เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 463 จระเข้ยักษ์ หมาป่าเดียวดาย
ฮอลล์ที่คอยรักษาลานจอดเครื่องบิน จึงให้ความสำคัญอย่างเข้มงวดกับการเคลื่อนไหวของสนามบินเป็นธรรมดา
ในผู้อาวุโสไม่กี่คนของ 129 นอกจากจระเข้ยักษ์กับฉังหนิงแล้ว คนอื่นซ่อนตัวมิดชิดเป็นอย่างมาก
นกยามอรุณกับธุลีมังกรรู้แค่เพศ
หมาป่าเดียวดายไม่รู้แม้กระทั่งเป็นชายหรือหญิง
อีกอย่างโดยทั่วไปจระเข้ยักษ์ใช้ชื่อแฝงเดียวกันทุกที่ ทุกคนจึงรู้ว่านอกจากเขาจะเป็นคนของ 129 แล้ว ยังเป็นผู้ทรงพลังด้านอาวุธ
จระเข้ยักษ์ต่างจากคนอื่นเป็นอย่างมาก เขามีความเกลียดชังต่อเฉิงถู่
ทั้งสองคนแย่งชิงอาณาเขตกันด้วย ทั้งก่อนหน้านี้ยังเคยเข้าไปรบกวนเฉิงหั่ว เฉิงหั่วถึงกับหัวเสีย เฉิงถู่รู้สึกหดหู่ ความเสียเปรียบให้จระเข้ยักษ์ต้องได้เอาคืนแน่
ถ้ารู้ว่าจระเข้ยักษ์มาที่ฐานของเขา เฉิงถู่ต้องทำอะไรสักอย่างแน่
ฮอลล์อธิบายถึงบุญคุณความแค้นของทั้งสองคน แม้ว่าจระเข้ยักษ์จะปิดบังไว้ แต่ก็ซ่อนมันจากฮอลล์ไม่มิดอยู่ดี
“จระเข้ยักษ์มาเองเหรอ” เฉิงเจวี้ยนเดินมาที่สุดทางเดินชั้นสอง ที่ปลายทางมีช่องระบายอากาศ เขาเคยชินกับการคิดที่จะหยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าเป็นนิสัย แต่ก็นึกได้ว่าเมื่อคืนเขาโยนบุหรี่ทั้งซองลงถังขยะไปแล้ว
เฉิงเวินหรูก็เคยบอกเขาเรื่องของจระเข้ยักษ์
นึกถึงตรงนี้ เฉิงเจวี้ยนมองไปทางห้องของฉินหร่าน
จากนั้นสักพักดวงตาก็หรี่ลง “คุณไปหาธุระอะไรให้แมทธิวทำหน่อย”
ฮอลล์ที่อยู่อีกฝั่งเข้าใจทันทีว่าเฉิงเจวี้ยนคิดจะทำอะไร
เขาวางสาย ครุ่นคิด แล้วจึงหันไปหาลูกน้อง “หน่วยสอดแนมที่นี่ของแมทธิวอยู่ไหน”
“สนามประมูล” ลูกน้องตอบกลับรวดเร็ว
“พอดีเลย” ฮอลล์สวมหมวกขนหนานุ่มของตน แล้วสวมเสื้อคลุม “พวกเราไปเดินดูที่ลานประมูลกันเถอะ”
แมทธิวไม่เจอพิรุธของเฉิงหั่วและคนอื่นๆ แต่ตัวอันตรายอย่างจระเข้ยักษ์มารัฐ M แมทธิวไม่ปล่อยนิ่งดูดายแน่นอน
**
ห้องของฉินหร่าน
เธอถูกโทรศัพท์ปลุกให้ตื่น
ทันทีที่จระเข้ยักษ์ถึงสนามบินก็ส่งข่าวให้เธอ…
[ลูกพี่ ฉันถึงรัฐ M แล้ว ก่อนบ่ายสี่โมงจะถึงที่อาคารหลักของแมทธิว]
แม้จะรู้ว่าฉินหร่านเป็นผู้หญิง แต่ความผิดพลาดที่จระเข้ยักษ์เรียกว่า ‘ลูกพี่’ นั้นไม่สามารถเปลี่ยนได้
ฉินหร่านเลิกผ้าห่มออก มือตอบกลับอีกฝ่ายแค่ ‘อือ’ แล้วจึงตรงไปแปรงฟันที่ห้องน้ำ
ตอนนี้เพิ่งเจ็ดโมง
ฉินหร่านเปิดประตูลงไปกินข้าวเช้า
เฉิงเวินหรูยังคุยกับเฉิงมู่เรื่องภารกิจของจระเข้ยักษ์อย่างค่อนข้างตื่นเต้น เห็นฉินหร่านลงมา เธอเงยหน้า “หร่านหร่าน เธอไม่นอนแล้วเหรอ”
“อือ” ฉินหร่านนั่งลง พูดอย่างครุมเครือ “ฉันกำลังคิดว่าจะไปเยี่ยมอาจารย์ของฉันที่สมาคม M วันไหนดี”
ก่อนหน้านี้เธอติดต่ออาจารย์เว่ยให้ช่วยฉินซิวเฉินติดต่อผู้คน
เรื่องนี้ฉินหร่านยังจำได้ดี
ครั้งก่อนเธอไม่ได้ถามฉินซิวเฉินว่าไปหาอาจารย์เว่ยด้วยธุระอะไรกัน แต่ตั้งแต่อาจารย์คุคปรากฏตัว ฉินหร่านก็พอจะรู้แล้ว
“ถ้าเธอไม่พูดถึง ฉันคงลืมไปแล้วว่าอาจารย์เว่ยก็อยู่ที่รัฐ M” เฉิงเวินหรูพยักหน้า ถึงอย่างไรก็เป็นอาจารย์ของฉินหร่าน “อยากเจอจริงๆ แต่เธอพักผ่อนก่อนสองวัน เป็นวัยรุ่นก็ไม่จำเป็นต้องอดหลับอดนอนขนาดนี้”
ฉินหร่านพยักหน้า “เข้าใจแล้ว”
“ใช่แล้ว เมื่อกี้ฉันได้รับการตอบกลับจาก 129 อีกสองสามวันหัวหน้าหน่วยที่สองและเหล่าผู้ดูแลก็ออกมาได้แล้ว” เฉิงเวินหรูบอกข่าวดีนี้แก่ฉินหร่าน
ฉินหร่านเคาะโต๊ะ ได้ยินดังนั้น จึงพยักหน้า แล้วยิ้ม “งั้นก็ดี”
เวลานี้เป็นเวลาที่เธอคำนวณให้จระเข้ยักษ์
ดูแล้วไม่น่าแปลกใจ
แค่เฉิงเวินหรูจมอยู่ในความประหลาดใจ จึงไม่ได้สังเกต
เธอประเมินอาการเจ็ตแล็ก “ตอนนี้ในประเทศยังเช้าอยู่ รอสักหน่อยค่อยโทรศัพท์หาพ่อฉัน”
ฉินหร่านกินข้าวเสร็จจึงกลับไปด้านบน เฉิงสุ่ยให้เฉิงมู่ไปล้างชาม ส่วนเขาเองขึ้นไปด้านบนกับฉินหร่าน
“คุณว่ามา” ฉินหร่านชะลอลง หันหน้ามามองเขา
“เรื่องนั้นของแมทธิว” เฉิงสุ่ยเหลือบมองไปทางห้องหนังสือ น้ำเสียงลดลงต่ำมาก “นายท่านเขา…”
ฉินหร่านพยักหน้า ท่าทีเข้าใจ
เฉิงสุ่ยถอนหายใจโล่งอก “รบกวนคุณหนูฉินซะแล้ว”
“ไม่เป็นไร” ฉินหร่านปัดมือ ครุ่นคิด แล้วเงยหน้าขึ้น “ตอนบ่ายฉันจะออกไปอีกรอบ”
“คุณหนูฉินจะไปข้างนอกเหรอ จะไปที่สมาคม M ใช่ไหม” เฉิงสุ่ยมองฉินหร่าน จำได้ว่าฉินหร่านบอกว่าอยากไปเยี่ยมอาจารย์ตอนอยู่โต๊ะกินข้าว
ฉินหร่านส่ายหน้า “ไปพบเพื่อนแถวนี้น่ะ มีที่ไหนเหมาะกับการพบเจอไหม คนน้อยหน่อย”
“สองสามช่วงตึกมีร้านกาแฟร้านหนึ่ง ร้านกาแฟร้านนั้นรสชาติดื่มยาก ดังนั้นคนน้อย” เฉิงสุ่ยนึกสถานที่หนึ่งได้ทันที
“โอเค” ฉินหร่านยิ้ม “ที่นั่นแหละ คุณเอาที่อยู่ให้ฉัน”
“ผมจะไปจัดการ” เฉิงสุ่ยพยักหน้า และไม่ได้ถามฉินหร่านว่าจะไปพบเพื่อนคนไหน
แค่ครุ่นคิดว่าจะให้ใครเป็นคนนำทางฉินหร่าน
ซือลี่หมิงไม่อยู่ที่รัฐ M เฉิงมู่ไม่คุ้นเคยกับภูมิประเทศที่นี่…
เฉิงสุ่ยนำที่อยู่ให้ฉินหร่านที่ด้านล่าง เห็นเฉิงหั่วที่ดูคอมพิวเตอร์ของตนอยู่โซฟา เขาเงยหน้า “เฉิงหั่ว ตอนบ่ายคุณพาคุณหนูฉินออกไปข้างนอกหน่อย แถวๆ นี้”
“โอเค” เฉิงหั่วเคาะแป้นพิมพ์ ไม่เงยหน้า “ฉันมีเรื่องแล้วนิดหน่อย แฮกเกอร์คนนั้นของแมทธิวทำลายระบบของฉันแล้ว ฉันรู้สึกค่อนข้างคุ้นเคยกับวิธีการนั้น!”
“แฮกเกอร์เบื้องหลังของแมทธิวงั้นหรอ?” เฉิงสุ่ยนิ่งลง เขามองเฉิงหั่วอย่างครุ่นคิด “นานแล้วนี่ที่เขาไม่ได้ออกตัว”
เฉิงหั่ววางคอมพิวเตอร์ที่ด้านข้างอย่างปวดหัว แล้วมองเฉิงสุ่ยท่าทางสงสัย “แต่คุณหนูฉินจะไปพบเพื่อนคนไหน แถวนี้เป็นคนของแมทธิวหมดนี่ อย่าบอกนะว่าเพื่อนของเธอคือแมทธิว ถ้างั้นไม่ใช่ว่าฉันกำลังติดกับดักของเธออยู่เหรอ”
ประโยคนี้เฉิงหั่วพูดเล่นไปงั้น
เฉิงสุ่ยยังไม่ได้พูด เฉิงมู่สวมรองเท้าแตะลงมาจากด้านบน เขาไปนำอาหารเช้าของตัวเองออกมาจากห้องครัว ดื่มน้ำอุ่นแก้วหนึ่ง พลางพูดคุยด้วยน้ำเสียงครุมเครือ “เพื่อนคนไหนนะ”
“ตอนบ่ายคุณหนูฉินจะไปพบเพื่อน” ช่วงนี้เฉิงสุ่ยไม่ค่อยอยากสนใจเฉิงมู่ จึงหยิบคอมพิวเตอร์ ตอบเฉิงมู่อย่างอารมณ์ดี
“พรูด”
“แค่กๆ”
เฉิงมู่ยังไม่ได้ดื่มน้ำลงคอสักอึก ตอนนี้แทบจะสำลักตัวเองตาย
ท่าทีนี้น่าแปลกเล็กน้อย เฉิงสุ่ยกอดอก ขมวดคิ้วมองเฉิงมู่
เฉิงมู่ดึงทิชชูออกมาหนึ่งแผ่น เช็ดน้ำที่โต๊ะจนสะอาดอย่างเงียบๆ “…เปล่า ฉันแค่คิดอะไรบางอย่างออก”
นึกถึงเพื่อนธรรมดาปีนั้นของคุณหนูฉิน
เฉิงมู่กำลังคิด เพื่อนเหล่านั้นตอนที่น่าจะออกมาก็ออกมาหมดแล้ว…สินะ
**
ด้านบน
ฉินหร่านนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เปิดกราฟิกซอฟต์แวร์ สร้างภาพขึ้นใหม่ตามข้อมูลของรุ่นพี่เยี่ย
จากนั้นไม่นานจึงถ่ายสำเนาข้อมูลที่พวกเขาส่งมา
เฉิงเจวี้ยนเคาะประตูแล้วเข้ามา
เขาเพิ่งจัดการธุระของเฉิงถู่เสร็จ จึงเดินตรงมาด้านหลังฉินหร่าน เอื้อมมือกอดเธอจากด้านหลัง มืออีกข้างหยิบเอาข้อมูลที่เธอถ่ายเอกสารมา
คางเกยที่ไหล่ของเธอ มองดูข้อมูลคร่าวๆ “โปรเจกต์นี้ของเธอจะมีถึงตอนไหน”
“20 กุมภาพันธ์” ฉินหร่านครุ่นคิด
ผ่านวันที่ 20 กุมภาพันธ์แล้ว รอผลการแข่งขันออก เมื่อรายชื่อสถาบันวิจัยออกมา อาจารย์ใหญ่สวีก็จะรับศิษย์ สถาบันวิจัยวิจัยก็จะเป็นสนามหลัก
เฉิงเจวี้ยนขมวดคิ้ว “โอเค”
เขาคลายมือ เดินไปเย็บเอกสารนี้ที่ด้านข้างแล้วจึงถามต่อ “ยังอยากออกไปข้างนอกไหม”
“อือ” ฉินหร่านนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ มองดูเวลามุมขวาล่าง เกือบห้าโมงแล้ว
จระเข้ยักษ์ใกล้ถึงร้านกาแฟดื่มยากร้านนั้นที่พวกเขานัดกันไว้แล้ว
เธอมองเฉิงเจวี้ยน
เฉิงเจวี้ยนกำลังพิงโต๊ะอยู่ มือข้างหนึ่งวางอยู่เอกสารสีขาว มืออีกข้างหยิบที่เย็บกระดาษ หลุบตาเย็บเอกสารอย่างใจเย็น ด้วยข้อต่อมือเรียวยาว
“คุณจะไปด้วยไหม” ฉินหร่านหยิบแก้วที่โต๊ะขึ้นมา เอียงศีรษะถาม
หมุดอันสุดท้ายถูกเย็บเรียบร้อย
เฉิงเจวี้ยนยื่นข้อมูลให้ฉินหร่าน มองเธอ อดยิ้มไม่ได้ “วันนี้ไปกับเธอด้วยไม่ได้จริงๆ ให้เฉิงหั่วกับเฉิงมู่ไปกับเธอดีไหม พี่สาวฉันก็ไม่มีธุระ…”
“โอเค ฉันจะไปถามดู” ฉินหร่านยกมือขึ้นทันที ค่อนข้างปวดหัว “เพื่อนของฉันไม่ชอบพบใคร”
ห้าโมงยี่สิบ จระเข้ยักษ์เกือบจะถึงแล้ว
เฉิงหั่วขับรถไปส่งฉินหร่านที่ร้านกาแฟดื่มยากร้านนั้น เฉิงมู่นั่งอยู่ข้างคนขับ
เฉิงเจวี้ยนยืนอยู่ประตูทางเข้า จนกระทั่งไม่เห็นท้ายรถ จึงค่อยเก็บสีหน้า
เขาหันตัวกลับ เหลือบมองเฉิงสุ่ย “พาคนมา”
เฉิงสุ่ยพยักหน้ารับ
นำผู้ชายผมทองตาฟ้าคนหนึ่งออกมาจากห้องใต้ดินของบ้านพัก พาตรงมายังห้องอ่านหนังสือด้านบน
ทันทีที่เฉิงสุ่ยเปิดประตู ก็ได้กลิ่นควันฉุย ทั่วทั้งห้องหนังสือเต็มไปด้วยควัน
เฉิงเจวี้ยนยืนหันหลังไปที่ประตูอยู่ข้างหน้าต่าง หลังผอมเพรียว ทั่วทั้งตัวปกคลุมไปด้วยความเย็นชา
เขาแทบอยากหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายวิดีโอสั้นๆ ให้ฉินหร่าน
ถึงจะคิดเช่นนั้น แต่มือก็พาคนไปที่ด้านข้างของเฉิงเจวี้ยนอย่างไม่อ่อนแรง “นี่คือลูกมือที่ตามแมทธิวเมื่อไม่กี่ปี ก่อนหน้านี้เป็นคนของสมาพันธ์ใต้ดิน”
เฉิงเจวี้ยนหันกลับมา เขามองชายผมทองตาฟ้าคนนั้น ขมวดคิ้วต่ำ เพราะแสงสะท้อน จึงมองอารมณ์ในดวงตาไม่ออก “คุณบอกว่าสองปีครึ่งก่อนหน้าแมทธิวอยู่ในสลัมนี่”
ชายผมทองตาฟ้าก้มหน้า พูดอย่างติดๆ ขัดๆ “ฉันรู้แค่ตอนนั้นมีชายท่านหนึ่งตามหาเขา ทั้งยังเป็นพวกค้าประเวณี…”
เวลานี้ คนผู้นี้ไม่สามารถพูดเท็จ
เฉิงเจวี้ยนใช้มือบีบบุหรี่ ใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ใด
เพียงร่างคำพูดของคนผู้นี้ออกมาตามคำพูดของกู้ซีฉือ
สองปีก่อนกู้ซีฉือพบฉินหร่านที่สลัม ตอนนั้นน่าจะยังมีอำนาจอื่นตามหาเขาเช่นกัน ถึงอย่างไรกู้ซีฉือก็เป็นแค่หมอคนหนึ่งที่อยากพาฉินหร่านออกมาอย่างปลอดภัย สื่งที่ทำได้มีเพียงแค่ตามหาคน
เขาเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีเพื่อนทั่วทุกสารทิศ แต่ในเพื่อนสนิทเหล่านี้เพียงผู้เดียวที่กู้ซีฉือไว้ใจมีเพียงแมทธิว
แมทธิวช่วยกู้ซีฉือเคลียร์ปัญหามากมาย
ดังนั้นเดิมที…แมทธิวน่าจะช่วยพาฉินหร่านมาให้กู้ซีฉือ…
นึกถึงตรงนี้ ขนตาสีเข้มของเฉิงเจวี้ยนสั่นไหว ไม่เข้าใจว่าตอนนั้นฉินหร่านไปรบกวนใคร ถึงได้ให้กู้ซีฉือตามแมทธิวมา…
เขาโยนก้นบุหรี่ลงถังขยะอย่างหงุดหงิด “ให้คนไปส่งให้แมทธิว”
“นั่นเป็นเป้าหมายของลูกน้องแมทธิวนะ” เฉิงสุ่ยเงยหน้า
เฉิงเจวี้ยนไม่มองเขา นิ้วเรียวยาวเปิดคอมพิวเตอร์บนโต๊ะอ่านหนังสือ พูดอย่างใจเย็น “ลบออกให้หมด ไม่ใช่ว่าสำนักงานใหญ่ของแมทธิวขาดทุนในการซ่อมแซมระบบเหรอ คุณให้เฉิงหั่วตรวจสอบว่าขาดเท่าไหร่”
เฉิงสุ่ยคิดว่าตัวเองฟังผิด เขาจะต้องทำในสิ่งที่จะไม่ทำในวันปกติแน่นอน เอานิ้วแคะหู “นายท่าน…”
เฉิงเจวี้ยนแค่เงยหน้า พูดสองพยางค์ไม่หนักไม่เบาไป “ไปทำ”
**
ทางนี้
เฉิงหั่วขับรถมายังฝั่งตรงข้ามร้านกาแฟ
“คุณหนูฉิน คุณลงรถเลย ร้านกาแฟตรงข้ามนั่นไง” เฉิงหั่วมองผ่านกระจกหลัง แล้วกำชับ “กาแฟร้านนั้นไม่อร่อย แต่สั่งนมได้”
“อือ” ฉินหร่านเปิดประตูรถด้านหลัง ลงรถ ใช้มือกระชับเสื้อคลุม มองร้านกาแฟร้านนั้น หรี่ตาเล็กน้อย
เฉิงมู่และเฉิงหั่วไม่ได้ไปพบเพื่อนของเธอด้วยกันกับเธอ
หลังจากรอฉินหร่านลงรถ เฉิงมู่เอาโทรศัพท์ออกมาเล่นมินิเกม เฉิงหั่วก็นำคอมพิวเตอร์ออกมา สายตามองนอกหน้าต่าง นิ่งไป
“อะไรเหรอ” เฉิงมู่เปิดมินิเกม
เฉิงหั่วเปิดคอมพิวเตอร์ ขมวดคิ้ว “เหมือนฉันจะเห็นคนของแมทธิว…”
แต่เขาคิดว่าแมทธิวไม่น่าจะกล้าสร้างเรื่องรบกวนอะไรที่นี่
เฉิงหั่วละสายตากลับ
ฝั่งฉินหร่านถึงร้านกาแฟแล้ว ที่รัฐ M ไม่มีใครรู้จักเธอ ฉินหร่านจึงไม่สวมหมวก และไม่พันผ้าพันคอ
จระเข้ยักษ์เพิ่งถึงร้านกาแฟ
ถึงก่อนฉินหร่านไม่นาน นั่งอยู่ที่ชั้นสองติดหน้าต่าง
ที่นั่งด้านข้างเขามีลูกน้องของเขานั่งอยู่ มองไปรอบด้านหาหมาป่าเดียวดายอย่างสงสัย ค่อนข้างประหม่าเป็นอย่างยิ่ง “นายท่าน หมาป่าเดียวดายมารึยัง ผมไม่เห็นใครที่เหมือนจะเป็นหมาป่าเดียวดายเลย”
ลูกน้องของจระเข้ยักษ์ไม่มีใครไม่รู้จักหมาป่าเดียวดาย
จากที่ได้ยินมา หมาป่าเดียวดายขะปรากฏตัวจากฟากฟ้ามาช่วยในเวลาที่พวกเขาตกอยู่ในอันตรายอยู่หลายครั้ง หมาป่าเดียวดายมีอันดับรองมาจากจระเข้ยักษ์
“ใกล้แล้ว” จระเข้ยักษ์มองเวลา ห้าโมงสามสิบเก้า อีกหนึ่งนาที
เขาเงยหน้ามองทางบันได
ที่บันไดปรากฏร่างผอมบางร่างหนึ่ง
จระเข้ยักษ์จำฉินหร่านได้ทันที เขายืนขึ้น ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มขึ้น “ลูกพี่ ทางนี้!”