เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 391 ตบหน้าอย่างบ้าคลั่ง
หนานฮุ่ยเหยาใช้เวยป๋อออฟฟิเชียลของมหาวิทยาลัยเมืองหลวง
โดยไม่รายงานใคร
และไม่จำเป็นต้องรายงาน
รู้ไหมว่าฉินหร่านเป็นใคร?
ฉินหร่านเป็นคนแรกที่เข้าสู่ห้องปฏิบัติการทางฟิสิกส์ในเดือนธันวาคมภายในหนึ่งปี ไม่ใช่แค่เท่านั้น เธอยังได้การ์ดดำถึงหกใบ ในท่ามกลางสถานการณ์จำนวนคนเป็นรอง เธอสามารถเอาชนะมหาวิทยาลัยAให้มหาวิทยาลัยเมืองหลวงอีกด้วย
เพียงแต่ว่าเนื้อหาเหล่านี้ มหาวิทยาลัยเมืองหลวงมีข้อตกลงรักษาความลับ
หนานฮุ่ยเหยาได้รีโพสต์เวยป๋อของสวี่หนี่ชิงเฟิงพร้อมกับด่าเธอไปหนึ่งยก
ถ้าเป็นโจวซาน เขาสามารถทำให้สวี่หนี่ชิงเฟิงกลับไปทบทวนเรื่องราวในชีวิตได้เลยด้วยซ้ำ!
ออฟฟิเชียลของมหาวิทยาลัยเมืองหลวงมีผู้ติดตามมากกว่าสามล้านคน ทุกๆ วันจะมีนักเรียนจากแต่ละสถาบันมาแสดงความเคารพเทิดทูนมหาวิทยาลัยเมืองหลวงและอยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยเมืองหลวง เนื่องจากรายการไอดอล24ชั่วดังมาก ทันทีที่ออฟฟิเชียลมหาวิทยาลัยเมืองหลวงรีโพสต์ออกไป ก็มีคนเห็นเป็นจำนวนมาก
พออ่านเพจออฟฟิเชียลมหาวิทยาลัยเมืองหลวงแล้ว แวบแรกคนส่วนใหญ่ต่างก็คิดว่ามันเป็นของปลอม จึงกดเข้าไปที่หน้าแรกของเวยป๋อโดยตรง
เวยป๋อได้ยืนยันมหาวิทยาลัยเมืองหลวงอย่างเป็นทางการแล้วด้วยยอดผู้ติดตามมากกว่าสามล้านคน
คนทั่วไปที่ชอบเสพดราม่าถึงกับตกตะลึงและอ่านความคิดเห็นที่โพสต์โดยออฟฟิเชียลมหาวิทยาลัยเมืองหลวง
ราชาหน้าใหม่หมายความว่ายังไง?
แชมป์ระดับประเทศ?
วิชาเอกสองตัว?
(หึหึหึ ม.เมืองหลวงก็เกาะกระแสด้วยเหรอ?) มีแอนตี้แฟนมาแขวะ
(ให้ตายเถอะเยอะแยะไปหมด แชมป์ระดับประเทศ ? ? พวกเราตามหาตลอดปิดเทอมฤดูร้อนก็ยังหาไม่เจอ? ? ! !) มีคนไปหารูปสอบเข้ามหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของฉินหร่านในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนออกมาแฉ
(รอเดี๋ยว ฉันจะแอบไปดูหน่อยว่าในบอร์ดของม.เมืองหลวงกำลังคุยอะไรกัน)
(เวยป๋อออฟฟิเชียลนั่นน่ะ กล่องดำที่ไม่เชิงเส้นคืออะไร?)
กล่องดำที่ไม่เชิงเส้น…นี่มัน! คือ! อะ! ไร!
คนที่มามุงต่างก็แอบไปหาในอินเทอร์เน็ตอย่างเงียบๆ แล้วกลับมาแสดงความคิดเห็น
อันที่จริงไม่พบในการค้นหา ส่วนใหญ่หาเจอแค่ปัญหากล่องดำ
จอมงี่เง่า : (แต่ว่าตอนม.ต้นมีแค่โจทย์ปัญหาความต้านทาน ตัวเก็บประจุ แล้วก็ไดโอดเองนี่นา ดูเหมือนว่าฉินหร่านจะมีแบ็คดี ออฟฟิเชียลม.เมืองหลวงถึงกับมาล้างมลทินเอง)
มีบางคนที่คล้อยตาม พอผ่านไปได้สองนาที พื้นที่แสดงความคิดเห็นก็โยนภาพแคปหน้าจอมาหนึ่งรูป—— (คำถามกล่องดำที่ไม่เชิงเส้น)
การค้นหาในอินเทอร์เน็ตหาได้ยากมาก ภาพแคปหน้าจอที่โยนมาเป็นภาพโมเสก มีประมาณสามภาพ ภาพแรกก็คือ “กล่องดำที่ไม่เชิงเส้น” โดยที่ด้านล่างเป็นการเหนี่ยวนำไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้าไม่เชิงเส้น และแผนภาพวงจร นอกจากนี้ที่โดดเด่นที่สุดคือลายน้ำบนพื้นหลังของภาพแคปหน้าจอที่เห็นได้อย่างชัดเจน——
การแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระดับสากล
ภาควิชาฟิสิกส์ล้วนเป็นเด็กหัวกะทิในหมู่เด็กเรียน สุ่มออกมาคนหนึ่งก็ยังเป็นคนที่ชนะเลิศอันดับหนึ่งอันดับสองในระดับท้องถิ่น โดยพื้นฐานแล้วล้วนเคยเข้าร่วมการแข่งขันฟิสิกส์ระดับนานาชาติในนามของทีมระดับมณฑลและระดับประเทศตอนเรียนชั้นมัธยมปลาย
ตอนที่หนานฮุ่ยเหยาโพสต์แสดงความคิดเห็น เธอได้พลั้งมือเขียนกล่องดำที่ไม่เชิงเส้นออกมา ซึ่งเป็นโจทย์ปัญหาที่เธอพบเมื่อเข้าร่วมการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระดับสากล
เธอแค่เผลอยกตัวอย่างไปเท่านั้นเอง
กลุ่มชาวเน็ตดูเนื้อหาภาพแคปหน้าจอเสร็จก็ได้แต่ตกตะลึง
ชาวเน็ตที่ชื่อ “จอมงี่เง่า” คนนั้นรีบลบความคิดเห็นของตัวเองที่เอ่ยถึงโจทย์ปัญหาตอนชั้นมัธยม
ในเวลาเดียวกัน คนที่ไปสำรวจวงในมหาวิทยาลัยเมืองหลวงและกลุ่มคนที่ไปหาประกาศประชาสัมพันธ์ของผู้ที่คว้าอันดับหนึ่งในปีนี้ก็กลับมา
(หวัดดีทุกคน ฉันไปสำรวจที่บอร์ดมหาวิทยาลัยเมืองหลวงมาแล้ว ตอนนี้กลับมาพร้อมน้ำตา ไม่พูดแล้ว ให้ทุกคนดูโพสต์บนเว็บไซต์สองสามอันนี้แล้วกัน http://……,http://…… )
หน้าแรกของบอร์ดมหาวิทยาลัยเมืองหลวงตอนนี้ล้วนเป็นกระทู้ของฉินหร่าน
ลิงก์ที่คนคนนี้ให้มาก็คือกระทู้แยกที่ฉินหร่านสอบกลางภาควิชาเอกสองสาขาในช่วงแรกๆ
ด้านล่างยังมีรูปกระดาษคำตอบของฉินหร่านที่นักศึกษาปริญญาโทสองคนนั้นได้ถ่ายเอาไว้เมื่อครั้งที่เคยเป็นคนตรวจกระดาษคำตอบให้ฉินหร่านก่อนหน้านี้
ด้านบนยังโพสต์ข้อสอบกลางภาคแต่ละวิชาของสาขาวิชาวิศวกรรมอัตโนมัติ ในกลุ่มชาวเน็ตก็มีนักศึกษาที่กำลังศึกษาวิชาฟิสิกส์ขั้นสูงเช่นกัน หลังจากอ่านข้อสอบกลางภาคของสาขาวิชาวิศวกรรมอัตโนมัติแล้วก็บ้าไปตามๆ กัน
(หัวฉันปลิวไปแล้ว หลังจากที่อ่านข้อสอบของม.เมืองหลวง ฉันก็รู้สึกได้จริงๆ ว่าโจทย์ฟิสิกส์ในรายการปัญญาอ่อนไปเลย ใครก็ได้ตีฉันให้ตื่นที!)
(+1)
(+ไอดีการ์ด)
(ข้อสอบแบบนี้เธอยังสอบได้คะแนนเต็ม? และยังส่งก่อนเวลาอีกเนี่ยนะ ? ? ! !)
(ไม่ปิดบังทุกคน ฉันเรียนมหาวิทยาลัยปีสามสาขาวิชาคณิตศาสตร์ แต่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้อสุดท้ายเธอเขียนอะไรไปบ้าง)
(กรี๊ดดดดดด เจอแล้ว ฉันเจอคนที่ได้แชมป์ระดับประเทศของปีนี้แล้ว คนที่ทำคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยสายวิทย์และสายศิลป์สูงกว่าอันดับที่สองไปสิบกว่าคะแนน)
(ที่แท้แล้วเธอก็เป็นคนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ที่หนึ่งจนทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นพวกสมองหมู?)
(….โทษที ฉันมาตบหน้าตัวเอง)
(ลองไปเสิร์ชอันดับหนึ่งระดับประเทศของปีนี้และเสิร์ชดูระดับความยากของข้อสอบปีนี้แล้วค่อยมาแสดงความคิดเห็นกัน)
……
พอเธอโพสต์เวยป๋อเสร็จก็เห็นความคิดเห็นและยอดไลก์ที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หนานฮุ่ยเหยากดออกจากบัญชี จากนั้นลุกขึ้นจากเตียง ขณะที่เดินไปหยิบแปรงสีฟันมาแปรง เธอก็โทรศัพท์หาประธานสมาพันธ์นักศึกษาไปด้วย
พูดคุยกันถึงเรื่องบัญชีออฟฟิเชียล
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ประธานสมาพันธ์นักศึกษาอยู่ที่ห้องสมุด “ไม่เป็นไร เบื้องบนไม่เอาเรื่องหรอก”
หลังจากคุยกับหนานฮุ่ยเหยาเสร็จ ประธานสมาพันธ์นักศึกษาก็สงสัยว่าฉินหร่านมีปัญหาอะไร เขาเองก็ไม่ได้กลับไปที่ห้องสมุด แต่เปิดเวยป๋อดูเรื่องราวทั้งหมด
แน่นอนว่านักศึกษามหาวิทยาลัยเมืองหลวงย่อมเป็นพวกที่รักชื่อเสียงเกียรติยศส่วนรวม นักศึกษาของตัวเองโดนคนนอกกลั่นแกล้งก็ว่าแล้ว แต่นี่ยังพูดเสียหายกับมหาวิทยาลัยอีก
ประธานสมาพันธ์นักศึกษาต่างจากคนอื่นๆ เขาสนิทกับหงเทาและรู้วีรกรรมอันยิ่งใหญ่ที่ฉินหร่านทำในห้องทดลอง เขาจึงสลับบัญชีมาใช้บัญชีออฟฟิเชียลของมหาวิทยาลัยเมืองหลวงแล้วรีโพสต์เวยป๋อของสวี่หนี่ชิงเฟิง ประธานแค่โพสต์รายชื่อนักศึกษาที่มีผลการเรียนดีเด่นเพียงไม่กี่คนของสาขาวิชา
นอกจากนี้ยังมีนักศึกษามหาวิทยาลัยเมืองหลวงที่ดูเวยป๋อและรายการทีวีอยู่ไม่น้อย เมื่อคืนก็มีหลายคนพบว่าฉินหร่านอยู่ในรายการ
ขณะนี้เวยป๋อก็ได้เวลาปะทุ ภาพล้อเลียน(เด็กเรียนม.เมืองหลวง)ได้สร้างความไม่พอใจให้กับคนของมหาวิทยาลัยเมืองหลวงอย่างมาก โดยเฉพาะนักศึกษาภาควิชาฟิสิกส์ของมหาวิทยาลัยเมืองหลวง ถ้าพูดแบบไม่โอ้อวดก็คือในบรรดาคนเหล่านี้ยังมีเด็กเรียนที่มีส่วนพัฒนาความนิยมบนเวยป๋ออีกด้วย
มีนักศึกษาปีสามปีสี่ที่เรียนสองวิชาเอกจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างพร้อมเพรียง——
(ฉันมาจากภาควิชาฟิสิกส์ วิชาเอกที่สองของฉันคือวิชาโบราณคดี แต่วันนี้เพิ่งมาค้นพบว่าที่แท้แล้วภาควิชาฟิสิกส์เรียนโบราณคดีไม่ได้ ? ? ? ภาควิชาฟิสิกส์ไม่สมควรมีความสนใจอย่างอื่นงั้นเหรอ (ยิ้ม))
(พิกัดภาควิชาเคมี รหัสนักศึกษา201**** วิชาโทคือนิติศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโททั้งหมด )
(ขอโทษนะที่เป็นตัวถ่วงทุกคน ฉันเรียนแค่ภาควิชาแพทยศาสตร์เอง วิชาโทมีแค่สาขาวิชาภาษาต่างประเทศ….)
นักศึกษาเหล่านี้ล้วนได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากเวยป๋อ ผุดขึ้นมาราวกับหน่อไม้หลังฝน
หนึ่งในคนที่มีชื่อเสียงในเวยป๋อเปิดเผยว่าราชาหน้าใหม่ปีสองของภาควิชาฟิสิกส์มหาวิทยาลัยเมืองหลวงปีที่แล้วก็คว้าปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิตมาได้
คลื่นเข้ามากระทบเป็นระลอกอย่างต่อเนื่อง เหล่าเด็กเรียนของมหาวิทยาลัยเมืองหลวงล้วนพุ่งเป้าไปที่ประเด็นที่สองที่สวี่หนี่ชิงเฟิงกล่าวหาว่าเป็นไปไม่ได้ที่ภาควิชาฟิสิกส์จะรู้เรื่องวรรณกรรมบาบิโลน
ตอนนี้กลุ่มคนสุมดราม่าก็เริ่มทบทวนตัวเองแล้ว
ชาวเน็ตส่วนใหญ่ใช้ชีวิตกับโทรศัพท์มือถือทุกวัน แน่นอนว่าเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการถึงชีวิตของเด็กเรียนที่ขยันขันแข็ง ครั้งนี้เป็นเพราะกระแสกลุ่มชาวเน็ตจำนวนมากและสวี่หนี่ชิงเฟิง เด็กเรียนมหาวิทยาลัยเมืองหลวงจึงทยอยพากันออกมาสอนวิถีความเป็นมนุษย์ผ่านทางออนไลน์
ปริญญาใบรับรอง เหรียญรางวัล บันทึกการทดลอง…ทำเอาคนตาพร่ามัว ตกตะลึงตาค้าง
“ราชาหน้าใหม่” “แชมป์สอบเข้ามหาวิทยาลัย” “เด็กเรียนม.เมืองหลวง” ครองโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว
สำหรับเรื่องที่ทีมรายการสร้างภาพให้ฉินหร่านนั้น…ตอนนี้ไม่มีใครเชื่อจริงๆ ว่าทางทีมรายการจะออกโจทย์ปัญญาอ่อนแบบนั้นให้ฉินหร่านและยังให้เธอท่องสคริปต์ล่วงหน้า…
เรื่องดำเนินมาจนถึงตรงนี้ ทีมรายการสร้างภาพให้ฉินหร่านหรือไม่ล้วนเป็นที่ประจักษ์แล้ว
ชาวเน็ตพบว่าเมื่อเทียบกับเรื่องเหล่านั้นที่ฉินหร่านทำตามบอร์ดมหาวิทยาลัยเมืองหลวงแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นในรายการ…เทียบอะไรไม่ได้เลย!
ส่วนเรื่องวรรณกรรมบาบิโลนที่สวี่หนี่ชิงเฟิงจงใจระบุไว้…
หลังจากที่นักศึกษาปีสองในภาควิชาฟิสิกส์ของมหาวิทยาลัยเมืองหลวงคนนั้นตีแผ่ออกมาว่าบทความทางโบราณคดีของตัวเองถูกรัฐบาลเก็บรวบรวมไว้ ก็ไม่มีใครกล้าโจมตีอีกเลย…
จะโจมตียังไง ? ? จะใส่ร้ายยังไง?
และ “คำถามสามประเด็น” ที่สวี่หนี่ชิงเฟิงระบุออกมานั้น ตอนนี้ยังแขวนอยู่ที่หน้าแรกเวยป๋อของเธอ
ท่ามกลางการปรากฏตัวของเหล่าเด็กเรียนมหาวิทยาลัยเมืองหลวง “คำถามสามประเด็น” ของสวี่หนี่ชิงเฟิงก็กลายเป็นเรื่องที่น่าหัวเราะ
ประโยคที่เธอเขียนใน “คำถามสามประเด็น” ที่ว่า “เด็กเรียนมหาวิทยาลัยเมืองหลวงที่ฉันรู้จักไม่ได้เป็นแบบนี้”ถูกคนแคปมาแสดงความคิดเห็น——(เจ้าของแอค เพราะไอ้พวกเด็กเรียนมหาวิทยาลัยเมืองหลวงทั้งหมดที่คุณรู้จักเป็นของปลอม)
**
เมื่อผู้จัดการฉินซิวเฉินเห็นเวยป๋อของไป๋เทียนเทียนก็มาหาฉินซิวเฉินที่อวิ๋นจิ่น
ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ ผู้จัดการฉินซิวเฉินรู้แล้วว่าเขาให้ความสำคัญกับฉินหร่านมากขนาดไหน ดูแลฉินหร่านทุกเรื่องอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
ก่อนรายการจะออกอากาศก็พิจารณาถึงเรื่องเหล่านี้ เมื่อคืนก็ยิ่งไม่ได้นอนมาทั้งคืน การเคลื่อนไหวของไป๋เทียนเทียนกับสวี่หนี่ชิงเฟิงจะต้องส่งผลกระทบต่อฉินซิวเฉินอย่างแน่นอน
พอเข้ามาก็พบว่าฉินซิวเฉินยังไม่ได้ไปไหน ผู้จัดการจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ฉินซิวเฉินกำลังคุยกับทีมรายการ
ผู้กำกับไม่คิดว่าในเวลาแบบนี้จู่ๆ ไป๋เทียนเทียนจะออกมาเกาะกระแส เวยป๋อที่เธอโพสต์ยังแอบใส่ความทีมรายการอย่างลับๆ ว่ามีเบื้องลึกเบื้องหลัง
“ปล่อยตอนที่สองออกอากาศก่อนกำหนด” ฉินซิวเฉินเอนหลังพิงเก้าอี้ ประโยคนี้ฟังดูราบเรียบ
แต่กลับเป็นลูกระเบิดที่แฝงไปด้วยความน่าสะพรึงกลัว
ผู้กำกับที่อยู่ปลายสายก็ได้ทราบข่าวจากทางอินเทอร์เน็ตแล้ว เขายังคงสูบบุหรี่
ตามความเป็นจริง เพียงแค่ผู้กำกับปล่อยตอนที่สองออกมาก็จะไม่มีข่าวลือบนอินเทอร์เน็ตอีกต่อไป ฉินหร่านจะดึงดูดแฟนคลับอย่างรวดเร็วจนกลบตอนที่หนึ่งได้สำเร็จ พอถึงตอนนั้น จุดอ่อนในตอนที่หนึ่งก็ไม่นับว่าเป็นอะไร
เพราะตอนที่สอง…เธอจะดึงดูดแฟนคลับมาได้ถึงขั้นน่ากลัวเลยทีเดียว ผู้กำกับคิดว่าแม้แต่ฉินซิวเฉินกับเหยียนซีก็เทียบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ทีมรายการต้องเก่งขนาดไหนถึงสามารถเชิญเหยียนซีและหยางเฟยมาเพิ่มความนิยมให้ฉินหร่านได้?
แต่ปัญหาคือ…การที่ตอนที่สองจะออกอากาศล่วงหน้า เขาไม่เคยทำเรื่องแบบนี้มาก่อน ถ้าจะออกอากาศล่วงหน้า โดยหลักคือช่องสตาร์ทีวีคงไม่ให้ความร่วมมือเตรียมการให้คุณ ดังนั้นจึงต้องออกอากาศล่วงหน้าผ่านทางออนไลน์ แล้วพอถึงสองทุ่มในวันเสาร์หน้า ช่องสตาร์ทีวีจะทำอย่างไร?
ไม่ว่าทีมงานจะเก่งกาจเพียงใดก็ไม่กล้าแข่งกับสถานีโทรทัศน์ระดับมณฑล
แล้วอีกอย่าง ทางรายการก็ได้เซ็นสัญญากับสถานีโทรทัศน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ซุปตาร์ฉิน เรื่องพวกนี้ยังต้องปรึกษาประธานเจียงนะครับ ผมเป็นแค่ผู้กำกับ ตัดสินใจไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าคุณเกลี้ยกล่อมประธานเจียงได้และโทรหาแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องของสถานีโทรทัศน์แล้ว อย่าว่าแต่ฉายล่วงหน้าไปก่อนไม่กี่วันเลย จะฉายทันทีเลยก็ยังได้” ผู้กำกับแทบจะหลั่งน้ำตา
ซุปตาร์ฉินหยิบบุหรี่ออกมาด้วยความหงุดหงิด มือกดเบอร์โทรศัพท์เจียงตงเยี่ยที่ผู้กำกับส่งมาให้
แล้วโทรออก
ผู้กำกับบอกแล้วว่าตอนที่ออกอากาศสัปดาห์นี้อยู่ในการควบคุมของเจียงตงเยี่ย
ฉินซิวเฉินก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเจียงตงเยี่ยจงใจพุ่งเป้าไปที่ฉินหร่านใช่หรือไม่
ทันทีที่ต่อสายติด เสียงสุภาพจากทางฝั่งเจียงตงเยี่ยก็ลอยเข้ามา——
“สวัสดีครับ คุณฉิน”
แม้ไม่เห็นตัวคน แต่ท่าทีเคารพนับถือของเจียงตงเยี่ยก็แทบจะลอยออกมาจากโทรศัพท์
ฉินซิวเฉินอึ้งไปพักหนึ่ง ท่าทีของเจียงตงเยี่ยต่างจากที่เขาจินตนาการเอาไว้โดยสิ้นเชิง…
ฟังดูเหมือนว่าน่าจะไม่ได้ตั้งใจให้ทีมงานรายการปล่อยออกมาใส่ร้ายฉินหร่าน
ฉินซิวเฉินได้บอกไปแล้วว่าจะให้ทางรายการออกอากาศตอนที่สองก่อนกำหนดพร้อมกับพูดถึงคำวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์
เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับฉินหร่าน เจียงตงเยี่ยจึงลงมาข้างล่าง หรี่ตาลงพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ได้ครับ เรื่องที่จะออกอากาศล่วงหน้าผมจะให้คนติดต่อกับทางสถานีโทรทัศน์เอง”
ทั้งสองวางสาย
ฉินซิวเฉินไม่คิดว่าเรื่องจะดำเนินไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายที่เจียงตงเยี่ยบอกว่าจะติดต่อกับสถานีโทรทัศน์ให้ เขาตอบตกลงแทบไม่ต้องคิด…
ตระกูลเจียงมีอิทธิพลต่อสถานีโทรทัศน์ตั้งแต่ระดับมณฑลขึ้นไปง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ?
ฉินซิวเฉินหรี่ตาพลางคิดอะไรบางอย่าง
เมื่อเจียงตงเยี่ยบอกว่าจะช่วย เรื่องก็น่าจะแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ฉินซิวเฉินถอนหายใจออกมาอย่างช้าๆ
เขาหันไปกำชับผู้จัดการ “แจ้งฝ่ายประชาสัมพันธ์ว่าตอนที่สองจะออกอากาศก่อนกำหนด ให้ไปเตรียมเนื้อหาประชาสัมพันธ์มาล่วงหน้า”
ผู้จัดการยังไม่ได้นั่ง เขาก้มหน้าหยิบโทรศัพท์ออกมาอีกครั้งและโทรหาสตูดิโอ พอต่อสายติดก็ยกโทรศัพท์แนบหู
พ่อบ้านฉินขมวดคิ้ว เขาวางโทรศัพท์ลง จากนั้นก็สอบถามฉินซิวเฉินกับผู้จัดการด้วยความกังวล “จะจัดการเรื่องนี้ยังไงดี? ยากมากที่จะงัดหลักฐานออกมา คงได้แต่รอให้กระแสหายไปสินะ”
การปรากฏตัวของฉินหร่านในรายการ ถ้าไม่ใช่เพราะฉินซิวเฉินบอกเองว่าไม่มีสคริปต์สร้างภาพ ถึงจะเป็นพ่อบ้านตัวเองก็ไม่อยากจะเชื่อ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกลุ่มคนดู
ฉินซิวเฉินขมวดคิ้ว เขาเหลือบมองประตูห้องฉินหลิงที่ปิดสนิท “รอตอนที่สองออกมาก็คงดีขึ้นมาบ้าง”
พูดมาจนถึงท้ายก็เหลือบมองผู้จัดการ
ผู้จัดการต่อสายติดแล้ว เขายังไม่ทันได้พูดอะไร ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสตูดิโอก็พูดออกมาก่อนด้วยความตื่นเต้น——
“ถ้าพี่บอกมาตั้งแต่แรกว่าหลานสาวตัวน้อยสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้อันดับหนึ่งก็คงจบไปแล้ว พวกเรายังจะต้องมาเตรียมร่างประชาสัมพันธ์ข้ามวันข้ามคืนแบบนี้ทำไม? พวกเราอุตส่าห์ยุ่งมาตั้งนาน มหาวิทยาลัยเมืองหลวงพูดออกมาประโยคเดียวก็แก้สถานการณ์ได้แล้ว…” ก่อนที่ผู้จัดการจะตอบกลับ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ก็พูดรัวเหมือนปืนกลด้วยความตื่นเต้น “พี่ ไม่คุยด้วยแล้ว ผมยังส่องเวยป๋อพวกเด็กเรียนม.เมืองหลวงไม่เสร็จเลย!”
อีกฝ่ายตัดสายไป ตื่นเต้นจนลืมไปแล้วว่าผู้จัดการคือเจ้านายเขา
คนในสตูดิโอต่างก็เรียกฉินหร่านว่าหลานสาวตัวน้อยเพราะซุปตาร์ฉิน