เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ - 142 : เจียงเฉินเป็นขาใหญ่ของขาใหญ่งั้นหรอ?!
เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อตอนที่ 142 : เจียงเฉินเป็นขาใหญ่ของขาใหญ่งั้นหรอ?!
คนทั้งคู่ต่างตกตะลึงพวกเขารีบวิ่งเข้าไปล้อมฉินถั่วต่งทัน
“ทําไมคุณถึงได้มาที่นี่กันล่ะครับ?”
พวกเขาถามออกมา
“โอ้ แค่ผ่านมาพอดีน่ะ”
ฉินถั่วต่งเองก็รู้จักพวกเขาเขาพยักหน้าตอบกลับไป “ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงหรอกนะเสี่ยวจาง”
ฉินกั่วทุ่งมักจะเรียกทั้งคู่ว่าเสี่ยวจางและเสี่ยวหลิวตลอดเพราะเขาถือว่าทั้งสองนั้นเป็นรุ่นน้องของเขา
“ไหนๆก็มาแล้วช่วยให้เกียรติพวกเราโดยการอยู่ร่วมงานหน่อยไม่ได้หรอครับ?”
หลิวหยุนเถากระตือรือร้นอย่างมากเขาพยายามที่จะรั้งอีกฝ่ายอยู่ที่งานให้ได้ “ถ้าเกิดอยู่ร่วมงานเลี้ยงของจีหยสนกรุ๊ปเราได้คงจะยอดเยี่ยมามากเลยนะครับ!”
เหตุผลที่เขากระตือรือร้นขนาดนี้ก็เพราะก่อนหน้านี้เขาได้พบฉินถั่วต่งในงานประชุมระดับประเทศและสถานนะของเขานั้นอยู่สูงมากเรียกได้ว่าติดหนึ่งในสามของงานป ระชุมนั้น!
เรียกได้ว่าเขานั้นเป็นคนที่อยู่แนวหน้าเลยทีเดียว!
:
และในครั้งนั้นหลิวหยุนเทาเองก็ได้เข้าไปกับปูของเขา
ต่อหน้าของฉันถั่วต่งปของเขายังเป็นเพียงแค่รุ่นน้องที่ยังต้องเคารพนบนอบ!
ไม่ต้องพูดถึงตัวของหลิวหยุนเทาเลย ปูของเขายังเป็นแค่รุ่นน้องแล้วเขาล่ะจะต้องไปอยู่รุ่นไหน!
แต่ในครั้งนั้นเขาเองก็ได้รับรู้ถึงพลังอํานาจระดับปีศาจของฉินกัวต๋ง!
ในเมื่อเขามีโอกาศได้พบแล้วจะไม่เข้าไปประจบซักหน่อยได้ยังไงล่ะ?
“ท่านประธานฉิน! ปูฉิน!”
หลิวหยุนเทามองดูเขาด้วยความประจบประแจง “ถึงจะไม่ไว้หน้าปูของผมแต่ขอแค่ดื่มเหล้าสักแก้วแล้วค่อยไปก็ได้ครับถือว่าผมขอนะครับอย่าปฏิเสธเลย!ผมไม่รบกวนเว ลานานหรอกครับ”
หลิวหยุนเทารู้สถานะของฉันกั่วทุ่งดี ตราบใดที่อีกฝ่ายยอมดื่มเหล้าในงานเลี้ยงของจีหยวนกรุ๊ปเข้าไปโดยมีเขาอยู่ข้างๆสถานะของเขาในบริษัทก็จะทะยานขึ้นไปทันที!
แม้เขาจะเป็นเพียงแค่รองประธานแต่สิทธิ์ในการพูดของขาในอนาคตก้จะเทียบเท่ากับประธานจางได้อย่างไม่ยากเลยแม้แต่น้อย!”
เพียงแค่นี้ก็เห็นได้แล้วว่าสถานะของฉันถั่วต่งนั้นสูงแค่ไหน
แต่โชคไม่ดี
แม้ว่าเขาจะยกชื่อของปูตัวเองมา แต่ฉันกั่วต่งไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย
ฉินถั่วต่งพูดอย่างเย็นชา “วันนี้ฉันรีบจริงๆ วันนี้ฉันมาประชุมเรื่องความมั่นคงระหว่างประเทศนะและดูเหมือนฉันจะต้องไปแล้วด้วย”
ใบหน้าของเขาเย็นชา ทันทีที่พูดจบเขาก็หันกลับไปทันที
หลิวหยุนเทาที่เห็นแบบนั้นก็ทําได้เพียงทําใจยอมแพ้เขาโค้งคํานับให้อีกฝ่ายเงียบๆ
ทันใดนั้นฉันกั่วต่งก็เห็นเจียงเฉิน
ตาของเขาหดแคบ
เจียงเฉินพยักหน้าแล้วยิ้มออกมา “ตาแกฉัน”
หลิวหยุนเทาที่ได้ยินก็กลัวจนแทบจะตาย!
แมงเอย!
เจียงเฉินนายอยากตายนักหรอ? นายกล้าเรียกฉินกั่วทุ่งว่าตาแก่ฉินเนี่ยนะ?
ปูของฉันยังไม่กล้าเรียกเขาแบบนั้นเลยแล้วนานกล้าดียังไง?
นายรู้จักฉันถั่วต่งรึยังไง? ถึงได้กล้าเรียกเขาแบบนั้น?!
ฉินถั่วต่งไม่ได้แสดงท่าที่โมโหออกมาใบหน้าของเขาก็มีแต่ความโล่งใจเขาเดินเข้าไปหาเจียงเฉิน
แล้วทําการเอื้อมมือออกไป!
ดวงตาของหลิวหยุนเทาแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า!
จางห้าวที่อยู่ข้างๆก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน!
หลิวโบเหวินกับโจวไห่ฉางมองอีกฝ่ายด้วยสีหร้าที่หวดกลัว…
ขนาดผู้จัดงานเขายังไม่แม้แต่จะสนใจแต่ฉันกั่วทุ่งกลับเดินไปหาเจียงเฉินแล้วยื่นมือออกไปขอจับมือด้วยตัว เองเนี่ยนะ!
มันหมายความว่ายังไง?
มันหมายความว่า
ในใจของฉันถั่วต่งนั้นเห็นเจียงเฉินมีคุณสมบัติมากพอที่จะคุยกับเขา!
พระเจ้า!
เจียงเฉินแท้จริงแล้วเป็นตัวตนแบบไหนกัน?
ฉินถั่วต่งจับมือกับเจียงเฉิน!
ทั้งสองต่างจับมือกันแน่น!
คนในงานพากันเงียบ!
ถ้าหากมีเข็มตกก็คงจะได้ยินอย่างง่ายดาย!
สิ่งนี้มันน่าตกตะลึงจริงๆ!
“เจียงเฉิน”
ฉินถั่วต่งเรียกชื่อของเขาออกมาตรงๆ แต่ในใจของหลิวหยุนเทากลับสั่นสะท้าน!
ต้องรู้ก่อนว่ายักษ์ใหญ่อย่างฉินกั่วทุ่งจะเรียกใครด้วยอตรงๆแบบนี้นั้นอีกฝ่ายเองก็จะต้องยืนอยู่จุดเดียวกับเขาไม่งั้นเขาจะเรียกอย่างมากก็แต่เสี่ยวหลิวแบบตัวเขา
หลิวหยุนเทาอนากจะร้องไห้
“เจียงเฉิน ทําไมนายถึงมาอยู่ที่แบบนี้ได้?”
ฉันถั่วต่งถามออกมาด้วยน้ําเสียงแปลกใจ
เขานั้นตั้งใจจะโทรคุยกับเจียงเฉินมานานแล้วแต่เจียงเฉินเองก็ตอบปฏิเสธมาโดยตลอด ดังนั้นเขาจึงถามออกมาด้วยความแปลกใจ
ในใจของเขาเขาคิดว่าคนที่มีสถานะแบบเจียงเฉินนั้นไม่น่าที่จะไว้หน้าบริษัทจีหยวนกรุ๊ปขนาดนี้เพราะการที่เขามาที่นี่ก็นับว่าเป็นการเชิกหน้าชูตาให้กับจีหยวนกรุ๊ปมากจริงๆ!
นี่มันแปลกมาก
ขอแค่ได้อยู่กับคนแบบนี้แค่ 1 นาทีก็นับว่าได้หน้า มากแล้ว!
จางห้าวก็ตอบออกมาแทนเจียงเฉินทันทีเขายิ้มออกมาก่อนจะพูด “ผมขอตอบเองครับท่านประทานฉินคุณเจียงเขาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสามของเราจีหยวนกรุ๊ป วัน นี้เขามาที่นี่เพื่อร่วมงานเลี้ยงฉลอง 40 ปีของบริษัทเราครับ”
เจียงเฉินยิ้มแล้วพยักหน้าออกมา
ฉินถั่วต่งตบบ่าของเจียงเฉินใบหน้าที่เคร่งขรึมของเขาเผยรอยยิ้มบางๆที่ดูอ่อนโยนออกมา “เจียงเฉิน อย่าเสียเวลากับที่แบบนี้เลยเรากลับไปแล้วหาเวลาไปดื่มแล้วคุยกันหน่อยไหม? ฉันมีเรื่องที่ต้องคุยกับนายอย่างเรื่องทิศทางการพัฒนาบริษัทรักษาความปลอดภัยเทียนเฉินในต่างประเทศ”
เมื่อทุกคนในงานได้ยินพวกเขาก็ต้องตกตะลึง
บริษัทจีหยวนกรุ๊ปที่มีมูลค่านับพันล้านก็ยังเป็นสถานที่ที่ไม่คุ้มค่าที่จะเสียเวลาด้วย!
ซีด–
ต้องเป็นยักษ์ใหญ่เท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์พูดคํานี้ออกมา
ไม่งั้นคงจะมีคนไม่น้อยออกมาหัวเราะเยาะแน่!
สําหรับฉันถั่วต่งแล้วงานเลี้ยงฉลองของจีหยวนกรุ๊ปมันคือเรื่องไร้สาระ
แล้วการที่เจียงเฉินมาเข้าร่วมก็นับว่าไว้หน้ามากแล้ว!
บรรดาผู้จัดการ ผู้บริหารรวมถึงผู้บริหารระดับสูงของจีหยวนกรุ๊ปต่างเผยรอยยิ้มที่ดูสุภาะแต่แฝงไว้ด้วยความ อึดอัดออกมา
ยิ่งพวกเขาจ้องมองเจียงเฉินเท่าไหร่พวกเขาเองก็ยิ่งตกตะลึงเท่านั้น!
เจียงเฉินยิ้มแล้วพูดออกมา “ตาแก่ฉันงั้นเราก็หาเวลาไปดื่มแล้วคุยกันหน่อยก็แล้วกัน”
“โอเค ตกลง!”
ฉินถั่วต่งหัวเราะออกมาอย่างร่าเริงก่อนจะพูดคุยกับเจียงเฉินต่อไปอีก 10 นาที!
จนท้ายที่เลขาของฉินกั่วต่งต้องมาเตือนเขาว่าถึงเวลาแล้วแม้ฉินถั่วต่งไม่อยากจะไปแต่สุดท้ายเขาก็ต้องไปอย่างไม่เต็มใจ
ระหว่างนี้เองเจียงเฉินนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากเรื่องตลกสองสามเรื่อง
ไม่มีใครรู้เลยว่าเขานั้นเป็นผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่งของบริษัทรักษาความปลอดภัยเทียนเฉิน!
ถ้าหากเรื่องนี้ถูกเผยออกไป คงจะทําให้เพื่อนร่วมงานไม่น้อยเลยต้องหวาดกลัวตัวเขา!
ในสายตาของทุกคนนั้นพวกเขาเห็นเพียงเจียงเฉินและฉินกั่วทุ่งที่พูดคุยไปหัวเราะไปเท่านั้น!
แต่มันก็ทําให้สถานะของเจียงเฉินในสายตาของพวกเขาพุ่งขึ้นไปสูงมาก!
“ทําไมกัน?”
เหงื่อของจางห้าวไหลออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ตอนนี้เขาไม่สามารถคํานวณความน่ากลัวของเจียงเฉินได้แล้ว!
ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสามของบริษัทเป็นตัวตนแบบไหนกัน?
เห็นได้ชัดเลยว่าขาใหญ่อย่างเจียงเฉินนั้นกําลังออกมาหาประสบการณ์ชีวิตและวิธีของเขาก็คือการขับตีตี้แล้วก็ส่ง พัสดุ!
จางห้าวรีบเชิญเจียงเฉินไปยังโต๊ะของเขาทันที “ท่านเจียงเฉิน! ก่อนหน้านี้ผมไม่รู้จักภูเขาไท่ซาน ผมละเลยท่านได้โปรดอภัยให้ผมด้วย”
เจียงเฉินโบกมือเบาๆ “ไม่ต้องไปสนใจหรอก”
ในตอนนี้หลิวหยุนเทาก็ตระหนักได้แล้วว่าเจียงเฉินนั้นเป็นขาใหญ่ของขาใหญ่ของขาใหญ่อีกที่หนึ่ง!
แม้แต่ฉินถั่วต่งที่ปของเขายังต้องเคารพก็ยังต้องเป็นฝ่านเข้ามาคุยกับเจียงเฉินด้วยตัวเอง!
พระเจ้า!
ทําไมฉันถึงได้ตาบอดขนาดนี้
ลูกพี่ลูกน้องห่างๆของตัวเองก็ทําให้พี่ใหญ่เจียงเฉินต้องโกรธเคืองอีก!
ไม่ ฉันต้องจัดการพวกเขาให้เด็ดขาด!
หลิวหยุนเทายืนอยู่กับที่แล้วเรียกโจวไห่ฉางกับหลิวโบเหวินที่อยู่ข้างๆมา พวกเขาคุกเข่าลงกับพื้นแล้วร้องไห้ออกมา!
หลิวหยุนเทาเองก็ทําการโทรแจ้งตํารวจว่าทั้งสองนั้นทําการยักยอกเงินไป
เมื่อจางห้าวได้ยินแบบนี้เขาก็แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อเจียงเฉินทันที “ท่านเจียงเฉิน ท่านน่าจะบอกกับผมโดยตรงผมจะได้ทําการกําจัดพวกหนอนแมลงที่น่ารังเกียจพวก เนื้ออกไป!”
เหล่าผู้ถือหุ้นคนอื่นๆก็พูดออกมาด้วยความขุ่นเคือง!
“พวกมันไร้ยางอายเกินไปแล้ว!”
“กล้าทําให้ท่านเจียงขุ่นเคือง อย่าให้พวกมันตายดี!”
“ใครต้องการให้ปล่อยพวกมันไป ฉันผู้ถือหุ้นอันดับที่ 6 คนนี้คนแรกที่จะขอปฏิเสธ!”
เมื่อได้ยินแบบนี้เจียงเฉินก็ยิ้มออกมา
10 นาทีต่อมาตํารวจอาชญากรรมก็มาถึง
หลินซีหลานเดินเข้ามาราวกับวีรสตรีผู้แสนดุร้ายเธอมาด้วยใบหน้าที่ดูน่ารักแต่ก็ดูดุร้ายในเวลาเดียวกันและก็ยังมี ตํารวจอีก 10 นายที่เดินตามหลังเข้ามา!
พวกเขาเข้ามาทําหน้าที่ทันที
เจียงเฉินเองก็เดินเข้าไปหาพวกเขา
ดวงตาของตํารวจทั้งสิบเป็นประกายและตกตะลึงในเวลาเดียวกัน
พวกเขาทําความเคารพแล้วตะโกนออกมา
“เจ้าหน้าที่เจียง!”
“เจ้าหน้าที่เจียง!”
หลินซีหลานก็เดินมาหาเจียงเฉิน ใบหน้าน่ารักของเธอแดงเธอกระซิบออกมา “สามี ทําไมนายถึงมาที่นี่ได้กัน?”
เจียงเฉินลูบหัวของเธออย่างใจเย็น “ผมมาร่วมงานเลี้ยง
ทุกคนในงานเลี้ยงตกตะลึง!
บรรยกาศเต็มไปด้วยความเงียบ
พลังอํานาจของเจียงเฉินในตอนนี้เกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการถึงไปไกลแล้ว!
หลิวหยุนเทาตกตะลึง
จางห้าวเองก็ไม่ต่างกัน
หลิวโบเหวินและโจวไห่ฉางเองก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นไปอีก
ผลลัพธ์นี้ทําให้ทุกคนตกตะลึง!
ปรากฏว่า…เจียงเฉินเองก็เป็นตํารวจอาชญากรรมด้วยและดูเหมือนว่าหัวหน้าหน่วยตํารวจอาชญากรรมสาวคนนี้ก็จะเป็นผู้หญิงของเขาเช่นกัน!
ปรากฏว่าตั้งแต่เริ่มขอเพียงแค่เจียงเฉินคนเดียวก็จัดการเรื่องทั้งหมดได้แล้ว!
แต่เขาไม่ทํา เจียงเฉินเพียงแค่เล่นพวกเขาอยู่บนมือทั้งสองข้างเท่านั้น!
เจียงเฉินออกไปพร้อมกับหลินซีหลานและตํารวจทั้งสิบนาย
หลังจากผ่านไปซักพักแขกทุกคนก้เริ่มฟื้นขึ้นมาจากความตกตะลึง
หลิวหยุนเทา จางห้าวและผู้ถือหุ้นทุกคนก็พากันวิ่งออกไปพยายามหยิบยื่นความช่วยเหลือให้เขา
แต่น่าเสียดายที่เจียงเฉินขึ้นรถตํารวจแล้วออกไปแล้ว! ณ
อํานาจของเจียงเฉินนั้นกระจายไปทั่วบริษัทจีหยวนกรุ๊ปทันที
หลังจากจัดการเรื่องต่างๆเสร็จ
เจียงเฉินก็กลับไปบ้านของซีหลานเพื่อพักผ่อน
หลังจากผ่านการต่อสู้อันเร่าร้อน หลินซีหลานก็นอนอยู่ตัวของเจียงเฉินอย่างเชื่อฟังราวกับลูกแมวตัวน้อย
เธอนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจียงเฉินแม้แต่น้อยเธอเหนื่อยมากแต่มันก็ทําให้เธอนั้นสะบายตัวมากจริงๆ
ประสบการณ์ชีวิตที่สวยงาม
เจียงเฉินเปิดระบบขึ้นมาดู
ค่าประสบการณ์ชีวิต [LV 2 : 10500 แต้ม]
เขาขับตี้ตี้มา 1 วันรับลูกค้าทั้งหมด 9 คนและได้แต้มมาถึง 10000 แต้ม!
ผลตอบแทนดีจริงๆ!
เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่กับบรรดาภรรยาของเขามีเพียงหนทางเดียวคือการพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่องเท่านั้น!
ด้วยเหตุนี้เจียงเฉินจึงต้องทํางานหนักอยู่เพียงลําพัง!
แต่นั่นก็เพื่อเป้าหมายของเขา!