เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 462 จระเข้ยักษ์มาแล้ว
“แปลกเหรอ” คุณท่านถังยกมือให้คนตระกูลลู่เข้าไปก่อน เขายืนอยู่นอกประตู “คุณว่ามา”
ลูกน้องมองดูข้อมูลคอมพิวเตอร์
“ข้อมูลของคนส่วนใหญ่หาได้หมดแล้ว แต่ข้อมูลหลานสาวของน้องสาวคุณที่คุณนายลู่ส่งมาให้ต่างไปจากที่ฉันตรวจเจอ” น้ำเสียงของโทรศัพท์อีกฝั่งนิ่งไปอย่างชัดเจน จึงค่อยพูดต่อ “ข้อมูลของแต่ละคน ข้อมูลทางสังคมล้วนแตกต่างไป แต่ที่คุณนายลู่ส่งมาน่าจะไม่ผิดพลาด…”
เรื่องแบบนี้หากอยู่ในโลกของแฮกเกอร์ ก็ไม่น่าแปลก แฮกเกอร์คนหนึ่งต้องจงใจอำพรางตัว แม้แต่องค์กรตำรวจสากลก็ยังหาตัวได้ยาก…
แต่…
ที่คุณนายลู่ส่งมา พวกเขาหาไม่เจอสักคน
“พวกคุณนำข้อมูลทั้งสองฉบับมาให้ฉัน” คุณท่านถังเดินเข้ามาด้านใน
หลังจากคุณนายลู่รอเขานั่งที่เรียบร้อย จึงออกไปพบฉินฮั่นชิว
คุณท่านถังให้คนถ่ายสำเนาข้อมูลสองฉบับออกมา แล้วเปิดดู
ข้อมูลบางส่วนเรียบง่าย บางส่วนละเอียด
ฉินฮั่นชิว ฉินหร่าน ฉินอวี่ ฉินหลิง ของฉินฮั่นชิวกับฉินอวี่ละเอียดมาก ครอบคลุมที่ฉินฮั่นชิวถูกลักพาตัว ติดอยู่ภูเขาอันล้าหลังเกือบสี่สิบปี
มีหมดทุกเรื่องที่สำคัญตั้งแต่เกิดจนถึงตอนนี้ของฉินอวี่ ครอบคลุมถึงผลสอบของเธอไปถึงความสัมพันธ์การติดต่อฉินฮั่นชิว อีกทั้งการถูกสมาคมไวโอลินไล่ออก…
ทว่าข้อมูลของฉินหร่านกับฉินหลิง…
อย่าว่าแต่การแนะนำรายละเอียด เรื่องที่ฉินหร่านเป็นแชมป์การสอบเข้าก็หาไม่เจอ
กลับกันข้อมูลฉบับนั้นของคุณนายลู่ เห็นชัดว่าเธอไม่ได้เอ่ยถึงฉินอวี่เลย จึงพูดได้อย่างครุมเครือว่าเธอไม่แน่ชัด
กลับกันยังจงใจเขียนอธิบายความยอดเยี่ยมของฉินหร่านไว้ ไม่ใช่แค่แชมป์การสอบ แต่ยังเป็นนักประพันธ์ผู้มีชื่อเสียงมากด้วย ทั้งตอนนี้ยังอยู่ที่ห้องปฏิบัติการฟิสิกส์…
คุณนายลู่พูดถึงขนาดนั้น คุณท่านถังยังไม่รู้เลย
ไม่แปลกที่ลูกน้องของเขาจะประหลาดใจ
นี่มันประหลาดจริงๆ
ไม่เพียงหลานสาวของน้องสาวของเขา ข้อมูลของฉินหลิงเองก็แปลก
**
รัฐ M
ฉินหร่านกำลังดูข้อมูลที่แมทธิวส่งให้เธอ
ฉบับหนึ่งคือแฮกเกอร์ที่เขาตามหา ฉินหร่านดูข้อมูลอยู่เล็กน้อย
ชื่อ : การ์ดเนอร์
แฮกเกอร์ No.19 ในสมาพันธ์แฮกเกอร์
ครึ่งเดือนก่อนมีการติดต่อวางแผนกับกลุ่มคนชั่วเพื่อวางระเบิด ทั้งยังจับกุมการควบคุมดูแล
อยู่ระดับสูงกว่าเฉิงหั่วเกือบหนึ่งระดับ ไม่แปลกที่จะเข้าหาเขา
สมาพันธ์แฮกเกอร์หละหลวมมาก ด้านในมีทั้งคนดีคนเลว สมาพันธ์แฮกเกอร์ยังมีลิงก์รับคำสั่งแบบดาร์กเว็บโดยเฉพาะอยู่ด้วย ในตอนแรกกู้ซีฉือยังเคยตามหาคนจากในนั้น แต่ก็รับไม่ได้กับเรื่องไร้มนุษยธรรมเกินไป
แต่บางคนไร้ความปรานี ทำได้ทุกอย่าง
การ์ดเนอร์เป็นแบบหลัง ฉะนั้นแมทธิวจึงต้องจับเขาอย่างไม่มีทางเลือก
ในอดีตแมทธิวไม่รู้จะจัดการอย่างไรเมื่อพบสถานการณ์เช่นนี้ ตอนนี้มีฉินหร่าน เขาจึงยังมีไพ่ตายสำหรับอาชญากรไอคิวสูงเหล่านี้ ดังนั้นแม้แต่เฉิงสุ่ย หัวหน้าหน่วยตู้และคนอื่นๆ จึงต่างเคยได้ยินมา
ทุกคนต่างรู้ว่าแมทธิวมีการร่วมมือกับแฮกเกอร์อยู่เบื้องหลัง เกือบสองปีกว่าที่แฮกเกอร์ส่วนหนึ่งไม่กล้าสร้างเรื่องให้แมทธิว
ฉินหร่านปิดข้อมูลของการ์ดเนอร์ แล้วเปิดข้อมูลห้องขังล่าสุดของแมทธิว
แมทธิวให้มาง่ายๆ มีการบันทึกผู้คนทุกวัน ทั้งยังจัดกลุ่มคนพ่อค้ายารายใหญ่อันวุ่นวายไว้ด้านหน้าเป็นพิเศษด้วย
เขาเดาว่าฉินหร่านน่าจะต้องการตามหาคน ทั้งยังคาดการณ์ไว้ว่า คนที่ Q รู้จักจะต้องซับซ้อน จึงได้นำคนเหล่านี้ไว้ด้านหน้า
ฉินหร่านพลิกไปเรื่อยๆ
เธอดูอย่างรวดเร็ว โดยพื้นฐานแล้วหนึ่งคนต่อหนึ่งหน้า ด้านในบันทึกข้อมูลพื้นฐานและเนื้อหาทางอาญาไว้อย่างละเอียด
สิบนาทีต่อมา ในที่สุดฉินหร่านก็เปิดเจอพวกคนของหัวหน้าหน่วยที่หน้าสุดท้าย
เจ้าพ่อค้ายารายใหญ่หน้าแรก เพียงคนเดียวครองทั้งหน้ากระดาษ
หัวหน้าหน่วยสอง และพรรคพวกหัวหน้าหน่วยเกือบสิบคนมีข้อมูลแค่หน้าเดียว…
โดยพื้นฐานแล้วถูกจับโดยการเข้าใจผิด
ฉินหร่านอดไม่ได้ที่จะเอนพิงเก้าอี้ เริ่มครุ่นคิดเรื่องนี้
ตอนนี้เฉิงเจวี้ยนเป็นปรปักษ์ทางอำนาจกับแมทธิวและตระกูลของแมทธิว เขาต้องไปหาแมทธิว…แมทธิวจะต้องฉวยโอกาสทำเรื่องแน่นอน เขาตามหาหลักฐานกลุ่มคนคลับพาราไดซ์ของหัวหน้าตู้มานานแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เฉิงสุ่ยเคยบอกเธอ ครั้งนี้ที่เฉิงเจวี้ยนกลับมา ก็เพื่อต่อต้านแมทธิวโดยเฉพาะ เธอจึงไม่สามารถลงมือเองได้…มันวุ่นวายเกินไป
เธอไม่แน่ใจว่าแมทธิวจำเธอได้หรือไม่…
นึกถึงตรงนี้ ฉินหร่านหยิบโทรศัพท์ เปิดหาจระเข้ยักษ์และกู้ซีฉือ ส่งข้อมูลคนของหัวหน้าหน่วยให้จระเข้ยักษ์ก่อน
ยังไม่ทันพูดสักประโยค มีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามา
จากฉินฮั่นชิว
เธอรับสาย มือยันโต๊ะยืนขึ้น ถือแก้วน้ำไปรินน้ำให้ตัวเอง “เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“เปล่า” ฉินฮั่นชิวยังอยู่ชุมชนอวิ๋นจิ่น เขานั่งอยู่โซฟา พ่อบ้านตระกูลฉิน อาเหวินและคนอื่นๆ มองเขาตาไม่กะพริบ ฉินฮั่นชิวพูดเรื่องที่คุณนายลู่มาหาเขาไป
ฉินหร่านนิ่งลง “พี่ชายของย่าฉันเหรอ”
ฉินฮั่นชิวพยักหน้า “คุณถังจวินเขาต้องการพบฉัน ฉันไปพบได้ไหม…”
“คุณอยากไปพบก็ไป ไม่เป็นไร” ฉินหร่านวางน้ำลงที่โต๊ะ น้ำเสียงไม่เร่งรีบ
เรียบนิ่งมาก
เดิมทีเธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับตระกูลฉินเลย คุณปู่คุณย่าของเธอ เธอไม่เคยเห็นแม้แต่รูปภาพ
ทั้งสองพูดคุยไม่กี่ประโยค จึงวางสายโทรศัพท์
โทรศัพท์อีกฝั่ง สีหน้ายับย่นของพ่อบ้านตระกูลฉินคลายออก มองฉินฮั่นชิวตาไม่กะพริบ “ คุณหนูใหญ่พูดว่าอะไร”
ตอนนี้เรื่องของตระกูลฉิน พ่อบ้านตระกูลฉินก็เผลอถามหาฉินหร่าน
เรื่องนี้ของถังจวิน พ่อบ้านตระกูลฉินก็ไม่มั่นใจนัก โดยหลักคือคนของตระกูลลู่กำลังตามหา พ่อบ้านตระกูลฉินจึงคิดว่าต้องบอกฉินหร่านสักหน่อย
“หร่านหร่านบอกว่าได้” ฉินฮั่นชิววางโทรศัพท์
พ่อบ้านตระกูลฉินพยักหน้า เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา “ถ้างั้นฉันจะบอกคุณนายลู่ ให้จัดการพบปะ”
ฝั่งนี้ ฉินหร่านวางสาย อีกฝั่งของจระเข้ยักษ์ก็มีการเคลื่อนไหว
เขาฝากข้อความไว้ให้ฉินหร่าน…
[นำสิบคนนี้ออกมาเหรอ เรื่องเล็กๆ พรุ่งนี้ฉันจะถึงรัฐ M เหอเฉินบอกมา ตอนนี้คุณก็อยู่ที่รัฐ M เหรอ]
แม้ว่าฐานหลักของจระเข้ยักษ์จะไม่ใช่ที่รัฐ M แต่ก็ค่อนข้างมีเส้นสายที่รัฐ M ใช้สอยคนเหล่านี้ได้ง่าย คำสั่งนั้นของเฉิงเวินหรูจระเข้ยักษ์ก็เคยเห็นมาแล้ว อีกทั้งฉินหร่านอยู่ด้วย แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นแมทธิว ก็ไม่ได้ยากเป็นพิเศษนัก
หลักๆ คือได้ยินมาว่าฉินหร่านอยู่ที่รัฐ M ด้วย
เดิมทีที่รู้ว่าฉินหร่านปรากฏตัว แม้ว่าจระเข้ยักษ์จะอยากไปพบ แต่ให้ตายก็ไม่กล้าไปที่เมืองหลวง
เขาไม่ได้ตระหนักถึงรัฐ M ในตอนนี้
บังเอิญว่าฉินหร่านก็อยู่ที่นี่
ฉินหร่านเปิดเท็กซ์อิดิเตอร์ ตามองคำตอบของจระเข้ยักษ์ ก็รู้ว่าเขาอยากจะพบปะ
เธอรู้จักจระเข้ยักษ์และคนอื่นๆ มาก็ห้าหกปีแล้ว เร็วกว่าเหยียนซีสองปีด้วยซ้ำไป
สักพัก ฉินหร่านหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา หรี่ตาตอบกลับหนึ่งประโยค…
[ฉันอยู่ละแวกอาคารหลักของแมทธิว]
ตอบเสร็จ ปลายนิ้วสีขาวกดที่แป้นพิมพ์ พิมพ์คำสั่งอย่างรวดเร็ว แสงของคอมพิวเตอร์กะพริบวูบวาบต่อหน้าเธอ
จากข้อมูลของแมทธิวที่ให้เธอมา ตรวจพบที่อยู่โรงแรมในตอนนี้ของการ์ดเนอร์ทันที
ระหว่างนั้นก็พบรหัสการบล็อก ฉินหร่านจัดการตรวจสอบ IP…
ชุด IP อันคุ้นเคยปรากฏขึ้นด้านหน้า…
ดวงตาของฉินหร่านหรี่ลง ดูออกเลยว่า IP นี้เป็น IP ที่เฉิงหั่วใช้ประจำ
ไม่แปลกใจที่เฉิงสุ่ยเคยเอ่ยกับเธอเรื่องที่ช่วงนี้เฉิงเจวี้ยนมุ่งร้ายกับแมทธิวพอดี…
และไม่แปลกที่แมทธิวตรวจสอบไม่พบ
เดิมทีระบบป้องกันของการ์ดเนอร์ยากที่จะทำลาย อีกทั้งการขัดขวางอย่างลับๆ ของเฉิงหั่ว แมทธิวจึงหาไม่พบ ก็สมเหตุสมผล
ฉินหร่านกดที่ขมับอย่างปวดหัว เธอส่งข้อมูลโดยคร่าวให้แมทธิว
เอียงศีรษะมองด้านหลัง นึกยังไงก็ไม่เข้าใจ เฉิงเจวี้ยนกับแมทธิวมีเรื่องเกลียดชังอะไรกันแน่
**
วันรุ่งขึ้น ตอนเช้าหกโมงครึ่ง
ฉินหร่านยังไม่ตื่น หนึ่งเป็นเพราะเจ็ตแล็ก สองยังไม่ทันถึงรัฐ M ตอนค่ำเมื่อสองวันก่อนเธอจัดลำดับการติดตามผลของ ICNE จนเสร็จโดยที่ไม่ได้นอนเลย รวมถึงช่วงสองเดือนนี้ การสอบวัดผลของห้องปฏิบัติการ การวิจัยต่างๆ หลังจากเข้าห้องปฏิบัติการ แม้ว่าสุขภาพของเธอจะยอดเยี่ยมก็ยังเกินต้าน
วันนี้จึงหลับอยู่เงียบๆ
เฉิงเจวี้ยนไม่ให้ใครมาเรียกเธอ
เฉิงมู่กับเฉิงเวินหรูต่างก็เจอกับอาการเจ็ตแล็ก จึงยังไม่ตื่น
คนอื่นนั่งรับประทานอาหารอยู่ด้านล่าง
“นายท่าน วันนี้ไม่สนพวกหัวหน้าหน่วยกับหัวหน้าหน่วยที่สองแล้วเหรอ” ที่โต๊ะอาหาร เฉิงหั่วนั่งตรงข้ามเฉิงเจวี้ยน เงยหน้าถามขึ้น
เฉิงเจวี้ยนหยิบตะเกียบขึ้นอย่างสงบ ท่าทีไม่ค่อยแยแส “ให้พวกเขาดูว่าที่รัฐ M ไม่ใช่ที่ที่อยากเข้าก็เข้าได้”
พวกคนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉิง พอได้เห็นการผ่านข้ามเส้นทางเศรษฐกิจของตระกูลสวี ก็ถึงกับอดไม่ได้
ทำไมที่รัฐ M ถึงได้วุ่นวายขนาดนี้ ไม่มีความระมัดระวัง จึงถูกกวาดล้างจนหมด
ตระกูลสวีติดต่อตระกูลมาสผ่านอาจารย์เว่ย
“นายท่าน คุณยังไม่เผยเรื่องนี้แก่นายท่านเฉิงเหรอ” เฉิงสุ่ยมองเฉิงเจวี้ยน
เฉิงเจวี้ยนถือตะเกียบ ไม่ปริปากพูดอะไร
เฉิงเวินหรูลงมาจากด้านบน เธอขยี้ตาเบาๆ สีหน้าท่าทีตื่นเต้นเต็มที่ “129 ตอบกลับแล้ว พวกเขาบอกว่าไม่เกินสามวันพวกคนของหัวหน้าหน่วยจะออกมาได้!”
เธอถือโทรศัพท์ นั่งลงบนที่ว่าง
เฉิงหั่วที่ถือขนมปังอยู่นิ่งไป เขาเงยหน้ามองเฉิงเวินหรู ประหลาดใจเล็กน้อย “ปกติคนของ 129 แค่ส่งข้อมูลให้ก็นับว่าเสร็จภารกิจแล้ว ยังจะช่วยพาพวกของหัวหน้าหน่วยออกมาด้วยเหรอ”
มีเรื่องดีแบบนี้ด้วย?
เฉิงเวินหรูประคองแก้วที่ใส่นมไว้ นั่งไขว่ห้าง เงยหน้าขึ้น “ฉันคิดว่าเรื่องนี้ไม่ยาก แค่จระเข้ยักษ์ลงมือ แก้ไขไม่กี่นาที”
พูดถึงขนาดนี้ เฉิงเวินหรูก็รู้ถึงสถานะที่รัฐ M ของแมทธิวอย่างชัดเจน
ในที่สุดก็เข้าใจว่าทำไมพวกนายท่านถึงกล่าวว่า 129 ล้วนน่ากลัว แม้กระทั่งเรื่องของรัฐ M ก็สามารถแทรกแซงได้
เฉิงเจวี้ยนไม่ได้สนใจเฉิงเวินหรู
เขาวางตะเกียบลง หยิบโทรศัพท์เดินขึ้นด้านบน ใบหน้าสบายใจ
โทรศัพท์สั่นขึ้น
เขาก้มหน้า
มาจากฮอลล์ผู้ดูแลฐานจอดเครื่องบิน เขารับสายทันที
ภาษาจีนกลางของฮอลล์ไม่ค่อยดีนัก ค่อนข้างน่ากระอักกระอ่วน “นายท่าน จระเข้ยักษ์มาแล้ว!”