เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ - 171 : ความรู้สึกของการโดนไฟช็อต
ตอนที่ 171 : ความรู้สึกของการโดนไฟช็อต
ในเวลานี้เอง ถนนวงแหวนรอบที่ 5 อาคารผู้อุ่ย
“ทําไมนายแบบที่นัดไว้ถึงยังไม่มาอีกล่ะ? นี่เขาทํางานยังไงกัน?”
สาวสวยลูกครึ่งที่มีดวงตากลมโตกําลังกอดอกตัวเองอยู่พร้อมกับร่างบางที่กําลังสั่น
เธอนั้นมีชื่อว่าเอเวลและในวงการก็จะมักเรียกเธอว่าประธานอ้าย
จุดเด่นของเธอคือการที่เธอนั้นมีทั้งเชื้อสายจากทางตะวันออกและตะวันตกรวมกัน รูปร่างของเธอนั้นจุดที่ควรนูนกนูนทั้งด้านหน้าและด้านหลังรูปร่างรับไป 94 คะแนน เธ อกําลังสวมแว่นตาทองคําคู่ใจของเธอแต่ใบหน้าของเธอตอนนี้กลับดูเย็นชามาก
ผู้จัดการตัวอ้วนหลั่งเหงื่อเย็นๆออกมาเขายิ้มออกมาเชิงขอโทษ“ผมจะไปถามเขาให้ทันทีครับ! แกอยู่ไหนแล้ว?”
บนรถของเจียงเฉินผู้โดยสารชายที่ได้รับสายจากผู้จัดการเขาก็ยิ้มออกมา
“ครับผู้จัดการ ผมจะไปทันทีครับ!”
เขาวางโทรศัพท์ลงก่อนจะเริ่มต่อว่าเจียงเฉินด้วยถ้อยคําที่รุนแรง
“แก แกรู้ไหมว่างานครั้งนี้ของฉันมันสําคัญแค่ไหน? รู้ไหมว่าผู้จัดการของฉันใช้เวลาไปเท่าไหร่กว่าจะเอาโอกาศนี้มาให้ฉันได้?”
“แก แก แกทําให้ฉันโมโหแทบตายอยู่แล้ว! แกต้องชดใช้เงินให้ฉัน!”
“แล้วฉันก็จะรายงานแกด้วย!”
สําหรับเจียงเฉินแล้วเรื่องการกดรายงานเขานั้นไม่ได้สนใจมันอยู่แล้ว
คนขับตี้ตี้โดยทั่วไปอาจจะมองว่ามันสําคัญ แต่
เจียงเฉินนั้นไม่ใช่แค่คนขับติ์ตี้ธรรมดาๆ เขามาทําก็เพราะต้องการสัมผัสประสบการณ์ชีวิต!
เจียงเฉินพูดออกมาช้าๆ “ความล่าช้าในการไปทํางานมันเป็นปัญหาที่เกิดจากคุณทั้งนั้น”
“อะไรนะ?”
ผู้โดยสารชายตกตะลึง เขาคิดไม่ถึงว่าเขาจะโดนคนขับสั่งสอน
“แกพูดอะไร?”
“ผมบอกว่าการที่คุณต้องเสียโอกาศของคุณมันก็เพราะตัวคุณเอง”
เจียงเฉินพูดช้าๆ “ในเมื่อมันสําคัญกับคุณมากคุณก็แค่ออกให้เร็วกว่านี้ 1 ชั่วโมง ทําไมคุณต้องรอถึงตอนนี้แล้วโยนความผิดให้คนขับด้วยล่ะ?”
“แก!”
นายแบบตัวสั่นด้วยความโกรธ
เจียงเฉินพูดอย่างไม่ใส่ใจ “คุณอย่ายั่วยุผมดีกว่าถ้าผมเกิดอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาผมจะหยุดรถแล้วให้คุณลงตรงนี้ทันที ถึงเวลานั้นคุณจะเสียเวลายิ่งกว่านี้และงานของคุณก็คงต้องล่ม!”
แม้ว่าเขาจะโมโหแต่หลังจากฟังคําเจียงเฉินแล้วเขาก็รู้สึกว่า……..
มันมีเหตุผล
เขาจึงไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก!
เพราะจริงๆแล้วในเวลาแบบนี้เขาควรจะภาวนาให้คนขับเร่งเครื่องไปเองและไม่ทําให้พวกเขาขุ่นเคือง
และในเวลานี้เขาก็ทําได้แต่นั่งสูดลมหายใจเงียบๆแล้วค่อยไปกดรายงานความคิดเห็นแย่ๆให้เอาทีหลัง
เจียงเฉินมองดูอีกฝ่ายราวกับว่าเขานั้นสามารถเข้าใจอีกฝ่ายได้ทั้งหมด“ทําไมล่ะ? ไม่พูดไม่จาจะแอบให้คะแนนแย่ๆกับผมที่หลังหรอ?เมื่อกี้คุณพูดกับผมด้วยความหยาบคายจะไม่ขอโทษหน่อยหรอ?”
“แก”
นายแบบหนุ่มโมโหจนแทบจะเป็นลม “แกที่เป็นแค่คนขับตีตี้ยังกล้ามามีหน้าบอกให้ฉันขอโทษอีกหรอ?”
“ทําไมจะไม่ล่ะ?”
เจียงเฉินยิ้ม “ถ้าคุณทําตัวดีๆพูดจาเพราะๆบางทีผมอาจจะเร่งความเร็วให้คุณไปทันก็ได้นะ”
“แกะ”
นายแบบหนุ่มตัวสั่นด้วยความโกรธจากคําขู่ของคนขับข้างหน้าเขา!
เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก!
แต่พอมาคิดเรื่องงานที่กําลังรอเขาอยู่ เขาก็ได้แค่อดกลั้นแล้วขอโทษเจียงเฉินออกมาเบาๆ “ขอโทษครับ อาจารย์เมีอกี้ผมควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดีเอง ผมกังวลมากเกินไปขอโทษด้วยครับ”
“ขอโทษเหมือนไม่เต็มใจเลยนะ”
นายแบบโกรธจัด เขากัดฟันแน่น
แม่งเอ้ย!
เขาพยายามอดกลั้นเอาไว้ : รอดูเถอะว่าฉันจะแก้แค้นยังไง?!
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงด้านล่างของอาคารผู้ชุ่ย นายแบบชายดูเวลา
ให้ตายเถอะฉันมาสายตั้ง 10 นาที!
“ว้ากกก —
นายแบบที่กําลังจะระเบิดตะโกนออกมาใส่เจียงเฉิน
เจียงเฉินโบกมืออย่างใจเย็นและนาฬิกา Patek Philippeบนข้อมือของเขาก็โผล่ออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ไปเถอะ สายไปแค่ 10 นาที ถ้าขึ้นไปตอนนี้อาจจะยังทันอยู่!”
เจียงเฉินพูด
นายแบบหนุ่มที่เห็นแบบนั้นเขาก็ไม่สนใจอะไรต่ออีกแล้วเขาวิ่งออกไปทันที!
ระหว่างที่วิ่งเขาก็พึมพัมไปมา “ฉันตาฝาดไปรึเปล่า? ทําไมบนข้อมือของเจ้าคนขับตี้ตี้นั่นถึงมีนาฬิกาPatek Philippe ราคา 17.6 ล้าน?! ไม่สิ มันจะต้องเป็นของปลอม แน่! ของปลอม!ถ้าคนแบบนั้นใส่นาฬิกา Patek Philippe ราคา 17.6 ล้านได้โลกนี้ก็คงบ้าไปแล้ว!”
เขาวิ่งต่อไปอย่างบ้าคลั่งจนถึงชั้นที่ 24
เจียงเฉินมองนายแบบที่หยิ่งยโสที่ค่อยๆวิ่งหายจากไปเพื่อขึ้นไปชั้นบนเจียงเฉินส่ายหัวไปมา
“คนหนุ่มสมัยนี้ใจร้อนจริงๆ ไม่งั้นเรื่องมันคงไม่ใหญ่แบบนี้หรอก”
“อ่าว โทรศัพท์ของหมอนี่หล่นอยู่ตรงนี้ด้วยหรอ?”
ชั้นที่ 24 สํานักงานใหญ่ออรี
เอเวลกําลังเอามือกุมหน้าของตัวเองแล้วต่อว่านายแบบชาย
“นายบอกว่านายมาสายแค่ไหนนะ? หม? 10 นาที? ฉันไม่เคยต้องรอใครหรอกนะ?
ไม่แม้แต่วินาทีเดียว! คุณที่ เป็นนายแบบกลับมาสายแบบนี้ได้ยังไงกัน?”
นายแบบในตอนนี้ไม่สามารถแก้ตัวอะไรได้ดขาได้แต่ขอโทษออกมาและโยนความผิดไปให้เจียงเฉิน“ขอโทษจริงๆ ครับท่านประธานอ้าย ผมมีปัญหากับคนขับตี้ตี้พอดี เขาอิจฉาความหล่อของผมเขาก็เลยจงใจขับรถให้ผมแบบช้าๆ จนทําให้ผมมาสาย!”
ทุกคนพูดไม่ออก
พวกเขานั้นเคยเห็นคนโยนความผิดมาก่อนแต่ไม่เคยเห็นใครกล้าโยนความผิดเอาแบบนี้!
ตัวเองมาสายแต่กลับไปโทษคนขับตีตี้?
แล้วยังบอกว่าคนขับตี้ตี้อิจฉาความหล่อของเขา?
เอเวลแค่นเสียงอย่างเย็นชาและโบกมืออย่างรําคาญ “พอได้แล้วนายน่ะดูธรรมดาเกินไป!ไม่ต้องมาทําให้ฉันเสียเวลา!”
เธอนั้นไม่พอใจกับนายแบบคนนี้มาก
การมาสายก็เป็นประเด็นหนึ่งแต่อีกประเด็นคือ….หน้าตา
ในฐานะประธานที่ทํางานในวงการแฟชั่น เอเวลย่อมต้องเคยเห็นหนุ่มหล่อสาวสวยมาบ้างแล้ว เธอเองก็เคยเป็นนาง แบบชื่อดังมาก่อน
หน้าตาที่นายแบบคนนี้ดูภูมิใจนักหนา แต่ในสายตาของเธอนั้น…มันไร้ค่า
ทั้งน่าเกลียด! แถมยังขี้เหร่อีก!
แบบนี้จะไปเหมาะกับนิตยสารประจําปีของออรี่ของเธอได้ยังไง?
เอเวลมองนายแบบหนุ่มข้างหน้าที่เก็กท่าคิดว่าตัวเองหล่อแล้วก็รู้สึกแอบโมโห!
อาเวลโบกมือ
นายแบบถึงกับอึ้ง
เกิดอะไรขึ้น?
อาเวลพูดอย่างเย็นชา “คุณภาพหน้าตาของนายมันต่ําเกินไปไม่รู้ว่าฝ่ายการคัดเลือกได้ยังไง!”
“ไม่นะ?”
เมื่อนายแบบได้ยินก็แทบจะร้องไห้ออกมา “คุณอ้ายให้โอกาศผมเถอะนะครับ ผมจะทําทุกอย่างตามที่คุณบอกเลย!”
“เราไปหาคนใหม่มาตอนนี้เลยได้ไหม?”
อาเวลไม่สนใจคําพูดของนายแบบหนุ่มเธอหันไปหาผู้ช่วยของเธอ
ผู้ช่วยพูดอย่างอายๆ “แต่ท่านประธานเลือกนายแบบมาหลายสิบคนแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครที่ทําให้ท่านพอใจเลยนะ
“ก็ใช่”
อาเวลพูดอย่างเย็นชา “ก็นี่แหละสไตล์ของฉันจี้จี้จุกจิก!ไม่งั้นเราจะมีฐานะเป็นผู้นําของวงการแฟนชั่นได้ยังไง?”
“ใช่ค่ะ แต่ตอนนี้เวลาเรามีไม่มากพอแล้วนะคะบ่ายนี้เราจะต้องทําตัวต้นฉบับแล้วนะคะ”
26C 2
ผู้ช่วยทําหน้าบูดบึง “ไม่อย่างนั้น พรุ่งนี้เราคงตีพิมพ์ไม่ทันแน่”
“โอ้
”
อาเวลขมวดคิ้ว
นายแบบที่ได้ยินก็ราวกับได้ความหวังกลับมาใหม่เขาคุกเข่าลงกับพื้นด้วยท่าทางปิติยินดีแล้วพูดออกมา “คุณอ้าย!ผมอาจจะไม่ได้ตรงกับความต้องการของคุณแต่เวลาไม่เคยคอยใครหรอกนะครับ!ถ้าคุณไม่มีทางเลือกอื่นอีก ก็เลือกผมเถอะนะครับ! คุณอ้าย!”
นายแบบแทบจะเข้ามากอดต้นขาของอาเวล
ในเวลานี้เองเจียงเฉินก็เดินเข้ามา
ภาพที่เจียงเฉินเห็นในตอนนี้ก็คือนายแบบชายกําลังคุกเข้าอ้อนวอนสาวสวยลูกครึ่งคนหนึ่ง
เจียงเฉินตกตะลึง–
เออ…ฉันมาผิดเวลารึเปล่า?
เมื่อนายแบบชายเห็นเจียงเฉินเขาก็เริ่มโกรธจนตัวสั่น“นายมาทําอะไรที่นี่”
“อ่อ พอดีผมเห็นโทรศัพท์ของคุณตกอยู่บนรถน่ะ อ่ะ”
เจียงเฉินยื่นโทรศัพท์ให้กับนายแบบ
นายแบบรับโทรศัพท์มาแล้วโบกมืออย่างหงุดหงิด “ที่นี่คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในโลกของแฟชั่นนายคู่ควรกับที่นี่หรอ?ออกไปได้แล้ว!อย่ามาทําให้กล้องสกปรก!”
เจียงเฉินยิ้มบางๆก่อนจะหันหลังแล้วเดินจากไป
ช่วงเวลานี้เองดวงตาคู่สวยของอาเวลก็เบิกกว้างเพราะความตกตะลึง!
พระเจ้า
ความรู้สึกเมื่อกี้นี้มัน
ราวกับโดนไฟฟ้าช็อตไปทั้งตัว!
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้รู้สึกอะไรแบบนี้
ใช่แล้ว!
เอเวลชี้ไปที่เจียงเฉินแล้วตะโกนออกมา “นั่นเขา!นั่นเขา!”