล่าวเสียงเย็นพลางลูบท้องตนเอง แม่งเอ้ย ท้องเสียไปแล้วคืนหนึ่ง ยังปวดอยู่นิดหน่อยอีก รู้สึกอยากพุ่งเข้าไปในห้องน้ำ
…………………………………………………