เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 451 เริ่มการคัดเลือก! เจ๊หร่านขุดหลุมพราง!
เสียงโกรธเคืองของเหล่าผู้ถือหุ้นที่ลุกขึ้นยืนกับคุณชายสี่ตระกูลฉินเงียบกันทั้งแถบ
ห้องประชุมที่ชุลมุนสงบลง
มีผู้ถือหุ้นบางคนรู้จักฉินหร่านและมีบางคนที่ไม่รู้จัก แต่ทั้งหมดต่างก็มองมาที่เด็กสาวที่เดินเข้ามาอย่างสบายใจเฉิบคนนั้นโดยไม่มีข้อยกเว้น
ดวงตาเฉลียวฉลาดทะยานขึ้นฟ้า
“คุณหนู คุณมาแล้ว” พ่อบ้านฉินยังคิดจะโทรหาเฉิงมู่เพื่อถามว่านี่กำลังคิดจะฆ่าเขาอยู่หรือเปล่า แต่พอพบฉินหร่านในขณะนี้ เขาก็ลากเก้าอี้ยืนขึ้น
อาเหวินที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก
การแสดงออกทางสีหน้าของฉินซิวเฉินยังคงสงบนิ่งตามสไตล์ตั้งแต่ต้นจนจบ
ขณะนี้เขาก็ลุกขึ้นยืนและหันไปมองบรรดาผู้ถือหุ้นที่นั่งอยู่ริมโต๊ะประชุม เชิดคางเล็กน้อยแล้วพูดอย่างเฉยชา “นี่คือพี่สาวเสี่ยวหลิง ฉินหร่าน และเป็นคนที่จะเข้าร่วมการคัดเลือกผู้สืบทอดแทนเสี่ยวหลิงในครั้งนี้ด้วย”
เนื่องด้วยคำพูดเหล่านี้ ห้องประชุมที่เงียบสงบก็กลับมามีเสียงซุบซิบ
คุณชายสี่ตระกูลฉินกลับมานั่งเก้าอี้เหมือนเดิม เขาละสายตาจากฉินหร่านมองมาทางฉินซิวเฉิน หรี่ตาลง “นายแน่ใจนะว่าจะให้หลานสาวเข้าร่วม? โอกาสมีแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นนะ”
มิน่าล่ะฉินหลิงถึงไม่ปรากฏตัว ที่แท้แล้วได้ฉินหร่านนี่เอง
คุณชายสี่ตระกูลฉินจับทางไม่ถูกว่าพวกพ่อบ้านฉินกำลังคิดอะไรอยู่ เรื่องที่ฉินหร่านอยู่ห้องปฏิบัติการทางฟิสิกส์ คุณชายสี่ตระกูลฉินก็หาคนมาสอบถามดูแล้วและยังเคยให้ฉินอวี่ดึงอีกฝ่ายมาเป็นพวก แต่ก็ไม่สำเร็จ
ฉินซิวเฉินพยักหน้านิ่งๆ น้ำเสียงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน “ไม่ผิด”
“ยังมีอีกเรื่องนึง เนื่องจากหลานสาวตัวน้อยโตแล้วและเธออายุเกิน15ปีแล้ว เนื้อหาการคัดเลือกมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ซึ่งเนื้อหายังคงเหมือนเดิม แต่จะใช้มาตรฐานของผู้ใหญ่…” คุณชายสี่ตระกูลฉินมองฉินซิวเฉินอย่างครุ่นคิด
เขารู้ว่าฉินซิวเฉินเป็นนักแสดง เชี่ยวชาญการแสดงละคร
เวลานี้ฉินซิวเฉินยังนิ่งอยู่แบบนี้ ไม่รู้ว่าเป็นการแสดงหรือนิ่งจริงๆ กันแน่…
ไม่ว่าจะเป็นการแสดงหรือไม่ คุณชายสี่ตระกูลฉินก็ไม่มีทางลงไปเสี่ยง
ฉินซิวเฉินเงยหน้าขึ้นหลังจากที่เขาพูดจบ
อาเหวินและพ่อบ้านฉินมีสีหน้าเปลี่ยนไป พ่อบ้านฉินตบโต๊ะ “ปัง” เขามองคุณชายสี่ตระกูลฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อ เนื้อหาการประเมินของฉินหลิงก็ยากพออยู่แล้ว นี่เขายังจะเพิ่มความยากเข้าไปอีก “คุณชายสี่ เห็นชัดๆ ว่าเป็นการกลั่นแกล้ง…”
“พ่อบ้านฉิน ตัวผู้สมัครเปลี่ยน เนื้อหาการประเมินย่อมเปลี่ยนเป็นธรรมดา” คุณชายสี่ตระกูลฉินพูดแบบยิ้มๆ และยกมือขวาขึ้น “ที่ฉันทำก็เพื่อความเจริญก้าวหน้าของตระกูลฉินในอนาคต ไม่อย่างนั้นคุณก็ลองถามความคิดเห็นผู้ถือหุ้นที่นั่งที่นี่ดูสิ”
บรรดาผู้ถือหุ้นเห็นผลประโยชน์มาก่อน เวลานี้จึงสนับสนุนคุณชายสี่ตระกูลฉิน “ถูกต้อง ไม่ใช่คนคนเดียวกัน มาตรฐานก็ย่อมต่างกัน”
“น้องหก” คุณชายสี่ตระกูลฉินส่งสายตามองฉินซิวเฉิน ยิ้มสบายอกสบายใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ “แม้ระดับความยากของการประเมินจะเปลี่ยนไป แต่จำนวนหุ้นก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน ตามมาตรฐานผู้สืบทอด เขาจะได้หุ้นสูงสุดถึง18%ของหุ้นทั้งหมด”
สูงกว่ามาตรฐานเริ่มต้นของฉินหลิงถึง8%
แน่นอนว่าผู้ถือหุ้นในที่ประชุมต่างก็รู้ดีว่าพวกเขาไม่มีทางผ่านการประเมินนี้ไปได้อยู่แล้ว หุ้นจำนวน18%เป็นแค่สิ่งล่อตาล่อใจเท่านั้น
ฉินหร่านที่ยืนอยู่ข้างฉินซิวเฉินยังคงไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน หว่างคิ้วดูเยือกเย็นเล็กน้อย
เมื่อได้ยินว่าหุ้น18% เธอก็เงยหน้าขึ้น นิ้วขาวซีดลูบปลายคาง คิดได้สักพักก็หันไปถามอาเหวิน “18%?”
คุณชายสี่ตระกูลฉินเป็นผู้ถือหุ้นสูงสุด51%ของหุ้นในบริษัทตระกูลฉินและยังมีอำนาจตัดสินชี้ขาด
หุ้นสำหรับผู้สืบทอดจำนวน18%นั้นโอนมาจากคุณชายสี่ตระกูลฉิน
คุณชายสี่ตระกูลฉินมีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุฉินหลิง การที่ให้เขาถือหุ้นเพียง18%นั้นถือว่าน้อยเกินไป
เธอรู้สึกว่ามันน้อยไป แต่เมื่อเทียบกับพวกพ่อบ้านฉินแล้ว นี่คือจำนวนหุ้นที่มากที่สุดที่พวกเขาพบเห็นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ถึงอย่างไรเสียฉินซิวเฉินก็มีแค่3%เท่านั้น
อาเหวินก็โมโหเช่นกัน เมื่อได้ยินคำพูดของฉินหร่าน เขาก็คิดว่าฉินหร่านกำลังกังวลกับการประเมิน จึงรีบบอกไปทันทีว่า “18%เป็นมาตรฐานสูงสุดสำหรับการประเมินผู้สืบทอดและยังเป็นจำนวนหุ้นที่สูงที่สุดอีกด้วย มากกว่ามาตรฐานของคุณชายน้อยก่อนหน้านี้ไปสองเท่า คุณหนูไม่ต้องห่วงนะครับ คุณชายหกกับพ่อบ้านฉินไม่มีทางตอบตกลง…”
หุ้นจำนวน18%นั้นถือว่าเป็นมาตรฐานสูงสุด
ฉินหร่านพยักหน้าเบาๆ เธอหันไปมองฉินซิวเฉินกับพ่อบ้านฉินและพูดเบาๆ ว่า “ตกลงเถอะ”
“แต่ว่า…” พ่อบ้านฉินเม้มปาก หน้าแก่ๆ โมโหจนหน้าแดง
เดิมทีพ่อบ้านฉินก็ไม่สบายใจอยู่แล้วที่ฉินหร่านจะเข้าร่วมการคัดเลือกแทนฉินหลิง และในขณะนี้คุณชายสี่ตระกูลฉินก็ยังหาเรื่องต่อต้านขึ้นมาอีก
แต่เดิมการคัดเลือกนี้ของตระกูลฉินก็เป็นเพียงฉากบังหน้าฉากหนึ่งเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประเมินระบบผู้ใหญ่ ตอนนั้นมีแค่นายท่านเท่านั้นที่ผ่าน สิ่งนี้ก็แค่ถูกกำหนดมาเป็นเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งคุณชายสี่ตระกูลฉินคิดจะใช้ประโยชน์จากเกณฑ์นี้
เห็นได้ชัดว่าคุณชายสี่ตระกูลฉินไม่ต้องการให้ทายาทสายตรงกลับมา!
ต่อหน้าผู้ถือหุ้นมากมายขนาดนี้ เขาไม่แม้แต่จะเสแสร้งเลยด้วยซ้ำ!
“คุณไม่มีทางทำอะไรเขาได้หรอก” ฉินหร่านพูดอย่างสุขุม “ในเมื่อสู้ก็สู้ไม่ได้ก็รีบตกลงแล้วรีบทำให้มันจบเร็วๆ หน่อย ฉันยังมีการทดลอง”
พ่อบ้านฉินเองก็รู้ดีว่าเขาสู้คุณชายสี่ตระกูลฉินไม่ได้ จึงตอบตกลงในท้ายที่สุด
เมื่อเห็นใบหน้าแค้นเคืองของพ่อบ้านฉิน คุณชายสี่ตระกูลฉินก็หัวเราะ “พ่อบ้านฉิน ทำไมต้องกังวลด้วยล่ะ ฉันก็เอาหุ้น18%ออกมาแล้วนี่ ไปห้องวิศวกรรมข้างๆ ก่อนดีกว่า”
**
การคัดเลือกผู้สืบทอดมีความสำคัญมาก
เนื้อหาการประเมินครอบคลุมทุกรอบด้าน
สถานที่อยู่ในห้องวิศวกรรมใหญ่ ภายในห้องวิศวกรรมมีคอมพิวเตอร์วางไว้สองแถว คอมพิวเตอร์แถวหน้าสุดมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงนั่งอยู่เจ็ดคน ซึ่งเป็นครูที่ทดสอบมาตรฐานผู้สืบทอดของวันนี้
คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องที่อยู่แถวหลังกำลังเปิดอยู่ เปิดหมดทุกเครื่อง
เมื่อเห็นคุณชายสี่ตระกูลฉินและคนอื่นๆ เดินเข้ามา ทั้งเจ็ดคนนี้ก็รีบลุกขึ้นพร้อมกับทักทายอย่างสุภาพ “ประธานฉิน”
ข้างหลังเขา ฉินซิวเฉินค่อยๆ เดินมาข้างๆ ฉินหร่าน พ่อบ้านฉินกับอาเหวินอยู่ข้างหลังทั้งสองถัดไปหนึ่งก้าว
“หร่านหร่าน ไม่ต้องเครียดกับการประเมินรอบนี้ ภาระอันหนักอึ้งของตระกูลฉินไม่ได้ตกอยู่ที่เธอ” ฉินซิวเฉินพูดเบาๆ ว่า “ถึงจะไม่มีโอกาสนี้แล้ว แต่ต่อไปเสี่ยวหลิงก็จะแย่งกลับมาได้เอง”
“หนูเข้าใจค่ะ” ฉินหร่านพยักหน้า น้ำเสียงเรียบเฉย ฟังไม่ออกถึงอารมณ์ความรู้สึก
เมื่อเห็นว่าเธอดูนิ่งและมั่นใจ พ่อบ้านฉินกับอาเหวินที่โมโหคุณชายสี่ตระกูลฉินก็ผ่อนคลายลงไปมาก
พอทั้งหมดเดินเข้าไป ฉินหร่านก็เห็นคอมพิวเตอร์เจ็ดเครื่องที่กำลังส่องสว่าง ชะงักเท้า
“มีอะไร?” ฉินซิวเฉินชะงักเท้า ไพล่มือไว้ด้านหลังพลางมองเธอ
ฉินหร่านเงยหน้าขึ้น ลดเสียงลง “พวกคุณยังแบ่งเป็นเจ็ดเครื่องอยู่อีกเหรอ? ฉันต้องเริ่มตั้งแต่เครื่องซ้ายมือมาใช่ไหม?”
พอเธอพูดออกมา พ่อบ้านฉินกับอาเหวินก็เงียบไป
หลังจากนั้นไม่นาน พ่อบ้านฉินก็เงยหน้าขึ้น อ้าปากอธิบายด้วยความหนักใจ “ครั้งนี้เป็นการประเมินรวม คอมพิวเตอร์ทั้งเจ็ดเครื่องนี้แทนการประเมินแต่ละวิชาโดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งเจ็ดท่านเป็นผู้ดูแล…คุณหนูครับ เรื่องพวกนี้ผมเขียนไว้ในเอกสารกองนั้นที่ให้คุณไว้ชัดเจนแล้วนะครับ คุณ…คุณไม่ได้อ่านมันเหรอ?”
คุคเป็นผู้เรียบเรียงเอกสารเหล่านั้นทั้งกอง
พ่อบ้านฉินรู้ว่าฉินหร่านเป็นคนฉลาดและมีพื้นฐานอยู่ในตัว ข้อมูลเหล่านั้นที่ให้เธอไปจะต้องมีประโยชน์อย่างแน่นอน
แต่…ถ้าฉินหร่านไม่ได้อ่านมัน…
ฉินหร่านเลี่ยงคำถามพ่อบ้านฉิน เธอแหงนหน้ามองเพดาน “ฉันเข้าใจแล้ว”
เธอเดินตรงเข้าไปในห้องวิศวกรรม
พ่อบ้านฉินกับฉินซิวเฉินและคนอื่นๆ เข้าไปข้างในไม่ได้
ประตูห้องวิศวกรรมปิด คุณชายสี่ตระกูลฉินยืนมองอยู่หน้าประตูได้สักพักก็หันมายิ้มให้ฉินซิวเฉินพร้อมกับเชิญชวนอย่างมีมารยาท “น้องหก จะตามพวกเรากลับไปดูกล้องวงจรปิดที่ห้องประชุมด้วยกันไหม?”
“ไม่ล่ะ” ฉินซิวเฉินถือโทรศัพท์ขึ้นมาพลางปฏิเสธนิ่งๆ
จนกระทั่งกลุ่มของคุณชายสี่ตระกูลฉินเดินไป อาเหวินถึงได้มองฉินซิวเฉินกับพ่อบ้านฉิน “เห็นๆ อยู่ว่าครั้งนี้คุณชายสี่จงใจ ระดับสูงสุดของผู้ใหญ่ ระบบวันพรุ่งนี้…”
“รอเธอออกมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน” ฉินซิวเฉินยืนอยู่กับที่โดยไม่ขยับเขยื้อน
พ่อบ้านฉินก็อยู่อย่างเงียบๆ
การคัดเลือกคืนนี้ไม่แน่ว่าจะผ่านมันไปได้…
พอคิดถึงตรงนี้ พ่อบ้านฉินก็หยิบโทรศัพท์ออกมา หรี่ตาเปิดวีแชทและหารูปโปรไฟล์เฉิงมู่ในกลุ่ม
สายตาเขาพร่ามัวเล็กน้อย พิมพ์ก็ช้า กว่าจะส่งข้อความไปสักประโยคก็ใช้เวลานานอยู่สักพัก——
(คุณเฉิงมู่ เอกสารที่ผมฝากคุณเอาไปให้คุณหนู คุณหนูได้อ่านมันไหม?)
ขณะนี้เฉิงมู่กำลังคุยเล่นกับเฉิงจินอยู่ในรถ เมื่อเห็นข้อความที่พ่อบ้านฉินส่งมา เขาก็หรี่ตาคิดๆ ดู จากนั้นก็ตอบไปตามความจริง——
(ไม่ครับ)
(แต่ว่าเวลาคุณหนูฉินว่างก็จะสอบถามคุณชายเจวี้ยนในเรื่องเกี่ยวกับบริษัท)
เมื่อเห็นคำตอบนี้ พ่อบ้านฉินก็ยิ่งกังวล
อาเหวินโน้มตัวมา “พ่อบ้านฉิน ไม่เป็นไรนะ?”
พ่อบ้านฉินส่ายหน้า จากนั้นก็เอาข้อความในโทรศัพท์ให้เขาดู
อาเหวินดูเสร็จ สีหน้าก็ไม่ได้ลำบากใจเท่าพ่อบ้านฉิน เขาแค่ส่ายหน้า “พ่อบ้านฉิน เห็นๆ อยู่ว่าคุณชายสี่ตระกูลฉินไม่ต้องการให้คุณหนูผ่าน ถึงเธอจะอ่านไปก็ไม่มีประโยชน์ คุณชายหกพูดถูกแล้ว อย่าทำให้คุณหนูกดดันเกินไป”
เมื่อฉินซิวเฉินที่ยืนมองอยู่นอกกระจกหน้าต่างได้ยินที่อาเหวินพูด เขาก็หันกลับมา “พวกเรากลับห้องประชุมกันเถอะ อยู่ที่นี่จะเป็นการกดดันเธอเปล่าๆ ”
“ครับ พวกเรากลับกันเถอะ” ถึงพ่อบ้านฉินจะอยากดู แต่ฉินซิวเฉินก็พูดถูก
ทั้งสามกลับมาที่ห้องประชุมอีกครั้ง
อีกด้านหนึ่ง ฉินหร่านกำลังหยุดอยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์เครื่องแรก