เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 359 OSTหยางเฟยเพื่อนของคุณ เชิญคุณเข้าร่วมเกม
เห็น bug สามตัวรวมกันอยู่ที่ฉินซิวเฉิน ผู้กำกับก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเยอะมาก
“…พวกเหยียนซีคงไม่ก่อเรื่องอะไรขึ้นหรอกนะ”
ครั้งนี้ผู้ช่วยผู้กำกับลังเลชั่วครู่ “…พวกเราได้คุยกับเถ้าแก่เจ้าของโรงแรมมาก่อน เขาเป็นเพียงแค่เด็กติดเกมคนหนึ่ง ไม่ได้เป็นแฟนคลับอันคลั่งไคล้ของใคร”
ร้านมีชื่อในอินเทอร์เน็ตล้วนแต่ชอบทำกิจกรรมแบบนี้
เรื่องลายเซ็นแลกกับเนื้อย่างคงไม่เกิดขึ้นอีก
**
ฉินซิวเฉินกำลังดูเมนู ได้ยินเสียงของฉินหร่าน เขาก็เอียงคอ ดวงตาสีดำขลับของเขาเป็นประกายเล็กน้อย “ยังเลย เพิ่งจะหาร้านเจอ ที่นี่กินแล้วต้องล้างจานเป็นการแลกเปลี่ยน แต่สามารถลดราคาได้ เธอมากินกับพวกเราสิ”
ผู้เสร็จ ฉินซิวเฉินก็ขยับไปด้านข้างหนึ่งก้าว
“ ไม่เป็นไร” ฉินหร่านมองไปที่โรงแรมอย่างสนใจ โรงแรมแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยอ้างอิงจากการ์ดท่องยุทธภพอย่างสมบูรณ์แบบ ตรงกลางสุดยังมีการ์ดเทพวางอยู่สามใบ ด้านล่างของการ์ดเทพมีแสงสีดำอยู่ห้าสาย “ พวกเราเพิ่งกินเนื้อย่างมาแล้ว”
น้องชายจิ่งเหวินยังคงอุ้มถ้วยเอาไว้ เดินตรงไปยังไป๋เทียนเทียน
พวกฉินหร่านและเหยียนซีทั้งสามคนก็เข้ามาดูการตกแต่งของโรงแรมแห่งนี้ โต๊ะเก้าอี้ในโรงแรมมีไม่มาก แต่พื้นที่กว้างขวางอย่างมาก หลายแห่งล้วนแต่มีแรงบันดาลใจที่มาจากเนื้อหาในเกมท่องยุทธภพ
“ฉันละจนปัญญาจริงๆ สองจานเท่ากับหนึ่งหยวน อาหารที่นี่แพงสุดๆ ไปเลย กินเสร็จพวกเรายังต้องล้างจานเป็นร้อยๆ ใบ ทีมผู้กำกับทำไมทำแบบนี้” จิ่งเหวินพูดไปพลางมองไปยังฉินหร่าน “หร่านหร่าน กินด้วยกันเถอะ กินเสร็จแล้วล้างจานด้วยกัน”
เถ้าแก่นั่งอยู่บนม้านั่ง ท่าทีมั่นคง ดูหนักแน่นที่จะไม่ยอมลดราคาเป็นอันขาด
น้องชายจิ่งเหวินถือถ้วยเนื้อย่าง เดินเข้าไปดูไป๋เทียนเทียนที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ของโรงแรม เขาอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นก็ลองขึ้นเสียงดังมาก “พี่ เทียนเทียนระดับปรมาจารย์หนึ่งดาว อย่างนี้ลดได้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ใช่ไหม!”
ช่างกล้องสองสามคนรีบหันกล้องไปยังไป๋เทียนเทียนอย่างรีบร้อน
เถ้าแก่โรงแรมเป็นชายพูดอายุราวสามสิบปี จากมุมนี้เห็นได้เพียงใบหน้าด้านข้างของเขา เห็นได้ว่าเขาไม่ได้มีความรู้สึกสนใจต่อศิลปินดาราแม้สักนิด ได้ยินเสียงของน้องชายจิ่งเหวิน เขาก็รีบลุกขึ้นดัง “พรวด”
เดินไปด้านข้างคอมพิวเตอร์ที่ไป๋เทียนเทียนนั่งอยู่ หลังจากตรวจสอบความถูกต้องของระดับและบันทึกแล้ว ท่าทีของเขาก็ดูกระตือรือร้นขึ้นมาอย่างมาก “เป็นระดับปรมาจารย์หนึ่งดาวจริงๆ แต่ต้องแข่งเข้าลำดับรอบหนึ่งก่อน”
เป็นที่รู้กันว่า ในระหว่างปรมาจารย์หนึ่งดาวด้วยกันเองก็มีความแตกต่างอยู่
มีทั้งพวกเทพระดับปรมาจารย์หนึ่งดาวที่สามารถเล่นโซโลได้ระดับมืออาชีพ และก็มีพวกอ่อนหัดที่จับพลัดจับผลูชนะเข้ามาได้ เพียงได้ระดับหนึ่งดาวก็มีความแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน แต่สามารถได้ระดับปรมาจารย์หนึ่งดาว ก็มากพอที่จะพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง
ในเวลานี้ทุกคนต่างมุงกันเข้ามา กล้องจับไปทั้งสามร้อยหกสิบองศาไม่มีมุมลับตา
ผลสะสมการแข่งขันของไป๋เทียนเทียนมาจากการเล่นของเธอเองจริงๆ เธอเองก็ไม่ได้ถ่อมตัว ยืดหลังเหยียดตรง ถือเมาส์คลิกเปิดการแข่งขันจัดลำดับ
คนที่เล่นท่องยุทธภพมีจำนวนมาก ต่อให้เป็นระดับปรมาจารย์หนึ่งดาว แค่วินาทีเดียวก็พอมีคนเพิ่มเข้ามา
ทันทีที่เข้าสู่เกมก็เป็นขั้นตอนการเลือกการ์ด
คอลัมน์สี่แถบด้านซ้ายของไป๋เทียนเทียนแสดงรายชื่อการ์ดบุคคล…
การ์ดพสุธา (ครบ)
การ์ดมนุษย์ (ครบ)
การ์ดสวรรค์ (ครบ)
การ์ดเทพ (0)
“คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีการ์ดครบทั้งหมด…” เถ้าแก่โรงแรมอุทานขึ้นอย่างประหลาดใจ การ์ดสวรรค์จำนวนหนึ่งต้องผ่านดันเจี้ยนระดับสูงถึงจะได้มา ปกติแล้วในเซิร์ฟเวอร์หนึ่งมีน้อยคนนักที่จะสามารถรวบรวมการ์ดสวรรค์ได้ครบ
ไป๋เทียนเทียนเพียงแต่ยิ้มราวกับไม่ได้ใส่ใจ จากนั้นก็เลือกการ์ดสวรรค์สามใบออกมาเรียง
ระดับปรมาจารย์หนึ่งดาวของเธอไม่ได้มาด้วยตัวเองเพียงลำพัง และก็ไม่ได้ถึงขั้นมาตรฐานแข่งขันมืออาชีพ แต่เธอมีความเร็วในการใช้มืออย่างแท้จริง มีจิตสำนึกแห่งปรมาจารย์
การแข่งขันจัดลำดับครั้งแรกราวครึ่งชั่วโมง คนที่อยู่ส่วนใหญ่แล้วล้วนแต่เป็นคนที่เคยเล่นเกม ต่อให้ดูครึ่งชั่วโมงก็ไม่ได้รู้สึกเบื่อ
แต่ทว่าไป๋เทียนเทียนกลับพลาด ครึ่งชั่วโมงให้หลังในที่สุดก็แพ้
คนที่อยู่ ณ ที่แห่งนั้นต่างรู้สึกผิดหวังอย่างอดเสียดายไม่ได้ แต่เมื่อแน่ใจว่าไป๋เทียนเทียนไม่มีตัวสำรอง สีหน้าของเจ้าของโรงแรมก็ดีขึ้น แล้วลดราคาให้พวกซุปตาร์ฉินห้าสิบเปอร์เซ็นต์
“แม่เจ้า เทียนเทียนเธอนี่สุดยอดจริงๆ เลยนะ คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ระดับปรมาจารย์ แถมการ์ดสวรรค์ยังมีครบอีกด้วยหรือนี่” น้องชายจิ่งเหวินพูดพล่ามราวกับปืนยิงไม่หยุด “ขนาดฉันแม้แต่ระดับไต้ซือ ยังไม่ได้เลย”
“เก่งจริงๆ นั่นแหละ ” เถียนเซียวเซียวกดเสียงต่ำ กระซิบข้างหูฉินหร่าน “ฉันเล่นมาตั้งสามปี ไอดีเกมก็เต็มแล้ว ยังอ่อนอยู่เลย”
ฉินหร่าน “…เธอก็สุดยอดใช้ย่อย”
จิ่งเหวินรับเมนูที่เถ้าแก่โรงแรมยื่นมา “ไม่เลว ลำบากเทียนเทียนแล้ว วุ่นวายมาตลอดทั้งเช้า เดี๋ยวฉันจะหาของอร่อยให้เธอ…”
เธอแทบจะกลืนคำพูดกลับไปทันที
ที่นี่อาหารอะไรก็ตามล้วนแต่ราคา 60 หยวนขึ้น พวกเขาสี่คน เลือกอาหารสองอย่าง พร้อมด้วยข้าวอย่างถูกที่สุดก็200 หยวนไปแล้ว จานสี่ร้อยใบ ลดราคาแล้ว เหลือสองร้อยใบ เอามากองรวมกันทั้งโต๊ะก็วางไม่หมด…
เพียงแค่คิดการล่วงหน้าว่าตัวเองต้องไปล้างจานเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง จิ่งเหวินก็มองไปที่เถ้าแก่ด้วยสีหน้านิ่งเรียบ “พวกคุณไม่ได้ล้างจานมาทั้งปีเลยหรือนี่”
พูดได้เพียงแค่นี้ จิ่งเหวินก็สั่งอาหารสองอย่างด้วยความกล้ำกลืนฝืนทน
การที่ร้านแห่งนี้ขายราคาแพงถึงขนาดนี้ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล นอกจากเรื่องการตกแต่งแล้ว รสชาติและหน้าตาอาหารนับว่าดีเพียบพร้อม
จิ่งเหวินสั่งอาหารประเภทผัก และสั่งเนื้อต้มหม่าล่าอีกหนึ่งจาน บนเนื้อต้มหม่าล่ามีพริกลอยอยู่ชั้นหนึ่ง ตอนที่ยกออกมา กลิ่นหอมโชยแตะจมูก
ฉินหร่านจำได้ว่าเนื้อต้มหม่าล่าตอนนี้ราคา120 หยวน
ดูไปแล้วน่าอร่อยกว่าของเอินอวี้เสียอีก
“พวกเธอยังหิวอยู่ไหม” ฉินหร่านมองขวับไปยังพวกเหยียนซีที่อยู่ข้างตัว
เหยียนซีคิดสักครู่ “ก็นิดหน่อยนะ” จากนั้นก็หันหลังให้กับช่างกล้อง “แต่ว่าแพงจัง”
“ไม่เป็นไร ถ้าหิวก็กิน” ฉินหร่านนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามฉินซิวเฉิน
แถมยังสั่งชาเหยือกละ200 หยวนอีก
เห็นเธอเช่นนี้ เถียนเซียวเซียวก็ยื่นนิ้วไปชี้สั่งพระกระโดดกำแพงถ้วยละ 666 หยวนหนึ่งถ้วย
เหยียนซีก็สั่งอาหารทะเลราคา 588 หยวน
น้องชายจิ่งเหวินที่กำลังกอดถ้วยยังกินเนื้อย่างไม่เสร็จแทบจะเข่าทรุด เขามองไปยังคนเหล่านั้นน้ำตาแทบจะไหลออกมา “พวกเราคงไม่ต้องล้างจานจนมืดหรอกใช่ไหม”
“ไม่เป็นไร” เถียนเซียวเซียวปลอบใจเขาอย่างหวังดี “เธอลองถามเถ้าแก่ดูว่าเขาสามารถหาจานสกปรกมาถึงสองพันได้ไหม ค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือหลังจากพวกเรากิน ไว้รอรายการจบแล้วค่อยจ่ายผ่านโทรศัพท์เอา”
จิ่งเหวินที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ “แบบนี้ก็ได้หรือ”
เธอมองไปที่เมนูบนโต๊ะโดยพลัน
ทีมผู้กำกับ “…” ผิดแผนแล้ว!!
เถ้าแก่ที่เอาแต่เฝ้ามองพวกฉินหร่านอยู่ตลอดด้วยสีหน้านิ่งเฉย มุมปากในที่สุดก็เหยียดขึ้นชั่วครู่
ฉินหร่านยังชวนฉินซิวเฉินและจิ่งเหวินมากินด้วยกันอยากสบอารมณ์
“ไม่มีจานสองพันใบ แต่จานสกปรกของทั้งร้านพวกเราก็ต้องล้างอยู่ดี” จิ่งเหวินซดน้ำแกงหนึ่งคำ แล้วรู้สึกมีชีวิตชีวากลับคืนมา “พวกเราไว้ตอนนั้นค่อยล้างด้วยกัน”
ฉินซิวเฉินตะเกียบอย่างใจเย็น เขามองไปที่นิ้วของฉินหร่าน แล้วอ้ำอึ้งอยู่สักครู่ “เอาไว้ตอนนั้นฉันจะช่วยเธอล้างเอง”
ฉินหร่านกินเนื้อต้มหม่าล่า เขามองไปที่ฉินซิวเฉินหนึ่งที จากนั้นก็เทชาให้กับเธอหนึ่งแก้วอย่างใจเย็น “ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆกิน”
คนทั้งหมดค่อยๆ กินอย่างไม่รีบร้อน ทีมผู้กำกับสติหลุดลอยไปแล้ว
ผู้กำกับถือเฮดโฟน เขาขบฟันมองไปยังหน้าจอ “ให้หาจานสกปรกมาให้ฉัน ไม่มีสองพันใบก็หามาสักเจ็ดแปดร้อยก็ได้ พวกมันชอบล้างจานไม่ใช่หรือ ถ้าอย่างนั้นก็ให้พวกมันล้าง!!”
**
คนทั้งหมดกินข้าวอย่างใจเย็น ยังพูดคุยจิปาถะเรื่องราวในชีวิตบนโต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยอาหารเลิศรส
ผู้กำกับยอมรับ…ดูเหมือนเป็นอย่างนั้น แต่ก็เป็นจุดไคลแม็กซ์อย่างมาก
ฉินหร่านช่างกล้าถึงขนาดนี้ ถึงกับถามฉินซิวเฉินว่าจะแต่งงานเมื่อไหร่
ในแวดวงบันเทิงไม่มีใครกล้าถามฉินซิวเฉินอย่างนี้
และที่สำคัญที่สุด…ฉินซิวเฉินยังตอบคำถามอย่างละเอียด
เมื่อถามฉินซิวเฉินเสร็จ ฉินหร่านยังถามเหยียนซีอีกว่าโสดอยู่หรือเปล่า บอกให้เขาออกไปข้างนอกบ้าง อย่าเอาแต่ขลุกตัวเขียนเนื้อเพลงอยู่แต่ในบ้าน
ผู้กำกับมองไปที่หน้าจอแยก ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าที่เขาให้ฉินหร่านล้างจานแปดร้อยใบออกจากเกินไปเสียหน่อย
อาหารแค่หนึ่งมื้อนี้ ให้เขาต้องชดเชยสักแสนหยวนเขาก็ยินดี…
“ซุปตาร์ฉินถกเรื่องแต่งงาน”
“เหยียนซีเผยความลับเรื่องแฟน”
จำนวนติดตามระดับสูงสุดในทั้งสองกลุ่ม แต่ละอย่างล้วนแต่เป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นมานาทีต่อนาที หากเผลอแม้แป๊บเดียวเซิร์ฟเวอร์ก็อาจจะล่มเอาได้
รายการกลายเป็นที่โด่งดังทั่วทั้งโลกออนไลน์ เป็นที่ติดตามไม่เว้นวันอย่างแน่นอน
“คุณผู้กำกับ พวกเราหาจานมาได้แปดร้อยใบแล้วครับ” เจ้าหน้าที่ทีมงานถือโทรศัพท์มือถือ แล้วเดินมาหาผู้กำกับ
ผู้กำกับหันกลับไปมองสต๊าฟ ท่าทีลังเลอยู่เล็ก
แต่ในกล้องแยก พวกฉินหร่านกินกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เถ้าแก่มองไปที่ฉินหร่าน ยื่นนิ้วออกมาคำนวณเงิน จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น “โต๊ะทั้งสองรวมกันแล้วได้สองพันสามร้อยหยวน ลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์ หนึ่งพันหนึ่งร้อยห้าสิบ ไปล้างจานที่หลังครัวไป”
พวกฉินซิวเฉินและจิ่งเหวินถอดเสื้อคลุมออก แล้วพากันไปล้างจานอย่างกระฉับกระเฉง
“เดี๋ยวก่อน” ฉินหร่านทันใดนั้นก็มองไปที่เถ้าแก่ เธอยังถามเขาหนึ่งคำถาม “ที่นี่ก็เป็นจุดภารกิจสินะ”
เถ้าแก่มองไปที่เธอ “ใช่แล้ว เป็นจุดภารกิจ”
ฉินหร่านดึงคอเสื้อเหยียนซีที่กำลังเดินไปล้างจาน แววตาเธอดูเรื่อยเฉื่อย เธอพูดอย่างเกียจคร้านว่า “รอแป๊บนึง ฉันก็มีส่วนลดเหมือนกัน”
น้องชายจิ่งเหวินเห็นฉินหร่านเดินไปข้างคอมพิวเตอร์
นิ่งไปชั่วครู่ ส่วนลดหรือ
ฉินหร่านนั่งลงหน้าคอมพิวเตอร์ แล้วเปิดไอคอนเกม กรอกไอดีเข้าไป
ทุกคนเห็นเธอดูเหมือนกำลังล็อกอินเข้าสู่เกม
จิ่งเหวินบีบนิ้วตัวเอง “เสี่ยวหร่านหร่าน ส่วนลดห้าสิบเปอร์เซ็นก็เยอะที่สุดแล้วนะ”
ทันทีที่เธอพูด ฉินหร่านก็กดเข้าเกม
ข้อมูลบัญชีผู้ใช้ปรากฏออกมา
QR
ระดับบัญชีผู้ใช้: ปรมาจารย์ (ยี่สิบดาว)
ที่มุมบนขวาเป็นสัญลักษณ์เพิ่มเพื่อน 999+
ทันใดนั้นก็มีหน้าต่างเชิญเด้งขึ้นมาหน้าหนึ่ง
“OSTหยางเฟยเพื่อนสนิทของคุณเชิญคุณเข้าร่วมเกม”