เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ - 202 : ทําไมนายเอาเงินมาให้อีกแล้ว??
เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ
ตอนที่ 202 : ทําไมนายเอาเงินมาให้อีกแล้ว??
ตัดกลับมาทางฝั่งของเจียงเฉิน
ตอนนี้เจียงเฉินกําลังทานอาหารกับหลินซีหลานในห้องส่วนตัว และทันใดนั้นโทรศัพท์ของเขาก็สั่น
เขาหยิบมันขึ้นมาดูแล้วก็ต้องตกตะลึงกับข้อความที่แจ้งเข้ามา!
โคุณได้รับการโอนเงินจากบัญชีต่างประเทศเป็นจํานวน 17,000,000.00 ดอลลาร์สหรัฐ
หมายเหตุ เป็นเงินปันผลกําไรจากบริษัทจื่อหยวนกรุ๊ป
เจียงเฉินกระพริบตา
นอกจากนี้หลินหลานเองก็ตกตะลึง!
เธอนั้นเพิ่งเข้ามาทานอาหารกับเจียงเฉินและเธอนั้นก็ไม่ได้เห็นว่าเจียงเฉินนั้นคุยโทรศัพท์หรือทําธุรกิจกับใครเลย เขาแต่แต่นั่งกินข้าวกับเธออย่างเดียว
แต่จู่ๆก็มีเงินจํานวน 17 ล้านดอลลาร์ถูกโอนเข้ามาในบัญชีของเขา?
นี่นับแล้วมันก็เท่ากับ 100 ล้านหยวนเลยนะ!
สามีของฉันจะน่าทิ้งเกินไปแล้ว —
“สามีคะ เงินนี้มาจากไหนหรอ”
หลินซีหลานกระพริบตาและอดไม่ได้ที่จะถามออกมาด้วยความสงสัย “นายยังไม่ได้คุยธุรกิจกับใครเลยด้วยซ้ํา!”
“เอ่อ ”
เจียงเฉินพูดอออกมา “จริงๆแล้วฉันเองก็ไม่รู้น่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า!”
พรูด!
หลินซีหลานแทบจะล้มลงไปกองกับพื้น
คําตอบนี้น่าประหลาดใจจริงๆ
อันที่จริงเจียงเฉินเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเงิน 17 ล้านดอลลาร์ที่เข้าบัญชีของเขานั้นมันมาได้ยังไง!
เจสันเซ็นสัญญากับจางเจี่ยอี้ด้วยความตื่นเต้น เขานั้นดื่มเข้าไปอีกหลายแก้ว ก่อนจะออกมาเข้าห้องน้ํา
ในห้องน้ํา เขานั้นก็กลับมาทําตัวหยิ่งยโสอีกครั้ง นิสัยของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย เขานั้นเริ่มทะเลาะกับผู้ชายชาวจีนอีกครั้ง
“เจ้าพวกไร้คุณภาพ!” เจสันเหยียดหยามออกมา “ฉันคนอเมริกันโว้ย! ฉันเข้าก่อน! เข้าใจไหม!”
ชายชาวจีนคนนั้นโกรธมากเขานั้นกําลังจะต่อว่าออกไป แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างออกมาได้ “แกเป็นประธานบริษัทกองทุนแอตแลนติกใช่ไหม?”
คนทั้งห้องน้ําหันมาสนใจทันที
“เป็นเขาหรอ?”
เจสันได้รับความสนใจจากทุกคนในห้องน้ําทันที!
หลายคนพากันโมโหแล้วชี้ไปที่เจสันกันที่ละคน
“ใช่ เขาจริงๆด้วย!”
“กินอาหารของพวกเราแถมยังทุบหม้อข้าวของพวกเราอีก!”
“เมื่อกี้เห็นได้ชัดว่าเขาจงใจเหยียดพวกเรา! เขายังเหยียดว่าพวกเราเป็นคนไร้คุณภาพ!”
เจสันหงุดหงิดมากเขาไม่เข้าใจว่าประเทศจีนนั้นเป็นยังไงกันแน่ ตอนเขาอยู่ต่างประเทศไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่กล้ายั่วยุเขา แต่ทําไมพอมาถึงประเทศจีนเขากลับโดนประณามแบบต่อหน้าแบบนี้
หรือว่าพลังของเงินไม่ใช่พลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแล้ว?
อย่าบอกนะว่าตัวเอกจาก Wall Street แบบเขาไม่สามารถเดินทอดน่องในประเทศจีนได้?
เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ
ในเวลานี้เองจางเจี่ยอี้ก็เดินเข้ามาได้ยินพอดี
เขานั้นเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทันที
ตอนนี้เองก็เขาถึงได้รู้ว่านับตั้งแต่ที่เจสันมาประเทศจีน เขานั้นก็ก่อเรื่องขึ้นมามากมาย
ซึ่งเขาจางเจี่ยอี้ไม่เคยรู้มาก่อน
สับสน!
เจสันคนนี้กล้าทําเรื่องฆ่าตัวตายแบบนี้ด้วยหรอ?
ในเวลานี้เองเจสันก็หันมาเห็นจางเจี่ยอี้ เขานั้นรู้สึกราวกับว่าตัวเองพบเชือกให้ยึดเกาะทันที!
“ประธานจาง! มาช่วยผมหน่อยเถอะ ไอ้พวกขยะไร้คุณภาพ! พวกนี้มันไม่หลบทางให้ผม! บัดซบ! เวลาของผมแค่ 1 นาทีก็มีค่าเท่ากับเงินหลายแสนดอลลาร์แล้ว! พวกเขาทําให้มันไร้ค่า!”
การแสดงออกของคนจีนนั้นเริ่มโมโหเข้าไปทุกที
“โอ้ เวลาของแกมีค่ามากงั้นสินะ! งั้นเราก็ควรขวางทางเขาให้นานกว่านี้ดีไหม?!”
“เจ้าคนต่าชาติ แกกล้าพูดแบบนี้ที่จีนใช่ไหม!”
“ทําตัวแบบนี้ในประเทศของพวกเราคิดว่าตัวเองเจ๋งนักรียังไง? ใครทําให้แกมั่นใจขนาดนี้?”
เจสันตะโกนขอความช่วยเหลือทันที “คุณจาง ช่วยเอาพวกขยะนี้ออกไปหน่อยครับ!”
เอาออกไป?
กล้าคิดจริงๆ?!!
จางเจี่ยอี้ยกอกขึ้นมา ก่อนจะพูดออกมาอย่างมีคุณธรรมและน่าเกรงขามต่อหน้าทุกคน
“ทุกคน ผมไม่รู้จักเขา จะทุบตีเขาก็เชิญเลยครับ!”
หลังจากที่จางเจี่ยอี้พูดจบเขาก็หันหลังและเดินจากไปทันที!
“ขอโทษนะแต่เราไม่รู้จักกันอีกต่อไป!”
เจสันอึ้ง!
ให้ตายเถอะ เมื่อกี้พวกเรายังชนแก้วกันอยู่เลยไม่ใช่หรอ? แล้วทําไมตอนนี้กลายเป็นไม่รู้จักกันแล้วล่ะ?
แล้วทันใดนั้นก็มีหนุ่มหล่อเดินเข้ามา
เจียงเฉิน!
เขากับหลินซีหลานก็มาทานอาหารกันที่นี่!
และเจียงเฉินนั้นก็ไม่ได้รู้เรื่องของเจสันแม้แต่น้อย!
เจสันมองมาที่เจียงเฉิน
และทันใดนั้นเขาก็คิดอะไรขึ้นได้
ฉันควรจะคิดได้ตั้งนานแล้ว!
จะต้องเป็นเจียงเฉินที่มุ่งเป้ามาที่ฉันแน่!
เจสันตะโกนออกมาด้วยความโกรธจัด “เป็นแกอีกแล้ว! เจียงเฉิน!”
เจียงเฉินตกตะลึง….
ครั้งนี้เขานั้นมาทานข้าวกับแฟนสาวจริงๆ และเขาก็ไม่ได้คิดว่า เขาจะมาเจอกับเจสันด้วยซ้ํา
“เกิดอะไรขึ้น?”
เจียงเฉินแบมือ.jpg
“อย่ามาทําเป็นไม่รู้เรื่อง!” เจสันพูดออกมาด้วยความอารมณ์เสีย “เรื่องที่ฉันมาที่นี่นายจงใจบอกมาที่นี่กับคนพวกนี้แล้ว ให้พวกเขามาล้อมฉันไว้ใช่ไหม?”
เจียงเฉินหัวเราะออกมาก่อนจะมองไปที่เขาด้วยสายตาที่ราวกับกําลังมองคนปัญญาอ่อนอยู่
จากประสบการ์ณของฉัน ฉันก็ขี้เกียจที่จะคุยกับนายแล้ว
ในเวลานี้จางเจี่ยอี้ก็ก้าวเข้ามาหาเจียงเฉินอย่างกระตือรือร้น
“คุณเจียง คุณได้รับเงินปันผลจากบริษัทของเราแล้วหรือยังครับ? คุณมีหุ้น 17.6% ดังนั้นเงินที่โอนเข้าไปก็น่าจะประมาณ 17.6 ล้านดอลลาร์นะครับ!”
จางเจี่ยอี้หัวเราะออกมาก่อนจะพูดต่อ “คุณเจสันคนนี้เขามาติดต่อขอซื้อหุ้นของบริษัทเราในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด 3 เท่า และจํานวนหุ้นที่เขาต้องการนั้นอยู่ที่ 10% และเขาก็ได้เซ็นสัญญาและวางเงินมัดจําไปแล้ว ซึ่งเงินมัดจํานี้หากเขานั้นเปลี่ยนใจเขาก็จะไม่ได้กลับคืน!”
เจียงเฉินรับรู้ได้ทันทีเลยว่าเงิน 17 ล้านที่เพิ่งเข้ามาในบัญชีของเขานั้นเป็นเงินของเจสัน!
“ราคา 3 เท่า? ทําได้ดีมาก!”
เจียงเฉินยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดกับเจสัน “ขอบคุณมากนะเจสัน! ที่ให้เงินกับพวกผม!”
ความโกรธของเจสันพุ่งทะยาน
ที่แท้เจียงเฉินนั้นเป็นผู้ถือหุ้นของจื่อหยวนกรุ๊ป
แถมยังถือมากถึง 17.6%!!
ในใจของเจสันเต็มไปด้วยความเสียใจ!
ทําไมตั้งแต่ที่เขามาที่จีนทุกอย่างที่เขาทํานั้นทําไมต้องมีเจียงเฉิน เป็นส่วนเกี่ยวข้องด้วย?
ด้วยความต้องการแสดงความแข็งแกร่ง+กระหายความสําเร็จ สุดท้ายเขาก็ถูกเงื่อนไขของเจียงเฉินเล่นงาน และทําให้เขาต้องเสียเงินให้กับเจียงเฉินเป็นเงินจํานวนมาก
นี่มันเอาเปรียบกันชัดๆ!
ตอนนี้เจสันยิ่งมั่นใจมากกว่าเดิม ว่าเจียงเฉินนั้นต้องเป็นคนที่ทําให้เขาเป็นแบบนี้แน่!
“ทั้งหมดนี้เป็นกับดักของนาย!”
เจสันเริ่มหมดความอดทนด้วยเขาพูดออกมาอย่างรวดเร็ว “แกหลอกฉัน!”
“ฉันสาบานได้นะ ฉันไม่ได้ทําจริงๆ!”
เจียงเฉินแบมือออกอย่างบรสุทธิ์ใจก่อนจะสายหน้าให้เจสัน “อย่างไรก็ตามผมก็ต้องขอบคุณสําหรับเงิน 17.6 ล้านดอลลาร์จากคุณล่ะนะ! แถมยังต้องขอบคุณที่ยอมจ่ายในราคา 3 เท่าด้วย! และมูลค่าทรัพย์สินของผมเองก็ยังพุ่งสูงขึ้นไปเป็นหลักพันล้านแล้วด้วย!”
ด้วยหุ้นจํานวน 17.6% ของเจียงเฉินหลังจากที่เจสันนั้นยอมซื้อ ด้วยราคาพิเศษมันก็อาจจะทํามูลค่าหุ้นในมือของเจียงเฉินนั้นขึ้นไปแตะหลักพันล้านได้อย่างไม่ยากเย็น!
ดวงตาของเจสันเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธ!
หนึ่งพันล้าน!
เขานั้นทํางานแทบตายได้อย่างมาก็แค่ 250 ล้าน!
แต่เขากลับทําให้เจียงเฉินได้พันล้านเนี่ยนะ?!
มันจะเป็นไปได้ยังไง?
“ฉันไม่เอาแล้ว!”
เจสันตะโกนออกมา “ฉันขอถอนตัว! ฉันไม่ทําสัญญาบ้านแล้ว! นี่! ฉันจะรอดูก็แล้วกันถ้าฉันถอนตัวออกไปแกจะมีปัญญาได้เงินหนึ่งพันล้านไหม?! และตอนนี้ก็คืนเงินมาได้แล้ว!”
จางเจี่ยอี้หัวเราะออกมา “ขอโทษด้วยครับ ตามสัญญา! หากทางฝั่งของคุณหรือกองทุนแอตแลนติกนั้นทําผิดสัญญาที่คุณเพิ่งจะลงนามไป [ฝ่ายกองทุนแอตแลนติกไม่สามารถแสดงความคิดที่ไม่เหมาะสมออกมาได้ มิฉะนั้นจะถือว่าเป็นฝ่ายกองทุนแอตแลนติกที่ละเมิดสัญญาเพียงฝ่ายเดียว!] ดังนั้นตอนนี้ทางจื่อหยวนกรุ๊ปนั้นจะขอถือว่าฝ่ายของกองทุนแอตแลนติกได้กระทําการละเมิดสัญญาโดยอัตโนมัติ!”
“มีเงื่อนไขแบบนั้นด้วยหรอ?” เจสันตะโกนถามออกมา
“แน่นอนว่ามี มันอยู่ที่หน้าที่ 7” จางเจี่ยอี้หยิบสัญญาออกมาแสดง
“ปกติแล้ว มันอยู่ที่หน้า 7” จางเจี่ยอี้เย้ยหยันและชี้ให้เห็นเงื่อนไขในสัญญา
เงื่อนไขนี้มีอยู่จริง!
เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาสัญญาทุกอย่างในประเทศจีนที่มีความเกี่ยวข้องกับต่างประเทศต่างก็มีเงื่อนไขนี้อยู่ในสัญญากันทั้งนั้น!
และตอนนี้เจสันเองก็ไม่ต่างกับคนที่กําลังถูกปากกระบอกปืนจ่ออยู่ที่หัว!
เจนนิฟเฟอร์มองดูสัญญาและไม่นานหน้าของเธอก็ซีดลง “ท่านประธาน ตามสัญญาเรานั้นทําผิดสัญญาจริงๆ เงิน 100 ล้านดอลลาร์ที่เราโอนไปให้จื่อหยวนกรุ๊ปนั้นหายสาปสูญไปแล้ว ”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจิตใจของเจสันก็ตกลงเหวไปอีกครั้ง
100 ล้านดอลลาร์นั้นคือ 700 ล้านหยวน!
เจียงเฉินเพียงคนเดียวก็ได้เงินไปกว่า 100 ล้านหยวนโดยที่ไม่ต้องทําอะไรทั้งนั้น!
เจสันตะโกรออกมา “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่เชื่อ แกต้องโกหกฉันแน่ๆ!”
ในเวลานี้เองเจียงเฉินก็หันไปขอโทษกับชาวจีนที่อยู่รอบๆ “ผมต้องขอโทษกับทุกๆท่านสําหรับความประมาทของจื่อหยวนกรุ๊ป เรานั้นไม่คิดมาก่อนว่ากองทุนแอตแลนติกนั้นจะกล้าทําอะไรแบบนี้! ดังนั้นในฐานะที่จื่อหยวนกรุ๊ปของเรานั้นเป็นบริษัทของชาวจีน ดังนั้นเราจึงจะไม่มีการร่วมมือกับทางกองทุนแอตแลนติกอีกต่อไปอย่างแน่นอน…”
คําพูดขอโทษของเจียงเฉิน ไม่เพียงแต่จะขจัดความไม่พอใจของทุกๆคน แม้แต่จางเจี่ยอี้เองก็ยังรู้สึกว่าด้วยคําพูดนี้มันจะต้องทําให้จื่อหยวนกรุ๊ปนั้นสามารถผ่านพ้นความผิดครั้งใหญ่นี้ไปได้
มีเสียงปรบมือดังขึ้นมา
“ทําได้ดีมาก!”
“ผมขอสนับสนุนจื่อหยวนกรุ๊ปของคุณ! หากวันหน้ามีโอกาศ ผมจะขอเชิญคุณมาทานอาหารกับผมด้วย!”
“จัดการพวกชาวต่างชาติแบบนี้ก็ถือว่าชดใช้ได้แล้ว!”
เจสันกระอักเลือดออกมา
พรูด
ไม่เพียงแต่เขาจะสามารถเอาเงินของฉันไปได้ถึง 100 ล้านดอลลาร์เท่านั้น เขากลับยังได้รับคําชมอีกได้ทั้งชื่อเสียงและเงินทองในเวลาเดียวกัน!
ร้ายกาจมาก!
เจสันกลับมาที่บริษัทและตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
“ฉันโกรธแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว!”
“ไม่ได้การฉันต้องรีบจัดการเป้าหมายถัดไปให้ได้แล้ว!”