เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ - ตอนที่ 244 : เจียงเฉินลุกเป็นไฟไปทั่ว
ตอนที่ 244 : เจียงเฉินลุกเป็นไฟไปทั่ว –
ในตอนบ่ายๆ
ในเวลานี้เจียงเฉินกําลังช้อปปิ้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าเฉาหยางจอยซิตี้ของเขาพร้อมกับกาแฟหนึ่งถ้วยมือของเขา
“นี่เป็นห้างของฉันงั้นสินะ”
“ตอนนี้ฉันเป็นเจ้าของมันแล้ว ความรู้สึกตอนได้มาเดินมันต่างออกไปโดยสิ้นเชิงจริงๆ–”
เมื่อเห็นพนักงานของห้างแล้วพวกเขาทั้งหมดต้างก็เป็นพนักงานของตัวเอง
ร้านค้าทั้งหมดภายในห้างต่างก็กําลังทําเงินเพื่อตัวเอง
เป็นการทําเงินที่ง่ายมาก! เจ๋งสุดๆ!
ในเวลานี้เองก็มีสาวสวยวิ่งเข้ามา “น้องชาย ดูเหมือนฉันจะเจอเส้นทางที่จะไปต่อได้แล้ว”
มุมปากของเจียงเฉินกระตุก
ทําไมทุกครั้งที่ฉันมาเดินช้อปปิ้งต้องมีสาวสวยมาขอวีแชทตลอดด้วยนะ?
เจียงเฉินถามออกมา “คุณจะไปไหนหรอครับ?”
หญิงสาวเม้มริมฝีปากแล้วยิ้ม “ทางสู่ใจของเธอไง ฉันจะต้องไปยังไงบ้างล่ะ?”
เจียงเฉินปฏิเสธอย่างเย็นชาทันที “มีแต่ทางต้นครับ”
สาวสวยพึมพัมอย่างไม่พอใจ “นายเป็นเกย์รึยังไงกัน!?”
“???”
ปากของเจียงเฉินกระตุก “คุณจะบอกว่าผมดปั้นเกย์?”
“แล้วทําไมจะไม่ใช่? คนสวยขนาดนี้นายยังกล้าปฏิเสธ.กร็ด-” พูดจบเธอก็กรีดร้องออกมา
เจียงเฉินเข้าไปกอดเอวของเธอก่อนที่เขาจะก้มหัวและกระซิบใกล้ๆหูของเธอว่า “ผมว่าผมคงไม่ต้องพิสูจน์ให้คุณเห็นหรอกมั้ง?”
หลังจากพูดจบเจียงเฉินก็ยิ้มออกมาก่อนจะหันหลังและจากไป
เดินออกไปอย่างไม่ลังเล
ทิ้งไว้เพียงสาวสวยที่กําลังพิงกับผนังด้วยความรู้สึกมึนงง
ในเวลานี้เองเจียงเฉินก็ได้ยินเสียงการทะเลาะวิวาทดังออกมาจากในร้านกุชชี่ของเขา
“ไหนบอกว่าแค่ซื้อเสื้อผ้านิดหน่อยไง?” แฟนหนุ่มถามด้วยความโกรธเคืองขณะที่ชี้ไปที่ถุงเสื้อสี่ห้าถุงบนมือของเขา
แฟนสาวพูดอย่างโกรธเคือง “แล้วเมื่อคืนใครบอกว่าแค่นอนกอด แล้วหลังจากนั้นมันเกิดอะไรขึ้น?! ยิ้ม!ผู้ชายเลว!!”
พรูด—
เจียงเฉินพ่นกาแฟในปากออกมา
คนที่อยู่รอบๆต่างก็พากันขําออกมา
หลังจากที่ช้อปปิ้งไปแล้วเจียงเฉินก็กลับมารับออเดอร์
“เอ๊ะ..ทําไมบัญชีของฉันถึงถูกยกเลิก?”
หลังจากที่เข้าแอปแล้วเจียงเฉินก็พบกับข้อความแจ้งเตือนเด้งขึ้นมา “บัญชีถูกยกเลิก”
เจียงเฉินรู้สึกไม่พอใจมากเขาเลยทําการโทรหาฝ่ายบริการทันที
แต่ผลที่ได้ก็คือ : บัญชีไม่สามารถกู้คืนได้
เจียงเฉินพูดไม่ออก เขายังต้องทํางานนี้อยู่ก่อนหน้านี้งานนี้มันยังทําให้เขารู้สึกตื่นเต้นด้วยการได้ห้างสรรพพสินค้าเฉาหยางมาอยู่เลย!
ดังนั้นเขาจะต้องไม่ยอมให้อาชีพนี้หลุดหายไปจากเขา!
ตรัด ตรัด ตรู้ด—
ในเวลานี้เองเสียงจากโทรศัพท์ของเจียงเฉินก็ดังขึ้น
ประธานหวางเย่จากหมถวนโทรมา
หวางเยีพพูดออกมาอย่างสุภาพและเป็นมิตร “คุณเจียง ตอนนี้คุณเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของเราแล้วคุณพอมีเวลามามาที่บริษัทและเข้าร่วมการประชุมผู้ถือหุ้นไหมครับ?”
เจียงเฉินคนนี้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่อยู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมาเมื่อไม่กี่วันก่อน
ยิ่งไปกว่านั้นเขากลับสามารถซื้อหุ้นจากบริษัทลงทุนเพนกวิ้นและบริษัทลงทุนหงปืนจนทําให้ตัวเองกลายมาเป็นผู้ถือหุ้นอันดับที่หนึ่ง
!
นี่ไม่ใช่แค่คนใหญ่คนโตธรรมดาๆแน่นอน!
น้ําเสียงของเจียงเฉินเต็มไปด้วยความไม่แยแส “ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะเข้าร่วมบัญชีหมื่อวนไรเดอร์ของผมถูกยกเลิก!!”
หวางเย่ “???”
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเครื่องหมายคําถาม
เจียงเฉินที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่?
แต่กลับเป็นหมถวนไรเดอร์? สถานการณ์แบบนี้มันอะไรกัน?
นี่ฉันอยู่โลกเดียวกับเขารึเปล่า?
หรือว่าฉันประสาทหลอนไปแล้ว?
หวางเย่คิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะถามออกมาอีกครั้ง “คุณเจียง คุณช่วยพูดใหม่ได้ไหมครับพอดีเมื่อกี้ผมได้ยินไม่ค่อยชัด”
เจียงเฉินย้ําอีกครั้ง “บัญชีหมีถวนไรเดอร์ของผมถูกยกเลิก! ผมส่งอาหารมาได้แค่สองวันแต่พวกคุณกลับยกเลิกบัญชีของผม! นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?!”
คางของหวางเย่กางลงจนแทบจะถึงพื้นแล้ว!
ผู้ถือหุ้นใหญ่ของหมถวนกลับมาทําหมถวนไรเดอร์แล้วบัญชีของเขาก็ถูกปิด–
เรื่องนี้
หวางเยาตกตะลึง “แล้วผลควรทํายังไงดีครับ?”
เจียงเฉิน “ก็ปลดยกเลิกให้ผมสิ!”
“ใช่แล้ว!” หวางเพยักหน้าอย่างมึนงง
วางสายโทรศัพท์
หวางเยโกรธมาก!
ซึ่ม! ใครกันที่กล้ายกเลิกบัญชีหมถวนไรเดอร์ของผู้ถือหุ้นใหญ่
กล้าทําก็ต้องกล้ารับผลที่จะตามมา!!
“เดี๋ยวสิ แล้วทําไมผู้ถือหุ้นใหญ่ถึงกลายเป็นหมีถวนไรเดอร์?”
หวางเยมีนงงไปอีกสองสามนาทีก่อนจะกลับมารู้สึกตัว “เป็นไปได้ไหมว่าเจ้านายคนใหม่เขา อาจจะกําลังสัมผัสประสบการณ์ชีวิต?”
“คุณเจียงชั่งมีจิตใจยากแท้จะหยั่งถึงจริงๆ”
หวางเยอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วให้
จากนั้นเขาก็รีบโทรหาเลขาตัวเอง “ช่วยงานฉันหน่อย ไปที่แผนกปฏิบัติการชั่งมันเดี๋ยวฉันไปเองดีกว่า”
หวางเย่ลุกขึ้นและเดินตรงไปที่แผนกปฏิบัติการพร้อมกับเลขาของเขา
หนักงานของแผนปฏิบัติการพากันตกใจเพราะพวกเขาเห็นประธานของพวกเขาเดินเข้ามา
“ท่านประธาน” ผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการยืนอยู่หน้าหวางเย่เขาก้มหัวด้วยความกลัวเพราะคิดว่าแผนกปฏิบัติการน่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นจนประธานต้องลงมาเอง
หวางเย่ส่งโน้ตออกไป “เอาไป ช่วยฉันดูหน่อยว่าบัญชีนี้ได้ถูกยกเลิกรึเปล่า?”
ผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการรู้สึกหงุดหงิดมากและส่งโน้ตไปให้คนที่อยู่ข้างๆเขาก่อนจะพูดออกมา“เอาไปตรวจสอบ!”
ผ่านไป 10 นาทีผลก็ออกมา
พนักงาน “บัญชีนี้ถูกยกเลิกแล้วครับ”
หวางเยถามด้วยความสงสัย “สาเหตุของการยกเลิกคืออะไร?”
“สาเหตุคือเขาปฏิเสธการจัดส่งส่วนใหญ่ครับ”
พนักงานพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมรู้สึกว่าไรเดอร์คนนี้ดูไม่มีความเป็นมืออาชีพเลย…”
ดวงตาของหวางเย่เบิกกว้างและพูดออกมาด้วยความโกรธ “รีบดําเนินการกู้บัญชีเดี๋ยวนี้ภายในครึ่งชั่วโมงไม่สิภายใน 10 นาที่จะต้องเสร็จ!!!”
พนักงานตัวสั่นก่อนที่จะพยักหน้าราวกับได้จิกข้าว “ได้ครับ! ผมจะรีบกู้ให้ทันทีครับ!”
จากนั้นเขาก็ดึงความเร็วจากการเป็นโสดกว่า 20 ปีออกมา–
หวางเพยักหน้าด้วยความพอใจก่อนจะหันไปพูดกับผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการ “จําไว้ในอนาคตบัญชีนี้ไม่ว่าเขาจะทําอะไรเราก็ไม่ต้องเข้าไปยุ่ง เข้าใจไหม?!”
“รับทราบครับท่านประธาน” ผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการพยักหน้า
หวางเย่พอใจและทิ้งเลขาของเขาไว้
หลังจากที่เขาออกไปในแผนกฝ่ายปฏิบัติการก็เกิดเสียงพูดคุยดังขึ้นมาทันที
“ พระเจ้า! คนใหญ่คนโตจากไหนอีกเนี่ย? ประธานถึงกลับต้องมาด้วยตัวเองเลย!”
“อาจจะเป็นญาติของประธานก็ได้นะ!”
“บ้ารึไง! ญาติท่านประธานจะมาเป็นไรเดอร์ไปทําไม?”
“คนใหญ่คนโตแน่ๆ”
“ พรุด– ตลกไปหน่อยไหม? คนใหญ่คนโตที่ไหนจะมาส่งอาหารแบบนี้?”
“ไม่หลอก นายอาจจะคิดไม่ผิด สมับนี้พวกคนใหญ่คนโตชอบออกมาสัมผัสประสบการณ์ชีวิตจะตายไปก่อนหน้านี้ก็มีเศรษฐีขับที่ไม่ใช่รึไง?”
“ใช่ ดูเหมือนเขาจะแซ่เจียงนะ ทั้งหล่อทั้งรวยเลยด้วย มีข่าวลือว่าอาคารศูนย์กลางทางการเงินก็เป็นของเขา…”
“คนใหญ่คนโตต่างจากพวกเราจะตายไป…”
ผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้เขาหันไปถามทันที “ใครเป็นคนสั่งยกเลิกบัญชีนี้?”
หัวหน้าทีมที่กําลังซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้องก็ลุกขึ้นมาด้วยใบหน้าขมขื่น “ผมเองครับ…”
ผู้อํานวยการขมวดคิ้ว “ตามฉันไปห้องทํางานเดี๋ยวนี้!”
หัวหน้าทีม : 0(TTo-…
ทางฝั่งเจียงเฉินในตอนนี้ก็เห็นว่าบัญชีของตัวเองนั้นได้รับการกู้คืนแล้ว
เขาได้รับออเดอร์ใหม่ทันที
ติ้ง
เจียงเฉินได้รับโทรศัพท์อีกครั้ง
“คุณเจียง ผมผู้กํากับจางโม่วเองนะครับ หนังเรื่อง ท่านประธานเผด็จการได้โปรดอย่ามายุงกับฉัน ที่คุณแสดงกําลังจะฉายแล้วนะครับ” (*ขออนุญาติเปลี่ยนจากละครเป็นหนังนะครับ)
จางโม่วตื่นเต้นมากเพราะในที่สุดหนังที่เขากํากับนั้นก็กําลังจะได้วางฉายอย่างยิ่งใหญ่ด้วยความช่วยเหลือจากเจียงเฉินนั้นทําให้หนังเรื่อง “ภรรยาแสนหวานของท่านประธานผู้เอาแต่ใจ” ต้องถูกเลื่อนการฉายออกไป
“โอ้”
เจียงเฉินยิ้มออกมา “นับว่าเป็นข่าวดีนะ”
“เรามีเงินฉายรอบปฐมทัศน์อยู่นะครับ ในฐานะนักแสดงนําชายไม่ทราบว่าคุณเจียงจะให้เกียรติมาร่วมงานหน่อยไหมครับ?”
จางโม่วพูดออกมาอย่างระมัดระวัง “นายน้อยหลิงก็อยู่ข้างๆผมด้วยนะครับ เขาก็อยากให้คุณมาด้วยเหมือนกันนะครับ”
เขาเองก็รู้ดีว่าความแข็งแกร่งของเจียงเฉินนั้นมีมากแค่ไหน เจียงเฉินนั้นเป็นคนใหญ่คนโตที่เขาไม่อาจทําให้ขุ่นเคืองหรือโกรธเคืองได้ แม้แต่นายน้อยหลิงหยุนที่เป็นราชาแห่งการลงทุนของวงการบันเทิงก็ยังต้องให้เกียรติอีกฝ่ายเมื่ออยู่ต่อหน้าเพียงแค่ตดออกมาเขาก็ยังไม่กล้า!
และเขาที่เป็นแค่คนธรรมดายิ่งต้องทําตัวให้ต่ําต้อยกับอีกฝ่าย
เจียงเฉินยิ้ม “งานนี้ฉันไม่ไปดีกว่า”
“ครับ”
หลังจากวางสายกับหลิงหยุนและจางโม่วไปและผู้ช่วยผู้กํากับไปแล้วทั้งสามก็มองหน้ากัน!
การเปิดตัวรอบปฐมทัศน์
นี่มันงานที่นักแสดงนับไม่ถ้วนจะมารวมตัวกัน!
แต่ในสายตาของบอสเจียงกลับเป็นแค่เมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า!
เขาไม่สนใจมั่นแม้แต่น้อย
ดังนั้นงานรอบปฐมทัศน์ของ “ท่านประธานเผด็จการได้โปรดอย่ามายุ่งกับฉัน” จึงถูกจัดโดยไม่มีนักแสดงนําชาย
แต่สิ่งที่แปลกคือมันกลับสามารถกระตุ้นความอยากรู้ของผู้คนมากยิ่งขึ้น
“ทําไมพระเอกถึงไม่มากัน?”
“ฉันว่าพระเอกอาจจะเป็นเจิ้งหลุนก็ได้นะ– (ดาราที่ดังกว่าลู่อี้หัง)”
“ไม่ใช่! ฉันได้ข่าวมาว่าเจิ้งหลุนมาเป็นพระรองแทนลู่อี้หัง ส่วนลู่อี้หังได้กลายเป็นพระเอก!”
“ผายลม! เจิ้งหลุนของฉันจะถูกขยะนั้นแทนที่ได้ยังไง?!”
แฟนๆของเจิ้งหลุนและลู่อี้หังเริ่มทะเลาะกัน โดยที่ไม่รู้เลยว่าไอดอลของพวกเธอนั้นได้แต่คุกเข่าก้มหน้ารับความจริง
เจียงเฉินนั้นก็ไม่ได้มีความรู้สึกตื่นเต้นอะไรที่ตัวเองนั้นกําลังจะกลายเป็นดาราดังเขานั้นยังทํา การส่งอาหารของเขาต่อไป
และไม่นานหลันหน่วนหยาน “ฉันได้ยินว่า “ท่านประธานเผด็จการได้โปรดอย่ามายุ่งกับฉัน”เป็นหนังเรื่องแรกที่นายแสดง ฉันว่าเราควรที่จะต้องไปโรงหนังเพื่อสนับสนุนมันหน่อยแล้ว”
เจียงเฉินเพิ่งคิดอะไรได้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ไปเข้าร่วมงานการฉายรอบปฐมทัศน์แต่การไปดูหนังที่ตัวเองแสดงก็เป็นสิ่งที่ควรทํา!
“ตกลง
เจียงเฉินยิ้ม “เดี๋ยวฉันไปรับนะ เราจะได้ไปออกเดทดูหนังกันหน่อย”
หลันหน่วนหยานยิ้มหวาน
ฉันล่ะอยากจะไปออกเดทกับนายทุกวันเลยนะ
เคล็กลับความสําเร็จของเจียงเฉิน : จัดสรรเวลาให้เหมาะสมและปฏิบัติต่อแฟนสาวทุกคนด้วยความใส่ใจ!
สดชื่น
แต่ถ้ามีแฟนเยอะกว่านี้เอวคงแย่แน่ๆ –
เจียงเฉินขับ Lamborghini Poison ของเขาไปเพื่อรับหลันหน่วนหยานมาที่โรงหนังในห้างสรรพสินค้าจอยซิตี้(ห้างเฉาหยางจอยซิตี้)
และเหตุผลที่เขาเลือกห้างจอยซิตี้นั้นก็เพราะว่ามันเป็นห้างสรรพสินค้าของเขาเอง!
ซื้อตัวไม่ได้
ตั๋วนั้นถูกขายออกไปจนหมดแล้ว!
เพราะว่าภาพยนต์เรื่องนี้มีนักแสดงอย่างลู่อี้หังและเพิ่งหลุนที่เป็นดาราดังทั้งจึงทําให้แฟนๆของทั้งสองเข้ามาติดตามดูผลงานของพวกเขากันอย่างรวดเร็ว
ตัวที่ขายผ่านทางออนไลน์นั้นถูกขายออกไปหมดแล้วและหลั่นหน่วนหยานก็ไม่สามารถซื้อตั้วล่วงหน้าได้
แต่อย่างไรก็ตามนี้ไม่ใช่ปัญหะสําหรับเจียงเฉินอยู่แล้ว!
เพราะที่นี่คือห้างเฉาหยางจอยซิตี้
มันเป็นบ้านของเขา!
เขาจะจองตั๋วไปทําไม?
ถ้าเขาต้องการจะดูเขาก็สามารถเข้าไปได้ทันที!
ในห้างจอยซิตี้ในตอนนี้มันเต็มไปด้วยผู้คนมากมายและยิ่งมันยิ่งแออัดมากขึ้นไปอีกเมื่อเจียงเฉินเข้าไปในตัวโรงหนัง
หน้าโรงหนัง
เจียงเฉินหยิบตั๋วหนังและเดินเข้าไปในห้องฉายภาพยนต์หมายเลข 3 พร้อมกับหลันหน่วนหยาน
เมื่อมองไปรอบๆโรงหนังเจียงเฉินก็พบว่าผู้ชมส่วนใหญ่ในโรงฉายหมายเลข 3 นั้นเป็นเด็กผู้หญิงพวกเธอนั้นต่างก็เป็นแฟนๆของลู่อี้หังและเพิ่งหลุน
“ว้าว คนเยอะมากเลย!”
ตาของหลันหน่วนหยานกระพริบเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ “ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมจองตั๋วออนไลน์ไม่ได้ที่แท้ก็ถูกจองไปหมดแล้วนี้เอง พลังของเด็กๆสมัยนี้ไม่ควรมองข้ามไปเลยจริงๆ”
เจียงเฉินยักไหล่
เจียงเฉินคิดว่าเด็กสาวพวกนี้ส่วนใหญ่นั้นมักจะไม่ค่อยทุ่มเทกับการเรียนแต่จะชอบไปไล่ตามดาราที่พวกเธอชอบอยู่ตลอด–
ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก!
แม้ว่าเขาจะเป็นคนหล่อแต่เขาก็ไม่ได้อยากที่จะมีแฟนคลับมาล้อมตัวเขาตลอดเวลา!
เห้อ –
หลังจากนี้คงต้องเก็บตัวดีๆแล้ว หนักใจจริงๆ –
ถึงอย่างไรก็ตามหลังจากที่หนังเรื่องนี้เข้าฉายแล้ว ไม่ว่ายังไงฉันก็คงไม่พ้นตกเป็นเป้าหมายของแฟนคลับของฉัน และคงจะมีเด็กสาวไม่น้อยตามฆ่าฉันแน่ฉันควรจะทํายังไงดีนะ?
เจียงเฉิน : ตัวสั่น!
หนังยังไม่เริ่มแต่ในโรงหนังกลับเต็มไปด้วยกลิ่นของดินปืน
แฟนๆของทั้งสองฝ่ายต่างเริ่มมีปากเสียงกัน
“เจิ้งหลุนเป็นพระเอก!”
แฟนๆของเจิ้งหลุนส่งเสียงออกมา
“ผายลม พวกเธอไม่ได้ดูข่าวบันเทิงรึไง?! เจิ้งหลุนถูกแทนที่แล้ว! ตอนนี้พระเอกก็คือลู่อี้หัง!”
แฟนๆของลู่อี้หังสวนออกมา
“ไร้สาระ! ลู่อี้หังทําอะไรอยู่? เขาจะแข่งกับเจิ้งหลุนได้ยังไง? สถานะของเขายังต่ํากว่าเยอะ!”
แฟนของเจิ้งหลุนไม่ยอมแพ้
“อืม! ถ้าพวกเธอพูดเมื่อปีที่แล้วมันก็ไม่เป็นไร! แต่ปีนี้! กระแสของลู่อี้หังมาแรงกว่ามาก! หลังจากที่เขาเล่นเรื่องป้อมปราการเมืองเวทมนต์ไป กระแสของเขาก็พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว! จนแซงหน้าเจิ้งหลุนไปแล้ว!”
แฟนๆทั้งสองฝ่ายต่างทะเลาะกันด้วยคําพูดที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เริ่มมีแฟนๆไร้สมองสองสามคนเริ่มลงไม้ลงมือกัน
เจ้าหน้าที่ของโรงหนังก็รีบเข้ามาแยกทั้งสองฝ่ายออกไปทันที
แต่ถึงอย่างนั้นกลิ่นของดินปืนก็ยังอยู่และสามารถกลับมาปะทุได้ตลอดเวลา!
“อิ่ม! พอหนังฉายเราก็รู้แล้วว่าใครเป็นพระเอก!”
“รอดูได้เลย!”
หนังเริ่ม–
แฟนๆทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้พบว่าเจิ้งหลุนนั้นถูกเขี่ยออกไปเป็นพระรองแทน!
แฟนๆของลู่อีฟังหัวเราะเยาะออกมา
แต่ผลก็คือ พวกเธอยังไม่ทันได้หัวเราะจบใบหน้าของพวกเธอก็ต้องถูกแทนที่ด้วยความตกตะลึง–
สู่อีทั้งกลับถูกตัดต่อเปลี่ยนใบหน้าเป็นคนอีกคน!
แม้ว่าเขาจะได้กลายเป็นพระเอกแต่เขาก็กลายเป็นพระเอกอย่างน่าสงสาร—-
ใบหน้าของเขานั้นถูกแทนที่ด้วยใบหน้าของหนุ่มหล่อคนหนึ่ง
แฟนๆของเจิ้งหลุนที่เห็นแบบนั้นก็ใช้โอกาศนี้เยาะเย้ยออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า เมื่อกี้เพิ่งจะหัวเราะที่เพิ่งหลุนของพวกเรากลายมาเป็นพระรองแทนไม่ใช่รียังไง?! แต่สุดท้ายเขาก็แค่สตั้นท์แมน! แต่อย่างไรก็ตามเจิ้งหลุนของพวกเราก็ยังใช้ใบหน้าของตัวเองแสดงอยู่! ส่วนลู่อีทั้งไม่มีแม้แต่ใบหน้าให้เห็นด้วยซ้ํา!”
เหล่าแฟนๆทะเลาะกันอีกครั้งแต่หลังจากนั้นพวกเธอก็พากันหลั่งน้ําตาออกมา
เศร้าแค่ไหร!!
ไอดอลของพวกเธอถูกเหยียบย่ํา!
น่าเศร้าอย่าบอกใคร–
แต่อย่างไรก็ตาม….พระเอกคนนี้หล่อมาก! หล่ออกว่าไอดอลเกาหลีอีก!
สุดยอด!
รัก รัก รักเลย!
ลู่อี้หังกับเจิ้งหยุน “ ”
O(TT)
ฮือๆ–
ในเวลานี้เองหลังจากการเปิดตัวภาพยนต์ออกไป
ไม่นานก็มีกระแสขึ้นมาบยเว่ยปอ “ใครบอกได้บ้างว่านักแสดงหน้าใหม่คนนี้เป็นใครกัน?”
“ไม่เคยมีใครเห็นหนุ่มหล่อคนนี้มาก่อนเลยหรอ?”
“ใครกันกล้าประหารลู่อี้หังของฉัน บ้า– ฉันจะทุบเขาให้ได้เลย!”
“ฉันเป็นแฟนคลับของเพิ่งหลุน ฉันไม่พอใจมาก!”
“ข– ถึงไม่อยากจะพูด แต่เอาจริงๆพระเอกคนนี้หล่อมาก!”
“ใช่เลย หล่อแบบนี้ใครบ้างไม่อยากเป็นแฟนคลับ!”
“พูดตามตรงนะเขาหล่อกว่าลู่อีฟังอีกนะ!”
“ดีกว่าเพิ่งหลุนด้วย!”
แฟนๆของลู่อี้นั่งและเพิ่งหลุนโกรธมากจนอยากจะสร้างปัญหาแต่พอดูไปได้ตนึ่งเรื่องพวกเธอต่างยอมเปลี่ยนตัวเองให้กลายมาเป็นแฟนคลับของเจียงเฉิน!
เว่ยปอระเบิด!
“ว้าว หวานกันจังเลย!”
“มีฉากที่เขาแสดงเองด้วย”
“ผู้ชายคนนี้หล่อจริงๆ แถมยังแสดงบทประธานเผด็จการได้สมจริงมากด้วย!”
“ทั้งอ่อนหวาน ทั้งเผด็จการ ทั้งเอาอกเอาใจดีกว่าที่ฉันคิดไว้เป็นร้อยเท่าเลย!”
“นี่มันท่านประธานในฝันของฉันแล้ว!”
“หานซูหยานเธอคงมีความสุขมากๆแน่ ดูใบหน้าที่เขินอายของเธอสิ ถ้าเรียกว่าแสดงมันก็สมจริงเกินไปแล้ว!”
“เทพบุตรคนนี้เป็นใครกัน?”
ในเว่ยป๋อนั้นก็เต็มไปด้วย ใครคือท่านประธานเทพบุตรสุดหล่าอผู้ฆ่าลู่อีฟังกับเจิ้งอีหานภายในเวลาไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นแท็กนี้ก็ขึ้นกลายเป็นรายการค้นหายอดนิยมและยังมียอดค้นหาเพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง!
จนสุดท้ายแฟนๆของเจียงเฉินที่นําโดย “ช่างภาพสาว” ก็โพสต์ออกมาอย่างภาคภูมิใจ“นี่คือไอดอลของพวกฉันเทพบุตรผู้เหยียบย่ําซงเซจิและหยางจ้านจนจมดิน!”
แต่ด้วยรูปของเจียงเฉินที่พวกเธอโพสต์นั้นถูกลบไปแล้วดังนั้นพวกเธอจึงแทบไม่เหลือรูปจริงๆของเจียงเฉินเลย
ดังนั้นพวกเธอจึงได้แต่พูดออกมาแบบปากเปล่าเท่านั้น!
แต่พวกเธอก็ยังคงพากันสรรเสริญเจียงเฉินว่าหล่อกันอยู่ดี!
ในภาพยนต์ ภาพลักษณ์ของเทพบตรที่หล่อเหลาของเจียงเฉินได้หยั่งรากลึกในใจของผู้คนแม้แต่แฟนๆของลู่อี้หังและเพิ่งหยุนที่แทบจะฆ่ากันก็พร้อมใจกันมาเป็นแฟนคลับของเจียงเฉิน
ผู้คนพากันออกมาตั้งคําถามว่า : เทพบุตรคนนี้เป็นใครกัน?
นักข่าวบันเทิงนับไม่ถ้วนแห่กันไปสัมภาษณ์กับกองถ่าย
เนื่องจากการระเบิดของกระแสของภาพยนต์ ทําให้ทีมงานกองถ่ายมากมายถูกนักข่าวเข้ามาสัมภาษณ์
นักข่าวถามลู่อี้หังว่า “คุณไม่โกรธหรอคะที่ถูกเอไอมาตัดต่อหน้าของคนอื่นแทนใบหน้าของคุณ?”
สร้างปัญหาเข้าไว้! อย่าไปกลัว!
นี้แหละงานของนักข่าวบันเทิง!
นักข่าวบันเทิงมากมายหลายคนนั้นมักจะถามคําถามที่อ่อนไหวออกมาอย่างจงใจเพื่อให้ได้ มาซึ่งสิ่งที่พวกเขาต้องการ!
และนักข่าวบันเทิงหลายๆคนก็รู้ดีว่าลู่อี้ทั้งนั้นเป็นคนใจแคบ!
ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งตารอลู่อี้หังสบถค่าออกมาและเรียกร้องให้แฟนๆของเขาโจมตีสื่อกลับ–
แต่ใครจะไปคิด!
เมื่อได้ยินคําถามนี้ลู่อี้หังก็ยิ้มออกมาอย่างสุภาพ “ผมไม่โกรธเลยครับ!”
นักข่าวบันเทิง “???”
สับสน!
ทําไมลู่อี้นั่งถึงเปลี่ยนไป? แบบนี้มันไม่ถูกต้อง!
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยริยยิ้ม ลู่อี้หังพูดออกมา “จะบอกให้นะครับพระเอกของเราไม่ว่าจะเป็นฝีมือการแสดงหรือระดับความทุ่มเทของเขามันทําให้ผมประทับใจมากเลยครับ!จริงๆแล้วมีเพียงแค่ 1% ของเรื่องเท่านั้นครับที่เป็นการตัดต่ออีก 99% เป็นหน้าจริงๆของเขาครับ(จริงๆแล้ว เป็นการตัดต่อ 7096) ความสามารถของเขานั้นมีมากจนให้ผมชื่นชมได้ราวกับแม่น้ําเหลืองที่ไหลเชียวกราดเลยครับ–
นักข่าวบันเทิง “..???”
เกิดอะไรขึ้น??
ทําไมพวกเรารู้สึกเหมือนว่านี่ไม่ใช่ลู่อี้หัง?
ความโกรธของเขาหายไปไหน?
จากนั้นพวกเขาก็พากันวิ่งไปหาเจิ้งหลุนต่อ
“พวกเราได้ยินมาว่าคุณเคยได้เป็นพระเอกแล้วอยู่ๆก็ถูกเปลี่ยนกลายเป็นพระรองคุณไม่รู้สึกไม่พอใจบ้างเลยหรอครับ?”
หสกเป็นเจิ้งหลุนคนเดิมเขาคงไม่พ้นต้องโวยวายออกมาอย่างแน่นอน
หรือบางทีอาจจะให้แฟนๆของเขาออกมาประท้วงแทนเขาเลยด้วยซ้ํา
แต่ใครจะรู้ว
ทัศนคติของเจิ้งหลุนนั้นสงบกว่าลู่อี้หังเสียอีก จิตใจของเขามั่นคง ไร้ซึ่งความโกรธเขายิ้มออกมาก่อนจะพูดว่า “การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ผมคิดว่า มันก็สมเหตุสมผลแล้วครับ!แม้ว่าพระเอกคนนี้(เจียงเฉิน)จะไม่เป็นที่รู้จักกันในวงการ แต่วงการนี้อยู่ด้วยความสามารถใครเล่นได้ดีคนนั้นก็เป็นพระเอก ผมต้องยอมรับเลยว่าตัวผมมีฝีมือไม่เท่าพระเอกคนนี้เลยครับ ผมได้เรียนรู้อะไร หลายๆอย่างจากเขาด้วยครับอย่างเช่น…”
พูดต่อไปอีก 10,000 คํา
นักข่าวบันเทิง “”
พลิกโต๊ะ!!
(2 D
IL
คุ้มค่าที่จัเรียนน้องสาวนายสิ
นายไม่ได้สนใจตําแหน่งพระเอกเลยหรอ?!
ลู่อีทั้งในเรื่องไม่มีหน้าของนายโผล่มาเลยนะ!
เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทําไมพวกเขาถึงเชื่อฟังและไม่โกรธเลย?
แล้วเราจะเอาอะไรไปทําข่าวได้บ้าง?
จะเขียนข่าวออกมายังไง?
ถึงแม้ว่าเหล่านักข่าวจะยังมีข้อสงสัยอยู่แต่อย่างไรก็ตามพวกเขานั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนังเรื่อง“ท่านประธานเผด็จการได้โปรดอย่ามายุ่งกับฉัน” นั้นเป็นที่นิยมมากจริงๆ
เนื่องจากการแสดงของเจิ้งหลุน ลู่ยี่ฟังและหานซูหยานและที่สําคัญกว่าก็คือการปรากฏตัวของเจียงเฉินเขาจึงกลายเป็นคนที่ดึงดูดเม็ดเงินเข้ามาได้ไม่หยุดในวันแรกหนังเรื่องนี้ก็สามารถทําเงินไปได้ถึง 250 ล้าน ในสัปดาห์แรกทําไปได้ถึง 810 ล้านและขึ้นๆไปแตะ 1.5 พันล้านในเวลา 10 วันและทะลุ 2.2 พันล้านในเวลาครึ่งเดือน!
ความสําเร็จของภาพยนต์ต่างทําให้คนมากมายอิจฉา–
คนในวงการนั้นเต็มไปด้วยความอิจฉาเพราะพวกเขาต่างก็ต้องการหน้าตา เงินทองและแฟนคลับที่ไร้สมอง!
ในอีกด้านหนึ่งพวกผู้กํากับก็พากันพยายามหาตัวเจียงเฉินกันเพราะหวังว่าตัวเองนั้นจะสามารถสร้างผลงานระดับนี้ออกมาได้
“นี่ ผู้กํากับจางโม่ว ผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหม นักแสดงนําของคุณเขาชื่ออะไรคุณไปหาตัวเขามาจากไหนหรอ?”
ผู้กํากับอาวุโสท่านหนึ่งถามผู้กํากับจางไม่ว
จางโม่วพูดออกมาอย่างเคร่งขรึม “โอ้ จริงๆแล้วคนๆนั้นไม่ใช่ดาราหรอกครับเราไปเจอตัวเขาระหว่างการถ่ายทําเท่านั้นเอง?”
“เจอระหว่างการถ่ายทํา???”
ผู้กํากับอาวุโสอิ้ง–
“อย่าพูดเหลวไหล!”
“นี่ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลครับ มันเป็นเรื่องจริง!”
ผู้กํากับจางโม่วเงียบไปก่อนจะหัวเราะออกมาแล้วพูดอย่างจริงจัง “จริงสิ! เป็นผู้ช่วยผู้กํากับของผมที่ไปเจอเขาตอนกําลังขับตีตี้พอดีนะ!”
“????”
ผู้กํากับอาวุโส : (2©w©)?
เป็นไปได้ด้วยหรอ?
“จริงด้วย! ตอนนั้น ลู่อี้หังทําตัวหยิ่งมากแล้วผมก็ไม่มีคนแสดงแล้วก็บังเอิญเจอเขาตอนนั้นพอดีผมก็เลยไปถึงเขาเข้ามาแสดงเลยแต่ผมก็คิดไม่ถึงจริงๆว่าผลตอบรับมันจะดีขนาดนี้”
จางโมวยิ้ม
ผู้กํากับอาวุโสหน้ากระตุก!
คิดว่าฉันจะเชื่อหรอ?
หล่อขนาดนั้นเนี่ยนะไปขับตี้ ?
คิดว่าสมองฉันโดนน้ําท่วมรียังไง?
ไม่เชื่อ! ให้ตายก็ไม่เชื่อ!
ผู้กํากับอาวุโสยิ้มออกมา “แล้วนายให้เบอร์ของเขากับฉันได้ไหม?”
“อ่า…คุณพูดอะไรนะครับ พอดีสัญญาณของผมไม่ค่อยดี ขอวางสายก่อนนะครับ” จางโม่วหาโอกาศตัดสายอย่างชาญฉลาด
คุณต้องการข้อมูลติดต่อหรอ?
ฝันไปเถอะ!!
เนื่องจากบริษัทรักษาความปลอดภัยเทียนเฉินของเจียงเฉิน มีประสิทธิภาพมากเกินไปพวกเขานั้นได้ลบโพสต์ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเจียงฉัน ทั้งยังจงใจปล่อยข่าวปลอม ภาพถ่ายปลอมเพื่อทําให้ผู้คนไม่สามารถระบุตัวตนที่แท้จริงของเขาได้แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นที่นิยมมากหลังจากที่ ฉายออกมาแต่ผ่านไปครึ่งปีแฟนๆจํานวนมากก็ยังไม่สามารถระบุตัวตนที่แท้จริงของเจียงเฉิง
และหลังจากนั้นตัวตนของเขากลายเป็นตํานาน–
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเจียงเฉินก็ไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย
“ท่านประธานเผด็จการได้โปรดอย่ามายุ่งกับฉัน” หลังจากที่มันได้ทําการออกฉาย! ด้วยรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาของพระเอก(เจียงเฉิน) ทําให้เขาสามารถดึงดูดแฟนๆนับไม่ถ้วนมาติดตามเข้าได้แต่ถึงอย่างนั้นแฟนๆเหล่านั้นก็ไม่สามารถหาตัวตนที่แท้จริงของเจียงเฉินได้!
เจียงเฉิน : เฮ้อ ไม่มีทาง ทําไมความหล่อถึงได้กลายเป็นเหมือนบาปกัน?!
และตอนนี้เขาก็มีปัญหาเกิดขึ้น
แฟนสาวคนอื่นของเจียงเฉินนั้นเริ่มรู้แล้วว่าเขานั้นมีส่วนร่วมกับการแสดงหนังเรื่องนี้ทั้งนั้นพวกเธอจึงพากันขอให้เจียงเฉินพาพวกเธอไปดูพร้อมกับเขา
ดังนั้นหลังจากนั้นจึงเชิญจริงต้องพาพวกเธอไปดูซ้ําแล้วซ้ําเล่าจนเขาแทบอยากจะอาเจียนออกมา
ทํางานหนักมาก—