เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 455 พ่อฉันเป็นประธานสมาคมแฮกเกอร์
หลังจากส่งประโยคนี้ อีกฝ่ายก็รีบส่งมาอีกประโยค——
(ได้ยินมาว่าเป็นของเพื่อความบันเทิงของเหล่าบอสใหญ่ ไม่มีขาย คุณไปได้มาจากไหน? ให้ผมยืมหน่อยได้ไหม?)
“เพราะยาทดลองที่พี่กู้ให้ผมมา” ฉินหลิงพูดกับคุคด้วยความเคารพ เขาพูดเสร็จก็นิ่งไปสักพัก เพิ่มเฉิงเจวี้ยน “และได้ยินมาว่าพี่ใหญ่เฉิงผ่าตัดได้ไม่เลว…”
พอพูดจบ ฉินหลิงก็เห็นคุคนั่งมองโทรศัพท์ด้วยความมึนงงอยู่บนเก้าอี้
“อาจารย์ครับ ไม่เป็นไรนะครับ?” ฉินหลิงสงสัย เอามือแตะคุค
คุคได้สติกลับมา เขายังจำได้ว่าฉินหลิงผ่าตัดเปิดกะโหลกมา จึงไม่กล้าเขย่าตัวเขา
“เสี่ยวหลิง พี่สาวเธอเป็นคนให้หนังสือเล่มดำกับเธอมาใช่ไหม?” มือทั้งสองข้างยันเตียงไว้
ฉินหลิงเงยหน้า ดวงตาดำขลับหรี่ลง คิดได้ว่าคุคพูดถึงหนังสือเล่มไหน “ใช่ครับ หนังสือของผมส่วนใหญ่ พี่สาวเป็นคนให้มา…”
เขาพูดยังไม่ทันจบ คุคก็ฟังต่อไปไม่ไหว
คุคลุกจากเก้าอี้ทันที ไม่อธิบายแม้แต่ประโยคเดียว ตรงไปเปิดประตูห้องตามออกไป
“นี่อาจารย์คุคเป็นอะไรไป?” ในห้องผู้ป่วย อาเหวินและคนอื่นๆ กลับมารู้สึกตัว
มองไปทางคุคด้วยความมึนงง
ฉินหลิงหรี่ตา เขาจำได้ว่าหนังสือเล่มดำเล่มนั้นเป็นโค้ดชั้นสูงทั้งหมด เขาเองก็ชอบอ่านมันมาก
หนังสือส่วนใหญ่ที่ฉินหร่านมอบให้เขาไม่ใช่หนังสือยอดนิยมในตลาด ฉินหลิงจึงไม่รู้ว่าหนังสือที่เขาอ่านเป็นหนังสือชั้นสูง
ถึงอย่างไรตอนที่ฉินหร่านมอบหนังสือให้เขา มันก็…
ดีมากจริงๆ
แต่ตอนนี้เมื่อเห็นปฏิกิริยาของคุคแล้ว ฉินหลิงก็ตระหนักได้ว่าหนังสือที่ฉินหร่านมอบให้เขาอาจจะไม่ใช่หนังสือธรรมดาทั่วไป…
ฉินหลิงขมวดคิ้วเพราะปวดหัว
เขาเงยหน้ามองไปทางอาเหวินและอาไห่ สุดท้ายก็หยุดสายตาไปที่ตัวอาเหวิน “คุณอาอาเหวิน ตอนเย็นคุณอาช่วยเอาหนังสือทั้งหมดในห้องผมเก็บไปล็อกไว้ในตู้ได้ไหมครับ?”
เอาหนังสือไปล็อกเก็บไว้?
นี่เป็นคำขอประหลาดอะไรกันเนี่ย?
แต่อาเหวินก็ไม่ได้ปฏิเสธ เขาพยักหน้าทันที “ครับ ผมเข้าใจแล้ว”
**
คุคช้ากว่าฉินหร่านไปหนึ่งก้าว
ลิฟต์ของฉินหร่านกับฉินซิวเฉินมาถึงที่ชั้นหนึ่งแล้ว แต่เขาเพิ่งอยู่ข้างลิฟต์
รถของฉินซิวเฉินจอดไว้ด้านนอกประตูโรงพยาบาล ขณะนี้เขายังยืนคุยกับฉินหร่านอยู่ริมถนน
ใกล้จะห้าโมงครึ่งแล้ว สีท้องฟ้าช่วงเดือนมกราคมเริ่มมืดแล้ว
ในที่สุดคุคก็ตะโกนเรียกก่อนฉินซิวเฉินจะขึ้นรถและฉินหร่านกำลังจะจากไป “คุณฉิน พวกคุณรอเดี๋ยว!”
จนกระทั่งคุคเหนื่อยหอบอยู่ตรงหน้าพวกเขา ฉินซิวเฉินจึงมองคุคด้วยความแปลกใจ “อาจารย์คุค คุณมีอะไรหรือเปล่าครับ?”
คุคพยักหน้า เขามองมาทางฉินหร่าน “ผมขออนุญาตถามสักคำถาม คุณมีหนังสือเขียนโปรแกรมของสมาคมแฮกเกอร์ได้ยังไง?”
ไฟริมถนนค่อยๆ สว่างขึ้น
ใบหน้าฉินหร่านถูกอาบไปด้วยแสงนวลสลัว เมื่อได้ยินที่คุคถาม เธอก็หันมาอย่างเฉื่อยชา “คุณหมายถึงหนังสือเล่มดำ?”
คุคพยักหน้าอย่างสุดชีวิต
ฉินซิวเฉินและผู้จัดการที่อยู่ด้านข้างก็ได้ยินคำพูดของคุคหมดแล้ว
ผู้จัดการถึงกับอึ้งเมื่อฟังจบ “หนังสือการเขียนโปรแกรมของสมาคมแฮกเกอร์คืออะไร?”
“ก็เป็นหนังสือการเขียนโปรแกรมโค้ดที่สมาคมแฮกเกอร์ตีพิมพ์ออกมา จัดทำโดยแฮกเกอร์ระดับต้นๆ ของสมาคมแฮกเกอร์ แต่ไม่มีขายภายนอก บุคคลภายในเท่านั้นที่ได้มา” คุคอธิบายให้ผู้จัดการฟัง แต่ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนยังคงมองไปที่ตัวฉินหร่าน
พอได้ยินคุคพูดเสร็จ ผู้จัดการก็ยิ่งช็อก
“สมาคมแฮกเกอร์พวกนี้มีอยู่จริงงั้นเหรอ?” ผู้จัดการจับไหล่คุคพร้อมกับพูดด้วยความตื่นเต้น “Qคนนั้นที่เป็นที่ฮือฮาบนโลกออนไลน์เมื่อไม่กี่ปีก่อนก็มีอยู่จริง? ไม่ได้เป็นแค่ตำนานใช่ไหม?”
เรื่องสมาคมแฮกเกอร์เหล่านี้น่าจะคล้ายพวกเรื่องตำนานในสายตาคนทั่วไป
เป็นเรื่องลึกลับบนโลกออนไลน์ ไม่มีใครยืนยันได้
ในที่สุดคุคก็ปรายตามองผู้จัดการด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “แน่นอนว่าไม่ใช่ตำนาน”
“หลานสาวตัวน้อย เธอมีหนังสือการเขียนโปแกรมของสมาคมแฮกเกอร์ได้ยังไง?” ผู้จัดการมองมาทางฉินหร่านพลางพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
ฉินหร่านมองผู้จัดการกับคุค เงียบไปไม่กี่วินาทีก็ยิ้มออกมา พูดเรียบๆ ว่า “ฉันก็ไม่รู้ ไม่รู้ว่าเพื่อนบ้านไปเอามาจากไหนแล้วมาขายให้ฉัน ฉันก็เลยเอาให้เสี่ยวหลิง ”
สายตาเธอแน่นิ่ง น้ำเสียงเฉยชา
ไม่เหมือนพูดโกหก
สีหน้าท่าทางที่ดูตรงไปตรงมาค่อนข้างโน้มน้าวคนได้
ผู้จัดการกับคุคมองเธอได้สักพักก็เชื่อ
ฉินซิวเฉินยืนอยู่อีกด้านตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่พูดอะไร
คุคคุยกับฉินหร่านไม่กี่ประโยค ทุกคนก็แยกย้ายกัน
ในรถตู้ของฉินซิวเฉิน ผู้จัดการอดทอดถอนใจไม่ได้ “คาดไม่ถึงว่าจะมีองค์กรลับอย่างสมาคมแฮกเกอร์จริงๆ เพื่อนบ้านหลานสาวตัวน้อยมีหนังสือภายในองค์ได้ยังไงกันนะ…”
**
ทางด้านนี้ ฉินหร่านก็ขึ้นรถเช่นกัน
เฉิงมู่ขับรถอยู่ด้านหน้า ฉินหร่านนั่งอยู่ด้านหลัง เธอหยิบโทรศัพท์เปิดวีแชทแล้วจิ้มไปที่ภาพโปรไฟล์เพื่อนบ้าน
อันที่จริงเธอก็ไม่ได้โกหก เพราะเธอไม่รู้จริงๆ ว่าหนังสือเล่มดำเป็นหนังสือภายในสมาคมแฮกเกอร์ รู้แค่ว่าคนของสมาคมแฮกเกอร์เป็นคนเขียนและยังคิดไม่ถึงว่าไม่มีขายข้างนอก…
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมลู่จือสิงถึงมีหนังสือภายในสมาคมแฮกเกอร์นั้น…
ฉินหร่านคิดๆ ดูแล้วก็ส่งข้อความไป——
(คุณมีความเกี่ยวข้องอะไรกับสมาคมแฮกเกอร์?)
เธอจำได้ว่าเพื่อนบ้านเคยบอกว่าเขาไม่ค่อยชอบสมาคมแฮกเกอร์ ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าร่วม
ส่วนฉินหร่าน…
สมาคมแฮกเกอร์เคยมาเชิญเธอหลายครั้งแล้ว เชิญมาทั้งสองตัวตน…
ทางฝั่งเพื่อนบ้านก็ยังคงยุ่งอยู่
หลังจากเฉิงมู่ขับรถไปที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน เพื่อนบ้านก็โทรศัพท์มา
“ทำไมเธอถึงถามคำถามนี้?” ชั้น28เงียบมาก ลู่จือสิงเลือกผู้สมัครสองคนสุดท้ายได้แล้ว เขาถือโทรศัพท์เดินไปที่ห้องประชุม
น้ำเสียงไร้การแต่งเติม
คนข้างๆ ส่งถ้วยชาให้เขา
ลู่จือสิงรับมา ก้มหน้ามองใบชาเจ็ดใบ
หลุบตาดื่มไปหนึ่งคำ
ฉินหร่านลงจากรถแล้วถือกระเป๋าเป้
ระหว่างทางไม่กี่ก้าว เธอไม่สวมผ้าพันคอ พูดอย่างเฉยเมย “ก็แค่ลองถามดู ค่อนข้างแปลกใจอยู่เหมือนกัน คุณไม่ใช่คนของสมาคมแฮกเกอร์และยังสามารถเชิญฉันเข้าร่วมสมาคมแฮกเกอร์ได้”
“ก็ไม่มีอะไรหรอก” ลู่จือสิงวางถ้วยชาไว้บนโต๊ะ ก่อนหน้านี้เป็นเพราะฉินหร่านไม่เคยถามและบวกกับเขาขี้เกียจจะพูด พอฉินหร่านถามขึ้นมา เขาจึงไม่ได้ปิดบังอะไร โดยหลักแล้วเขากลัวว่าฉินหร่านจะไปจัดการสมาคมแฮกเกอร์ “พ่อฉันเป็นประธานสมาคมแฮกเกอร์ แต่คนที่รู้เรื่องนี้มีไม่มาก จนถึงทุกวันนี้เขาก็ยังหาคนที่จะมาสืบทอดตำแหน่งไม่ได้เลย”