เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 409 นักเรียนคะแนนเต็ม!
ครั้งก่อนหลังจากที่จั่วชิวหรงส่งจดหมายให้เขา เขาจึงวางมันไว้ในนี้
อุปกรณ์ของห้องปฏิบัติการไม่มีอะไรผิดปกติแน่นอน เมื่อวานเขาก็ถามกับจั่วชิวหรงและรุ่นพี่เยี่ยทีละคน ที่ด้านนอกของห้องปฏิบัติการฉินหร่านเป็นคนทำจริงๆ
ความผกผันของข้อมูลสูงถึงขนาดนี้…
แม้แต่นักวิจัยเลี่ยวก็ยังตกใจ
แค่ตอนบ่ายเมื่อวานที่ไม่เห็นเธอเลย จนกระทั่งเช้าวันนี้ เขาให้ฉินหร่านเข้ามาห้องปฏิบัติการ ตอนช่วยเขาทำการวิจัยต่างๆ การกระทำของเธอไม่ได้แสดงออกถึงความตื่นตระหนกใด แม้มีบางจุดที่ไม่ค่อยเข้าใจ แต่เขาเพียงแค่เอ่ยขึ้นเล็กน้อย เธอก็มีปฏิกิริยาตอบรับทันที
นักวิจัยเลี่ยวครุ่นคิด พลางกางเปิดแฟ้มเอกสารสีไม้
ทุกปีไฟล์ของนักเรียนใหม่ของห้องปฏิบัติการฟิสิกส์จะถูกรวบรวมไว้ รวมถึงแบบประเมินการลงทะเบียนครั้งก่อน ผลการเข้าห้องปฏิบัติการ อำนวยความสะดวกแก่ศาสตราจารย์ของห้องปฏิบัติการและสถาบันวิจัยในการประเมินศักยภาพของนักเรียนใหม่เหล่านี้
นักเรียนใหม่เหล่านี้เหมือนที่จั่วชิวหรงคิดไว้ก่อนหน้านี้ ล้วนเป็นบุตรแห่งสวรรค์อันภาคภูมิจากมหาวิทยาลัยเมืองหลวงและมหาวิทยาลัย A แต่เมื่อเทียบกับผู้คลั่งไคล้การวิจัยของห้องปฏิบัติการรวมทั้งสถาบันวิจัยเหล่านี้แล้วนั้น ยังต่างกันมาก
ในทุกปีผู้มาใหม่ของห้องปฏิบัติการล้วนแต่เป็นคนที่โดดเด่นมากเพียงหนึ่งถึงสองคน และได้รับความสนใจจากอาจารย์ห้องปฏิบัติการหลัก
แต่ก่อนที่หนึ่งถึงสองคนนั้นยังไม่ได้เข้ามายังห้องปฏิบัติการก็ได้รับการคัดเลือกจากการอบรมของศาสตราจารย์หรือนักวิจัยล่วงหน้าแล้ว
เช่นซ่งลี่ว์ถิงเมื่อครึ่งปีแรก เมื่อตอนเข้าร่วมการอบรมในเดือนมกราคม ก็ได้รับความสนใจล่วงหน้าจากนักวิจัยของสถาบันวิจัย
ความสามารถในการลงมือของฉินหร่านเหนือความคาดหมายของนักวิจัยเลี่ยวอยู่มาก ดังนั้นจึงต้องการเห็นผลการประเมินเข้าห้องปฏิบัติการของนักเรียนใหม่คนนี้
นักวิจัยเลี่ยวเปิดหน้าแรก เป็นข้อมูลการรับเข้าทั่วไป
ฉินหร่าน
นักศึกษาใหม่ชั้นปีที่หนึ่ง
สาขา: วิชาหลักวิศวกรรมอัตโนมัติ วิชารองวิศวกรรมนิวเคลียร์
นักศึกษาใหม่ชั้นปีที่หนึ่ง?
วิชาเอกคู่แล้วยังสอบเข้าห้องปฏิบัติการได้อีก
อย่างอื่นนอกจากการทดลองแล้ว สีหน้าของนักวิจัยเลี่ยวที่พลิกมาหน้าแรกไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย ในที่สุดก็เผยความประหลาดใจออกมา
ข้อมูลนี้ทำเขาช็อกมากเกินไปแล้ว
นักเรียนใหม่ปีหนึ่งที่สามารถสอบเข้าห้องปฏิบัติการได้…
ผลการประเมินของเธอล่ะ
นักวิจัยเลี่ยวพลิกไปด้านหลังต่อ
คุณสมบัติการสมัคร: 10 คะแนนการประเมิน
การสอบข้อเขียนของห้องปฏิบัติการฟิสิกส์: 300
การทดสอบของห้องปฏิบัติการฟิสิกส์: 100
ผลรวมการประเมินห้องปฏิบัติการ: 10
ห้องปฏิบัติการมีการประเมินผลอย่างครอบคลุมอยู่เสมอ สิบคะแนนเต็ม ข้อมูลเหล่านี้เป็นของนักวิจัยเลี่ยว แต่เพราะนี่คือการประเมินอย่างครอบคลุมด้วยตัวเอง คำถามเชิงอัตนัย นอกจากว่าจะมีนักเรียนที่โดดเด่นเสียจนผู้รับผิดชอบการประเมินของห้องปฏิบัติการหลายคนล้วนเป็นต้องชื่นชมจริงๆ ไม่งั้นอย่างน้อยก็ต้องได้คะแนนเต็มโดยรวม…
คะแนนแบบประเมินการทดลองเต็ม 100 นั่นคือเธอทำการทดลองได้ระดับ S…
โดยเฉพาะสาขาวิชาเอกทั้งคู่ คะแนนประเมินคุณสมบัติการสมัครของเธอเองก็เต็ม…
สมองของนักวิจัยเลี่ยวร้อนวูบวาบ คอมพิวเตอร์ตรงหน้าเปิดแล้ว เขากลับไม่มีการตอบสนองแม้แต่นิดเลย
ก้มหน้ามองข้อมูลในมืออย่างงุนงง
ทำไมถึงคิดไม่ถึง นักเรียนใหม่คนนี้ที่มาห้องปฏิบัติการของเขา จะได้คะแนนการประเมินเต็ม…
“นักวิจัยเลี่ยว” รุ่นพี่เยี่ยถือสำเนาของรายงานการสังเกตเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ใต้ดินเล่มหนึ่งเข้ามายื่นให้นักวิจัยเลี่ยว
เรียกแล้วรอบหนึ่ง นักวิจัยเลี่ยวกลับไม่มีการตอบสนอง
สักพักหนึ่ง เขาจึงตอบสนองกลับมา
“เสี่ยวเยี่ย คุณรู้สึกว่ารุ่นน้องของคุณเป็นอย่างไรบ้าง” นักวิจัยเลี่ยวดันแว่นตา
รุ่นพี่เยี่ยชะงัก แต่ยังตอบกลับ “ความสามารถในการทำการทดลองของรุ่นน้องดีมาก”
เมื่อวานเขาดูเธอทำการทดลองเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์
นักวิจัยเลี่ยวนั่งลงที่ของตน พยักหน้าเล็กน้อย
**
ตอนเที่ยง
ชุมชนอวิ๋นจิ่น
ฉินอวี่ยืนอยู่นอกประตูชุมชน ในมือยังมีโทรศัพท์อยู่ กำลังคุยกับหนิงฉิง
โทรศัพท์อีกฝั่ง น้ำเสียงของหนิงฉิงซับซ้อน ผสมปนเปไปด้วยอารมณ์ที่อธิบายไม่ได้ “พ่อของเธอเป็น ปลาคาร์ปกระโดดข้ามประตูมังกร[1] แล้ว…”
ใจของฉินอวี่ราวกับถูกแทงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะหลังจากได้ยินหนิงฉิงพูดว่าตระกูลฉินกิจการเจริญรุ่งเรือง
เธอเงยหน้ามองชุมชนตรงหน้า แม้ว่าชุมชนอวิ๋นจิ่นไม่เหมือนกับถิงหลาน แต่ก็เป็นชุมชนอันมั่งคั่งสมคำร่ำลือ หนึ่งอสังหาริมทรัพย์มีหลายสิบล้าน น่าขำตัวเอง “ไม่แปลกใจเลยที่เสื้อผ้าที่พี่สาวสวมใส่จะเป็นแบบสั่งทำ คุณพ่อลืมไปแล้วรึเปล่าว่าเขายังมีลูกสาวอีกคน”
ฉินอวี่จิกที่โทรศัพท์ ข้อต่อขึ้นสีขาวอมฟ้า
ชุมชนอวิ๋นจิ่น ผู้ที่ไม่เคยได้รับการบันทึกไว้โดยเจ้าของชุมชนเข้าไปข้างในโดยวิสาสะไม่ได้ ฉินอวี่จึงรออยู่ที่เดิม
ร่างกายของเธอห่อหุ้มด้วยเสื้อโค้ตตัวใหญ่ รอนานแล้ว รอจนฉินฮั่นชิวที่ถือถุงผักสองใบใหญ่กลับมา เขาสวมเสื้อขนเป็ดที่ตัดเย็บอย่างดี นอกจากคำพูดท่าทางจะเรียบง่ายแล้ว อย่างอื่นต่างจากที่ผ่านมาแทบสิ้นเชิง
ถ้าไม่ใช่ใบหน้าที่คุ้นเคยนั่น ฉินอวี่ไม่กล้าที่จะเชื่อเลยว่านั่นคือฉินฮั่นชิว
“พ่อ…” ฉินอวี่ถอดผ้าพันคอออก ก้าวไปด้านหน้าหนึ่งก้าว
เสียงนี้ค่อนข้างคุ้นเคย
ฉินฮั่นชิวเดินตรงมาดู ทันใดนั้นก็เห็นฉินอวี่ที่ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้า
เขาชะงักก้าวเดิน จากนั้นก็นึกอะไรไม่ออก สีหน้าเปลี่ยนไป ก้าวขาวิ่งเข้าไปในชุมชน
รปภ. ตกใจเสียจนคิดว่าเขาเจอเขาเจอโจรหรือเปล่า จึงถือกระบองไฟฟ้าออกมาตรวจตรา
นอกประตู ฉินอวี่ที่เตรียมคำพูดไว้แล้วเรียบร้อยมองตามหลังฉินฮั่นชิว ตะลึงไปพักใหญ่ จึงมีการตอบสนองกลับ… ฉินฮั่นชิวไม่แม้แต่จะอยากพบเธอเลยสักนิด…
ฉินอวี่คุยโทรศัพท์กับหนิงฉิง ตอนแรกที่มาหาฉินฮั่นชิวไม่ได้เต็มใจเลย แต่ตอนนี้ที่เห็นฉินฮั่นชิวอาศัยอยู่อพาร์ตเมนต์ระดับสูง… ใท้งนอินเทอร์เน็ตและในมหาวิทยาลัยฉินหร่านปะปนอยู่ในความเจริญรุ่งเรือง…
ในใจของฉินอวี่ก็เต็มไปด้วยความเสียใจ
ถ้ารู้ก่อนหน้า ว่าพ่อที่ทำงานหนักของเธอคนนั้นจะมีประสบการณ์ชีวิตเช่นนี้ ตอนที่เธออยู่เมืองอวิ๋นจะได้ไม่ขึ้นเสียงใส่เขา
ฉินอวี่ยืนอยู่ข้างถนน สีหน้าซีด
เอี๊ยด
รถคันหนึ่งจอดลงข้างเธอ หน้าต่างข้างคนขับลดลง เผยให้เห็นใบหน้าของชายวัยกลางคน “นายท่านคนที่สี่ของตระกูลฉินของพวกเราต้องการพบคุณ”
**
ตอนบ่ายสอง ฉินหร่านตรวจหาข้อมูลที่ตนต้องการอ้างอิงที่ห้องสมุดเสร็จเรียบร้อย จึงถือกระเป๋าเป้กลับไปที่ห้องปฏิบัติการ
นักวิจัยเลี่ยวยังคงทำการทดลองอยู่ในห้องปฏิบัติการ
ฉินหร่านหยิบคอมพิวเตอร์ออกมา นำบทความวิจัยที่เขียนเสร็จแล้วมาอ่านคร่าวๆ ตั้งแต่ต้นจนจบหนึ่งรอบ จัดระเบียบแผนภูมิทั้งหมดแล้วบันทึก แล้วจึงเข้าสู่ระบบกล่องจดหมายของตน ตามด้วยคลิกที่โพสต์กล่องจดหมายเพื่อส่ง
“รุ่นน้อง” รุ่นพี่เยี่ยถือแก้วเข้ามาจากด้านหลัง “กำลังโพสต์เหรอ”
“อือ บทความวิจัยฉบับหนึ่ง” ฉินหร่านปิดหน้าโพสต์ลง
มือของเธอรวดเร็ว ไม่อย่างนั้นรุ่นพี่เยี่ยจะต้องเห็นแน่นอนว่าจดหมายที่เธอเขียนคือกล่องจดหมายของบทความฟิสิกส์ SCI ที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างมาก
“เพิ่งมาห้องปฏิบัติการก็เขียนบทความวิจัยวิจัยไปแล้วหนึ่งฉบับ” รุ่นพี่เยี่ยละสายตากลับ ยิ้มถาม “ศึกษาด้านไหนอยู่ล่ะ”
“เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์” บทความวิจัยส่งออกไปแล้ว แค่รอให้ทางวารสารตรวจทาน ฉินหร่านปิดหน้าบทความวิจัย ใบหน้าค่อนข้างล้า
รุ่นพี่เยี่ยพยักหน้า จากนั้นจึงมองที่นักวิจัยเลี่ยว “นักวิจัยเลี่ยวให้เธอเข้ามา”
ฉินหร่านเก็บหนังสือ เข้าไปกับรุ่นพี่เยี่ย
ด้านใน นักวิจัยเลี่ยวมอบหมายงานตอนบ่ายให้หลายคน เขาชี้ไปที่เครื่องมือแก้ไขการไหลเวียนของสนามแม่เหล็ก “จากข้อกำหนดการเปรียบเทียบของฉัน ให้คำนวณหาสนามแม่เหล็กที่ดีที่สุด”
ก่อนหน้านี้งานแบบนี้ล้วนจัดเตรียมโดยจั่วชิวหรงและรุ่นพี่เยี่ย
จั่วชิวหรงคำนวณข้อมูลเบื้องต้นไว้แล้ว รุ่นพี่เยี่ยช่วยนักวิจัยเลี่ยวปรับแก้สนามแม่เหล็กตามข้อมูล
วันนี้มีฉินหร่านเพิ่มมาอีกคน จั่วชิวหรงเม้มปากมองฉินหร่าน เธอไม่ได้พูดอะไร ดูแล้วเงียบสงบกว่าวันก่อนมาก และเงียบสงบกว่าที่ผ่านมา เธอนำคอมพิวเตอร์ของตัวเองมาคำนวณข้อมูลโดยตรง
ฉินหร่านกลับไม่รีบร้อน ทั้งยังยืนมองกระบวนการทดลองของรุ่นพี่เยี่ยที่แท่นทดลองของเขาอยู่สองชั่วโมง จึงไปหยิบเอาคอมพิวเตอร์ของตัวเองมาคำนวณสนามแม่เหล็กและการไหลเวียน
ผ่านไปสองชั่วโมง หกโมงกว่า
ฉินหร่านเขียนแผนภาพจำลอง พลางตรวจสอบข้อมูลที่ดีที่สุด
โทรศัพท์ที่วางข้างมือดังขึ้น เป็นเฉิงเจวี้ยนที่ถามเธอว่าวันนี้ออกมากี่โมง
ฉินหร่านครุ่นคิด บอกเขาว่าอีกสิบนาที
สิบนาทีต่อมา
เธอคำนวณข้อมูลเรียบร้อย แล้วพิมพ์ออกมา ยื่นให้รุ่นพี่เยี่ย ปลายนิ้วเย็นเยียบ
ด้านข้าง จั่วชิวหรงยังคงคำนวณข้อมูลการทดลองที่ยุ่งยากอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ไม่ได้สนใจสถานการณ์อื่นๆ
รุ่นพี่เยี่ยหมกมุ่นอยู่ในกองสนามแม่เหล็ก สีหน้าคร่ำเคร่ง เห็นฉินหร่านยื่นข้อมูลมา เขาชะงักไป นักวิจัยเลี่ยวที่อยู่ด้านข้างยังคงยุ่งอยู่ จั่วชิวหรงยังคงคำนวณข้อมูล เขาพูดเสียงต่ำอย่างประหลาดใจ “คำนวณเสร็จแล้วเหรอ”
ฉินหร่านพยักหน้า
รุ่นพี่เยี่ยรับมา เหลือบมองพลางตอบกลับว่า “เร็วจัง”
ฉินหร่านกล่าวทักทายรุ่นพี่เยี่ย แล้วจึงออกไปเก็บกระเป๋าเป้ของตน แล้วไปเปลี่ยนเสื้อคลุมที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
แล้วจึงออกไป
ด้านนอกประตูห้องปฏิบัติการฟิสิกส์ รถของเฉิงเจวี้ยนก็เพิ่งจอดลงได้ไม่นาน เขายืนอยู่ข้างรถ สวมเสื้อกันหนาวผ้าแคชเมียร์สีดำ เปิดกว้างออกเผยให้เห็นเสื้อเชิ้ตสีดำด้านใน กระดุมคู่สีเงินเย็นเยือกเมื่อสะท้อนแสงไฟ
ในมือยังคงถือโทรศัพท์ ชัดเจนว่ากำลังคุยโทรศัพท์กับใคร
เห็นเธอเดินมา เขาเดินไปทางนั้นพลางพูดประโยคหนึ่งกับคนในโทรศัพท์แล้วจึงวางสาย
“เธอทำการทดลองอะไรอยู่ เลิกหลังหกโมงทุกวัน” หลังจากเปิดประตูรถให้คนขึ้นไป เฉิงเจวี้ยนจึงหยิบกุญแจรถ
ฉินหร่านเท้าคาง น้ำเสียงสบายๆ “บทความวิจัยเขียนเสร็จแล้ว รอการตรวจทาน”
ส่วนตอนหลัง การแข่งขันนานาชาติ ICNE ของอาจารย์ใหญ่สวี เป็นเรื่องหลัก
เธอใช้เวลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ศึกษาทั้งสองวัน สำหรับการศึกษานี้ได้แนวคิดขึ้นมาเล็กน้อย แต่…สำหรับสมาชิกในทีมของเธอ ไม่รู้ว่าอาจารย์ใหญ่สวีจะยอมรับให้มีนักศึกษาใหม่ปีหนึ่งร่วมอยู่ด้วยหรือไม่…
ในห้องปฏิบัติการ
หลังจากฉินหร่านออกไปได้หนึ่งชั่วโมง จั่วชิวหรงคำนวณคำตอบของเธอได้แล้ว
“คำนวณได้แล้วเหรอ” ห้องปฏิบัติการใหญ่มาก นักวิจัยเลี่ยวเดินมาจากอีกด้าน น้ำเสียงตามเดิม
“เพิ่งคำนวณได้ค่ะ” จั่วชิวหรงหยิบกระดาษที่ตนพิมพ์ขึ้นมา เดินไปหน้าเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่สร้างโดยนักวิจัยเลี่ยว
รุ่นพี่เยี่ยตอบสนองกลับ เขาหยิบกระดาษที่ฉินหร่านให้เขาไว้ก่อนหน้านี้ “รุ่นน้องก็ให้ข้อมูลกับฉันมาแล้ว”
นักวิจัยเลี่ยวมองข้อมูลในมือรุ่นพี่เยี่ย
ส่วนจั่วชิวหรงไม่แม้แต่จะมองข้อมูลนั่น และไม่พูดอะไร เธอเพียงยืนอยู่หน้าเครื่อง ทยอยปรับความหนาแน่นของการหมุนเวียนและสนามแม่เหล็กให้เป็นข้อมูลที่ตนคำนวณออกมา
[1] ปลาคาร์ปกระโดดข้ามประตูมังกร เป็นนิทานพื้นบ้านของจีนโบราณ ว่ากันว่าถ้าปลาคาร์ปแห่งแม่น้ำหวางเหอกระโดดข้ามประตูมังกรได้จะกลายเป็นมังกร อุปมาถึงการเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง มีความเจริญรุ่งเรืองมาก นอกจากนี้ยังหมายถึงการก้าวไปข้างหน้าด้วย