เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ - 227 : ความยิ่งใหญ่ที่ประเมินไม่ได้
ตอนที่ 227 : ความยิ่งใหญ่ที่ประเมินไม่ได้
เจียงเฉินนั้นปฏิบัติต่อคนรอบตัวของเขาอย่างดีเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่หลังจากที่เขานั้นได้อยู่กับเอเวลเมื่อไม่กี่วันก่อน
เขานั้นคิดว่าผู้หญิงคนนี้ทั้งหน้าตาดี บุคลิกดีและนิสัยที่ดีมาก
แต่เธอมีปัญหาอะไรกันล่ะ?
เจียงเฉินคิดเรื่องนี้อยู่ซักพักก่อนจะตัดสินใจนัดกับเธอ
“นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้วเราไปทานอาหารกันหน่อยไหม?”
“ก็ได้ค่ะ แต่ฉันยังไม่อยากอาหารหรอกนะคะ”
เสียงของเอเวลเบาลง
“ร้านซินหลง”
เจียงเฉินยิ้ม “ร้านอาหารมิชลินสามดาว คงจะเพิ่มความอยากอาหารให้คุณได้อยู่นะ”
“โอ้! ฉันอยากไปแล้วสิ”
เอเวลรู้สึกประหลาดใจมาก “แต่ฉันได้ยินมาว่าร้านนี้เป็นที่นิยมมากนะ และต้องทำการจองล่วงหน้าหลายเดือนด้วย”
“ไม่ต้องกังวล”
เจียงเฉินพูดออกมา “นั่นมันร้านของฉันเอง จะไปตอนไหนก็ได้”
เอเวล “!!!”
นี่ฉันประเมินความสามารถของเขาต่ำไปหรอ?
ตอนเที่ยงเจียงเฉินก็ไปรับเอเวลมาที่ร้านซินหลง
เมื่อเจ้าของร้านมา ผู้จัดการร้านซินหลงจีก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก เขาพาคนมาต้อนรับด้วยตัวเองก่อนจะพาไปห้องพิเศษชั้นบน
ในร้านซินหลงจี๋เจียงเฉินนั้นมีห้องพิเศษส่วนตัวที่ไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปใช้บริการอยู่ซึ่งมันเป็นห้องที่มีไว้สำหรับเขาเท่านั้น
เจียงเฉิน : ฉันเป็นคนเก็บตัว!
หลังจากทานอาหารกับเอเวลเสร็จเจียงเฉินก็ถามออกมา “เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ? ทำไมช่วงนี้เธอถึงดูกังวลไม่เหมือนตอนปกติ”
เอเวลดูเหมือนจะไม่อยากพูด “ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆค่ะ”
“เราเป็นเพื่อนกันนะ”
เจียงเฉินพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “บางที ผมอาจจะสามารถช่วยคุณได้นะ”
เอเวลรู้สึกซาบซึ้งใจมากมากเสียจนเธออยากเข้าไปจูบเขา
แต่เธอก็หยุดความคิดของเธอลงทันที
“ก็ได้”
เอเวลมุ่ยปากของเธอ “มีเรื่องในครอบครัวของฉันน่ะ”
“ที่บ้านหรอ?”
เจียงเฉินนั้นจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เขานั้นถามเอเวลเกี่ยวกับครอบครัวของเธอ แต่เอเวลก็ปฏิเสธที่จะพูดออกมาว่าภูมิหลังของครอบครัวของเธอนั้นเป็นยังไง
ปกติแล้วเอเวลนั้นจะอยู่ตัวคนเดียว เธอดูเหมือนจะไม่มีเพื่อนหรือญาติเลย แต่เจียงเฉินนั้นกลับรู้สึกว่าครอบครัวของเธอนั้นจะต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ!
เธอนั้นเป็นถึงผู้นำในวงการแฟชั่น เป็นทั้งประธานบริษัทเธอนั้นมีวินัยในตัวเองสูงมากและยังเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองตลอดเวลา
และที่แปลกไปกว่านั้นก็คือรสนิยมของเธอในด้านของความหรูหราและสุนทรียภาพที่เหนือกว่าคนทั่วๆไป
เธอนั้นแต่งตัวราวกับนางแบบที่พร้อมกดหัวผู้หญิงธรรมดาได้ทุกวินาที
เธอนั้นสามารถยืนหยัดอยู่บนโลกของแฟชั่นได้ด้วยความสามารถที่ยอดเยี่ยมและวิสัยทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ
และด้วยสิ่งเหล่านี้มันทำให้เธอนั้นมีกลิ่นอายราวกับชนชั้นสูง
กลิ่นอายของชนชั้นสูงแบบนี้มันไม่ใช่สิ่งที่ครอบครัวธรรมดาสามารถปลูกฝังให้ได้
เจียงเฉินเองก็รู้สึกว่าเธอนั้นมีกลิ่นอายราวกับขุนนางจากยุโรป
“อืม-”
เอเวลมองเจียงเฉิน “แม่ของฉันคือราชินีแห่งโบฮีเมีย!”
“อะไรนะ?!”
เจียงเฉินตกตะลึง “โบฮีเมีย? อาณาจักรโบฮีเมียที่อยู่ใจกลางของยุโรป?”
โบฮีเมียนั้นเป็นประเทศขนาดกลางในยุโรปที่ค่อนข้างมีการพัฒนาและมีค่าจีดีพี่ค่อนข้างสูง
เจียงเฉินนั้นคาดไม่ถึงเลยว่าแม่ของเอเวลนั้นจะเป็นถึงราชินีแห่งโบฮีเมีย!
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเอเวลถึงได้สวยขนาดนี้
“แต่พ่อของฉันเป็นคนจีนนะ”
เอเวลนั้นไว้ใจเจียงเฉินเป็นอย่างมากเธอพูดออกมา “เมื่อ 20 กว่าปีก่อน เขาเดินทางไปที่โบฮีเมียและได้ตกหลุมรักกันกับแม่ของฉันจนมีฉันขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นราชวงศ์โบฮีเมียนั้นก็ไม่อนุญาติให้เจ้าหญิงผู้สูงส่งแต่งงานกับผู้ชายชาวจีนธรรมดาได้ และทางราชวงศ์นั้นก็ต้องการให้แม่ของฉันไปแต่งงานกับราชวงศ์อื่นๆในยุโรป ดังนั้นพ่อกับแม่ของฉันก็เลยต้องแยกทางกัน”
เจียงเฉินรู้สึกว่านี่มันคือเรื่องที่ใหญ่มาก!
บังเอิญว่าพ่อของเอเวล เดินทางไปต่างประเทศแถมยังคว้าหัวใจของเจ้าหญิงจากต่างประเทศได้ด้วย?! สุดยอด!!
(เจียงเฉิน : เอ๊ะ! ทำไมฉันต้องพูดถึงพ่อตาด้วย?)
“หลังจากนั้นแม่ของฉันก็ไม่คิดจะแต่งงานอีก เธอนั้นให้กำเนิดฉันขึ้นมาและอุทิศตนเพื่อเลี้ยงดูฉัน”
เอเวลปัดผมยาวของเธอ ผมสีบลอนด์และดวงตาสีดำขลับทำให้เธอนั้นเต็มไปด้วยเสน่ห์ของสาวลูกครึ่ง
“ฉันนั้นโตขึ้นมาในยุโรปและเรียนหนังสือที่ประเทศอังกฤษ…”
เอเวลพูดออกมาอย่างหดหู “แม่ของฉันที่มีสถานะเป็นเจ้าหญิงแต่ด้วยการที่เธอตั้งครรภ์ลูกนอกสมรสทำให้คนในราชวงศ์ต่างก็พากันดูถูกเธอตลอดเวลา แม่ของฉันเลยมักจะไม่มีความสุขและต้องใช้ชีวิตอย่างหดหู”
“เธอเป็นราชินี้ไม่ใช่หรอ ทำไมคนอื่นๆถึงกล้ารังแกเธอล่ะ?”
เจียงเฉินถามออกมา
“ราชินี มันก็แค่ตำแหน่งที่ไร้ประโยชน์เท่านั้น”
เอเวลยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ถึงเธอจะสูงส่งแต่ลุงๆกับป้าๆของฉันพวกเขานั้นก็ยังคงโลภในบัลลังก์ของกษัตรย์ ดังนั้นตั้งแต่ที่กษัตริย์องค์ก่อนได้เลือกแม่ของฉันเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ พวกเขาก็อิจฉาและดูถูกเธอมาตลอด”
เจียงเฉินพยักหน้า
การแย่งมรดกเวอร์ชั่นราชวงศ์ยุโรปนี่เอง!
แม่ของเอเวลนั้นเป็นถึงเจ้าหญิงแต่กลับตั้งครรภ์ลูกนอกสมรสและได้ให้กำเนิดลูกสาวที่มีเชื้อสายชาวจีนออกมา แต่สุดท้ายเธอกลับยังได้เป็นราชินี ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมดยุคและดัชเชสถึงปฏิเสธที่จะยอมรับตัวเธอ
“ฉันเคยเอาแต่ถามแม่ของฉันว่าพ่อของฉันเป็นใคร แต่เธอก็ไม่เคยบอกฉันเลย”
เอเวลพูดออกมาอย่างเศร้าๆ “ตั้งแต่ที่ฉันยังเด็กฉันนั้นก็ยังไม่เคยมีพ่อเลย”
เจียงเฉินที่ได้ฟังก็ยังต้องรู้สึกสงสารเธอเขานั้นคิดไม่ถึงเลยว่าเธอนั้นจะซ่อนเรื่องแบบนี้เอาไว้ใต้นิสัยที่ดูแน่วแน่ของเธอแบบนี้
ดวงตาของเอเวลเป็นประกายและพูดออกมา “แต่พอฉันอายุได้ 18 ปีแม่ของฉันเธอก็ได้รับตำแหน่งราชินีอย่างเต็มตัวและสุดท้ายเธอก็บอกกับฉันว่าพ่อของฉันนั้นเป็นคนจีน และเธอนั้นก็ให้ฉันมาที่ประเทศจีนเพื่อทำการตามหาเขาเพราะพวกเขานั้นไม่ได้ติดต่อกันมาหลายปีแล้ว”
“ดังนั้นฉันก็เลยมาที่เมืองหลวงเพื่อตามหาเขาและทำในสิ่งที่ตัวฉันอย่างจะทำ…”
“จากนั้นฉันก็พบกับนาย”
เอเวลมองไปที่เจียงเฉินด้วยความพึงพอใจ
เจียงเฉินยิ้มออกมา
ราชินีแห่งราชวงศ์ยุโรปและชายชาวจีนได้ให้กำเนิดลูกครึ่งสาวที่ชื่อเอเวลขึ้นมา และเธอก็เดินทางมาหาพ่อของเธอจนกระทั่งได้มาพบกับเขา
“งั้นแสดงว่าคุณกำลังปลอมตัวอยู่งั้นสินะ – คุณเจ้าหญิง?”
เจียงเฉินกระพริบตา
“ค่ะ”
เอเวลยิ้ม “ฐานะอย่างเป็นทางการของฉันก็คือเจ้าหญิงแห่งโบฮีเมีย ทายาทเพียงหนึ่งเดียวของราชินีโบฮีเมีย และชื่อเต็มของฉันก็คือ เอเวล ฟอน ฮับส์บวร์ค!”
เจียงเฉินตกตะลึง
อะไรนะ!
เรื่องบังเอิญอะไรขนาดนี้?
นี่ฉันกำลังมีความสัมพันธ์จากเจ้าหญิงของยุโรป!
แถมยังเป็นทายาทของราชวงศ์ใหญ่ของยุโรปด้วย?!
ความคิดมากมายผุดขึ้นมาต่อหน้าเจียงเฉิน
ไม่แปลกใจเลย–
ทำไมเอเวลถึงได้กลายเป็นประธานของนิตยสารแฟชั่นชั้นนำของจีนได้ตั้งแต่อายุยังน้อย
และยิ่งไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเอเวลถึงได้ชำนาญเรื่องสินค้าหรูหราเป็นพิเศษ ทั้งยังมีเรื่องสุนทรียศาสตร์ ศิลปะและแฟชั่น
เจ้าหญิงของราชวงศ์ยุโรปไม่รู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน?
ความลึกลับของเธอถูกคลี่คลายออกมาพร้อมกับการเปิดเผยตัวตนของเธอ!
“เธออยู่ในราชวงศ์ฮับสบวร์คหรอ?”
เจียงเฉินเคยได้ยินเกี่ยวกับราชวงโบราณนี้มาก่อน!
มันสุดยอดมาก!
ตระกูลนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นบรรพบุรุษของราชวงศ์ของประเทศในยุโรป!
เกือบทุกราชวงนั้นจะมีสายเลือดนี้อยู่หลังจากผ่านการแต่งงาน
“ตระกูลฮับส์บวร์คเป็นราชวงศ์ของโบฮีเมียและยังมีความใกล้ชิดกับราชวงศ์อื่นๆในยุโรปมาก”
เอเวลพยักหน้า
“แล้วเธอเจอพ่อรึยัง?”
เจียงเฉินถาม
“ยัง!”
เอเวลพูดออกมาด้วยความลำบากใจ “ข้อมูลติดต่อที่แม่ของฉันทิ้งไว้ให้มันก็เก่าเกินไปแล้ว ตอนนี้ข้อมูลของพ่อของฉันมีน้อยมากมีเพียงแค่แซ่ของเขาเท่านั้นนั่นก็คือแซ่อ้าย!”
“เอเวล.อ้ายเว่ย(ชื่อจีนของเอเวล) เป็นแบบนี้นี่เอง ดูเหมือนแม่ของเธอจะฝากความคิดถึงพ่อของเธอเอาไว้บนชื่อของเธองั้นสินะ”
เจียงเฉินพยักหน้า
“ใช่แล้ว”
เอเวลขมวดคิ้ว “ฉันยังมีรูปของแม่ของฉันอยู่ด้วย นายดูสิ”
เจียงเฉินมองไปที่รูป ในรูปมีผู้หญิงคนหนึ่งที่มีใบหน้าคล้ายกับเอเวลกำลังยืนอยู่ใกล้าชิดกับชายชาวจีน
ชายชาวจีนคนนี้หล่อมากเลยทีเดียว แต่ด้วยเวลาที่ผ่านไปมากกว่า 20 ปีใบหน้าของเขาน่าจะเปลี่ยนไปมากพอสมควร
และการที่เอเวลนั้นมีรูปภาพนี้เพียงรูปเดียวและข้อมูลที่ได้มาจากผู้เป็นแม่ว่าเขานั้นมีแซ่อ้ายมันจึงไม่น่าแปลกเลยว่าทำไมการหาตัวเขาถึงยากมาก
“แล้วช่วงนี้เธอมีปัญหาอะไรหรอ?”
เจียงเฉินขมวดคิ้ว
“ฉันกังวลนะ ”
เอเวลพูดออกมาอย่างหดหู “แม่ของฉันบอกฉันว่าเมื่อสองสามวันก่อนมีเจ้าชายจากโบเฮเมียกำลังมาที่จีนเพื่อตามหาฉัน!”
เจียงเฉิน
มารดามันเถอะหรือว่าองค์หญิงจะต้องไปนัดบอด?!
“ชายคนนั้นชื่อว่าจอห์น เขาเคยไปราชวิทยาลัยกับฉันตั้งแต่เรายังเป็นเด็ก”
เอเวลพูดออกมาด้วยความหดหู “เขานั้นไล่ตามฉันมาตั้งแต่เรายังเป็นเด็ก แต่ฉันไม่ได้ชอบเขาแม้แต่น้อย ฉันเองก็คิดไม่ถึงว่าฉันที่หนีมาจีนแล้วยังจะต้องมาถูกเขาไล่ตามอีก และเท่าที่ฟังจากแม่ของฉันแล้วดูเหมือนว่าเขามาเพื่อขอฉันแต่งงาน-!”
“ขอแต่งงาน?”
“ครอบครัวของเขาเดิมทีก็เป็นขุนนางที่มีอำนาจมากมากที่สุดในโบฮีเมีย”
เอเวลทำหน้าบึงและพูดออกมา “แม้แต่ตอนนี้ ครอบครัวของเขาก็ยังครอบครองปราสาท คฤหาสน์และธุรกิจมากมาย พวกเขาร่ำรวยมากและมีจอห์นเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัว เขานั้นมักจะทำตัวโอ้อวดมาตั้งแต่เด็กและใฝ่ฝันที่จะเป็นกษัตริย์องค์ต่อไปแต่เมื่อนับตามสายเลือดของเขาแล้วสายเลือดของเขานั้นยังอยู่ต่ำกว่าฉันอยู่”
“แต่ถ้าเขาได้แต่งงานกับคุณ เขาก็จะได้เป็นกษัตริย์ใช่ไหม?”
เจียงเฉินถามออกมา
เอเวลพยักหน้า “เขานั้นไล่ตามฉันมาตั้งแต่เขายังเด็ก แต่ฉันนั้นก็ไม่เคยมีความรู้สึกดีๆกับเขาเลยจนฉันเองก็ยังสงสัยว่าตัวเองยังชอบผู้ชายอยู่ไหมจนกระทั่งฉันได้มาเจอกับนาย ฉันถึงได้รู้ว่าปัญหามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าฉันชอบผู้ชายรึเปล่า แต่มันคือคนที่ใช่ต่างหาก…”
“แค่ก แค่ก” ใบหน้าของเอเวลเปลี่ยนเป็นสีแดง “เมื่อไม่กี่วันก่อน เขาโทรหาฉันแล้วบอกฉันว่าเขาจะมาเยี่ยมฉันที่เมืองหลวงเร็วๆ
“แม้ว่าเขาจะบอกว่าแค่มาเยี่ยม แต่ฉันก็รู้ดีว่ามันก็แค่คำแก้ตัวเขานั้นจะไล่ตามฉันทุกวิถีทางอย่างแน่นอน”
เอเวลพูดออกมาด้วยความรำคาญ “คนๆนี้มันน่ารำคาญจริงๆ”
“เข้าใจแล้ว”
เจียงเฉินยิ้ม “งั้นก็หมายความว่า เขานั้นเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานต้องการจะแต่งงานกับเธอก็เพื่อที่จะได้กลายเป็นกษัตริย์ถูกต้องไหม?”
“ประมาณนั้น”
เอเวลขมวดคิ้ว
“เธอน่าจะบอกฉันก่อนนะ”
เจียงเฉินยิ้ม
เอเวลตกตะลึง “???”
เจียงเฉินพูดออกมาอย่างหยิ่งผยอง “ถ้าคุณไม่ชอบเขาแล้วจะยังยอมให้เขาเข้ามายุ่งอยู่ในชีวิตของคุณอยู่ไปทำไม ตราบใดที่เขายังอยู่เขาก็จะใฝ่ฝันว่าตัวเองกำลังจะได้เป็นกษัตริย์! ดังนั้นไม่ต้องกังวลเดี๋ยวฉันจัดการให้!”
“ค่ะ”
เอเวลรู้สึกตื่นเต้นแต่ก็กังวลอยู่ “แต่จอห์นเขาร่ำรวยและมีอำนาจมากจริงๆนะ ครอบครัวของเขานั้นเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดเก่าแก่ที่สุดและมีอำนาจมากที่สุดในโบฮีเมียเลยนะ! แม่ของฉันที่เป็นราชินีก็ยังไม่สามารถจัดการกับพวกเขาอย่างตรงไปตรงมาได้! ฉันไม่อยากสร้างปัญหาให้นายเลยจริงๆนะ”
“ปัญหาหรอ?”
เจียงเฉินยิ้มออกมา
“ให้เขามาเถอะ เพราะฉันคิดว่าคนที่มีปัญหาจริงๆก็คือเขานั่นแหละ!”
ในเวลานี้เองเที่ยวบินของสายการบินลุฟท์ฮันซ่าก็ค่อยๆลงจอดที่เมืองหลวง
ชายหนุ่มจากยุโรปผู้มีผมสีบลอนด์ในชุดสูทหรูหรายืนขึ้นจากที่นี่ซึ่งผู้โดยสารชั้นหนึ่งก็ค่อยๆเดินลงจากเครื่อง
“ฮืม! นี่หรอประเทศจีน?”
“ยังล้าหลังกว่าประเทศโบฮีเมียของเราอยู่มาก!”
“เอ๊ะ! ประตูอัตโนมัตินี่มันคืออะไรกัน?”
พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่อยู่ข้างๆก็พูดตอบด้วยสีหน้านิ่งๆ “นี่เป็นเครื่องตรวจจับอุณหภูมิผู้โดยสารอัตโนมัติของสนามบินค่ะ! หากผู้โดยสารคนไหนที่มีไข้เครื่องก็จะสามารถระบุได้ทันที คุณไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อนหรอคะ?”
ชายหนุ่มผู้ดูหยิ่งยโส “…”
เอ๊ะ!
อับอาย!
ชายหนุ่มผู้หยิ่งยโสไอออกมาก่อนจะพูดอย่างเฉยเมย “ฮิม! ยุโรปของเราไม่มีอะไรแบบนั้นเลย! สิ่งนี้มีไปก็ไร้ประโยชน์ ประเทศของพวกคุณควรกำจัดสิ่งนี้ทิ้งนะ!”
แอร์โฮสเตส “…”
คนโง่คนนี้เป็นใครกัน?
ชายหนุ่มผู้หยิ่งยโสเดินออกจากสนามบินและมีรถหรูสองคันคอยต้อนรับเขาอยู่
กลุ่มแม่บ้านและผู้ช่วยชาวยุโรปทักทายเขาด้วยความเคารพ
“ท่านดยุค!”
คนที่เดินผ่านมาตกตะลึง!
“บังเอิญจริงๆ นี่คือ-ดยุคงั้นหรอ?!”
“คนๆนี้เป็นขุนนางจากยุโรปหรอ?!”
“หล่อมาก!”
“โรแมนติกจัง ฉันอยากจะเป็นเจ้าหญิงของเขาจริงๆ”
กลุ่มหญิงสาวตะโกนออกมาอย่างคลั่งไคล้
ในที่สุดความหยิ่งผยองของชายหนุ่มก็ฟื้นคืนกลับมา “ชาวจีนเป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ พวกไม่เคยเห็นโลก! ฮ่ม! แค่ตำแหน่งขุนนางของยุโรปก็เป็นคนได้แล้ว แต่
“ฉันคนนี้ไม่ใช่ขุนนางธรรมดา!”
“ฉันคือผู้มีสิทธิ์สืบทอดบัลลังก์ลำดับที่สองแห่งโบฮีเมีย!”
“ดยุคจอห์น!”
เมื่อมองดูผู้หญิงจีนจำนวนมากกำลังกร็ดออกมา แววตาของเขาก็ปรากฏความดูถูกเรียดหยาม
“คนจีนที่ต่ำต้อยแบบนี้จะมาเทียบกับฉันที่เป็นขุนนางแห่งโบฮีเมียผู้สูงศักดิ์ได้ยังไง
“พวกเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะกร็ดใส่ฉันคนนี้!”
“เพราะฉันถูกกำหนดมาแล้วให้เป็นกษัตริย์องค์ต่อไปของโบฮี เมีย!”
หลังจากพูดจบเขาก็หันไปถามผู้ช่วยของเขาที่อยู่ข้างๆ “ที่ฉันสั่งให้ตามหาเจ้าหญิงเอเวล พวกนายพบเธอไหม?”
“พบแล้วครับ!”
ผู้ช่วยพูดออกมาด้วยความเคารพ “เราพร้อมแล้วครับ”
“ดีมาก”
จอห์นยิ้มเยาะออกมา “เมื่อการขอแจ่งงานของฉันประสบความสำเร็จ ฉันจะพาเอเวลกลับไปที่โบฮีเมียและแต่งงานกับเธอที่นั่น ทันทีอากาศของประเทศนี้ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดจริงๆแม้แต่ครู่เดียวฉันก็ไม่อยากอยู่อีกแล้ว!”
รถหรูวิ่งออกไป
“แต่… ”
ผู้ช่วยดูเหมือนมีเรื่องที่ไม่อยากจะพูดออกมา
“มีอะไรผิดปกติ?”
จอห์นขมวดคิ้ว
“หลังจากที่พวกเราตามหาตัวเจ้าหญิงเอเวลเจอพวกเราก็พบว่า–
ผู้ช่วยพูดออกมาอย่างอายๆ “เธอดูเหมือนจะมีแฟนแล้วครับ!”
“อะไรนะ?!”
จอห์นตกตะลึง!
“แฟน? เอเวล เธอเป็นเจ้าหญิงจากโบเฮเมียนะ เธอจะมีแฟนอยู่ที่จีนได้ยังไง?”
“มันเป็นใครกัน?”
“ครับ– เป็นหนุ่มจีนที่หล่อเอามากเลยครับ!”
ผู้ช่วยพูดออกมาอย่างระมัดระวัง
เขานั้นรู้ดีว่าจอห์นจะต้องไม่พอใจกับข่าวนี้แน่
แต่ความจริง–
จอห์นเดือดเลยมากกว่า!
“ปัง!”
ด้วยความโกรธของเขา จอห์นปาแก้วไวน์ลงกับพื้นของรถเบนท์ลี่ย์ทันที!
“บัดซบ! ทำไมเอเวลถึงกล้าเพิกเฉยต่อฐานะตัวเอง?!”
ดวงตาของจอห์นเปลี่ยนสีด้วยความโกรธ “แม่ของเธอที่เป็นราชินีองค์ปัจจุบันก็พบรักกับคนจีนจนทำให้สายเลือดราชวงศ์ต้องแปดเปื้อน! เจ้าหญิงที่มีสายเลือดชั้นต่ำจากประเทศจีนต้องกลายมาเป็นทายาทลำดับที่หนึ่ง แค่นี้มันก็ทำให้ราชวงศ์ต้องอับอายมากพออยู่แล้ว! แม้สุดท้ายงานอภิเษกสมรสจะถูกยกเลิกไปแต่มันก็ทำให้ราชวงศ์ต้องเสียหน้า คิดไม่ถึงว่า…”
เขากัดฟันพูดออกมา “เอเวล จะเดินตามรอยของราชินีอีกครั้งจริงๆ! แล้วไปรักกับไอ้พวกคนจีน!”
จอห์นนั้นดูถูกคนจีนเป็นอย่างมากโดยเฉพาะผู้ชายชาวจีน
แม้ว่าเขานั้นจะโตมากับเอเวลตั้งแต่ยังเด็ก และเขานั้นก็รู้สึกว่าเอเวลที่เป็นลูกครึ่งนั้นสวยมากแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังต่อต้านคนจีนอยู่ดี
ดังนั้นไม่ต้องพูดเลยว่าเขานั้นจะโกรธมากแค่ไหนเมื่อได้ยินข่าวว่าเอเวลนั้นไปพบรักกับคนจีน!
เมื่อมองไปที่เจ้าชายที่กำลังโกรธจัดผู้ช่วยก็ไม่กล้าพูดออกมา
“ฮึ!”
ในดวงตาสีเขียวของจอห์น ความเยือกเย็นปรากฏขึ้นมา “คนๆนั้นทำอาชีพอะไร”
“เหมือนว่าจะ…”
ผู้ช่วยพูดออกมาอย่างลังเล “เป็นคนขับตี้ตี้ครับ!”
“อะไรคือตี้ตี้?”
“เป็นอาชีพที่ขับรถให้คน…”
“เพลง”
เจ้าชายจอห์นทำแก้วตกแตกด้วยความตกตะลึง
“คนขับรถ?”
จอห์นไม่อยากจะเชื่อ
“ใช่ครับ พวกเราติดตามเขามาสองวันแล้วและพวกเราก็พบว่าเจ้าหญิงเอเวลกับเขาออกเดทกับคนขับรถจริงๆ”
ผู้ช่วยรู้สึกอับอาย
พูดตามตรง ตอนที่พวกเขาได้พบกับความจริงพวกเขาเองก็ยังตกใจมาก
แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีเรื่องให้น่าตกใจอย่างเจ้าหญิงแห่งโบฮีเมียพบรักกับชายชาวจีนแล้วให้กำเนิดลูกขึ้นมาแล้ว แต่เรื่องในครั้งนี้ชวนตกใจยิ่งกว่ามาก!
และเรื่องครั้งก่อนนั้นก็ทำให้ราชวงศ์นั้นอับอายเป็นอย่างมาก!
ราชวงศ์แห่งโบฮีเมียนั้นไม่ต่างจากตัวตลกในสายตาของราชวงศ์อื่นๆ และถูกพวกเขานั้นก็ถูกปฏิเสธการแต่งงานติดต่อกันมาหลายปีแล้ว
ถ้า
เรื่องนี้มันเกิดขึ้นอีกครั้ง
ราชวงศ์แห่งโบฮีเมียก็จะต้องอับอายอีกครั้ง!
“ยกโทษให้ไม่ได้เด็ดขาด!”
หน้าผากของเจ้าชายจอห์นปรากฏเส้นยาวออกมา “ไป ไปหาพวกเขาเดี๋ยวนี้!”
ผู้ช่วย “รับทราบครับ!”