เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ - 201 : ไม่! ฉันจะเซ็นสัญญาเดี๋ยวนี้!
เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ
ตอนที่ 201 : ไม่! ฉันจะเซ็นสัญญาเดี๋ยวนี้!
เจสันรู้สึกว่าตั้งแต่เขามาที่ประเทศจีน ตราบใดที่มีเจียงเฉินอยู่ อะไรก็เกิดขึ้นได้!
แต่ในไม่ช้าเขาก็ส่ายหัวและหัวเราะ
เจียงเฉินนับเป็นอะไร?
ก็แค่คนรวยรุ่นที่สองไม่ใช่รึยังไง?
ถ้าไม่มีพ่อแม่ที่ร่ํารวยเขาจะมีอะไรมาเทียบกับฉันเจสันคนนี้ที่ทํางานอย่างหนัก ขยันและยังมีความสามารถได้ไหม?
เจสันเงยหน้า 45 องศา
หยิ่งผยอง.jpg
“ไปกันเถอะ!
เขาพาเจนนิเฟอร์เข้าไปในร้านอาหารแต่เขานั้นก็มองหาลู่เว่ยไม่เจอ
“หึม..บอสลู่ยังไม่มาเหรอ?”
มองดูเวลาตอนนี้ก็ 1 ทุ่มแล้วทําไมเขาถึงยังไม่มา?
เจสันรู้สึกไม่สบอารมณ์และด่าออกมาเป็นภาษาอังกฤษทันที “ทําไมพวกคนจีนทําไม่ตรงต่อเวลาขนาดนี้! ก็บอกว่า 1 ทุ่มไม่ใช่รึยังไงทําไมถึงยังมาไม่ถึง?! ไร้ความรับผิดชอบจริงๆ!”
ทันทีที่เขาพูดจบคนที่อยู่รอบๆก็พากันขมวดคิ้วทันที
ต้องรู้ก่อนว่าที่นี่คือร้านอาหารระดับไฮเอนด์อย่างร้านซินหลงดังนั้นคนในร้านล้วนแล้วแต่เข้าใจภาษาอังกฤษดี ดังนั้นพวกเขาสามารถฟังเจสันออก!
จะด่าใครก็ด่าไปแต่อย่ามาเหมารวม!
ทุกคนอารมณ์เสียมาก!
“เจ้าหมอนี่ลืมแปลงฟันมารียังไงกัน?”
“น่าขยะแขยงจริงๆพวกอ่อนหัดแต่กลับทําเป็นเก่ง!”
ชายหนุ่มคนหนึ่งลุกขึ้นมาและมายืนต่อหน้าเจสัน
“คุณต้องขอโทษคนจีนเดี๋ยวนี้!”
“ขอโทษหรอ?” เจสันอารมณ์เสีย
เรื่องตลก!
ฉันเป็นใคร? ฉันมีเงินกว่าพันล้านดอลลาร์อยู่ในมือ เป็นประธานบริษัทกองทุนแอตแลนติกในจีนจะให้ฉันขอโทษเด็กอย่างนายเนี่ยนะ?
ชายหนุ่ม “คุณจะไม่ขอโทษใช่ไหม?”
เจสันเยาะเย้ยออกมา “นายรู้ไหมล่ะว่าฉันเป็นใคร”
ท่าทางที่เน่อหยิ่งแบบนี้ทําให้คนในร้านที่กําลังรับประทานอาหารอยู่ตกตะลึง
เจสันพูดออกมาอย่างเย่อหยิ่ง “ฟันนะ ฉันเป็นประธานบริษัทกองทุนแอตแลนติกสาขาประเทศจีน! นายรู้จักไหมล่ะบริษัทกอง ทุนแอตแลนติกบริษัทนี้เป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายแสนล้านดอล ลาร์ มีเงินทุนที่แข็งแกร่ง!และฉันก้เป็นประธานสาขาประเทศจีนมีเงินอยู่ในมือกว่าพันล้านดอลลาร์ซึ่งเท่ากับหลายหมื่นล้านหยวน!”
แขกพากันโวยวายออกมาทันที
“โอ้พระเจ้า!”
“กลับกลายเป็นว่าเขาคือคนใหญ่คนโต!”
“ไม่แปลกใจเลยทําไมเขาถึงเย่อหยิ่ง!”
ชายหนุ่มหัวเราะออกมา “ถึงคุณจะเป็นประธานบริษัทกองทุนแอตแลนติกแต่ที่นี่คืประเทศจีน! ต่อให้นายเป็นมังกรเมื่อเข้ามาในจีนแล้วก็ต้องยอมก้อมหัวยิ่งไปกว่านั้นนายยังดูถูกประเทศของ พวกเราดังนั้นขอโทษออกมาเดี๋ยวนี้!”
“พูดได้ดี!”
“ใช่เลยๆ!”
“เราจะปล่อยให้พวกคนต่างชาติมาเหยียดหยามแบบนี้ได้ยังไง?!”
“ขอโทษซะ! ขอโทษเดี๋ยวนี้”
เพียงไม่นานด้วยความรักชาติภายในร้านอาหารก็เปลี่ยนเป็นร้อนระอุทันที
เจียงเฉิน โจวหมิงและลู่เว่ยที่นั่งกันอยู่ในห้องส่วนตัวก็ได้ยินเสียงโวยวายดังนั้นพวกเขาจึงเปิดหน้าต่างและมองออกไปดู
เจียงเฉินประหลาดใจ “คนๆนี้คงไม่ใช่เจ้าขี้อวดเจสันใช่ไหมมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?”
ในเวลานี้เองก็มีพนักงานคนหนึ่งเอาอาหารเข้ามาเสิร์ฟพอดี
เมื่อได้ยินข้อสงสัยของเจียงเฉินเขาก็รีบตอบออกมาทันที “เรียนเถ้าแก่มันเป็นแบบนี้ครับ ดูเหมือนชามต่างชาติคนนั้นจะนัดคนเอาไว้แต่อีกฝ่ายนั้นยังไม่มาเขาก็เลยต่อว่าว่า “คนจีนนั้นไร้ความรับผิดชอบ!”และนั่นก็ทําให้ชายหนุ่มคนนั้นโกรธจนเริ่มทะเลาะกับอีกฝ่ายครับ”
สู่เว่ย “…”
ไม่รับผิดชอบต่อเวลาหรอ?
แล้วเจสันก็เป็นคนเชิญเขามาที่นี่วันนี้ไม่ใช่รึยังไง?
หรือถ้าจะให้พูดก็คือเจสันคนนั้นต่อว่าฉันว่าเป็นคนไร้ความรับผิดชอบ?
ใบหน้าของอู่เว่ยดําเป็นก้นหม้อทันที
ฉันมาถึงก่อนเวลาและฉันก็มาหาที่นั่งรอนั่นก็เลยเป็นความผิดของฉัน?
“หึ! ด้วยทัศนคติแบบนี้ยังคิดจะร่วมธุรกิจกับฉันอีกหรอ? ให้ตายเถอะ!”
ในเวลานี้สถานการณ์ในร้านนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว
เจสันยังคงหยิ่งผยอง
เขานั้นถือว่าตัวเองนั้นเป็นคนผิวขามที่ครอบครองทรัพยาการณ์สูงที่สุดในโลกและเขานั้นก็เริ่มไม่พอใจประเทศจีนที่กําลังก้าวข้ามประเทศของเขาดังนั้นเขาเลยอึดอัดจนต้องระบายด้วยการเหยียดหยามออกมา
และสุดท้ายมันก็กลายมาเป็นแบบนี้
คําพูดดูถูกเหยียดหยามดังออกมาจากปากของเขา
และก่อให้เกิดความไม่พอใจต่อสาธารณะ!
“ตบหน้ามันเลย!”
“ทุบตีมันเลย!”
อารมณ์ของคนในร้านเต็มไปด้วยความเดือด
ในเวลานี้เองผู้จัดการร้านอย่างจ้าวหยวนก็รีบให้พนักงานเข้าไปแยกทั้งสองออก
“ พวกเราเป็นคนจีนนะจะทําอะไรก็ต้องทําให้ดูสง่างามเข้าไว้ผมจะไล่ชายคนนี้ออกไปจากร้าน! ให้เขาต้องอับอายกับคําพูดของตัวเอง!”
ภายใต้การโน้มน้าวของจ้าวหยวนแขกในร้านก็เริ่มสงบลงเล็กน้อย
ชายหนุ่มยกโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาแล้วยิ้ม “ไม่ต้องห่วงผมบังเอิญถ่ายพฤติกรรมของเขาเอาไว้หมดแล้ว ผมจะปล่อยมันลงบนอินเทอร์เน็ตให้ใบหน้าของเขาถูกเผยแพร่ออกไปให้ทั่ว! ให้คนทั้งจีนต่อต้านเขาให้บริษัทกองทุนแอตแลนติกล่มสลายไปกับเขาเลย!”
“ใช่ๆ เอาเลยๆ!”
“ดีเลย!”
หลังจากที่เจสันได้ยินใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
ถ้าเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปจริงๆ ฉันคงจะ
ผู้จัดการร้านข้าวหยวนพูดกับเจสันอย่างเย็นชา “สุภาพบุรุษท่านนี้กรุณาออกจากซินหลงขี่ด้วยครับ ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณอีกแล้ว!”
เจสัน “ฉันก็ไม่ได้อยากมาที่นี่หรอก! แต่ถ้าจะให้ฉันออกไปฉันก็มีเงื่อนไขนายต้องลบวีดีโอของคนๆนั้น!”
จ้าวหยุนหัวเราะเยาะออกมา
ยังจะขอเงื่อนไขอีกหรอ?
ไปบอกกับน้องสาวตัวเองเถอะ!
“รูปภ. ไล่เขาออกไปจากร้าน!”
เจสันโกรธและหัวเราะออกมาเสียงดัง “ฉันฝึกเทควันโด้สายดํามานะและเท้าของฉันมันก็ไม่มีตาด้วย ใครกล้ามายั่วยุมันก็ระวังไว้ ดีๆ!”
เขาวางท่าออกมาทันที่ที่พูดจบ
หลังจากนั้น
รปภ.ธรรมดาๆไม่กี่คนก็จัดการเขาอย่างง่ายดาย!
น่าอายมาก –
จากนั้นเจสันก็ถูกลากออกไปราวกับสุนัขที่ตายแล้ว
เจสัน : ฉันเป็นใคร ฉันอยู่ที่ไหน ฉันกําลังทําอะไรอยู่
ในเวลานี้เองเจสันก็เห็นเจียงเฉินที่กําลังเดินมาพร้อมกับลู่เว่ย
ผู้จัดการร้านจ้าวหยวนรีบวิ่งเข้าไปหาด้วยความกระตือรือร้นก่อนจะทําความเคารพต่อเจียงเฉินทันที่ “สวัสดีครับเถ้าแก่!”
ในเวลานี้เองเจสันก็มองดู เจียงเฉิน ลูเว่ยกับผู้จัดการจ้าวที่อยู่ด้วยกันเขานั้นก็คิดอะไรบางอย่างออกทันที!
“เป็นแก! เป็นเพราะแกแน่ๆ!”
“นายจงใจใส่ความฉันใช่ไหม!”
เจสันชี้ไปที่เจียงเฉินและร้องออกมาด้วยความเศร้าโศกและความขุ่นเคือง
เจียงเฉิน: (°=° // )??
“ฉันทําอะไร?”
ใบหน้าของเขาไร้เดียงสาและว่างเปล่า
“แม่งเอ๊ย!”
เจสันกลับมาที่บริษัทด้วยความรู้สึกโมโห
เขานั้นใช้สมองคิดประมวณผลหากระบวนการที่เจียงเฉินใช้กลั่นแกล้งเขาทันที
(เจียงเฉินจะต้อสู้ว่าฉันนั้นต้องการเชิญลู่เว่ยจากบริษัทไท่เว่ยกรุ๊ปไปพูดคุยเรื่องธุรกิจดังนั้นเจียงเฉินก็เลยวิ่งเข้ามาทําลายโดยการบีบบังคับให้ลู่เว่ยออกจากร้านไปพร้อมกับตัวเอง จากนั้นเจียงเฉินที่เป็นเจ้าของร้านจะต้องสั่งให้ลูกน้องปลอมตัวเป็นแขกแล้วยุยงให้ฉันโดนไล่ออกจากร้านแน่ๆ]
กระบวนการนี้!
ไม่มีปัญหา!
แต่ความผิดพลาดครั้งนี้ของเจสันกลับทําให้เขานั้นต้องพลาดโอกาศทางธุรกิจไป!
“หึ – เจียงเฉินเพราะแกทั้งนั้น!”
“แกทําให้ฉันต้องเสียหุ้นของบริษัทไท่เว่ยไป!”
ภายใต้ความโกรธของเขา เจสันก็อดตวาดออกมาไม่ได้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ แม้แต่อาคารหลังนี้ก็เป็นของเจียงเฉินแถมเขาเองยังต้องมาจ่ายค่าเช่าในราคาที่สูงกว่าปกติถึง 3 เท่า!
“เจียงเฉินนะเป็นศัตรูตัวฉกาจ!”
ในเวลาเลขาสาวเจนนิเฟอร์ก็เดินเข้ามา
“ท่านประธานแผนบริษัทไท่เว่ยของเราล้มเหลวไปแล้วดังนั้นเราก็ควรไปต่อกันที่เป้าหมายถัดไปดีกว่าค่ะ!”
“เอาล่ะ..จากประสบการณ์ของท่านประธาน เป้าหมายต่อไปที่จะเลือกคือบริษัทไหนหรอคะ?”
“ตามความคิดของฉันเราควรไปต่อที่บริษัทจื่อหยวนกรุ๊ปที่เป็นบริษัทที่ทําเกี่ยวกับร้านอาหารที่แพร่กระจายสาขาไปทั่วประเทศเพราะในเวลาไม่กี่เดือนมูลค่าหุ้นของพวกเขาในตลาดก็พุ่งจาก 5.4 พันล้านจนวันนี้ก็มีมูลค่าถึง 7.3 พันล้านและยังมีโอกาศเติบโตขึ้นอีกมากถ้าเราเข้าซื้อมันตอนนี้เราจะต้องได้กําไรจากมันอย่าง แน่นอน
“เป็นการวิเคาระห์ที่ดีมากค่ะ!”
“ฉันจะไปติดต่อประธานบริษัทจื่อหยวนให้เพื่อทําการนัดหมายและไปทานอาหารกันนะคะ!”
“ไปเถอะ”
เจนนิเฟอร์ก้าวหันหลังไปอย่างมั่นใจก่อนจะเดินจากไป
เจสันลุกขึ้นยืนและมองไปทางหน้าต่างก่อนจะมองออกไปดูวิวของเมืองหลวง….
ซวยจริงๆ!
เจสันรู้สึกว่าทุกอย่างมันแย่จริงๆ!
อาคารหลังนี้ก็เป็นของเจียงเฉินแถมเขานั้นยังต้องจ่ายค่าเช่าให้เขาถึง 3 เท่า!
แถมวันนี้เขายังโดนเจียงเฉินวางแผนกลั่นแกล้งทําให้เขานั้นโกรธจนนอนไม่หลับ!
และระหว่างที่เจสันยังนอนไม่หลับนั้นก็มีวีดีโอที่ชื่อ คําพูดที่ไม่ดีของประธานของบริษัทกองทุนแอตแลนติกสาขาประเทศจีน]กระจายออกไปอย่างกว้างขวางในโลกของอินเทอร์เน็ต
ปัจจุบันนั้นจีนถือเป็นหนึ่งในชาติมหาอํานาจดังนั้นคนในประเทศจึงมีความมั่นใจในตัวเองสูงมากและพวกเขานั้นก็รับไม่ได้กับการถูกเหยียดหยามแบบนี้!
ดังนั้นทันทีที่วีดีโอนี้ถูกเผยแพร่พวกมันก็ถูกกดส่งต่อกันอย่างรวดเร็ว!
วีดีโอนั้นลุกเป็นไฟ!
บริษัทกองทุนแอตแลนติกถูกค้นหาอย่างบ้าคลั่ง!
และประธานบริษัทเองก็ถูกค้นหาอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน!
“บริษัทกองทุนแอตแลนติกใช่ไหม? ทุกคนจําเอาไว้ดีๆล่ะ อย่าให้บริษัทนี้ได้ทําเงินจากชาวจีนอย่างเราเด็ดขาด!”
“ใครร่วมมือกับบริษัทกองทุนแบบนี้นี้โง่แล้ว!”
“ในตอนที่พยายามสร้างรายได้จากคนจีนแต่กลับดูถูกคนจีนเขานี่มันโง่จริงๆ!”
“ใครดูถูกประเทศของเราก็ไล่มันออกไปเลย!”
“ประเทศไหนกันแน่ที่คนไร้ความรับผิดชอบ?! บินข้ามกลับแอตแลนติกไปเลย!”
“สิ่งที่น่ารังเกียจที่สุดคือพวกชาวต่างชาติแบบนี้ที่ชอบทําเป็นเก่
“พวกเราคนจีนไม่ได้เหมือนกับคนจีนเมื่อ 100 ปีก่อนแล้วแต่พวกงี่เง่าแบบเขากลับยังทําตัวเหนือกว่าพวกเราอยู่อีก!”
ในไม่นานเหตุการ์ณนี้ก็กลายเป็นฮอตเสิร์ชใน Weibo
สิ่งที่เจสันพูดออกมานั้นทําให้คนจีนทั่วประเทศพากันไม่พอใจเขา
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าบนโลกของอินเทอร์เน็ตแต่คนอย่างเจสันกลับไม่รู้เรื่องอะไรแม้แต่น้อยเพราะเขานั้นยังคงชินกับInstagram Facebook และ Twitter มากกว่า Weibo ที่เป็นช่องทางของสื่อหลักในจีน
เจสันเขียนข้อความลงบน Twitter ของเขา “ตั้งแต่ที่ผมมาประเทศจีน ผมยังไม่มีความรู้สึกที่ดีกับที่นี่เลย…”
ไม่นานข้อความของเขาก็เต็มไปด้วยการกดไลค์และความคิดเห็นมากมาย
และไม่นานเจนนิเฟอร์ก็โทรมาหาเจสัน
“ท่านประธานคะ ฉันได้ติดต่อกับเลขาของประธานบริษัทจื่อหยวนแล้วคุณจางยี่เขาได้จัดตารางให้ท่านประธานของเขากับท่านประธานไปทานอาหารเย็นกันที่ศาลาจุ่ยเซียนโหลวในตอนเย็นในเวลาสามวันต่อจากนี้ค่ะ!”
เจสันพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ทําได้ดีมาก!”
ในเวลานี้เองเจสันก็นึกอะไรบางอย่างได้เขาจึงถามออกไปทันที “เจฟฟ์นีย์ศาลาจุ่ยเซียนโหลวมีใครเป็นเจ้าของและใครบ้างที่ถือหุ้น?”
เขานั้นกลัวว่าศาลาจุ่ยเซียนโหลวแห่งนี้จะเป็นของเจียงเฉินอีกเขานั้นไม่ต้องการที่จะตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของเจียงเฉินที่สุดแสนจะร้ายกาจอีกแล้ว
เจนนิเฟอร์ “…”
ท่านประธาน ทําไมคุณถึงต้องกลัวเจียงเฉินขนาดนั้นกัน?
คุณเป็นถึงประธานของบริษัทกองทุนแอตแลนติกสาขาจีนนะ!
คุณต้องจัดการเขาให้อยู่หมัดและปล่อยกลิ่นอายที่เหนือกว่าออกมาสิ!
เจนนิเฟอร์เองก็มีความสามารถไม่น้อยเลยเธอนั้นสามารถหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและเธอนั้นก็ตรวจสอบจนมั่นใจแล้วว่าไม่มีชื่อของเจียงเฉินอยู่ในผู้ถือหุ้นของศาลาจุ่ยเซียนโหลว!
เจสันถอนหายใจด้วยความโล่งอก “แค่ไม่มีเจียงเฉินคนนั้นก็พอแล้ว”
เจนนิเฟอร์ : 77 77
สามวันต่อมา
ขณะที่เจียงเฉินกําลังขับตี้ตี้เขานั้นก็ได้รับโทรศัพท์จากหลินซีหลาน
“สามี คืนนี้ไปทานอาหารกันหน่อยไหม?”
เจียงเฉินประหลาดใจเล็กน้อย “โอเค เธออยากไปที่ไหนล่ะ?”
หลินซีหลาน “ฮิฮิ พ่อของฉันจองห้องส่วนตัวให้เราที่ศาลาจุ่ยเซียนโหลวนะ เขาบอกว่ามันเป็นรางวัลสําหรับสามีภรรยาคู่นี้ที่ช่วยกันไขคดีล่าสุดได้!”
เจียงเฉิน “อึม! งั้นเดี๋ยวฉันไปรับเธอตอนเย็นๆนะ”
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนถึงเวลานัดของทั้งสอง
เจียงเฉินมาถึงประตูกองตํารวจอาชญากรรมและรับหลินซีหลานกลับมาบ้านและดูเธอนั้นเปลี่ยนจากชุดเครื่องแบบมาเป็นชุดลําลอง
ทั้งสองนั่งรถโรลส์-รอยซ์ แฟนธอมและมาลงที่ศาลาจุ่ยเซียนโหลว
“พ่อขี้เหนียวของฉันยอมจ่ายเงินมากขนาดนี้ให้เรามากินข้าวมันน่าแปลกจริงๆนะ ”
หลินซีหลานยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเผยให้เห็นลักยิ้มทั้งสองของเธอ เธอนั้นชอบบรรยากาศของศาลาจุ่ยเซียนโหลวมาก
ทั้งคู่ถ่ายภาพตลอดทางที่เดินเข้าไปและเจียงเฉินก็ถ่ายภาพของเธอออกมาอย่างสวยงาม
“สามี นี่ห้องส่วนตัวของเรา…..
หลินซีหลานกับเจียงเฉินเข้าไปในห้องส่วนตัวของทั้งคู่ในศาลาจุ๊ยเซียนโหลวและในเวลานี้เองเจสันก็มาถึงทางเข้าของศาลาจุ่ยเซียนโหลว
เขานั้นมาด้วยรถ Cadillac ที่ดูหรูหรา!
มาในชุดสูทและรองเท้าหนังดูแล้วไม่ธรรมดาเลย!
เจสันนั้นพยายามอย่างดีที่สุด เขานั้นจะต้องแสดงความแข็งแกร่งของตัวเองต่อหน้าประธานของบริษัทจื่อหยวนเพื่อให้อีกฝ่ายนั้นยอมร่วมธุรกิจกับเขา!
และในเวลานี้เองจางเจียยี่ประธานของจื่อหยวนกรุ๊ปก็มาถึง
จางเจียยออกมาจากรถ Audi A3 ธรรมดาๆคนหนึ่ง (เลียนแบบการทําตัวติดดินมาจากเจียงเฉิน)
เจสัน: “???”
เขาน่ะหรอประธานของจื่อหยวนกรุ๊ป?
นี่…ทําไมเขาทําตัวติดดินจัง?
เจสันจับมือกับจางเจียอี้อย่างกระตือรือร้น “คุณจาง ยินดีที่ได้พบครับ”
จางเจียอี้ตอบกลับ “คุณเจสัน ยินดีที่ได้พบครับ”
“ไปกันเถอะ ไปทานอาหารกันครับ…”
“ไปด้วยกันเลยครับ”
ทั้งสองเดินไปพร้อมๆกัน
เจสันหันไปมองที่ลานจอดรถอย่างอดไม่ได้
เยี่ยม!
ไม่มี Tesla สีแดง!
นั่นก็คงหมายความได้ว่าที่นี่ไม่มีเจียงเฉิน!
เจสันอดไม่ได้ที่จะถอนหาจใจออกมาด้วยความโล่งอก
ตราบใดที่เจียงเฉินไม่ได้อยู่ใกล้ๆที่นี่เพื่อขัดควางเขา เขาก็มั่นใจว่าเขาจะสามารถทําธุรกิจได้อย่างราบลื่น!
ในห้องส่วนตัวเจสันคุยเรื่องรายละเอียดความร่วมมือกับจางเจี่
เจสันนั้นตั้งใจที่จะร่วมลงทุนกับจื่อหยวนกรุ๊ปด้วยการเข้าซื้อหุ้นจาก 10% จากหุ้นทั้งหมด
ตามแผนธุรกิจของเขาที่ได้เสนอไปกับคณะกรรมการก่อนที่เขาจะมาที่นี่นั้นเขานั้นคิดวิเคราะห์มันมากว่า 10,000 รอบ!
“ประเทศจีนนั้นมีประชากรจํานวนมากและธุรกิจของจื่อหยวนกรุ๊ปนั้นก็มีคนใช้บริการจํานวนมากและมูลค่าของบริษัทของคุณก็ เพิ่มขึ้นตลอดเวลาตอนนี้ผมจึงสามารถพูดได้ว่าการเข้าซื้อหุ้นกิจการของคุณนั้นจะเป็นการคุ้มค่าในระยะยาวและสามารถทํากําไร ได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว!”
และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทําให้เจสันนั้นให้ความสําคัญกับจางเจียอี้มาก
แต่แน่นอนว่าข้อในใจของจางเจียอี้นั้นตั้งไว้สูงมาก
“คุณวางแผนที่จะเข้าซื้อหุ้น 10% ของจื่อหยวนกรุ๊ปของผมใช่
ไหม?”
“ใช่ครับ!”
“โอเคครับ!”
” แต่ละหุ้นไม่สามารถซื้อได้ในราคาตลาด!”
“เนื่องจากมูลค่าตลาดหุ้นในปัจจุบันของกลุ่มจื่อหยวนกรุ๊ปของเราพุ่งสูงขึ้น และตอนนี้ร้านอาหารหลายแห่งกําลังอยู่ในระหว่างกา รก่อสร้างคาดว่าจะพุ่งสูงขึ้นในอีกไม่กี่เดือน และตอนนี้มีหุ้นเพียง แค่ 1.2%เท่านั้นที่หมุนเวียนในตลาด แม้ว่าคุณจะซื้อหุ้นทั้งหมดของบรรดานักลงทุนรายย่อยคุณก็ไม่สามารถบรรลุเป้าหมา ยการเข้าซื้อของคุณได้!”
“ดังนั้นการเข้าซื้อหุ้นทั้ง 10% นั้นราคาของหุ้นจะอยู่ที่ 300%จากราคาของหุ้นในตลาด ณ เวลานี้!”
“พรุด!”
เจสันที่กําลังจิบไวน์ก็ต้องพ่นออกมาจากจมูกของเขา
ฉากนี้ชั่งน่าดูจริงๆ!
“300%!”
เจสันหันมาทันที “ทําไมคุณไม่ปล้นผมไปเลยล่ะ?!”
ราคา 3 เท่า!
ราคาที่สูงจากราคาตลาด 3 เท่า!
จางเจียอี้นั้นเคยได้ยินมาว่าเจสันนั้นมาประเทศจีนพร้อมกับเงินมหาศาลเพื่อเข้ามาลงทุนในประเทศเป็นวงกว้างแต่เขานั้นยังไม่รู้มาว่าเจสันนั้นเคยโอ้อวดและเหยียดหยามคนจีนมาก่อน!
จางเจียอี้ยักไหล่ “ถ้าคุณยอมรับไม่ได้ ความร่วมมือของเราก็คงไม่มีวันเป็นจริงหรอกครับและแน่นอนว่าคงไม่มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คนไหนยอมขายหุ้นให้กับคุณด้วย!”
เจสันรู้สึกเจ็บปวด
ตั้งแต่ที่เขานั้นเข้ามาในประเทศจีน ดูเหมือนว่าแผนการทางธุรกิจที่คณะกรรมการบริษัทแม่อนุมัตินั้นยังไม่สามารถเดินหน้าได้แม้แต่ก้าวเดียว–
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปมันคงอันตรายมาก!
ในกรณีแบบนี้คณะกรรมการจะต้องหาประธานคนใหม่มาแทนที่เขาแน่ะ
เจสันคิดหนักมาก!
ก็ได้!
7300% ผมตกลง!”
เจสันอ้าปากรับเงื่อนไขอันโหดร้านของจางเจียอี้
“และในสัญญาการซื้อขายที่คุณจะเซ็นในอนาคตนั้นก็จะมีการระบุเอาไว้ว่าคุณจะต้องวางเงินมัดจําจํานวน 100 ล้านดอลลาร์และถ้าคุณกลับคําพูดคุณจะไม่มีสิทธิ์รับเงินก้อนนี้คืน!”
จางเจียอี้ยิ้มออกมาราวกับเขานั้นเป็นจิ้งจอกเฒ่าก่อนจะพูดข้อตกลงทันที
เจสันครุนคิดอยู่ครู่หนึ่งแม้ว่าเขานั้นไม่อยากจะให้เงิน 100 ล้านดอลลาร์ทันทีแต่เขานั้นก็จําเป็นต้องสร้างความคืบหน้าของบริษัทบ้าง!
ดังนั้นเขาจึงได้แต่กัดฟันตอบตกลง!
“ไม่ ผมต้องการเซ็นสัญญาตอนนี้เลย!”
เจสันนึกถึงประสบการณ์อันเจ็บปวดในการเช่าอาคารศูนย์กลางทางการเงินที่อยู่ๆราคาก็เพิ่มเป็น 2 เท่าแล้วก็ 3 เท่าในเวลาเพียงแค่ 1 วันพูดได้เลยว่าหลังจากที่เขานั้นพบกับประสบการณ์แบบนั้นไปแล้วเขานั้นก็กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมาอีกในตอนนี้
เขานั้นไม่กล้าที่จะไปเซ็นสัญญาวันพรุ่งนี้ดังนั้นเขาจึงพยายามที่จะทําทุกวิถีทางเพื่อเซ็นสัญญาภายในคืนนี้ให้ได้ริน
จางเจียอี้ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
ผู้ถือหุ้นทุกท่าน! เรามานั่งนับเงินกันเถอะ!
ด้วยคลื่นลูกนี้บริษัทจื่อหยวนกรุ๊ปของเราจะได้เงินเป็นกอบเป็นกํา!
และกองทุนแอตแลนติกจะต้องกระอักเลือด!