เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ - 143 : การจีบสาวเวอร์ชั่น 3.0ของเจียงเฉิน!!
เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ ตอนที่ 143 : การจีบสาวเวอร์ชั่น 3.0ของเจียงเฉิน!!
วันต่อมา
เจียงเฉินขับรถส่งผู้โดยสารจนกระทั่งมาถึงห้างแห่งหนึ่ง!
“ขับมาตั้ง 2 ชั่วโมงรู้สึกเริ่มรู้สึกเหนื่อยแล้วงั้นพักซัก 3 ชั่วโมงก็แล้วกัน!”
เจียงเฉินจัดเวลาได้อย่างสมเหตุสมผลจริงๆ เขาใส่ใจทั้งการหาประสบการณ์ชีวิตทั้งการพักผ่อน!
(ระบบ :
ทําแบบนี้แล้วจะหางานยังไงละเนี่ย?)
เจียงเฉินตัดสินใจเดินลงไปช้อปปิ้งในห้างเพื่อผ่อนคลายซักหน่อย
ห้างแห่งนี้มีชื่อโลกแห่งจินตนาการ มันถูกตั้งอยู่บนย่านเศรษฐกิจ มันเป็นที่รู้จักในฐานะของหนึ่งในห้างที่มีความหรูหราที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองหลวง!
รอบๆที่นี่มีแต่คนที่รวยกันทั้งนั้น!
เจียงเฉินเดินเข้าไปข้างในเขาวางแผนว่าจะไปดูร้าน Gucci ของที่นี่เพื่อดูว่าการขายของร้านเป็นยังไงบ้าง
ในขณะนั้นเอง เจียงเฉินก็ได้สังเกตเห็นร่างที่คุ้นเคย
เด็กสาวที่สวยและบริสุทธิ์ในชุดนักเรียนที่มาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
เธอนั้นราวกับตัวละครในโลกอนิเมะ ความสวยของเธออยู่ที่ 95 คะแนน
แม้ว่าในห้องแห่งนี้จะมีสาวสวยมากมายราวกับเมฆในท้องฟ้าแต่เธอนั้นเปรียบเสมือนนกกระเรียนที่อยู่ท่ามกลางฝูงไก่ทําให้คนที่ผ่านไปผ่านมาต่างจ้องมองมาที่เธอ
และแน่นอนเธอก้คือ มู่ฉิงเหอ ลูกสาวของประธานร้าน 4S มู่เจิ้งชาง!
เธอนั้นก็คอยส่ง Wechat มาหาเจียงเฉินทุกๆวันแต่เจียงเฉินเองก็คิดว่าเธอนั้นยังคงเด็กเกินไปเพราะเธอยังอายุแค่ 18 ปีเท่านั้น!
ในเวลานี้เองผู้ชายคนหนึ่งที่ทั้งอ้วนทั้งเตี้ยและน่าเกลียดก็เดินเข้าไปหาเด็กสาวในชุดนักเรียน
“น้องสาว พี่เป็นผู้กํากับ พี่ชื่อเผิงเผิง พอดีพี่เดินตามดูน้องมาประมาณชั่วใงครึ่งแล้ว น้องนี่สวยสุดยอดจริงๆ(ยก นิ้วให้)น้องสนใจเข้ามาทํางานในวงการบันเทิงไหม? ถ้า สนใจพี่หาตําแหน่งนางเอกให้ได้นะ!”
มู่ฉิงเหอ “ไม่ค่ะ!”
ตรงไปตรงมา!
เมื่อมองดูรูปร่างที่อ้วนท้วมของอีกฝ่ายเธอดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดีและต่อให้เขาเป็นผู้กํากับจริงๆเธอก็ไม่สนใจอยู่ดี!
ครอบครัวของเธอนั้นรวยมากพออยู่แล้วและเธอเองก็เป็นลูกคนเดียวดังนั้นเธอจึงไม่มีความจําเป็นที่จะ ต้องไปทําอะไรแบบนี้
และที่มากไปกว่านั้นกฏภายในของวงการบันเทิงทุกคนเองก็รู้ดีอยู่แล้ว
ตาของเผิงเผิงหกแคบเขาพยายามชักชวนต่อไป “เธอนะดูสวยและไร้เดียงสามากนะและเธอเองก็ดูมีความสามารถมากด้วยเธอสามารเป็นนักแสดงหญิงที่มีชื่อเสียงในอนาคตได้แน่ๆนะ”
มู่ฉิงเหอขมวดคิ้ว “ขอโทษนะคะ คุณลุงหนูไม่ได้มีความคิดที่จะเป็นดาราและก็ไม่เคยมีด้วยค่ะ
เผิงเผิงดูกังวล “อย่าเพิ่ง…น้องสาวเรามาแอด wechat ไว้ก่อนก็ได้ พี่ไม่ใช่ผู้กํากับปลอมหลอกนะ พี่เป็นผู้กํากับจริงๆ เธอเคยได้ยินหนังเรื่อง “นินจาสาวปะทะบูนาน่า” ไหมนั่นผลงานพี่เองนะ!”
“หนูเคยดูแล้วค่ะ! ห่วยแตกมาก!”
เพิ่งเผิงที่ได้ยินก็แทบกระอักเลือดออกมา!
หนังที่เขาตั้งใจทําขึ้นมากลับกลายเป็นหนังห่วยๆเนี่ยนะ?!
เขายังไม่ยอมแพ้เขายังพยายามตามตื้อมู่ฉิงเหอต่อไป
ในเวลานี้เอง เจียงเฉินก็เดินเข้ามาตบไหล่ของเขา “พวกจีบแบบนั้นน่ะไร้ประโยชน์ ดูฉันดีๆล่ะ”
เจียงเฉินเดินเข้าหามู่ฉิงเหอก่อนจะจ้องมองเธอ “สาวน้อย-เหมือนเราจะเคยเจอกันนะ? จําได้ไหม?”
ตาของมู่ลิ้งเหอเป็นประกาย!
ฤดูใบไม้ผลิของเธอมาแล้ว
กรด– ฉันตกหลุมรักอีกแล้ว!
เป็นเขา! พี่ชายเจียงเฉิน
เจียงเฉินเข้าไปโอบเอวเล็กของเธอก่อนจะหันกลับมาแล้วเอาหลังไปพิงกับกําแพง!
มู่ฉิงเหอหน้าแดงกําแต่ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยประกายระยิบระยับ!
ในใจของเธอราวกับมีกวางน้อยกําลังวิ่งกระโดดไปมา!
เผิงเผิง “????”
ทําไมสาวน้อยถึงยอมให้เขากอดได้กัน?
เลเลย!
เฝึงเพิ่งมึนงง!
แม่งเอ้ย! แม้ว่าฉันจะเป็นแค่ผู้กํากับหนังห่วยๆแต่ทักษะการจีบสาวของฉันมันก็ยังโดดเด่นไม่ใช่รึไง!
มีสาวๆนับไม่ถ้วยที่โดนฉันหลอก!
แต่วันนี้กลับโดนไอ้เวรนี้ตัดหน้าไปได้ซะงั้น?!
มันไม่สมเหตุสมผลเกินไปแล้ว!
เจียงเฉินพูดออกมาเบาๆ “สาวน้อย เราไปกินกาแฟซักแก้วกันหน่อยไหม?”
“ค่ะ
ดวงตาสวยของมู่ฉิงเหอปิดลงจนกลายเป็นพระจันทร์เสี้ยว
เผิงเผิง “ !!”
ตกตะลึง!
นี่มันเคล็ดลับใหม่งั้นหรอ?!
มู่ลิ้งเหอเข้าไปกอดแขนของเจียงเฉินไว้
ถึงแม้เจียงเฉินจะพาฉันกลับบ้านของเขาไม่ได้แต่พ่อของฉันก็จะให้ฉันแต่งกับพี่เจียงเฉินอยู่ดี!
เผิงเผิงในตอนนี้กําลังมองดูทั้งคู่อย่างโง่งมราวกับว่าตัวเองเป็นคนโง่ที่มี IQ แค่ 15
เจียงเฉินยิ้ม “พวก การจีบของนายมันตกยุคไปแล้วของฉันน่ะมันเวอร์ชั่น 3.0 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด นายทําตามไม่ ได้หรอกนะะะะ”
หลังจากพูดจบ เจียงเฉินก็เขียนคําว่า “ไม่” ก่อนจะเดินจากไปอย่างเท่ๆ!
เฝึงเผิงดูโง่งมหนักกว่าเดิม!
เวอร์ชั่นล่าสุด 3.0
มันคืออะไรกัน?
ดูเหมือนการจีบของเขามันจะใช้การไม่ได้แล้ว…ไม่แปลกใจเลยทําไมช่วงหลังๆมานี้อัตราสําเร็จมันถึงได้ต่ําลงข นาดนี้
“ดูเหมือนเราจะเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนนะ เธอจําได้ไหม?”
เผิงเผิงอดไม่ได้ที่จะท่องออกมาแล้วดวงตาของเขาก็เป็นประกาย “ฉันเข้าใจแล้ว! ที่นี้ต้องไปลองดู!”
ไม่นานเผิงเผิงก็เจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง เขาจึงลองใช้วิธีที่ได้มาใหม่เพื่อทําการจีบเธอทันที!
“ว่าไง คนสวย ”
เผึ้งเผิงเดินเข้าไปหาสาวสวยแล้วทําการเลียนแบบเจียงเฉินทันที “คนสวยไปกินกาแฟกับผมที่ร้านกาแฟข้างๆธนา คารไหม?”
สาวสวยมองเขาอย่างรังเกียจแล้วพูดออกมาด้วยความโมโห
“โรคจิตเอ๊ย!”
????”
เผิงเผิงมองดูอย่างโง่งม เขาก็ทําตามวิธีแบบแล้วนี่ทําไมถึงเป็นแบบนี้กัน?
ทําไมหมอนั่นทําแบบนี้กับเด็กสาวคนนั้นได้กัน?
เขายังคงพยายามลองต่อไปะ–
“สาวน้อย- ไม่ต้องอาย มาเถอะ
เลียนแบบเจียงเฉินโดยการใช้มือที่ใหญ่ราวกับท้าของหมูไปโอบเอวของสาวสวยก่อนจะเอนตัวไปพิงกับ กําแพง—
สาวสวยกร็ดออกมาทันที
“กรด– พวกโรคจิต! สามีช่วยฉันด้วย!”
สาวสวยวิ่งออกไปด้วยใบหน้าที่ซีดเธอวิ่งไปชายคนหนึ่งที่ดูแข็งแรงมาก
เวลาต่อมาเงาดําขนาดใหญ่ก็ปรากฎจนครอบครุมหัวของเฝึงเพิ่งไปทั้งหมดและปกครุมตัวเขาไปทั้งตัว!
ชายคนหนึ่งที่มีร่างกายกํายําเดินมาปรากฏตัวต่อหน้าเฝึงเผิง
ก่อนจะจับคอเสื้อของเขาแล้วยกขึ้นมาราวกับกําลังจับไก่
“แกกล้ามากนะ! กล้าดียังไงมารังแกแฟนของฉัน!”
ชายร่างกํายําจ้องมองเผิงเผิงด้วยสายตาเย็นชา
“อ๊ะ ไม่ นี่มันเรื่องเข้าใจผิด! มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด!”
เฟิงเผิงพยายามหาทางรอดและเริ่มตระหนักว่าเขาคงจะโดนหลอกเข้าให้แล้ว!
วิธีจีบสาวบ้าบออะไรกัน?
มันเรื่องโกหกทั้งนั้น!
“มไม่! พี่ชาย ฟังฉันก่อน ฉันไม่ได้เป็นคนโรคจิต ฉันแค่จะลองวิธีจีบสาวแบบ 3.0 เฉยๆ นะ”
เผิงเผิงถูกยกขึ้นมาอย่างน่าสงสารโดยผู้ชายที่แข็งแรงกํายําแต่ตัวเขานั้นกลับอ่อนแอและน่าสงสาร
“ฉันเชื่อก็บ้าแล้ว!”
ชายที่ดูแข็งแรงกํายําพูดออกมาอย่างโมโห “แกไอ้อ้วน แกมันพวกตัณหามาก! ตายซะเถอะ!”
โยน!
เผิงเผิงโดนโยนลงไปบนพื้นก่อนจะโดนชายร่างกํายําเข้ามาต่อยซ้ํา!
“อีก
”
เผิงเผิงน้ําลายฟูมปาก
ตาของเขาเหลือกจนมีเพียงแต่สีขาว!
เขาตะโกนออกมาด้วยความโศกเศร้าและขุ่นเคือง “เจ้าบ้านั่นโกหกฉัน รอฉันก่อนเถอะ!”
หลังจากเดินไปซักพัก
มุ่งฉิงเหอมองเจียงเฉินอย่างเขินอาย “พี่เจียงเฉิน-เราจะไปไหนกันหรอ?”
เจียงเฉินตอบอย่างเด็ดขาด “ส่งเธอกลับบ้าน!”
“หือ? กลับบ้านตอนนี้?”
มู่ฉิงเหอมองเจียงเฉินอย่างแปลกใจ คู่รักทั่วไปไม่ควรจะไปดูหนังกันหรอแล้วก็ค่อยไปต่อกันที่โรงแรมที่หลัง?
และที่มากไปกว่านั้น พ่อเองก็เห็นด้วยเรื่องการแต่งงานครั้งนี้แล้ว!
เจียงเฉินอธิบายออกมา “ฉิงเหอ ฉันมีแฟนอยู่แล้วนะฉันทําแบบนี้ก็เพื่อเธอ”
มู่ฉิงเหอพูดอย่างแปลกใจ “หนูไม่ขัดอะไรหรอกที่จะแบ่งพี่กับบรรดาพี่สาวคนอื่นๆ”
เจียงเฉินเหงื่อตก…
เจียงเฉินคิดซักพัก “ค่อยมาพูดกันอีกทีตอนเธอ โตแล้วก็แล้วกันตอนนี้เธอยังแค่ 18 เท่านั้นเอง!”
มู่ฉิงเหอโบกหมัดเล็กๆของเธอไปมาก่อนจะพูดอย่างดุ เดือด “หึพี่เจียงเฉิน-มันไม่ต่างกันหรอกพี่ล่วงเกินหนูไปแล้วพี่ต้องรับผิดชอบพอหนูจบจากมหาลับเมื่อไหร่หนูจะย้ายไปอยู่บ้านพี่!”
เจียงเฉินก่ายหน้าผากและหลั่งเหงื่อในใจ
ชื่อเสียงของฉันคนนี้ต้องตกไปอยู่ในมือของนางฟ้าตัวน้อยนี่แล้วหรอเนี่ย!
ไม่สิ เธอมันแม่มดตัวน้อยชัดๆ!
เจียงเฉินในตอนนี้ขับรถมาส่งมู่ฉิงเหอจนถึงหน้าประตูบ้
เธอลงจากรถก่อนจะเดินไปสองสามก้าวแล้วหันกลับมาก
มู่ฉิงเหอกลอกตา “พี่เจียงเฉิน- ตอนนี้พี่เป็นคนขับไปแล้ว หนูนั่งโดยไม่ให้อะไรที่ไม่ได้หรอกนะ”
เจียงเฉินพิงกระจกหน้าต่างรถแล้วยิ้มออกมา “หือ? เธอจะจ่ายค่ารถให้ฉันรึไง?”
มู่ลิ้งเหอเอนตัวมาข้างหน้าก่อนจะเดินเข้ามา
“มั่ว
”
เธอจูบเจียงเฉิน
เจียงเฉินที่ไม่ทันระวังก็ตกตะลึง!
นี่ฉันเป็นใคร? อยู่ที่ไหน? แล้วเมื่อเกิดอะไรขึ้น?
มู่ฉิงเหอยิ้มอย่างอายๆ “ฮิฮิ พี่เจียงเฉิน- จูบ แรกของหนูให้พี่เป็นค่ารถก็แล้วกัน”
“นี่”
เจียงเฉินเองก็เป็นไปด้วย
มู่ฉิงเหอยิ้มออกมาก่อนจะเดินจากไปอย่างไม่เต็มใจ
เจียงเฉินที่กําลังจาะขับรถออดไปทันใดนั้นเขาก็มีสายเรียกเข้าจากอู่หลิงเหยา
“เจียงเฉิน ฉันจะชวนนายมาทานอาหารเย็นคืนนี้ได้ ไหม?”
ปกติแล้วรู่หลิงเหยามักจะใจกว้างเป็นปกติแต่ครั้งนี้เธอนั้นเขินอายเป็นอย่างมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอนั้นเป็นฝ่ายชวนผู้ชาย
เจียงเฉินยิ้ม “ได้สิ”
เจียงเฉินขับรถไปรับฉ่หลิงเหยาก่อน จะออกไปกินข้าวด้วยกัน
วันนี้ฉ่หลิงเหยาได้จองร้านอาหารไว้เรียบร้อยแล้ว เป็นร้านอาหารฝรั่งเศา [Famello Western Restaurant]
ร้านนี้เป็นหนึ่งในร้านที่ดีที่สุดในเมืองหลวง ร้านแห่งนี้ตั้งอยู่ที่วงแหวนทางใต้ของเมืองหลวง
คนที่จะเข้ามาทานอาหารที่นี่จะต้องแต่งตัวเรียบร้อยไม่เช่นนั้นตัวของลูกค้าจะโดนบดบังจากการตกแต่งที่สว ยงามของร้าน : ภาพจิตกรรมฝาผนังที่ดูหรูหราโคมไฟคริ สตัลหรูทุกรายละเอียดของการออกแบบเต็มไปด้วยความหรูหรา
คนที่มาเยือนร้านแห่งนี้ปกติแล้วจะเป็นทูตหรือดาราคนดังจากต่างประเทศ
เพื่อที่จะมาทานอาหารที่นี่จะต้องทําการจองล่วงหน้าเอาไว้อย่างน้อย 7 วันและในแต่ละวันจะรับลูกค้าเพียง 20 คนเท่านั้น!
ดังนั้นราคาอาหารของที่นี่จึงแพงมากถ้าจะเฉลี่ยแล้วต่อคนนั้นมักจะอยู่ที่ 15,888 หยวนขึ้นไป!
นอกจากนี้อีกหนึ่งจุดเด่นของร้านนี้ก็คือภาพจิตกรรมบนฝาผนังที่มีราคาที่สูงมากมันถูกทํามาจากหินอ่อนจากประเทศฝรั่งเศษและพวกมันล้วนแต่ถูกสร้างสรรค์โดยศิลปินที่มีชื่อเสียงทั้งสิ้น!
เจียงเฉินดึงเก้าอีกออกมาก่อนจะให้ฉ่หลิงเหยานั่งลงไปด้านข้างเองก็มีพนักงานเสิร์ฟชาวฝรั่งเศษอยู่เขาเดินเข้ามาก่อนจะเริ่มทําการแนะนําเมนูอาหารตะวันตกทีละอย่าง
“เมนูอาหารตะวันตกของพวกเราที่นี่นับว่ามีชื่อเสียงมากด้วยการผสมผสานกับรสชาติแบบโพรวองซ์และรสชาติแบบต้นตําหรับได้อย่างลงตัวจึงทําให้มันมีกลิ่นหอมน่ารับป ระทานร้านของเราเองก็เลือกมาแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงไม่ ว่าจะเป็นเนื้อลูกวัวจากทุ่งหญ้าแพรรีทางตอนเหนือหรือจะเป็นเนื้อแกะจากเทือกเขาพิรินีและด้วยรสชาติต้ นตําหรับจากประเทศฝรั่งเศษของเรานั้นก็ทําให้ลูกค้าไม่น้อยเลยที่ได้ลิ้มลองแล้วก็ไม่อาจลืมรสชาติของมันลงได้ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าต้องการเมนูไหนดีครับ?”
“ที่นี่ดูเหมือนจะมีดีไม่น้อยนะ”
เจียงเฉินพลิกดูเมนูก่อนจะมองไปที่อู่หลิงเหยาแล้วยิ้มออกมา“คุณฉ่ถ้าอย่างงั้นวันนี้ผมไม่เกรงใจล่ะ นะ”
“ไม่มีปัญหาค่ะ”
อู่หลิงเหยายิ้มหวานออกมา “นายช่วยฉันเอาสร้อยคอกลับมาได้นะต้องเป็นฉันมากกว่าที่กลัวนายจะเกรงใจ”
การตอบแทนมันก็เป็นเพียงแค่เหตุผลหนึ่งเท่านั้นแต่เหตุผลหลักที่มาก็คือตอนที่อยู่ที่บ้านฉ่หลิงเหยานั้นคิดถึงเจียงเฉินมากกว่า
แม้แต่ตอนที่เธอเล่นเปียโนเธอก็ยังตั้งสมาธิไม่ค่อยจะได้
ดังนั้นเธอจึงเอาเรื่องการตอบแทนมาเป็นเหตุผลที่เหมาะสมเพื่อมาเจอเขาในวันนี้
เจียงเฉินที่ไม่รู้เรื่องก็ยิ้มออกมาก่อนจะเริ่มสั่งอาหาร
ในเวลานี้เอง..
ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับเสียงของเขาที่ดังมาแต่ไกละ
“ผมจะบอกอะไรให้นะ นี่คือร้านอาหารฝรั่งเศษที่ดีที่สุดในเมืองหลวง! ไม่มีที่ไหนดีกว่านี้อีกแล้ว!”
“และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนนั้นมากถึง 15,888 หยวน!”
“และที่มากไปกว่านั้นคนที่จะมาต้องทําการจองมาอย่างน้อยสามวันไม่งั้นก็อย่าหวังได้เข้ามาในร้าน!”
เมื่อได้ฟังเสียงที่ลอยมาใบหน้าของฉ่หลิงเหยาก็ดําคล้ําขึ้นมาทันที
เธอนั้นสามารถเดาตัวตนของคนที่กําลังเดินเข้ามาได้ในทันที
เจียงเฉินยิ้มแล้วถามออกมา “เธอรู้จักคนๆนี้ด้วยหรอ?”
รู่หลิงเหยาพูดออกมาด้วยความรังเกียจ “ฉันล่ะอับอายแทนเขาจริงๆฉันรู้จักเขา เขาชื่อเฉินเซิน… % ”
อู่หลิงเหยาแนะนําเขาสั้นๆ
ชายคนนี้ที่ชื่อเฉินเซินคือหนึ่งในเพื่อนร่ว มงานหลายๆคนของเธอเขานั้นเป็นนักดนตรีคนหนึ่ง และครอบครัวของเขาเองก็รวยมากมมีทรัพย์สินอยู่หลายพันล้าน
แต่ยังไงก็ตามเขานั้นโดนฉ่หลิงเหยาปฏิเสธมาหลายครั้งและวันที่เจียงเฉินได้ส่งรู่หลิงเหยากลับนั้น
รู่หลิงเหยาเองก็ได้ปฏิเสธเขาอย่างเด็ดขาดเป็นครั้งที่
เหตุผล : [ฉันมีคนที่ชอบแล้ว เขาชื่อเจียงเฉิน และเขาก็เป็นคนขับ
เฉินเซ็นทรุดตัวลงบนพื้นก่อนจะลุกขึ้นมาแล้วไปดื่มที่บาร์!
วันต่อมาเขาก็หาแฟนสาวมาได้ในทันทีและวันนี้เขาก็พาเธอมาด้วย
และในวันนี้ทั้งสองฝ่ายก็ได้มาเจอกันโดนบังเอิญ
เฉินเซินเองที่เห็นเจียงเฉินอยู่ข้างๆฉ่หลิงเหยาความโมโหของเขาก็เพิ่มขึ้น!
เขานั้นเข้าใจเรื่องราวได้ในทันทีว่า!
คนๆนี้ที่มีหน้าตาราวกับเทพบุตรจะต้องเป็นไปเวรที่ชื่อเจียงเฉินแน่ๆ!
ฉันสารภาพรักกับเธอไป 39 ครั้งแต่ก็ล้มเหลวตลอดแล้วตอนนี้เทพธิดาอู่หลิงเหยาของฉันก็ไปตกหลุมรักกับมัน!
แกมันไม่มีอะไรดีเลยนอกจากหน้าตา!
ทําไมกัน?
บิดาเฉินเซินคนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการร้องเพลงแถมครอบครัวก็มีทรัพย์สินนับพันล้าน แต่ทําไมเทพธิดาอู่หลิงเหยากลับไปชอบคนอย่างแกกัน?!