เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 83 นี่มัน...ไม่ใช่เรื่องผิด!
เย่เทียนเฉินเองก็ไม่คิดว่ากลุ่มทหารรับจ้างที่รัฐบาลประเทศMจ้างมาจะเป็นกลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิต เมื่อวันนั้นที่ป่าหมอกดำ เย่เทียนเฉินฆ่าล้างคนทั้งหมด มีเพียงแซนเบเกอร์รองหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิตที่หนีไปได้ นั่นเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ยามนั้นเย่เทียนเฉินเพิ่งจะลืมตาตื่นจากการมาเกิดใหม่ ร่างกายใหม่ยังไม่คุ้นเคยกับการกระตุ้นพลังพิเศษ มิฉะนั้นแซนเบเกอร์คจะหนีไปได้ที่ไหนกัน
ร็อคกี้แบร์เป็นรองหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิตเช่นเดียวกัน ถูกหัวหน้าของเขาส่งมารับผิดชอบเป็นกองหน้าในการจู่โจมครั้งนี้ นำนักฆ่าชั้นยอดจากกลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิตกลุ่มหนึ่งมายังรัฐวอชิงตันประเทศM ทำการซุ่มโจมตีพวกหลิ่วหรูเหมยที่มาทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลลับและหยั่งเชิงความสามารถของตะวันออก ดูว่าส่งยอดฝีมือมามากน้อยแค่ไหนกันแน่
การประลองฝีมือระหว่างประเทศนั้นเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ไม่อาจฉีกหน้าอีกฝ่ายหนึ่งก่อนได้ ยิ่งสำหรับประเทศที่แข็งแกร่ง การฉีกหน้ากันไม่มีผลดีต่อใครทั้งสิ้น แต่การประลองฝีมือถึงขั้นเป็นตายแบบลับๆ ย่อมมิอาจถูกโลกภายนอกรับรู้ ต่อให้ฝ่ายไหนพ่ายแพ้ ก็ทำได้เพียงกล้ำกลืนอยู่ในใจ
ดังเช่นคราวนี้ รัฐบาลประเทศจีนและประเทศMทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลลับกัน ทั้งสองฝ่ายดูภายนอกต่างก็บริสุทธิ์ใจเป็นอย่างมาก แต่เบื้องหลังกลับขัดขวางอีกฝ่าย โดยเฉพาะรัฐบาลประเทศMที่ทำการลักษณะนี้บ่อยๆ ใช้กองกำลังทางการทหารของรัฐบาลตนเองโดยมิชอบด้วยกฏหมาย ทั้งยังว่าจ้างกลุ่มทหารรับจ้างมาทำเรื่องต่ำช้าไร้ยางอาย
สำหรับต่างประเทศกลุ่มทหารรับจ้างเรียกได้ว่าพบเห็นได้ทั่วไป ไม่เหมือนทางฝั่งของจีนที่หากมีการรวบกลุ่มเป็นองค์กรแม้เพียงน้อย ก็จะต้องเจอกับการตรวจสอบและโจมตี นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่กลุ่มทหารรับจ้างสังหารของหลิวอวี่สลายตัวไปเมื่อปีนั้น ส่วนรัฐบาลประเทศMมีทั้งการใช้งานและการโจมตีกลุ่มทหารรับจ้าง ดังเช่นปัจจุบันที่ว่าจ้างกลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิตมากระทำการบางอย่างเพื่อพวกเขา
ร็อคกี้แบร์แม้ในฝันก็คาดไม่ถึงว่าชายร่างผอมดูอ่อนแอตรงหน้าจะแข็งแกร่งขนาดนี้ โดยเฉพาะในตอนที่เขาลงมืออย่างฉับพลัน ใช้กริชทั้งสองแทงไปยังเย่เทียนเฉิน กลับมีเพียงเงาเรือนรางที่เหลือทิ้งไว้เบื้องหน้า และบีบคอเขาไว้แน่น
เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างชัดเจน เป็นเสียงคอที่ถูกบิดจนหัก เย่เทียนเฉินลงมือฆ่านับตั้งแต่วินาทีที่มือขวาของเขาบีบไปยังคอของร็อคกี้แบร์แล้ว เมื่อรู้แน่ชัดถึงความเป็นมาของอีกฝ่ายแล้วว่า กลุ่มทหารรับจ้างที่รัฐบาลประเทศMว่าจ้างมาในครั้งนี้ก็คือกลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิตที่เป็นศัตรูเก่าของตนเอง แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
ปัง!
เย่เทียนเฉินหิ้วศพของร็อคกี้แบร์ที่หนักเกือบสองร้อยจิน ใช้เท้าถีบไปยังบริเวณที่มีแสงสว่าง ทันใดนั้นทุกคนต่างก็ตกใจจนหยุดการโจมตี โดยเฉพาะเหล่ายอดนักฆ่าของกลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิตกลุ่มนั้นที่กำลังกราดยิงอย่างบ้าคลั่ง ต่างก็ตกตะลึงจนตาค้าง ปืนในมือก็หยุดยิงราวกับไม่รู้จักวิธีลั่นไก
“พระเจ้า รองหัวหน้าร็อคกี้ ตาย ตายแล้ว?”
“ยอดฝีมือตะวันออกที่มาคราวนี้ ช่าง ช่างร้ายกาจเกินไปแล้ว…”
“ถอยเถอะ ไม่งั้นพวกเราได้ตายอยู่ที่นี่กันหมดแน่”
ยอดฝีมือนักฆ่าของกลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิตหลายคนสติแตกซ่านในชั่วพริบตา นี่ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาไม่มีความกล้าหรือฝีมือไม่แข็งแกร่งพอ แต่เป็นเพราะร็อคกี้แบร์ที่เป็นรองหัวหน้ากลุ่มทั้งยังเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ตายไปแล้ว แล้วยังจะให้คนที่เหลือพุ่งเข้าไปฆ่าต่ออีกหรือ? สิ่งที่ทำให้สะเทือนใจที่สุดก็คือ ฝีมือของร็อคกี้แบร์จัดอยู่ในสามอันดับแรกของกลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิต เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดนอกเหนือจากหัวหน้ากลุ่มและรองหัวหน้าอีกคนที่ชื่อแซนเบเกอร์ ไม่คิดว่าจะถูกผู้อื่นหักคอเอาง่ายๆ จะไม่ให้ยอดนักฆ่าของกลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิตที่เหลือสิ้นหวังได้อย่างไร
หลิวอวี่ เจียงเหมิง เฟยอวิ๋น รวมไปถึงหย่งชุนไท่ที่พุ่งออกไปเพื่อค้นหาและฆ่าผู้เป็นหัวหน้า และยังมีหลิ่วหรูเหมยที่หลบอยู่หลังรถและมองเหตุการณ์นี้ด้วยความตกใจ พวกเขาทั้งหมดต่างก็ตกตะลึงจนนิ่ง มองเย่เทียนเฉินเดินออกมาจากเงามืด เป็นเขาที่ฆ่าร็อคกี้แบร์ และดูเหมือนจะสบายๆ ไม่เปลืองแรงอะไรเลยแม้แต่น้อย
“ฉันหิวมากเลย รีบฆ่าคนพวกนี้แล้วกลับไปกินข้าวกันเถอะ!” เย่เทียนเฉินกล่าวกับพวกหลิวอวี่เรียบๆ
เรื่องราวที่เหลือก็ง่ายดายเป็นอย่างมาก พอร็อคกี้แบร์ตาย เหล่ายอดนักฆ่าจากกลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิตกลุ่มนี้ก็สูญเสียแกนนำไป รีบวิ่งหนีกันอุตลุดแต่ฝีมือของพวกหลิวอวี่ เจียงเหมิง เฟยอวิ๋น ก็ไม่ใช่อ่อนแอ ไล่ตามโจมตีไประยะหนึ่งก็เหลือฆ่านักฆ่ารอดชีวิตเพียงสิบกว่าคน
เย่เทียนเฉินหาวออกมาครั้งหนึ่ง ที่เขาควรจะลงมือก็ลงมือไปแล้ว ที่เขาควรทำก็ทำไปแล้ว ต่อจากนี้ก็เหลือเพียงรอให้ไปถึงคฤหาสน์ของตระกูลหลิ่วและกินดื่มสักมื้อใหญ่ๆ ดังนั้นจึงเดินเข้าไปนั่งที่รถคันหน้าสุด เนื่องจากรถที่เขาและหลิ่วหรูเหมยนั่งมาก่อนหน้านี้ถูกระเบิดแหลกเป็นจุลไปแล้ว น่าสงสารคนขับรถผู้นั้นที่ต้องสละชีพไป เพราะยามนั้นเย่เทียนเฉินช่วยทันเพียงหลิ่วหรูเหมยคนเดียว
หลิ่วหรูเหมยที่ยังมีอาการช็อคเล็กน้อยก็เข้าไปนั่งในรถ ส่วนหย่งชุนไท่กลับยิ้มออกมา เธอมองไม่ผิดจริงๆ หากมีเย่เทียนเฉินร่วมทางไปด้วย ภารกิจในครั้งนี้ต้องสำเร็จแน่นอน เมื่อสักครู่เธอพุ่งออกไปก็เพราะอยากจะหาร็อคกี้แบร์และฆ่าทิ้งซะ เพื่อทำให้หลุดพ้นจากวิกฤตการณ์ที่ถูกล้อมอยู่นี้
แต่หย่งชุนไท่หาไปแล้วหลายที่ก็ยังหาลาดเลาของร็อคกี้แบร์ไม่เจอ พอเย่เทียนเฉินลงมือ ไม่เพียงแต่หาร็อคกี้แบร์เจอ แถมยังฆ่าเขาได้อีกด้วย ความสามารถเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากความ
“นี่ เจ้าคนชั่ว ทำไมนายถึงหาเจ้าหมอนั่นในสภาพมืดๆ แบบนี้ได้ แล้วยังฆ่าเขาได้อีก?” หลิ่วหรูเหมยมองเย่เทียนเฉินที่นั่งอยู่บริเวณที่นั่งคนขับพลางกล่าวถาม
“ยามกลางคืนมอบดวงตาอันมืดมิดให้แก่ฉัน ฉันใช้มันตามหาแสงสว่าง…” เย่เทียนเฉินตอบไม่ตรงคำถาม ทั้งยังยกคำกล่าวในคัมภีร์ธรรมมาพูดอีกต่างหาก
“นาย…ฉันอยากจะอัดนายจริงๆ” หลิ่วหรูเหมยโกรธจนกำหมัดขาวๆ ของเธอแน่นกล่าวออกมาเสียงเข้ม
“ฉันรู้น่า เป็นเพราะฉันบอกว่าก้นเธอเล็ก เธอเลยแค้นเคืองอยู่ในใจใช่ไหม จริงๆ เธอไม่ต้องไปใส่ใจหรอก เล็กก็เล็กไปสิ ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แล้วก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีใครต้องการ…” เย่เทียนเฉินจงใจพูดแหย่หลิ่วหรูเหมย พวกเขาสองคนเป็นดั่งน้ำกับไฟจริงๆ
“ใครเล็กกัน นายสิเล็ก นายมันเล็ก ของนายเล็กล่ะสิ…” หลิ่วหรูเหมยโกรธพลางพูดออกมาอย่างแง่งอน
“ของฉันใหญ่มาก แต่เธอไม่เคยเห็น…”
ได้ยินคำพูดของหลิ่วหรูเหมย เย่เทียนเฉินก็ยิ้มออกมา ตอนนี้อารมณ์เขาไม่เลวนัก อย่างน้อยการปฏิบัติการของประเทศMในครั้งนี้ก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง กลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิตที่รัฐบาลประเทศMว่าจ้างมา ต่อให้ไม่นับว่าเป็นกลุ่มทหารรับจ้างอันดับหนึ่งในระดับโลก แต่ก็มีชื่อเสียงโดดเด่น ทั้งยังเคยฆ่าสหายร่วมรบของเขา คราวนี้เย่เทียนเฉินตั้งใจแน่วแน่ว่าจะถอนรากถอนโคนกลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิตซะ เพื่อล้างแค้นให้สหายร่วมรบที่ตายไปที่ป่าหมอกดำ
หลิ่วหรูเหมยมองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเย่เทียนเฉินทำให้คิดได้ว่าเขาตั้งใจพูดคำเหล่านี้ รู้ว่าตนเองหลงกลเข้าให้แล้ว ทั้งยังถูกชายคนนี้หยอกล้อจนหน้าแดงโดยพลัน พริบตาต่อมาจึงลุกขึ้นจากที่นั่ง ชูหมัดขึ้นพลางตะโกนว่า “เย่เทียนเฉิน คุณหนูคนนี้จะสั่งสอนนายซะ…”
“อยู่เฉยๆ น่า ผู้ชายที่ดีไม่ทะเลาะกับผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงสมองหมูแบบเธอ” เย่เทียนเฉินกล่าวพลางส่ายหน้า
“ฉันจะฆ่านาย”
หลิ่วหรูเหมยรับคำพูดถากถางของเย่เทียนเฉินไม่ได้จริงๆ ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เคยมีใครพูดว่าตนเองสมองหมูมาก่อนเลย คนที่สามารถทำให้สาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงกลายเป็นคนสมองหมูได้ เกรงว่าจะมีแต่เย่เทียนเฉิน ไม่รู้จริงๆ ว่าคนคนนี้ปัญญาอ่อนหรือนิสัยมีปัญหา ต่อให้เคยมีเรื่องกับหลิ่วหรูเหมยมา แต่จะอย่างไรคนเขาก็เป็นหญิงงามเลิศคนหนึ่ง
หลลิ่วหรูเหมยถูกเย่เทียนเฉินทำให้โกรธจนยกหมัดแป้งของเธอขึ้นเตรียมจะต่อยออกไป ตอนนี้ หย่งชุนไท่ก็เปิดประตูรถเข้ามานั่ง กล่าวยิ้มๆ ว่า “เทียนเฉิน ครั้งนี้ต้องขอบคุณเธอจริงๆ ถ้าไม่ใช่ว่าเธอฆ่าร็อคกี้แบร์ก็ไม่รู้ว่าพวกเราจะเจอกับการโจมตีอะไรบ้าง คงหลุดพ้นจากอันตรายไปได้ยาก”
“แค่เรื่องเล็กน้อยครับ รอให้ถึงคฤหาสน์ตระกูลหลิ่วก็เลี้ยงข้าวผมสักมื้อก็พอแล้วครับ” เย่เทียนเฉินกล่าวพลางยิ้มเรียบๆ
“นายมันจอมตะกละ น้ำสักแก้วก็จะไม่ให้ดื่ม ปล่อยให้หิวน้ำตายไปเลย เฮอะ!” หลิ่วหรูเหมยทำหน้าดุราวเสือด้วยความเคือง แต่ดูแล้วยังคงไม่มีผลกับใบหน้างามๆของเธอ กลับเพิ่มความน่ารักขึ้นอีกหลายส่วน
“พวกไม่รู้จักบุญคุณ รู้อย่างนี้ปล่อยให้ถูกบาซูก้าระเบิดตายไปเลยดีกว่า” เย่เทียนเฉินกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์
“นาย เข้าใจซะให้ชัดเจนด้วย นายมาเพื่อคุ้มครองฉัน นี่เป็นสิ่งที่นายควรจะทำ เมื่อกี้นายไม่เคารพฉัน ขอโทษมาซะ” ใบหน้าของหลิ่วหรูเหมยแดงก่ำ จ้องมองเย่เทียนเฉินอย่างโกรธเคืองพลางกล่าว
เพียงคิดถึงว่าเมื่อสักครูนี้เย่เทียนเฉินกดเธอลงกับพื้น สองมือจับหน้าอกของตนเอง หลิ่วหรูเหมยก็อยากจะฟันมือทั้งสองข้างนั้นทิ้ง เมื่อหนึ่งปีก่อน เย่เทียนเฉินแอบมองตนเองอาบน้ำ นั่นก็เพียงแค่มองด้วยตาเท่านั้น พอได้เจอคนคนนี้อีกครั้ง ไม่ถึงสองวันถึงกับสัมผัสหน้าอกของเธอ เจ้าหมอนี่เป็นดาวข่มของเธอโดยแท้จริง หลิ่วหรูเหมยไม่อยากจะคิดเลยว่าหากร่วมทางกับเย่เทียนเฉินต่อไปจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกบ้าง…
“ขี้เกียจสนใจเธอแล้ว!”
เย่เทียนเฉินกล่าวประโยคนี้กับหลิ่วหรูเหมยเสร็จก็สตาร์ทรถ เหยียบคันเร่งจนมิด ขับพุ่งไปตามถนน ส่วนหินก้อนใหญ่เบื้องหน้าถูกพวกเจียงเหมิงและเฟยอวิ๋นย้ายออกไปก่อนแล้ว
การที่เย่เทียนรับหน้าที่เป็นสารถีด้วยตัวเอง เป็นเพราะเขาหิวมากแล้วจริงๆ เกรงว่าในถนนเช่นนี้หากรอให้คนของหลิวอวี่ขับไปถึงคฤหาสน์ ตนเองคงต้องนอนหมดแรงอยู่บนรถแน่
เมื่อเห็นว่าเย่เทียนเฉินขับรถพุ่งออกไป สายตาของเจียงเหมิงและเฟยอวิ๋นก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ เมื่อสักครู่พวกเขาไปดูศพของร็อคกี้แบร์มาแล้ว เป็นการตายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว อีกฝ่ายไม่มีโอกาสได้โต้ตอบก็ถูกหักคอตาย นี่ช่างเหนือความคาดหมายของพวกเขาไปมากจริงๆ ร็อคกี้แบร์เป็นถึงรองหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิต ซึ่งกลุ่มนี้มีชื่อเสียงโดดเด่นในระดับนานาชาติ ดังนั้นฝีมือของร็อคกี้แบร์ย่อมไม่อ่อนแอ อย่างน้อยก็สามารถสู้กับพวกเขาได้ ไม่นึกว่าจะถูกเย่เทียนเฉินฆ่าตายในกระบวนท่าเดียว จะให้พวกเขาทั้งสองไม่ตกใจจนคางแทบหลุดได้อย่างไร
“เฮอะ น่าสนใจดีนี่ น่าสนใจจริงๆ ถ้าเจ้าเด็กเย่เทียนเฉินไม่มีฝีมือขนาดนี้ ก็ไม่ควรค่าให้ฉันต้องลงมือสั่งสอน มันมีฝีมืออยู่บ้างก็นับว่าดี ฉันจะทำให้มันรู้ถึงจุดจบที่ไม่เชื่อฟังคำสั่ง…” ตอนนี้เองหลิวอวี่ที่นั่งอยู่ด้านข้างก็พูดพึมพำกับตนเองด้วยรอยยิ้มเย็นชา
………………………………………………………..