เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ - ตอนที่ 323 : ฉันไม่อยากเคลื่อนไหวแต่ทําไมต้องบังคับกันขนาดนี้ด้วย?
- Home
- เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ
- ตอนที่ 323 : ฉันไม่อยากเคลื่อนไหวแต่ทําไมต้องบังคับกันขนาดนี้ด้วย?
ตอนที่ 323 : ฉันไม่อยากเคลื่อนไหวแต่ทําไมต้องบังคับกันขนาดนี้ด้วย?
หานซูหยานมุ่ยหน้า ( A ) พร้อมกับจับมือของเจียงเฉินอย่างเหนียวแน่นและกระทืบ เท้าก่อนจะพูดออกมาว่า “ฉันไม่สน! คุณคือคนที่จะมาช่วยฉัน! ฉันจะจับมือกับคุณ ”
พรูด
คนในห้องประชุมพากันล้มกันทั้งห้อง
เซี่ยจือถงก็ตกตะลึง!
เธอไม่เข้าใจเรื่องนี้แม้แต่น้อย!
เจียงเฉินตะโกนออกมา “เธอไม่กลัวว่าฉันจะวิ่งหนีเพราะเธอทําแบบนี้หรอ?!”
“คุณไม่วิ่งหนีไปหรอก!”
อย่างไรก็ตามตอนนี้หานซูหยานนั้นเหมือนกับลูกลิงที่เกาะติดเจียงเฉินแน่นเธอนั้นไม่ได้มีความเย่อหยิ่งและเยือกเย็นเหมือนกับดาราแถวหน้าเลย เธอนั้นเหมือนกับหญิงสาวที่กําลังมีความรักมากกว่า
ทุกคน “…”
อธิบายไม่ถูกไม่เข้าใจแม้แต่น้อย!
ผู้จัดการของหานซูหยานเริ่มกังวล เขานั้นต้องการแยกทั้งสองออกมาเธอเลยตะโกนออกมาว่า “หานซูหยาน! เธอต้องใส่ใจกับฐานะตัวเองบ้างนะ! เธอลดตัวไปอยู่กับคนทําธุระแบบนี้ได้ยังไง”
“ฮ่าๆๆๆ”
เซี่ยจือถงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาและชี้ไปที่เจียงเฉินและหานซูหยาน “พวกเธอสองคนชัง เข้ากันดีจริงๆ คนหนึ่งเป็นอดีตนางเอกคนหนึ่งก็มาจากคนชั้นล่างสุดของสังคม! เป็นลาง่อยกับเกวียนที่พัง! เป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบจริงๆ!”
แม้จะได้ยินการเยาะเย้ยจากเซี่ยจื่อถงแต่หานซูหยานนั้นก็ไม่ได้หวั่นไหวเธอยังคงเกาะเจียงเฉินแน่นไม่ว่าเจียงเฉินจะพยายามยังไงก็แกะเธอไปออก…
ในขณะที่เจียงเฉินกําลังพยายามแกะหานซูหยานออกเธอก็ยิ้มและพูดออกมาว่า “ลาง่อยกับเกวียนที่พัง? แต่มันก็ดีกว่ารองเท้าหักๆแบบเธอก็แล้วกัน!”
“เธอพูดอะไรของเธอ?”
เซี่ยจื่อถงโกรธมากจนใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีม่วง!
เธอบอกว่าฉันเป็นรองเท้าหัก? เพราะฉันผ่านมือคนมาหลายพันคน?
ในตอนนี้เองเธอนั้นกําลังจะระเบิดเสียงออกมาแต่เสียงประตูก็ดังขึ้นมาก่อน
“คุณว่าใครเป็นรองเท้าหัก?”
มีคนเดินเข้ามาพร้อมกับพูดเสียงดัง
ประธานเกาเซียงจาก Tencent Picture!
ข้างๆเขาก็มีคนใหญ่คนโตที่ตามมาจาก Tencent Picture
เกาเซียงที่ไม่รู้จักเจียงก็มองไปที่เจียงเฉินด้วยความเย็นชาสายตาของเขานั้นราวกับเหยี่ยวที่กําลังจับต้องหนูที่กําลังจะมาเป็นเหยื่อของเขา
เซี่ยจือถงมองไปที่เกาเซียงและก็พ่นลมหายใจออกมา
เธอนั้นแกล้งทําตัวน่าสงสารและวิ่งเข้าไปหาเกาเซียงทันทีและพูดออกมาด้วยน้ําเสียงน่าสงสารว่า “ประธานเกา คุณมาแล้ว คุณก็คงได้ยินแล้วหานซูหยานคนนี้น่าเกลียดจริงๆ! เธอทําให้ฉัน ต้องอับอายกลางที่สาธารธ! เรียกฉันว่าเป็นรองเท้าหัก!”
มุมปากคนสนิทของเกาเซียงกระตุกพวกเขาพยายามกลั้นหัวเราะอย่างหนัก
อดไม่ได้จริงๆ!
เพราะ
พวกเขาต่างก็เป็นคนสนิทของเกาเซียง
และพวกเขาก็รู้จักเซี่ยจือถงดี!
และพวกเขานั้นต่างก็เห็นด้วยกับหานซูหยาน!
แต่อย่างไรก็ตามในเมื่อชายผู้ยิ่งใหญ่ของ Tencent Picture นั้นชื่นชอบเซี่ยจือถงต่อให้มีเรื่องรองเท้าหักเจ้านายของพวกเขาก็ดูเหมือนว่าจะไม่สน
เกาเซียงจ้องมอง
คนสนิทของเขาไม่กล้าหัวเราะอีกต่อไป พวกเขาเปลี่ยนสีหน้าของตัวเองให้ดูดุดันและโกรธ
“ใคร? กล้างั้นหรอ!”
“กล้าอวดดีกับคนของเรางั้นหรอ?!”
“กล้าทําให้ชื่อเสียงของคนของเราเสื่อมเสียงั้นหรอ?!”
“กล้าดียังไงถึงทําให้ความบริสุทธิ์ของเราต้องปนเปื้อน?!”
ใบหน้าของเกาเซียงมืดมน เขาเอามือของตัวเองไปอยู่ข้างหลังและแทนที่เขาจะเดินไปหาเจียงเฉินเขากลับเดินไปหาผู้กํากับแทน
“รื่อถงรายงานเรื่องนี้มาให้ผมผ่านวีแชท เธอบอกว่าตัวเธอถูกลดบทปล่อยให้เธอนั้นไม่มีบทหลายตอนเรื่องนี้จริงไหม?”
ผู้กํากับตกใจมากจนแขนขาอ่อนแรงและล้มลงไปอยู่กับพื้น
สายตาที่เฉียบแหลมจ้องมองมาที่เขา
“มันเป็นการตัดสินใจเพื่อเรตติ้งน่ะครับ
เกาเซียงหรี่ตาลง
“ดูแล้วนายคงไม่อยากทําหน้าที่นี้แล้วสินะ!”
ผู้กํากับทรุดหนักกว่าเดิม
นอกจากนี้เซี่ยจือถงก็เกาะแขนของเกาเซียงด้วยใบหน้าที่เย่อหยิ่ง!
อย่าอายที่จะแสดงให้เห็นถึงเบื้องหลังของตัวเอง!
ยิ่งกว่านั้นกับหานซูหยานที่กําลังเกาะแขนของเจียงเฉินมันทําให้เธอรู้สึกเหนือกว่าอย่างมาก!
เธอหันไปเยาะเย้ยหานซูหยาน “หึหึ เธอจะเอาอะไรของเขามาเปรียบเทียบกับผู้สนับสนุนของฉัน!”
หานซหยานก็ไม่ได้แสดงความอ่อนแอ “ฮ่ม! มีแต่พี่เจียงเฉินเท่านั้นที่แงแกร่งที่สุด!”
เกาเซียงหันไปมองที่เจียงเฉินและพบว่าเจียงเฉินนั้นกําลังใส่ชุดเครื่องแบบคนทําธุระตัวเล็กๆเท่านั้น เขาเยาะเย้ยและไม่ใสใจ
โลกยังมีคนแบบนี้ด้วยหรอ?
คนทําธุระกล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับวงการบันเทิง?
กล้าดียังไงมารังแกผู้หญิงของฉัน
เบื่อชีวิตแล้วสินะ!
เกาเซียงกําลังจะพูดดูถูกเจียงเฉินออกมาแต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดออกมาะ
ผู้กํากับนั้นยังพยายามหาทางรอดของตัวเองอยู่เขานั้นกราฟวิเคราะห์ออกมา
“ประธานเกา เดินปวดท้องคําอธิบายของผมก่อน ที่ผมตัดสินใจลดบทของเซียจื้อถงแล้วเพิ่มบทของหานซูหยาน มันไม่ใช่การตัดสินใจแบบไร้เหตุผล ลองดูจากข้อมูลตรงนี้สิครับ”
บนกราฟนั้นแสดงภาพของผู้หญิงสองคนซึ่งนั่นก็คือหานซูหยานและเซี่ยจือถง พร้อมกับข้อมูลจํานวนฉาก จํานวนบทและเรตติ้งของทั้งสอง
“ลองดูสิครับ ทุกครั้งที่เซียจอหงมีฉากและบทมากและหานซูหยานมีฉากน้อยลง เรตติ้งก็จะลดลงตาม
“แต่ในทางกลับกันถ้าหานซูหยานมีฉากเยอะและเซี่ยจือถงไม่ได้มีบทมาก เรตติ้งกลับสูงขึ้น และได้รับความนิยมมาก มันได้รับความนิยมจนถึงขั้นเกิดกระแสไปทั่วทั้งประเทศ!”
เจียงเฉิน “…”
หานซูหยาน “…”
ทุกคน …
ใบหน้าของเซี่ยจือถงเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับตูดลิง
มันเป็นการตบหน้าอย่างแรง!
แน่นอนว่าเซี่ยจื่อถงนั้นรู้ดีว่าเมื่อเทียบเธอกับหานซูหยานแล้วทั้งทักษะการแสดง รูปลักษณ์ ความนิยมเธอนั้นไม่มีอะไรเทียบกับหานซูหยานได้เลย!
แต่บทหนังนี้มันเกี่ยวกับค่าโฆษณา ค่าการแสดงและค่าธรรมเนียมในการปรากฏตัวของเธอ!
เธอจะยอมแพ้ได้ยังไง?
เซี่ยจือถงโกรธมาก “เอาล่ะคุณผู้กํากับ! คุณกล้าพูดจาไร้สาระแบบนี้ได้ยังไง! ข้อมูลพวกนี้มันไม่ถูกต้อง! เมื่อฉันปรากฏตัวไม่ว่ายังไงเรตติ้งก็ต้องพุ่ง! ฉันเป็นซุปเปอร์สตาร์! แฟนคลับของฉันก็มีตั้งมากมาย!”
เธอกระทืบเท้าและพูดออกมา “ประธานเกา ดูพวกเขาสิ!”
เมื่อเกาเซียงได้ยินแบบนั้นเขาก็รู้สึกโกรธเหมือนกัน
แต่ในเวลานี้เอง
บังเอิญมาก!
โทรศัพท์มือถือของเจียงเฉินดังขึ้น
เมื่อเจียงเฉินเอาขึ้นมาดู
“พี่หม่า”
เป็นพี่ใหญ่จากบริษัท Tencent Group (Tencent Picture เป็นบริษัทลูกที่อยู่ภายใต้ Tencent Gtoup) โทรมาพอดี!
เจียงเฉินตั้งใจว่าเขาจะไม่รับสายของพี่หม่าในตอนนี้
แต่เกาเซียงที่อยู่ข้างๆกลับหันมาเห็นพอดีษะ
สายตาของเขาจ้องมองไปที่ชื่อของผู้ที่โทรเข้ามาหาเจียงเฉิน “พี่หม่า”
และเซี่ยจื่อถงเองก็สังเกตุเห็นเหมือนกัน
เกาเซียงและเซี่ยจื่อหงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมๆกัน
“พี่หม่า?”
เซี่ยจือถงหัวเราะออกมาเสียงดัง “นายทําให้ฉันตกตะลึงจริงๆ! ทําไมนายไม่บอกล่ะว่าพี่หม่าเป็นเพื่อนของนาย?”
“นายมันก็แค่พวกขี้ขลาดแกล้งทําเป็นอวดดี!”
“ท่าเป็นบังเอิญว่าพี่หม่าโทรมาหา? จะขู่พวกเรางั้นหรอ?”
เซี่ยจื่อถึงเยาะเย้ยออกมา “รับสิ รับเลย! ฉันอยากจะรู้จริงๆว่าเป็นบอสหม่าตัวจริงไหมว่าแค่แซ่เหมือนกัน?”
เจียงเฉินพูดอย่างบริสุทธิ์ใจ “ผมยังไม่อยากรับ ไม่อย่างนั้นพวกคุณที่นี่ต้องตายกันหมดแน่”
เกาเซียง เซี่ยจือถงและผู้กํากับพากันหัวเราะออกมา
“ไม่คิดจะโอ้อวดว่าตัวเองรู้จักบอสหม่าต่อหน้าประธานเกาเซียงงั้นหรอ? นายคิดว่าพวกเรา เป็นคนโง่หรือยังไง?”
เซี่ยจื่อถงพูดออกมา “รับมันสิ! รับมันให้ทุกคนได้ดู!”
เกาเซียงก็พูดออกมาอย่างเย็นชา “รับสิ แล้วแกจะได้รอรับผลที่จะตามมา!”
เจียงเฉินถอนหายใจ
“ฉันไม่อยากเคลื่อนไหวแต่ทําไมต้องบังคับกันขนาดนี้ด้วย?”
ในสายตาของหานซูหยานปรากฏความกังวลขึ้นมาเล็กน้อย
แม้เธอจะรู้ว่าเจียงเฉินนั้นทรงพลังมาก แต่เธอก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าเจียงเฉินนั้นจะรู้จักกับบอสหม่า!
บอสหม่านั้นเป็นคนที่อยู่อันดับต้นๆของประเทศจีน!
เจียงเฉินกดรับโทรศัพท์ด้วยใบหน้าที่ทําอะไรไม่ถูกและกดเปิดล่าโพง!
“สวัสดี?”
เสียงที่ฟังดูอ่อนน้อมของบอสหม่าก็ดังออกมา “คุณเจียง คุณกําลังทําอะไรอยู่หรอ พอมีเวลาออกมาทานข้าวด้วยกันหน่อยไหม?”
ก่อนที่เจียงเฉินจะได้พูดอะไรเซี่ยจื่อถงที่อยู่ข้างๆก็หัวเราะออกมาก่อน
“ไม่เลวนี่! ไปหานักแสดงมาจากไหนล่ะ เสียงเหมือนบอสหม่าตัวจริงมากเลยทีเดียว!”
เซี่ยจือถงไม่เชื่อว่าเจียงเฉินที่เป็นคนทําธุระจะรู้จักกันบอสหม่าจริงๆ!
เธอนั้นได้ปักใจเชื่อไปแล้วว่าเจียงเฉินนั้นเพียงแค่แกล้งทําเท่านั้น เพื่อทําให้ตัวเองนั้นสามารถช่วยเหลือหานซูหยานได้
“แล้วก็!”
“เสียงที่อ่อนน้อมถ่อมตนแบบนี้จะเป็นเสียงของบอสหม่าได้ยังไง?”
เธอนั้นทําเพียงแค่โวยวายและยั่วยุโดยที่ไม่สนข้อเท็จจริงอะไรทั้งนั้น “นี่! เจ้าคนโกหกที่อยู่สายน่ะ! เลิกแกลังเป็นบอสม่าได้แล้ว! เสียงของนายมันอ่อนน้อมถ่อมตนเกินไปที่จะเป็นคนอย่างบอสหม่า! เขาเป็นถึงคนใหญ่คนโตจะอ่อนน้อมแบบนี้ได้ยังไงกัน? หึหึ หรือบางที่นายจะเป็นหม่า น้อยรึเปล่า?”
บอสหม่าที่อยู่ปลายสาย “???”
ปกติแล้วคนที่รู้จักเขานั้นจะทราบกันดีว่าลักษณะนิสัยของบอสหม่านั้นอ่อนน้อมถ่อมตนมาก
ว่ากันว่าหลังจากที่เขานั้นได้ก่อตั้งบริษัท Tencent Group คราวนั้นก็ไม่เคยพูดคําหยาบออกมาแม้แต่คําเดียวเลย!
และคําพูดที่ร้ายแรงที่สุดที่เขาพูดกับลูกน้องของเขานั่นก็คือ “คุณต้องการแบบนี้ใช่ไหม”
ดังนั้นเมื่เซี่ยจื่อถงพูดออกมาแบบนี้มันทําให้บอสหม่าถึงกับตกตะลึงจนพูดไม่ออกไปสักพัก
บอสหม่าตกตะลึง “??? ผมอ่อนน้อมถ่อมตน?”
เลขาของบอสม่าที่อยู่ข้างๆก็อึ้ง
พระเจ้าเธอเป็นใครกัน?
กล้าด่าบอสหม่าตรงๆแบบนี้เลยหรอ?
เจียงเฉินแทบจะหลุดหัวเราะออกมา!
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนกล้าเรียกบอสหม่าว่า “หมาน้อย”!
เมื่อเห็นว่าปลายสายไม่ได้พูดอะไรต่อเซี่ยจื่อถงก็ยิ่งมั่นใจขึ้นไปอีกว่าอีกฝ่ายกําลังโกหก “ฮ่าๆ ทําไมนายไม่พูดออกมาล่ะ? หรือฉันพูดอะไรผิดไป? ฉันจะบอกนายให้ก็ได้นะฉันรู้จักบอสหม่าเป็นการส่วนตัว และฉันก็รู้จักเขาเป็นอย่างดีด้วย และฉันไม่เพียงแต่จะรู้จักเขาเป็นอย่างดีแต่ ฉันยังเป็นเพื่อนสนิทของเขาด้วย! นายที่แกล้งเป็นบอสหม่าเพื่อโกหกฉัน คิดเหรอว่าฉันจะถูกนายหลอก!”
เจียงเฉินแทบระเบิดหัวเราะออกมา “…”
พูดไม่ออก!
แกเป็นเพื่อนสนิทของบอสหม่าผ่านทางโทรศัพท์กับบอสหม่าตัวจริง?
ฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว!
ในเวลานี้เองเกาเซียงก็เริ่มขมวดคิ้ว
ในฐานะของประธานบริษัท Tencent Picture ที่เป็นหนึ่งในบริษัทลูกของ Tencent แน่นอนว่าเขานั้นต้องเคยติดต่อกับบอสหม่ามาก่อนและย่อมต้องเคยได้ยินเสียงของบอสหม่าด้วย!
และเสียงตอนนี้ที่เขากําลังฟังอยู่นั้นNN
มันเหมือน?
คงเป็นไปไม่ได้หรอกใช่ไหม?
เกาเซียงเริ่มรู้สึกกลัวจนเหนื่อยเย็นของเขาไหลออกมาเต็มตัว!
พระเจ้า!
เขาเป็นแค่คนทําธุระนะ!
แต่ทําไมเสียงที่กําลังยืนอยู่มันเหมือนกับเสียงของเจ้านายจริงๆ?
เกาเซียงพูดไม่ออก
แม้ว่าบอสหม่าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจียงเฉิน แต่การที่อยู่ๆมีผู้หญิงจากที่ไหนไม่รู้ มาทําตัวเย่อหยิ่งใส่แล้วบอกว่าเธอนั้นเป็นเพื่อนสนิทของของเขามันก็มากพอที่จะทําให้บอสหม่าเหลืออด!
ฉันไปเป็นเพื่อนสนิทของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่?
นี้ไม่ได้ใส่ร้ายกันหรอ?
บอสหม่าพูดผ่านโทรศัพท์อย่างเย็นชาว่า “เธอเป็นใคร ทําไมฉันจะจําเสียงเพื่อนสนิทของตัว เองไม่ได้”
“ห้ะ?”
เมื่อเซี่ยจือถงได้ยินแบบนั้นใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความอับอาย
นิ่งค้างไปทันที!
ทําไมอยู่ๆเขาถึงได้มีความมั่นใจขนาดนี้?
เธอเยาะเย้ยออกมา “นายน่ะเหรอ? นายเป็นใคร ฉันกําลังพูดถึงบอสหม่าไม่ใช่นาย! หรือว่านายเล่นละครมากจนเกินไปจนเชื่อว่าตัวเองเป็นบอสหม่าจริงๆ? ฮ่าๆๆ!”
“รู้หรือเปล่าว่าคนที่คุณกําลังโทรคุยด้วยเป็นแค่คนทําธุระที่เป็นชนชั้นต่ําที่สุดของสังคม!”
“อะไรนะ ชนชั้นต่ําสุดของสังคม?”
บอสหม่าตกตะลึงจนพูดไม่ออก
“เธอบอกว่าฉันกําลังพูดอยู่กับคนชั้นต่ําสุดของสังคม?”
เลขาของบอสหม่าที่อยู่ข้างๆก็เริ่มกังวล
ให้ตายเถอะ กล้าดียังไงมาพูดกับเจ้านายของฉันแบบนี้?
“ฉัน ฉัน ฉันเป็นแค่คนธรรมดาจริงๆ
”
บอสหม่าพูดออกมาช้าๆ
“ฮ่าๆ แค่แกล้งทําจริงๆด้วย!”
เซี่ยจือถงพูดออกมา “เป็นยังไง? ยังคิดว่าตัวเองเป็นบอสหม่าอยู่อีกไหม?”
“เล็กแสดงได้แล้วสินะ!”
เซี่ยจื่อถงเยาะเย้ย
บอสหม่า “..
“รู้อะไรมั้ยคนที่แข็งแกร่งจริงๆน่ะคือประธานเกาเซียงที่อยู่ข้างฉันต่างหาก!”
เซี่ยจือถงละความสนใจจากโทรศัพท์และหันมาพูดกับเจียงเฉินอย่างเย่อหยิ่ง “นายรู้ไหมว่าเขาเป็นใคร? เขาคือประธานของ Tencent Picture! นายรู้ไหมว่าเขามีรายได้ต่อปีเท่าไหร่? ถ้าพูดออกไปแล้วนายคงได้ตกใจตาย เพราะมันมากกว่าหนึ่งพันล้าน! รู้ไหมว่าเขามีอํานาจมากแค่ไหน? ตั้งแต่ที่ฉันเดบิวเข้าวงการมาฉันก็ได้เล่นเป็นนางเอกมาโดยตลอด และทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นก็เพราะเขาเพียงคนเดียว!”
“ฮ่าๆ ดูสิว่านายจะโอ้อวดต่อหน้าประธานเกาของฉันยังไง”
เจียงเฉิน “…”
บอสหม่า “..
เลขาของบอสหม่าในตอนนี้มีสีหน้าที่ดํามืดมาก
เกาเซียง?
เข้าใจแล้ว!
เป็นเจ้าบ้าตัวนี้นี่เอง!
เลขารีบทําการส่งข้อความผ่านวีแชทไปหาเกาเซียงอย่างรวดเร็ว
“นายเป็นอะไรของนาย? เจ้านายกําลังคุยสายกับนายอยู่นะ! แต่ผู้หญิงคนนั้นกับด่าว่าเจ้านายแบบนี้? นายอยากทําให้เจ้านายขายหน้าหรือยังไง?”
เกาเซียงที่กําลังจะพูดอะไรออกมาก็สัมผัสได้ถึงแรงสั่นของโทรศัพท์
เมื่อเขาหยิบโทรศัพท์ออกมาดูเขาก็ต้องตกตะลึง!
พระเจ้า!
เหงื่อเย็นไหลออกมาพร้อมกับน้ําตา!
เซี่ยจือถงเองก็กําลังคุยโม้โอ้อวดว่าเกาเซียงนั้นเป็นยังไง –
เจียงเฉินมองไปที่โทรศัพท์และพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจว่า “พี่หม่า พี่ได้ยินหรือเปล่า? ผมว่า Tencent Picture ของเราเลือกนางเอกได้เหมาะสมเลยนะ”
“จากการวิเคราะห์จากข้อมูลเห็นได้ชัดว่าหานซูหยานนั้นมีเรตติ้งที่สูงกว่า ผู้กํากับก็เลยให้บทกับเธอเพิ่ม แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเซี่ยจือถงคนนี้จะหาคนมาสนับสนุนเธอได้ แล้วก็นะจริงๆแล้ว เซี่ยจื่อองคนนี้หน้าตาน่าเกลียดมาก โดยเฉพาะตาสองชั้นของเธอ ไม่รู้ว่าโดนมีดผ่ามาแล้วกี่ครั้ง ท่าทางก็แข็งยังกับซอมบี้ แต่มองไปมองมาสิ่งที่ดูน่าเกลียดที่สุดก็คงเป็นจมูกพังๆของเธอ!”
“ไอ้บ้า!”
เซี่ยจื่อถงชี้นิ้วไปที่เจียงเฉินและพูดออกมาด้วยความโกรธ “ฉันเป็นนางเอกที่สมบูรณ์แบบ!
แต่ใครจะคิด
ใบหน้าของเกาเซียงนั้นเปลี่ยนไปทันที
“อา จู่ๆก็รู้สึกว่าน้องชายคนนี้พูดถูก!”
เซี่ยจื่อถง “???”
หานซูหยาน “???”
ผู้กํากับ “???”
ทําไมถึงเลี้ยวกระทันหันแบบนี้? เอวของฉันมันหันตามไม่ทันนะ!
เกาเซียงจ้องมองไปที่เซี่ยจือถงเป็นเวลานานก่อนที่จะตบมือ “ใช่แล้ว! ถ้าไม่ใช่เพราะต้องชายคนนี้เตือนฉันก่อน ฉันคงไม่ได้สังเกตเลยว่าทําไมจมูกของเธอมันห่วยแตกแบบนี้! มันเหมือนกับหมูไม่มีผิด!”
เซี่ยจือถงที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกโกรธและก็วิตกกังวล “คุณเกา คุณพูดแบบนั้นได้ยังไง! ก่อนหน้านี้คุณก็พูดมาตั้งหลายครั้งแล้วไม่ใช่เหรอว่าจมูกของฉันสวยและมีเสน่ห์ที่สุด ”
เกาเซียงรีบส่ายหน้าของตัวเอง “เปล่า เปล่า อย่าพูดเหลวไหล! จมูกของเธอมันห่วยๆแต่ขนาดนี้ เธอมีคุณสมบัติเป็นนางเอกด้วยซ้ํา!”
เซี่ยจื่อถงอึ้ง “…”
หานซูหยาน “…”
ผู้จัดการส่วนตัว “
ผู้กํากับ “…”
ไม่อยากจะเชื่อ!
ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว!
คาดไม่ถึงเลย!
เกาเซียงพูดด้วยน้ําเสียงจริงจังกับผู้กํากับ “รีบแก้ไขเรื่องเดี๋ยวนี้เปลี่ยนให้หานซูหยานมาเป็นนางเอก! เซี่ยจือถงมีใบหน้าที่น่าเกลียดเกินไปเขียนบทให้เธอตายในฉากถัดไปไม่ว่าจะด้วยกัน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์หรืออะไรก็ได้ให้เธอไม่ต้องออกมาอีก!”
เซี่ยจือถงตกตะลึงจนล้มไปนอนกับพื้น!
โกรธจัด!
อยู่ๆก็ตาย?
“คุณเกา คุณทําแบบนี้ได้ยังไง?”
เซี่ยจือถงไม่เข้าใจว่าทําไมความคิดเห็นของเกาเซียงนั้นเปลี่ยนไปขนาดนี้จากที่สนับสนุนเธอก็กลายเป็นเหยียบเธอให้จมดิน?
“ฉันเล่นเป็นนางเอกไปแล้วนะ ฉันจะไปถูกรถชนตายได้ยังไง ฉันไม่เข้าใจ แล้วผู้ชมเขาจะยอมรับได้ยังไง?”
เซี่ยจือถงพยายามหาข้ออ้างและแก้ตัว
แต่ใครจะรู้
เกาเซียงพูดออกมาอย่างโหดเหี้ยม “ตายเพราะเกิดอุบัติเหตุ? มันคงจะน้อยเกินไปสินะ? ดี! งานเปลี่ยน! เปลี่ยนให้เธอเป็นโรคมะเร็งแล้วตาย! ยังน้อยเกินไปงั้นหรอ? ฉันเคยดูซีรีย์ของเกาหลืมาหลายเรื่อง นางเอกจะตายด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว! ดังนั้นการตายแบบนี้คงไปทําให้ผู้ชม เสียอารมณ์เท่าไหร่หรอก!”
“พรูด!!”
เซี่ยจือถงล้มลงไปบนพื้นอีกครั้งพร้อมกับน้ําลายฟูมปากของเธอ แขนขาของเธอกระตุก