เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ - ตอนที่ 268 : เจียงเฉินรับลูกน้องคนรวยรุ่นที่สอง!
- Home
- เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ
- ตอนที่ 268 : เจียงเฉินรับลูกน้องคนรวยรุ่นที่สอง!
ตอนที่ 268 : เจียงเฉินรับลูกน้องคนรวยรุ่นที่สอง!
หลิวเซียงหยุนกําลังนั่งอยู่บนที่นั่งข้างคนขับในรถสปอร์ต
เฟอร์รารี่สีแดง!
และลู่เว่ยก็กําลังจับพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว อยู่มุมปากบนใบหน้าหล่อของเขาดูชั่วร้าย เขานั้นราวกับหมาป่าที่หล่อเหลาจนดึงดูดสายตาที่หลงใหลของหลิวเซียงหยุนด้อย่างง่ายดาย
“แฟนของฉันหล่อจริงๆ!”
“ฉันจะต้องจับเขาเอาไว้ให้แน่นและผ่านบททดสอบของเขาเพื่อที่จะได้แต่งงานเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ํารวย!”
เมื่อคิดถึงงานนิทรรศการเครื่องประดับของ LVMH แล้วถ้าไม่ใช่เพราะลั่วเว่ยเธอนั้นก็ไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่เธอถึงจะมีโอกาศแบบนี้
ดังนั้นเธอจะต้องจับเขาไว้ให้แน่นที่สุดเพื่ออนาคตของเธอ!
“ใช่แล้ว!”
ในเวลานี้เองลู่เว่ยก็มองไปที่เธอ “เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ….จดหมายเชิญปลอม?”
“ใช่ มีผู้หญิงคนหนึ่งในบริษัทของฉัน ฉันเห็นอยู่ชัดๆว่าแฟนของเธอเป็นคนส่งอาหาร แต่อยู่ๆ เขากลับสามารถหาจดหมายเชิญมาได้ถึง 5 ใบในครั้งเดียว คุณว่ามันไม่ตลกไปหน่อยหรอ?” หลิวเซียงหยุนเยาะเย้ยออกมา
ลั่วเว่ยตกใจมาก “หะ ตลกเกินไปหน่อยไหม? ทําไมทุกวันนี้ถึงได้มีแต่คนหน้าชื่อใจคดแบบนี้นะ? กลลวงแบบนี้พอมาถึงงานก็จะถูกเปิดเผยในทันทีแต่เขาพวกเขากลับยังกล้าใช้?”
“ใช่แล้ว ตลกมากเลยล่ะ ไม่ดูเลยว่าตัวเองเป็นใคร แต่กลับยังคิดจะไปงานนิทรรศการของ LVMH” หลิวเซียงหยุนเยาะเย้ยออกมา อันที่จริงเธอนั้นก็ลืมไปแล้วว่าเธอและซูเสี่ยวเสี่ยวนั้นก็เป็นลูกสาวของครอบครัวธรรมดาๆที่มีฐานะทางการเงินระดับกลางๆ แต่ตอนนี้ด้วยความที่เธอนั้นมีลู่เว่ยอยู่ด้วยมันเลยทําให้เธอนั้นรู้สึกอยู่ไกลจากอีกฝ่ายมาก
แต่ในตอนนี้เองสู่เว่ยก็ตกตะลึงและมองไปที่หลิวเซียงหยุน
“เดี๋ยวนะ….เธอพูดว่าอะไรนะ แฟนของเธอทําอะไร?”
“แฟนของเธอเป็นคนส่งอาหาร” หลิวเซียงหยุนพูดอย่างเฉยเมย
“ส่งอาหาร…” ใบหน้าของลู่เว่ยกระตุก
ใบหน้าหล่อปรากฏขึ้นมาในใจของเขา
เจียงเฉิน!
คนใหญ่คนโตที่เคยส่งพัสดุขับตี้ตี้และตอนนี้เพิ่งจะไปส่งอาหาร
“เล่าเรื่องของเขามาเดี๋ยวนี้!”
“อะไรนะ?”
“พูดเร็วสิ!”
หลิวเซียงหยุนนั้นสัมผัสไปถึงความจริงจังบนใบหน้าของลู่เว่ยเธอนั้นเริ่มตื่นตระหนกก่อนจะพูดออกมาอย่างรวดเร็ว
“ไม่กี่วันก่อน ซูเสี่ยวเสี่ยวลงไปทานอาหารกับแฟนของเธอ ฉันเห็นว่าเขาใส่เครื่องแบบของคนส่งอาหาร จากนั้นซูเสี่ยวเสี่ยวก็กลับมาพร้อมกับจดหมายเชิญ 5 ใบ”
ลู่เว่ย “แล้วอะไรอีก!”
หลิวเซียงหยุนพูดต่อว่า “แล้วฉันก็ถามเธอว่าแฟนของเธอจะไปเป็นคนส่งอาหารทําไม เธอก็ตอบฉันกลับมาว่ามันเป็นงานอดิเรกของเขา! แล้วยังบอกว่าแฟนของเธอนั้นมี Lamborghini Poison อยู่ด้วย!”
“Lamborghini Poison! เธอรู้แซ่ของเขารึเปล่า?!”
“แซ่ของเขางั้นหรอ?” หลิวเซียงหยุนส่ายหัวก่อนจะคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ดูเหมือนว่าจะแซ่เจียง!”
ลู่เว่ย “…”
ไม่ได้การแล้ว!
นั่นเขา!
บอสเจียง! พี่เฉิน!
ลู่เว่ยมองไปที่หลิวเซียงหยุนแล้วยิ้มออกมา “จากน้ําเสียงที่เธอคุยโทรศัพท์แล้ว เธอนั้นมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับซูเสี่ยวเสี่ยวคนนั้นใช่ไหม?”
หลิวเซียงหยุนยิ้มอย่างดูถูก “คนอย่างเธอจะเป็นเพื่อนของฉันได้ยังไง….”
พูดยังไม่ทันจบ
เพียะ
ลู่เว่ยก็ตบใบหน้าของเธอ
แก้มของเธอนั้นบวมแดงขึ้นมาทันที
“คุณ…คุณตบฉันทําไม!” หลิวเซียงหยุนมองไปที่ลู่เว่ยด้วยความตกตะลึง
เมื่อกี้ยังยิ้มกับฉันอยู่แล้ว ทําไมตอนนี้ถึงหันมาตบหน้าฉันแล้ว?
“ฉันแค่ตบหน้าเธอก่อนเพื่อที่จะได้ไม่โกรธจนทุบตีเธอทีหลังไง!”
การแสดงออกของลู่เว่ยนั้นจริงจังมาก!
เมื่อก่อนลู่เว่ยนั้นปฏิบัติต่อหลิวเซียงหยุนอย่างสง่างามหล่อเหลาและนุ่มนวล แต่ตอนนี้การแสดงออกของลู่เว่ยนั้นเต็มไปด้วความจริงจังและเคร่งขรึมมาก จนทําให้หลิวเซียงหยุนนั้นรู้สึกถึงความกลัวและใจของเธอก็เริ่มสัน
ลู่เว่ยมองเข้าไปในดวงตาของหลิวเซียงหยุน “ฉันคงต้องบอกว่าเธอทําได้ดีมากจริงๆ! คุณจัดการตัวเองกับคนรอบข้างได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด ทําให้ครอบครัวของฉันเริ่มชอบเธอขึ้นมา และฉันเองก็คิดว่าเธอก็เป็นคนดี แต่…ตอนนี้ฉันพบข้อบกพร่องของเธอแล้ว และเป็นข้อบกพร่องที่ฉันไม่อาจทนได้ด้วย!”
หลิวซิงหยุนรู้สึกสับสน
เธอนั้นไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นผิดตรงไหน
เธอไม่รู้เลยว่าจู่ๆทําไมลู่เว่ยถึงได้อารมณ์เสียแบบนี้
แม้แต่ความเจ็บปวดบนหน้าจากการโดนตบก็ยังลืมไปแล้ว
ลู่เว่ยชี้ออกไปที่ข้างนอก “นี่คือเมืองหลวงเมืองที่เป็นศูนย์กลางของประเทศจีน! ที่นี่มีคนใหญ่คนโตอยู่มากมาย บางทีเธออาจจะเดินไปชนคนระหว่างชอปปิ้งโดยที่เธอไม่รู้เลยว่าคนที่เธอชนไปนั้นเป็นถึงมหาเศรษฐี! บางทีคนข้างทางที่เธอดูถูกก็อาจจะเป็นคนรวย…บางคนก็ชอบเก็บตัว และลงมาสัมผัสชีวิตทําตัวราวกับว่าพวกเขาเอง ก็เป็นคนธรรมดา…”
“ดังนั้นเมื่อเธออยู่ในเมืองหลวง อย่าได้คิดลําพองตัวเอง! เธอสามารถรังแกคนอื่นได้ดูถูกคนอื่นได้ แต่เธอจะไม่มีทางรู้เลยว่าเบื้องหลังที่แท้จริงของคนๆนั้นเป็นยังไง?!”
“ดังนั้นเมื่อเธออยู่ในเมืองหลวง จงทําตัวให้สุภาพ มีเมตตาต่อคนอื่น เห็นคุณค่าของมิตรภาพ อย่าได้ถือตัวและทําตัวหยิ่งยโส!”
หลิวเซียงหยุนถามออกมาด้วยความกลัว “สามี คุณหมายความว่ายังไง…”
ลู่เว่ยพูดออกมา “เธอเพิ่งพูดถึงเพื่อนร่วมงานของเธอไม่ใช่หรอ เธอน่ะเป็นผู้หญิงของพี่ชายฉัน ฉันเรียกเขาว่าพี่เฉิน พี่เฉินเป็นคนใหญ่คนโตที่ชอบเก็บตัว เขานั้นเป็นมาแล้วทั้ง คนส่งพัสดุคนขับตี้ตี้และตอนนี้เขาก็มาเป็นคนส่งอาหาร…เขานั้นยังเคยสั่งสอนนายน้อยในเมืองหลวงไปไม่น้อย แม้แต่นายน้อยที่แข็งแกร่งกว่าฉัน คนนี้ก็ยังต้องยอมสยบให้เขา!”
“นอกจากเหล่านายน้อยแล้วก็ยังมีเศรษฐีอีกมาก….ที่ยังไม่มีโอกาศแม้แต่จะเข้าไปประจบสอพลอกับเขา!”
หลิวเซียงหยุนขู่ว่าแฟนหนุ่มของเธอลู่เว่ยนั้น มักจะทําตัวหยิ่งผยองอยู่ตลอด แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอนั้นได้เห็นเขาชื่นชมใครได้ขนาดนี้
ในเวลานี้เองหลิวเซียงหยุนก็เริ่มสงสัย
เธอนั้นอยากรู้มาก!
อีกฝ่ายเป็นคนใหญ่คนโตขนาดไหนกัน?
ต้องเป็นคนแบบไหนกันถึงสามารถสยบแฟนหนุ่มของเธอได้?
ลู่เว่ยลูบไปที่แก้มของหลิวเซียงหยุนก่อนจะพูดเตือนออกมา
“ถ้าไม่ใช่เพราะฉันชอบเธอ ฉันจะไม่บอกเรื่องนี้ให้เธอรู้แน่แล้วจะเตะเธอออกไปจากรถทันที เมื่อเธอเจอพี่เฉินแล้วเธอตงจะรู้แล้วนะว่าต้องทําตัวยังไงไม่อย่างนั้นความสัมพันธ์ของเราก็คงต้องจบลงทันที เข้าใจใช่ไหม?”
“อืมมม!” หลิวเซียงหยุนพยักหน้ารามกับไก่ที่กําลังจิกข้าว
เมื่อต้องรับมือกับคนใหญ่คนโตที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้ มีเหรอที่เธอจะไกลหยิ่งผยอง?
รถเข้ามาถึงที่หน้าประตูทางเข้านิทรรศการอย่างรวดเร็ว
ลู่เว่ยและหลิวเซียงหยุนก็มายืนรออยู่ที่หน้าทางเข้าเพื่อรอการมาถึงของเจียงเฉิน
ไม่นานพวกเขาก็เห็นรถโรลส์รอยซ์ แฟนธ่อม ขับเข้ามาหาพวกเขา
ดวงตาของลู่เว่ยหดแคบลง เมื่อมองผ่านหน้าต่างไปเข้านั้นก็เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยหล่อเหลา!
เป็นเจียงเฉิน!
“เข้าไปทักทายเร็ว!”
“เร็วเข้า!”
ลู่เว่ยรีบพูดออกมา
ทั้งสองรีบเดินเข้าไปทันที แต่พวกเขานั้นยังไม่ทันถึงรถของเจียงเฉิน
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมา
“นายน้อยลู่! ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เมื่อลู่เว่ยหันกลับไปมองก็ต้องประหลาดใจ!
เป็นนายน้อยคนหนึ่งในเมืองหลวงที่มีระดับเท่าเทียมกันกับเขา-เซี่ยเจียคุน!
เมื่อมีคนเข้ามาทักทาย ลู่เว่ยก็เลยจําเป็นต้องหยุดและพูดคุยกับเซียเจียคุนก่อน
“นายน้อยลู่ ก็มาที่นี่ด้วยหรอ? หม? นายมาทําอะไรงั้นหรอ?”
เซี่ยวเจียคุนเยาะเย้ยออกมา
ลู่เว่ย “โอ้ นายน้อยคน พอดีฉันจะไปพบกับคนใหญ่คนโตเสียหน่อย!”
เซี่ยวเจียคุนตกตะลึง “ใครกันที่ทําให้นายน้อยลู่ต้องไปพบเขาด้วยตัวเอง?”
เหล่านายน้อยของเมืองหลวงนั้นค่อนข้างจะอ่อนไหวกับเรื่องสถานะของคนอยู่ตลอดเวลา
เพราะมันช่วยไม่ได้ก็ในเมื่อน้ําในเมืองหลวงนั้นมันลึกเกินไป และเต็มไปด้วยเสือมอบมังกรซ่อน บางทีอาจจะพบเจอกับบุคคลผู้ยิ่งใหญ่โด บังเอิญได้ตลอดเวลา
เซี่ยวเจียคุนนั้นก็เหมือนกับจะเชื่อลู่เว่ยอยู่ไม่น้อย
หากลู่เว่ยยังให้ความสําคัญกับคนใหญ่คนโต คนนี้จนถึงขั้นที่ต้องมาถ่ายด้วยตัวเองงั้นฉันก็จะต้องไม่พลาดที่จะทําความรู้จัก!
“เป็นพี่ใหญ่ของฉัน”
ลู่เว่ยพูดออกมาอย่างไม่เป็นทางการ และเขานั้นก็ไม่สนใจที่จะคุยกับเซี่ยเจียคุนต่อ เพราะอย่างไรก็ตามตอนนี้รถของเจียงเฉินนั้นจอดแล้ว “เอาล่ะ งั้นแค่นี้ก่อนละกัน เดี๋ยวฉันต้องไปทักทาย พวกเขาก่อนไว้เดี๋ยวคุยกันใหม่”
หลังจากที่พูดจบลู่เว่ยก็เพิกเฉยต่อปฏิกิริยา ของเซี่ยเจียคุนและเดินตรงไปที่รถของเจียงเฉินทันที
เซี่ยเจียคุน “???”
เขานั้นไม่เคยเห็นลู่เว่ยพยายามประจบประแจงคนใหญ่คนโตแบบนี้มาก่อน ตระกูลลู่นั้นถือว่าเป็นตระกูลที่มั่งคั่งมากตระกูลหนึ่งในเมืองหลวง
สิ่งนี้ทําให้เขานั้นอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที เซี่ยเจียคนเดินตามไป
“ฮ่าฮ่า พี่เฉิน!”
ลู่เว่ยมองดูทะเบียนรถโรลส์รอยซ์ แฟนธ่อม แม้ว่าป้ายทะเบียนรถนั้นจะต่างไปแต่เจ้าของยัง ป็นคนเดิม!
เจียงเฉินนั้นกําลังจะเปิดประตูลงจากรถ
ลู่เว่ยก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที!
ฉันจะปล่อยให้พี่เฉินเปิดประตูลงด้วยตัวเองได้ยังไง?
ฉันจะยอมให้ตัวเองเป็นน้องชายและประโยชน์ได้ยังไงกัน?
เขาก้าวเข้าไปอย่างรวดเร็วและรีบชิงเปิดประตูให้จียงเฉิน ก่อนจะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มประจบประแจงว่า “พี่เฉิน!”
เมื่อเห็นเช้านี้สายตาของหลิวเซียงหยุนและเซี่ยเจียคุนก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง!
นี่ไม่ใช่การต้อนรับแล้ว นี่มันเป็นการประจบประแจงชัดๆ!
สายตาของพวกเขาที่มองเจียงเฉินนั้นยิ่งสูงขึ้นไปอีก!
เจียงเฉินดูประหลาดใจ “หืม? ลู่เว่ยนายก็มาด้ว งั้นหรอ?”
“ครับ! แต่โชคชะตาก็ทําให้ผมเจอพี่เฉิน บังเอิญจริงๆนะครับ!”
ลู่เว่ยหยักหน้าและก้มศรีษะพร้อมกับยิ้มออกมา เพื่อเอาใจเจียงเฉิน “พี่เฉิน ผมไม่เจอพี่มาสองสามวันกลับมาเจอกันพี่ยังหล่ออยู่เหมือนเดิมเลย! สวรรค์ไม่ได้ให้กําเนิดพี่เฉินแต่พี่เฉินของ ผมก็ยังหล่อเหมือนกับคืนที่ยาวนาน!”
เจียงเฉินที่ถูกลู่เว่ยยกยอก็รู้สึกเขินขึ้นมาไม่น้อย “โอเคๆ พอได้แล้วๆ ฉันเริ่มจะทนไม่ไหวแล้วนะ”
ในเวลานี้เองสู่เว่ยก็มองไปที่หลิวเซียงหยุนที่กําลังตกตะลึงอย่างดุเดือด
หลิงเซียงหยุนตอบสนองทันทีเธอเข้าไปเปิดประตูรถให้ซูเสี่ยวเสี่ยวอย่างรวดเร็ว
“เสี่ยวเสี่ยว วันนี้เธอสวยจังเลย เมื่อเปรีบเทียบกันแล้วเธอเป็นเหมือนพระจันทร์ส่วนฉันเป็นแค่หิงห้อย! โอ้ ทําไมฉันไม่สังเกตุมาก่อนเลยว่า เธอนั้นทั้งสวยทั้งใจดีราวกับองค์หญิงก่อนหน้านี้ ฉันทั้งตาบอดทั้งปากเสียไม่รู้ว่าตัวเองกําลังพูดอะไรออกมา ดังนั้นก็อย่าถือสาฉันเลยนะ”
หลิวเซียงหยุนพูดร่ายยาวออกมา
เมื่อหลิวเซียงหยุนนึกถึงตอนที่เธอนั้นได้เยาะเย้ยซูเสี่ยวเสี่ยวก่อนหน้านี้ เธอนั้นก็เริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาไม่น้อย
เหงื่อไหล!
ความรู้สึกของการรนหาที่ตาย!
เมื่อเห็นว่าลู่เว่ยนั้นเคารพเจียงเฉินมากแค่ไหน รวมถึงรถยนต์ราคาหลายสิบล้านที่เจียงเฉินขับ และท่าทางที่ดูมีอํานาจของเจียงเฉินมันก็ทําให้หลิวเซียงหยุนนั้นกลัวไม่น้อยเลยนะ
เธอนั้นต้องขอบคุณลู่เว่ยที่เตือนสติเธอก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป!
ไม่อย่างนั้น ถ้าเธอคุกคามซูเสี่ยวเสี่ยวและ เจียงเฉินอีกครั้ง เธอนั้นไม่รู้เลยว่าตัวเองจะได้ตายยังไง
ตอนนี้ในความคิดของหลิวเซียงหยุนที่มีต่อเสี่ยวเสี่ยวนั้นมีความเคารพมากกว่าแม่ของตัวเองถึงสิบเท่า!
ซูเสี่ยวเสี่ยวเองก็ตกตะลึง
ทําไมการแสดงออกของหลิวเซียงหยุนถึงไม่เหมือนเดิม?
ปกติแล้วเธอนั้นจะทําตัวหยิ่งยโสอยู่ตลอดนะ
วันนี้มันเกิดอะไรขึ้น?
ซูเสี่ยวเสี่ยวหันไปมองที่เจียงเฉินที่อยู่ข้างๆ
คงเป็นเพราะสามีแน่นอน!
แม้แต่เพื่อนร่วมงานอีกสี่คนของซูเสียวเสี่ยวก็ยังต้องตกตะลึง!
เจียงเฉินแฟนของซูเสี่ยวเสี่ยวแข็งแกร่งขนาดนี้เลยหรอ?
เนื่องจากพวกเธอนั้นไม่รู้ว่าลู่เว่ยแข็งแกร่งแค่ไหนแต่ว่าหลิวเซียงหยุนที่มักจะทําตัวเองอยู่สูงกว่าคนอื่นก็ทําให้พวกเขานั้นต้องประหลาดใจ!
ในระหว่างนี้หลิวเซียงหยุนก็ยังคงพยายามชม ซูเสี่ยวเสี่ยวอย่างต่อเนื่อง
ผลลัพธ์
สวยงั้นหรอ?
เปิดประตูให้ซูเสี่ยวเสี่ยวแล้วทักทาย? เย็นยอ? เลียแข้งเลียขา?
ทั้งสี่คนตกตะลึง!
เซี่ยเจียคุนที่อยู่ข้างหลังลู่เว่ยก็มองมาด้วยความตกตะลึง
เขาน่ะไม่รู้จักเจียงเฉินและไม่เข้าใจว่าทําไมลู่เว่ยถึงให้ความเคารพเจียงเฉินขนาดนี้?
แต่อย่างไรก็ตามสายตาของเซี่ยเจียคนนั้นก็ไม่ได้แย่
เนื่องจากลู่เว่ยนั้นเคารพอีกฝ่ายอย่างมาก แถมยังพยายามอย่างเต็มที่!
ถ้าจะสรุปจากทั้งสองข้อนี้มันจะต้องไม่ผิดพลาดอย่างแน่นอน!
เขาก้าวไปข้างหน้าและพูดกับเจียงเฉินด้วยความเคารพว่า “พี่ชายเจียง! ยินดีที่ได้เจอครับ! ผมเซี่ยเจียคุนเป็นเพื่อนของลู่เว่ยครับ”
“สวัสดี” เจียงเฉินที่ได้ยินว่าเขานั้นเป็นเพื่อนของลู่เว่ยก็ยื่นมือออกไปจับมือกับเขา
เซี่ยเจียคนก็ตกใจเมื่อเห็นว่าเจียงเฉินนั้นมีท่าทีที่สงบนิ่งและไม่ธรรมดาแต่กลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายของบุคคลที่ยิ่งใหญ่
นี่จะต้องเป็นคนใหญ่คนโตอย่างแน่นอน!
เจียงเฉินเดินลงจากรถและเดินไปข้างหน้ากับซูเสี่ยวเสี่ยว
เซี่ยเจียคนแอบถามลู่เว่ยว่า “คุณเจียงคนนี้เป็นใครกัน? ทําไมฉันไม่รู้จักเขาเลย!”
ลู่เว่ยอธิบายออกมาว่า “เขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับพวกเรา อย่างน้อยก็อยู่ในระดับที่สูงกว่าพ่อของฉัน!”
เซี่ยเจียคุน “อะไรนะ
ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน? แต่กลับสูงกว่าพ่อของลู่เว่ยเสียอีก?!
นี่มันสุดยอดเกินไปแล้ว! เซี่ยเจียคุนนั้นรู้ดีถึงระดับพ่อของลู่เว่ย
เขาแลบลิ้นออกมา!
โชคดีที่ครั้งนี้เขานั้นเลือกข้างถูก
เจียงเฉินพาซูเสีุยวเสี่ยวเดินเข้ามาในโถงนิทรรศการ
ผู้คนเดินไปเดินมาอย่างมีชีวิตชีวา
“หืม? คุณเจียง?”
คนที่เข้ามาทักทายก็คือหม่ากั๋วเทารองประธาน LVMH กรุ๊ปประจําประเทศจีน ครั้งก่อนเขานั้นได้พบกับเจียงเฉินก็คือตอนที่เจียงเฉินนั้นไปที่บริษัท แต่ตอนนี้แม้ว่าเจียงเฉินจะใส่หน้ากากอยู่แต่เขานั้นก็ยังจําได้
เมื่อเห็นเจียงเฉิน หม่ากั่วเทาก็เดินเข้าไปทักทายด้วยความกระตือรือร้นและความเคารพทันที
“คุณเจียง สวัสดีครับ!”
เจียงเฉินยิ้มและพยักหน้า
คนที่ตามมาด้านหลังของเจียงเฉิน ลู่เว่ย เซี่ยเจียคุนและหลิวเซียงหยุนต่างก็สงสสัยว่านี่คือใครกัน?
เจียงเฉิน “นี่คือคุณหม่ากั่วเทารองประธานหม่า! เขาเป็นรองประธานของ LVMH กรุ๊ป”
ทุกคนตกตะลึง
รองประธานของ LVMH กรุ๊ป?
อะไรนะ!
นี่มันแบรนด์หรูระดับโลกไม่ใช่หรอ? นี่คือคนจากบริษัทที่ร่ํารวยที่สุดในโลก?
ทําไมเขาถึงสนิทกับเจียงเฉินล่ะ?
ไม่สิ!
ดูจากความเคารพของหม่ากั่วเทาที่มีต่อเจียงเฉินเมื่อครู่นี้มันไม่ใช่ความเคารพในแบบธรรมดา แต่มันเป็นความเคารพจากก้นบึ้งของหัวใจ…
ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความมึนงง
รองประธานของบริษัท LVMH กรุ๊ป ผู้ทรงเกียรติทําไมเขาถึงเคารพเจียงเฉินขนาดนี้?
เจียงเฉินอธิบายออกมา “โอ้ พอดีว่าฉันถือหุ้นของ LVMH กรุ๊ป เอาไว้เล็กน้อยนะ”
ทุกคนตกตะลึง
ในดวงตาของเซี่ยเจียคนนั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึงจนยากที่จะยับยั้ง
คราวนั้นยิ่งรู้สึกขอบคุณลู่เอ่ยมากจนต้องพูดออกมาว่า “นายน้อยลู่ ขอบคุณจริงๆที่เตือนฉัน ไม่งั้นฉันคงไม่รู้เลยว่าพี่เฉินเป็นเทพเซียนที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้!”
แม้แต่ลู่เว่ยในตอนนี้ก็ยังพูดไม่ออก
อันที่จริงเขานั้นเพิ่งรู้เรื่องนี้เป็นครั้งแรก!
กรุ๊ป มันเจ๋งขนาดไหน?
คุณอาร์โนลต์ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่นั้นเป็นคนที่ดูดีที่สุดในโลก!
แม้ว่าเจียงเฉินจะพูดออกมาว่าเขานั้นถือหุ้นอยู่เล็กน้อย แต่ดูจากความเคารพที่รองประธานหม่ากั๋วเทาให้กับเขานั้นมันคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆแล้ว
อย่างน้อยที่สุดเขาก็ควรที่จะมีตําแหน่งที่สําคัญ ใน LVMH กรุ๊ป จนทําให้รองประธานหม่ากั๋วเทานั้นเคารพเขาได้ขนาดนี้!
ซึ่งนั่นก็หมายความว่า
หุ้นของเจียงเฉินนั้นก็ต้องมีอยู่เยอะมากอย่างแน่นอน!
อย่างน้อยก้อสมควรเป็นผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรก!
ผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของ LVMH กรุ๊ป
นี่สมควรเป็นตัวตนที่เต็มไปด้วยความน่ากลัว
ไม่เพียงแต่เพราะว่า LVMH กรุ๊ปนั้นเป็นกลุ่มบริษัทที่ร่ํารวยที่สุดบนโลก มูลค่าของหุ้นบริษัทนั้นสูงมาก!
และอีกอย่างมันเป็นบริษัทที่แทบจะไม่มีวันขาดเงินเลย!
นี่เป็นบริษัทที่ร่ํารวยที่สุดในโลกเชียวนะ!
แถมราคาของหุ้นของบริษัทนั้นสูงมากกว่า บริษัทปกติด้วย!
มันเป็นที่ทราบกันดีว่ามันคือความภาคภูมิใจของชาวฝรั่งเศษ!
LVMH กรุ๊ปนั้นคือความภาคภูมิใจของประเทศฝรั่งเศษ!
แม้แต่คนรวยธรรมดาๆจากประเทศอื่นๆถ้าอยากจะซื้อหุ้นของ LVMH กรุ๊ป ก็คงได้แต่บอกว่ามันเป็นไปไม่ได้!
มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!!
นี่เป็นสิ่งที่ทําให้พวกเขานั้นยิ่งชื่นชมเจียงเฉินมากขึ้นไปอีก!!
เซี่ยเจียหยุนและลู่เว่ยนั้นแอบดีใจ
การที่พวกเขาคุกเข่าและเลียแข้งเลียขาเพื่อต้อนรับเจียงเฉินนั้น เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องจริงๆ
“สวัสดี คุณเจียง?”
ในเวลานี้เองก็มีเสียงดังมาจากอีกฝั่งหนึ่ง!
เนื่องจากเจียงเฉินนั้นสวมหน้ากากอยู่ คนที่เข้ามาทักทายนั้นจะต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน!
เจียงเฉินหันไปแล้วก็พบว่านั่นก็คือซูหมิงอี้ เจ้าของบริษัท bilibili!
เซี่ยเจียคุนและลู่เว่ยตกตะลึงอีกครั้งNN
พี่เฉินเขาเป็นคนใหญ่คนโตจริงๆ!
แม้แต่ใส่หน้ากากอยู่ก็ยังมีคนเข้ามาทักทายได้เรื่อยๆ?
ตัวตนของพี่เฉินคนนี้ดูมีพลังมากกว่าที่พวกเราจินตนาการไว้เสียอีก!
อย่างไรก็ตาม พวกเค้านั้นไม่รู้เลยว่าตัวตนของคนที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาคือใคร
ซูหมิงอี้ทักทายด้วยความเคารพและกระตื รือร้น
“อา คุณเจียง คุณก็อยู่ที่นี่ด้วยหรอครับ?”
ซูหมิงอี้แสดงออกอย่างกระตือรือร้นและจับมือของเจียงเฉินไม่ปล่อย
“คุณพ่อผมมีวาสนาต่อกันจริงๆ! นึกไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอกันที่นี่!”
เขานั้นเป็นประธานของ BiliBili แม้ว่าเขานั่นจะ ม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเจียงเฉินโดยตรง
แต่!
ซูหมิงอี้นั้นเข้าใจถึงความสําคัญของการทําธุรกิจดี!
เขานั้นรู้ว่าเจียงเฉินนั้นแข็งแกร่ง มีเส้นสายที่กว้างไกล และยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ByteDance!
คนใหญ่คนโตแบบนี้ต้องประจบสอพลอให้สุด! มีแต่ข้อดีไม่มีข้อเสียเลย!
หลังจากที่ซูหมิงอี้ทักทายและจับมือของเจียงเฉินเสร็จ
“ที่รัก!”
ในเวลานี้เอง…
ผู้หญิงคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาและออดอ้อนซูหมิงอี้ “ที่รัก เมื่อกี้ฉันถูกใจเครื่องประดับชิ้นหนึ่ง!”
“งั้นก็ซื้อสิ!”
คําพูดที่เต็มไปด้วยความหยิ่งยโสก็ถูกพูดออกมา
“แต่ราคาแพงไปหน่อยนะ”
“ก็ซื้อไปสิ”
หยิ่งยโส!
“ราคามันมากกว่าหกล้านเชียวนะ”
“ซื้อไปเลย!”
หยิ่งยโสมาก!
ภรรยาของซูหมิงอี้ต้องการที่จะซื้อเครื่องประดับราคากว่าหกล้านหยวน แต่เขานั้นก็ทําเพียงโบกมือและบอกให้เธอซื้อได้เลย!
ทุกคนตกตะลึง แอบตกใจ
แม้ว่าพวกเขานั้นจะเป็นนายน้อยในเมืองหลวง
แต่เครื่องประดับมูลค่ากว่าหกล้านหยวนไม่ใช่ของขวัญราคาแค่หกร้อยหยวน ที่จะซื้อแล้วก็พูดออกมาได้ง่าย
ทุกคนนั้นเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นอีกครั้ง!
นี่เป็นคนใหญ่คนโตคนในกัน? เครื่องประดับราคากว่าหกล้านหยวน แต่กลับสามารถจ่ายเงินซื้อได้อย่างง่ายดาย
เจียงเฉินยิ้มและไม่พูดอะไรออกมา
ทุกคนนั้นเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ในเวลานี้เอง ก็มีนักธุรกิจที่ร่ํารวยคนหนึ่งเข้ามาทักทายซูหมิงอี้ “คุณซู! สวัสดีครับคุณซู ฮ่าฮ่าฮ่า ”
นักธุรกิจที่ร่ํารวยคนนั้นเข้ามาทักทายและจับมือ
ซูหมิงอี้จับมือกับเขา
นักธุรกิจที่ร่ํารวยคนนั้นพูดกับซูหมิงอี้ว่า “ช่วงนี้ ผมเห็นว่า BiliBili ของคุณนั้นค่อนข้างที่จะร้อนแรงมากเลย กระแสของมันตอนนี้ไม่เลวเลยจริงๆ ผมได้ยินมาว่าคุณกําลังจะไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อทําการขยายตลาดสําหรับ IQIYI ของ คุณด้วยใช่ไหม?”
นักธุรกิจผู้ร่ํารวยคนนี้เปิดเผยตัวตนของซูหมิงอี้ออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ!
เจ้าของ BiliBili?!
ซูหมิงอี้ที่เป็นเจ้าของ BiliBili น่ะหรอ?!
ลู่เว่ย เซี่ยเจียคุน และเพื่อนร่วมงานของซูเสี่ยวเสี่ยว…. ทุกคนมองไปที่เจียงเฉินด้วยความตกตะลึง
สถานะของซูหมิงอี้คนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา!
ทําไมพวกเขาถึงยังเคารพฉันได้มากขนาดนี้?
พอพวกเขาเห็นเฉินจากระยะไกลพวกเขาก็วิ่งมาทักทายกันแทบจะทันที?
นับตั้งแต่ที่เจียงเฉินเข้ามาในงานนิทรรศการแห่งนี้ พวกคนใหญ่คนโตจากทุกสาขาธุรกิจต่างเข้ามาทักทายเข้ากันแบบไม่หยุดพัก!
ตัวตนของเจียงเฉินคนนี้สูงแค่ไหนกัน?
หลังจากนั้นก็มีนักธุรกิจที่ร่ํารวยหลายคนที่เห็นเชิญพวกเขาก็แทบมาทักทายในทันที
“คุณเจียง!”
“พี่เจียง!”
“น้องเจียง!”
เราคนใหญ่คนโตและนักธุรกิจที่แต่งตัวดี สง่างาม ต่างพากันพร้อมใจเข้ามาทักใครเจียงเฉิน
ผู้คนถึงกับอึ้ง…
คนใหญ่คนโตจํานวนมากที่ดูแล้วไม่น่าจะใช่คนธรรมดา ต่างพร้อมใจเข้ามาทักทายเจียงเช่นกัน
ท่าทางที่ดูสง่างามของเจียงเฉินไม่ธรรมดาเลย เขานั้นสามารถพูดคุยและหัวเราะได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ผู้คนต่างตกตะลึงมากขึ้นไปอีก
เบื้องหลังของเจียงเฉินนั้นลึกซึ้งอย่างไม่อาจคาดเดาได้!
อันที่จริงคนเหล่านี้ต่างก็เป็นเศรษฐีที่เคยไปร่วมงานนิทรรศการเครื่องประดับราชวงศ์เมื่อครั้งก่อน ที่พิพิธภัณฑ์เจียงซื่อ ดังนั้นพวกเขาจึงรู้จักเจียงเฉิน
ในหมู่เหล่าเศรษฐีที่เข้ามาทักทายเฉินกลุ่มนี้ เซี่ยเจียคุนก็พบเห็นคนที่เขารู้จัก!
“นี่ลุงถังฮ่าวอี้ที่ปกติแล้วจะมีสนิทและมีสถานะที่เท่าเทียมกับพ่อของเขาไม่ใช่หรอ? ไม่ใช่ว่า ความแข็งแกร่งของเขานั้นไม่ได้ด้อยกว่าพ่อของฉันเลยไม่ใช่รึไง?”
เชี่ยเจียคุนตกตะลึง–
สับสน!
เขานั้นยิ่งประเมินเจียงเฉินให้สูงขึ้นไปอีก!
การที่เขาไม่รู้จักเจียงเฉินนั้นไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายนั้นไม่ได้โด่งดัง แต่เป็นเพราะระดับของฉันยังคงต่ําเกินไป ไม่สามารถเทียบกับพี่เฉินได้เลย!
น่าสงสาร
งานนิทรรศการเครื่องประดับของ LVMH ก็สิ้นสุดลงและชื่อของเจียงเฉินนั้นก็ดังในกลุ่มแวดวงของคนรวยรุ่นที่สองในเมืองหลวงอย่างสมบูรณ์!
และเจียงเฉินยังได้รับลูกน้องที่เป็นคนรวยที่สองมาอีกหลายคน!
วันต่อมา
เจียงเฉินก็พาหลินซีหลานมาช้อปปิ้ง ในห้างสรรพสินค้าและพบกับคู่รักที่เดินไปมา
ทั้งคู่นั้นเดินจับมือกันและดูแล้วมีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาก
“แสดงความรัก?”
หลินซีหลานขมวดคิ้วเล็กน้อยเธอกอดแขนของเจียงเฉินก็จะยืนเขย่ง
ฮืม! ฉันไม่ยอมแพ้หรอก!
หลินซีหลานมองไปที่ทั้งคู่อย่างภาคภูมิใจ (???)
แต่คิดไม่ถึงเลยว่า…
จู่ๆ หญิงสาวก็พูดกับชายหนุ่มอย่างเย็นชาว่า “เรา… เลิกกันเถอะ!”
ชายหนุ่มยืนดูด้วยความอึ้ง!
หน้าซีด!
เศร้า!
“เลิก?”
“เลิก?”
“เธออยากเลิกกับฉันหรอ?”
ชยหนุ่มพูดซ้ําๆออกมาถึงสามครั้งราวกับเขานั้นไม่อยากเชื่อ
“ใช่แล้ว!”
หญิงสาวพูดออกมาอย่างเย็นชาและจองหองว่า “เราเลิกกันเถอะ! ฉันไม่ชอบนายแล้ว ฉัน อยากเลิก! รายได้ของนายไม่ได้สูง นายไม่มีเงินเก็บ ไม่มีรถ ไม่มีบ้าน ฉันต้องการเลิก!!!”
คนรอบๆพากันหยุดลงทันที
พวกเขาพากันเข้ามามุงดู
การเลิกตามปกติของละครนั้นก็จะมีฉากที่ฝ่ายถูกบอกเลิกนั้นคุกเข่าและขอร้อง
เจียงเฉินและหลินซีหลานและคนรอบๆพากัน คิดในใจว่าชายหนุ่มนั้นน่าจะขอร้องและคืนดีกับหญิงสสาว
แต่ใครจะรู้!
วินาทีถัดมา…
“ฮ่าฮ่าฮ่า – เลิกกันจริงๆหรอ?” ชายหนุ่มดูดีใจมาก เขานั้นปล่อยมือของหญิงสาวและวิ่งออกไปทันที!
ในขณะที่วิ่งอย่างบ้าคลั่งนั้นเขานั้นก็หันกลับมา และตะโกนออกมาว่า
“ฮ่าฮ่าฮ่า! อย่ากลับคําล่ะ! เพราะฉันตัดสินใจ แล้วฉันไม่มีวันกลับคํา!”
หญิงสาว “???”
เจียงเฉินและหลินซีหลาน “???”
คนที่ผ่านมา “???”
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ใบหน้าของคนหลายร้อยคนเต็มไปด้วยความอึ้ง
พวกเขาเห็นใบหน้าของชายหนุ่มที่ทําหน้าดีใจราวกับถูกรางวัลนับร้อยล้าน เขาวิ่งไปสุดทางและหัวเราะขึ้นบนฟ้าอย่างบ้าคลั่ง
“ฮ่าๆ ! ฉันเป็นอิสระแล้ว! ในที่สุดก็เป็นอิสระแล้ว!”
วิ่งไปราวกับสายลม
ผู้คนที่ดูอยู่ก็พากันหัวเราะออกมา
“เชี่ย!”
“สุดยอด!”
“แก…แม่งเอ๊ย!” หญิงสาวคนนั้นมองไปที่ชายหนุ่มด้วยความโกรธ
เธอนั้นแทบจะระเบิดความโกรธออกมา!!
หลินซีหลานนั้นก็มองดูด้วยความตกตะลึง!
ตอนแรกคิดว่าพวกเขาจะแสดงความรักกันฉันก็เลยตอบโต้ไป
แต่พวกเขากลับเลิกกัน?!
ไม่ดีเลย!
หลินซีหลานแอบตัดสินใจอย่างลับๆว่า เธอนั้นจะไม่มีวันบอกเลิกกับเจียงเฉินอย่างเด็ดขาด!
หลินซีหลานกอดแขนของเจียงเฉินแน่นและ ต็มไปด้วยความอยากครอบครอง
ฮึม ยังไงก็ตาม ฉันจะต้องไม่มีวันบอกเลิกกับเขา!
มีแต่คนโง่เท่านี้ที่พูดออกมา!
“ที่รัก เราไปช้อปปิ้งกันเถอะ!”
หลินซีหลานดึงเจียงเฉินไปเดินช้อปปิ้งต่อ
“ตกลง”
เจียงเฉินพยักหน้า เขานั้นรู้ว่าหลอนซีหลานนั้นกําลังคิดอะไรอยู่
จู่ๆในเวลานี้เองก็มีสายโทรเข้ามาผู้โทร – เสี่ยวเหอ!
เป็นคนรวยรุ่นที่สองมราเจียงเฉินรับเป็นน้องชายเมื่องานนี้
“ฮัลโหล?”
เสี่ยวเหอพูดออกมาอย่างเร่งรีบ “พี่เฉิน ช่วยผมด้วย”
เจียงเฉินเหงื่อตกอยู่พักหนึ่ง ทําไมถึงต้องมีแต่คนมาขอความช่วยเหลือตอนฉันกําลัง ช้อปปิ้งด้วยนะ?