เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 235 ในที่สุดก็รู้เรื่องน่าสยองของคุณหนูฉิน
ตอนนี้เฉิงมู่ต้องการไปหาคนสวนเพื่อเอาดอกไม้ของฉินหร่าน
แม้ช่วงนี้เขาจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกซ้อม แต่ว่าเฉิงเจวี้ยนส่งเขาไปทำงานในส่วนของตัวเองเขาจึงไม่กล้าขัดคำสั่ง เขาต้องคอยสังเกตลักษณะของดอกไม้ทุกเช้ากลางวันเย็น
ตอนนี้ก็น่าจะถึงเวลาแล้ว เขากำลังไปหาคนสวนเพื่อตรวจสอบเรื่องดอกไม้ของฉินหร่านอีกครั้ง
เมื่อคนสวนเห็นเฉิงมู่มาสวนดอกไม้ทุกวันเพื่อย้ายดอกไม้ เดิมทีคิดจะเข้าไปช่วยเฉิงมู่ แต่โดนเฉิงมู่ปฏิเสธกลับมาอย่างเด็ดขาด
ไม่มีอะไรต้องปิดบังเรื่องหุ่นยนต์ของกู้ซีฉือ ทั้งเฉิงเจวี้ยนกับฉินหร่านก็ไม่ได้ว่าอะไรเขาอยู่แล้ว
เมื่อเฉิงหั่วถาม เขาจึงพูดออกไปด้วยท่าทีสงบนิ่ง
เฉิงมู่พูดจบก็มองเฉิงหั่วทีหนึ่ง เฉิงหั่วกับเจอร์รี่ยังยืนอยู่ที่เดิม ท่าทีไม่ต่างอะไรกับเมื่อครู่
เฉิงมู่หันหลังด้วยความรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
เขาคิดว่าเมื่อพูดออกไปแล้วเฉิงหั่วจะสะดุ้งตกใจเสียอีก
ในใจของเฉินมู่รู้สึกเสียดาย พลางพูดด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกว่า “งั้นฉันไปหาคน…”
กำลังจะพูดคำว่า “ไปหาคนสวน” ไม่ทันจบ
เสียง “ป๊าบ” ดังขึ้น
หัวของเขาโดนคนตบอย่างแรงทีหนึ่งเป็นการจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว เฉิงมู่เกือบจะซวนเซล้มลงไปแล้ว ยังดีที่ไม่โดนจุดตาย! อย่างมากก็แค่รู้สึกมึนงง นอกจากเฉิงมู่รู้สึกเจ็บแต่ก็ไม่ได้มากไปกว่านั้น
เพียงหันหัวกลับมาอย่างแข็งกร้าว ดวงตาดำทมิฬทั้งสองข้างจ้องเขม็งเฉิงหั่วในทันที
เฉิงหั่วเกาหัว เดินรอบตัวเฉิงมู่อยู่สองสามรอบ ทั้งอดไม่ได้ที่จะยื่นกำปั้นต่อยศีรษะของเฉิงมู่ “นายรู้จักกับเสี่ยวเฮยดีขนาดนั้น ทำไมถึงไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้ล่ะ?!”
เป็นหุ่นยนต์ที่เหมือนกับเสี่ยวเฮย ทั้งยังชื่อเสี่ยวเอ้อร์
ระบบEAถูกติดตั้งในหุ่นยนต์เพียงแค่สามตัว ตัวแรกอยู่ที่หนี่หวัง ตัวที่สองอยู่บ้านของพวกเขาที่นี่ ส่วนอีกตัวตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ยังไม่ปรากฏ
EA2ตัวนั้นก็น่าจะเป็นเสี่ยวเอ้อร์เพื่อนของฉินหร่าน
เป็นเรื่องบังเอิญหรือที่ทั้งหมดเกี่ยวข้องกัน เฉิงหั่วฟันธงได้เลยว่าฉินหร่านคือบุคคลสำคัญของอวิ๋นกวงกรุ๊ป
ดังนั้นหน่วยข่าวกรองของเขาปล่อยให้คนสำคัญขนาดนี้เดินเล่นอย่างเปล่าประโยชน์อยู่ตั้งนานทำไม?
เฉิงมู่รู้อยู่แก่ใจแต่กลับไม่พูด เฉิงหั่วยังคงจ้องเฉิงมู่ต่ออย่างเงียบๆ
“เรื่องนี้เหรอ” เฉิงมู่ลูบหัวตัวเองไปมา พลางมองเฉิงหั่วโดยไม่มีแม้แต่คำขอโทษใดๆ แสร้งพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกว่า “ครั้งแรกที่ฉันเห็นพวกนายที่คฤหาสน์ ก็รู้สึกเหมือนนายในตอนนี้เนี่ยแหละ”
พูดจบ เขาก็เดินออกจากประตูใหญ่ไปในที่สุด
เฉิงหั่ว “…”
ตอนนี้เขาไม่ตื่นตระหนกตกใจอะไรอีกแล้ว รอศึกษาโค้ดนี้ให้เสร็จก่อนค่อยไปกระทืบมันอีกรอบหนึ่ง!
เจอร์รี่ที่ยืนพยุงไม้เท้าอยู่เพิ่งได้สติหลังเฉิงมู่เดินจากไปสักพักแล้ว เขาหันมาถามเฉิงหั่ว “คุณ…คุณเฉิงหั่ว คุณหนูฉินเป็นสมาชิกคนสำคัญจริงๆ เหรอครับ?”
เนื้อหาของโค้ดพวกนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจยากจริงๆ เพราะปกติ มีความเป็นไปได้น้อยมากที่เจอร์รี่จะหาช่องโหว่ของซอร์สโค้ดไม่เจอ แต่อาทิตย์ที่ผ่านมานี้เขาไม่รู้จะทำอย่างไรกับมันแล้วจริงๆ
ตอนที่พวกเขาอยู่กับถังชิงก็เคยได้รับการแจ้งเตือนในบางจุด ใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์พยายามใช้ความสามารถทั้งหมดของคนในหน่วยข่าวกรองก็ไม่ประสบผลสำเร็จในการแก้ไขโปรแกรมโค้ด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรหัสสามบรรทัดหลังที่สุดแสนจะเข้าใจยาก
เมื่อเปรียบเทียบดูแล้ว เจอร์รี่กับเฉิงหั่วถึงรับรู้ได้ว่าฉินหร่านในตอนนี้คือที่สุดของอัจฉริยะ
“ถึง…ถึงว่า…” ก่อนหน้านี้เจอร์รี่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเฉิงเจวี้ยนจึงพาผู้หญิงที่ดูอ่อนแอคนหนึ่งกลับมาด้วย ต่อหน้าทุกคนล้วนให้ความเคารพ แต่ในใจค่อนข้างเคลือบแคลงอยู่บ้าง
ในตอนนี้เจอร์รี่ถึงรู้ถึงความน่ากลัวของฉินหร่านแล้ว…
เธอเป็นคนธรรมดาซะที่ไหน…
คนเช่นนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเฉิงมู่กับเฉิงสุ่ยถึงให้ความเคารพขนาดนั้น
เจอร์รี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นมองเฉิงหั่วด้วยสายตาคึกคะนอง “คุณชายเฉิงหั่ว คนของหน่วยข่าวกรองเราทำบุญมาดีใช่หรือไม่?!”
เก่งระดับเซียนแบบนี้ยังถูกพวกเขาหาเจออีกหรือ?
เฉิงหั่วใจเย็นลงแล้วก่อนผงกหัวอย่างใจลอย จากนั้นมองรูปภาพในมือ
นี่คือเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค ลูกน้องของผู้บัญชาการเฉียน
เฉิงหั่วมีหน้าที่รับผิดชอบจัดการลงทะเบียนสมาชิกเก่าและใหม่ของสมาคมแฮ็กเกอร์มาโดยตลอด ใบลาออกของเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคคนนั้นจึงอยู่ในมือของเขาเรียบร้อยแล้ว
น้อยมากที่สมาคมแฮ็กเกอร์จะมีคนถอนตัวออก
ดังนั้นเมื่อเห็นเรื่องสมาชิกด้านเทคนิคลาออก เฉิงหั่วรู้สึกสนใจอยู่บ้าง เดิมทีคิดจะถามเฉิงมู่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคคนนั้น แต่ถูกเฉิงมู่ปั่นหัวจนลืมสนิท
“ไปเถอะ” เฉิงหั่วลูบหน้าตัวเองจากนั้นมองไปยังเจอร์รี่ “ส่งโค้ดให้นายก่อน”
แน่นอน ทั้งสองคนรู้เพียงแค่ว่าฉินหร่านคือสมาชิกสำคัญ ถ้ารู้ว่าเครื่องหมายดอกป๊อปปี้บนตัวหุ่นยนต์ก็มาจากฝีมือเธอ เรื่องนี้ต้องทำเฉิงหั่วหนีออกจากบ้านจริงๆ เสียแล้ว
**
เช้าวันรุ่งขึ้น
คุณชายลู่บินกลับประเทศแต่เช้า
ทั้งนี้ถังชิงไม่รับรู้เรื่องมาก่อน มีเพียงฉินหร่าน เฉิงเจวี้ยน ไม่กี่คนเท่านั้นที่ลาส่งคุณชายลู่
“ลูกครึ่งอเมริกันอย่างพวกเธอมีศัตรูเยอะใช่หรือไม่?” คุณชายลู่ก้มหัวพันผ้าพันคอให้เรียบร้อย สายตาไม่ได้มองฉินหร่านกลับจับจ้องไปยังเฉิงเจวี้ยน
เฉิงเจวี้ยนลืมตามอง ตอบอย่างเอื่อยเฉื่อยว่า “ไม่ครับ ไม่มีใครกล้าหือหรอกครับ”
คุณชายลู่ “…งั้นเหรอ”
เขายันประตูรถด้านหลัง กำลังขึ้นรถ ก่อนจากไปก็หันกลับมามองเฉิงเจวี้ยนและฉินหร่านรอบหนึ่ง วัยรุ่นพวกนี้พอเติบใหญ่แล้วก็สวยหล่อกันจริงๆ ไม่แปลกใจทำไมคุณยายลู่ถึงถูกใจนัก
ได้แต่คิดอยู่สักพักแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป เพียงนั่งบนรถของทางคฤหาสน์แล้วจากไป
เฉิงเจวี้ยนกล่าวลาด้วยถ้อยคำที่สุภาพยิ่ง “แล้วเจอกันครับคุณลุงลู่”
เฉิงหั่วที่อยู่ด้านหลัง เมื่อเห็นรถเดินทางออกไปแล้ว ก็หันไปถามเฉิงสุ่ยด้วยความตื่นเต้นว่า “คุณชายลู่ผู้นี้น่าจะมาหาฉินหร่านโดยเฉพาะมั้ง?”
เขาเห็นถังชิงที่มีท่าทีเย็นชา เหมือนไม่ได้มาเพราะถังชิงจริงๆ
ก่อนจากไปก็ไม่ได้ทักทายกับถังชิง ดูท่าแล้วความสัมพันธ์ของคุณชายลู่ผู้นั้นกับคนในบ้านคงไม่ดีเท่าไหร่นัก
เฉิงสุ่ยละสายตา หันกลับมามองเฉิงหั่ว พูดด้วยน้ำเสียงเนิบนาบว่า “เป็นแบบนั้นจริงๆ”
“การทดสอบของพวกคุณที่นี่เป็นยังไงบ้าง?” เงารถของคุณชายลู่หายลับไปแล้ว ฉินหร่านถึงเอียงตัวมองเฉิงเจวี้ยน ระยะหลังมานี้สองคำที่เธอได้ยินบ่อยที่สุดคือคำว่า ทดสอบ
ยังมีเวลาเหลือไม่ถึงสิบวัน
ยิ่งใกล้สิ้นปีด้วยแล้ว ฉินหร่านรู้สึกว่าการทดสอบคลับคล้ายกับการสอบปลายภาคอยู่บ้าง
เฉิงเจวี้ยนละสายตา ก่อนยื่นมือดึงผ้าพันคอของเธอ พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ก็เป็นการแข่งขันประเภทหนึ่งที่มียอดฝีมือหน้าใหม่”
แต่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปราสาทเก่าในทุกปี บรรยากาศคึกคักยิ่ง ครั้งนี้ฉินหร่านมาทันเวลาทดสอบพอดี
“งั้นก็น่าสนุกน่ะสิ…” ฉินหร่านรองมือไว้ท้ายทอย พูดจาอย่างสนอกสนใจ
เฉิงหั่วกับเฉิงสุ่ยที่อยู่อีกด้านได้ยินดังนั้น ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกกลัวจนตัวสั่น
ทั้งสองสบตากัน ทันใดนั้นก็คิดถึงเรื่องข้อมูลสถิติ 1321 อันน่าสยดสยองในห้องฝึกซ้อมชั้นหนึ่งขึ้นมาได้…
**
ผ่านไปอีกหนึ่งอาทิตย์
เฉิงหั่วที่อยู่แต่ในห้องมาตลอดเก้าวันแล้วก็ยังไม่ออกมา ในที่สุดก็วิจัยซอร์สโค้ดสามบรรทัดได้จำนวนหนึ่งแล้ว
เขาหยิบโทรศัพท์แจ้งข่าวให้เจอร์รี่ จากนั้นถือคอมเดินตรงไปที่ลานฝึกซ้อม
ตอนที่เดินเข้าไป เฉิงมู่กำลังสู้กับซือลี่หมิงอยู่พอดี
เฉิงหั่วมองดูผ่านๆ ก็เห็นฉินหร่าน “คุณหนูฉิน คุณหนูช่วยผมดูการอัปโหลดโปรแกรมที่หน่วยข่าวกรองได้ไหมครับ!”
ฉินหร่านยื่นมือไปหยิบเสื้อโค้ต ก่อนตอบ “อืม” ออกมาคำหนึ่ง “เอาเถอะ ฉันไปดูกับนายก็ได้”
เฉิงหั่วดีใจอย่างคาดไม่ถึง เขารีบพาฉินหร่านไปที่หน่วยข่าวกรอง
เมื่อเดินถึงหน้าประตูลานฝึกซ้อน เขาย้อนนึกไปถึงตอนที่เขาพึ่งเดินเข้ามาเห็นการต่อสู้ของเฉิงมู่และซือลี่หมิง…
เหมือนกับว่าเขามองไม่ชัดว่าเฉิงมู่ลงมืออย่างไร…
เฉิงหั่วสะบัดศีรษะ สัมผัสได้ว่าตัวเองไม่ได้นอนมาหลายวัน คงเห็นภาพหลอน เขาพาคุณหนูฉินหร่านไปที่หน่วยข่าวกรอง
หลายวันมานี้ถังชิงหงุดหงิดอย่างมาก เมื่อคุณชายลู่กลับไปแล้วก็ไม่มีใครอยากคุยกับเธออีก
อีกทั้งเธอก็รู้ดีว่าคุณลุงของเธอไม่ได้มาเพราะมาหาเธอ
ยิ่งเพิ่มความหัวเสียเข้าไปอีกที่ลุงของเธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับเธอเพียงผู้เดียว เก้าวันมานี้เธออยู่ที่หน่วยข่าวกรองศึกษาซอร์สโค้ดพวกนี้มาโดยตลอด นอกจากคุณลุงจะให้โค้ดนั้นกับเธอแล้ว ดูเหมือนว่าเรื่องอื่นก็ไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย!
เธอทั้งห่อเหี่ยว และไม่อยากเตรียมตัวกับการทดสอบในวันพรุ่งนี้
กลับมาถึงหน่วยข่าวกรองหลังจากลานฝึกซ้อม ก็พบว่ามีคนจำนวนมากรายล้อมฉินหร่าน
แม้แต่เฉิงหั่วและเจอร์รี่ที่หลายวันมานี้ไม่เห็นหน้าก็มาอยู่ที่นี่
“ไม่น่ามีอะไรหรอก พี่ใหญ่ของพวกนายตามหาฉัน ฉันขอตัวก่อนนะ” ฉินหร่านมองอยู่สักพักก่อนเห็นว่าโค้ดทั้งสามบรรทัดไม่มีปัญหาอะไรจึงเดินไปหาเฉิงหั่วเขย่าโทรศัพท์ให้ดู
เฉิงหั่วปิดคอม “เดี๋ยวก่อน คุณหนูฉิน ผมไปกับคุณด้วย!”
เขารีบตามฉินหร่านออกไปด้วยกัน
ดูเหมือนมีไม่กี่คนที่เห็นถังชิงเพิ่งเข้ามา ถังชิงผู้หยิ่งยโสมาโดยตลอดกลับถูกปฏิบัติตัวใส่แบบนี้เหรอ?
เธอเม้มปากหลุบตาต่ำ พลางนั่งลงหน้าคอมที่อยู่ฝั่งของตัวเอง
ก็พบว่าหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเธอมีโค้ดมากมายปรากฏอยู่
“นี่มันรหัสอะไร?” เธอหรี่ตามอง ยื่นมือกดพลิกหน้าที่มีเพียงสองหน้าเท่านั้น เธอเงยหน้าถามผู้ชายที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ด้านข้าง
คนผู้นั้นเงยหน้ามอง จากนั้นตอบว่า “ได้ยินคุณชายเจอร์รี่บอกว่า เป็นหนึ่งในรหัสโค้ดที่คุณหนูฉินเขียนครับ เมื่อครู่คุณชายเฉิงหั่วเพิ่งส่งเข้าคอมพิวเตอร์ของทุกคน ปล่อยให้พวกเราลองศึกษาสักพัก”
“หล่อนเหรอ?”
ถังชิงหัวเราะอย่างเย็นชา จากนั้นใช้เมาส์คลิกเข้าไปแก้ไขหน้าจอ ก่อนลบโค้ดพวกนี้ออกไปทีละอันโดยไม่แม้แต่จะคิด