เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 465 เจ๊หร่าน: แมทธิว พวกเรามาคุยกัน
ฉินหร่านพูดจบแล้วจึงไม่ได้สนใจเฉิงเวินหรู
เธอยังคิดถึงธุระอยู่
เมื่อกี้ตอนเข้าไปร้านกาแฟ ฉินหร่านได้รู้ว่าข้อมูลของจระเข้ยักษ์รั่วไหลมาจากฝั่งของเฉิงเจวี้ยน
เขาขุดหลุมให้แมทธิว
ถึงกระนั้นแมทธิวก็ไม่ได้ควบคุมฐานจอดเครื่องบิน และจระเข้ยักษ์ก็ระวังตัวมาก เฉิงเจวี้ยนแค่จงใจทำบางอย่าง ดังนั้นเขาก็น่าจะเดาได้ถึงเรื่องที่เธอมาพบจระเข้ยักษ์แน่นอน
เรื่องของจระเข้ยักษ์กับแมทธิว เธอไม่ได้สารภาพกับเฉิงเจวี้ยน
มีบางอย่างที่เห็นได้ชัดว่าเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์เป็นอย่างมาก
จระเข้ยักษ์และเฉิงถู่ไปคนละทางกัน ส่วนใหญ่เฉิงเจวี้ยนจะให้เฉิงถู่ยั้งมือ
ส่วนแมทธิว อำนาจของรัฐ M ไม่สามารถเปลี่ยนได้ด้วยเธอคนเดียว แต่เพิ่มเธอเข้ามาจะทำให้ซับซ้อนมากขึ้นได้ เฉิงเจวี้ยนหลีกทางให้ได้เพราะเธอ แต่ลูกน้องของเขาล่ะ ไหนยังจะมีลูกน้องของแมทธิวกับจระเข้ยักษ์ล่ะ
ในฐานะผู้นำ ในฐานะนายใหญ่ ให้พวกเขาหลีกทางระหว่างการประลองเพียงเพราะเธอ ต่อให้เป็นการเล่นแบบเด็กๆ ก็ยังไม่ยุติธรรมด้วยเลย
ฉินหร่านไม่คิดว่าตัวเองจะสำคัญได้ถึงขนาดนั้น
ส่วนเฉิงเจวี้ยน ฉินหร่านก็ให้เขาทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้
นึกถึงตรงนี้ ฉินหร่านอดพิงไปด้านหลังไม่ได้ คิ้วขมวดเข้ากัน
โชคดีที่ถอนตัวจากรัฐ M แต่แรก…
แต่ก็มักจะทิ้งร่องรอยเอาไว้บ้าง กู้ซีฉือนำหมายเลขของเธอทิ้งไปแล้ว แม้ว่าเธอจะกำจัดบันทึกไปแล้วบางส่วน แต่ถ้าตรวจสอบจริงๆ ก็อาจตรวจพบได้
สารภาพยังไงให้ค่อนข้างจริงใจดีล่ะ
ฝั่งฉินหร่านกำลังคิดว่าจะไปสารภาพเรื่องจระเข้ยักษ์และแมทธิวกับเฉิงเจวี้ยนอย่างไรดี
เฉิงเวินหรูที่อยู่ด้านข้างนิ่งเฉยไม่อยู่แล้ว
เธอหันกลับมา มองฉินหร่าน ใบหน้าที่มักจะเข้มแข็งมีพลังค่อนข้างอ่อนลง
ตอนแรกเธอคิดว่าคนที่พาเธอกับฉินหร่านออกมาไม่ปกติ ประโยคก่อนหน้าของฉินหร่านทำให้เธอสบายใจลง แต่ประโยคท้ายทำให้ใจที่โล่งไปเมื่อกี้ของเธอถึงกับตกลงไปอีกสิบแปดชั้นอย่างกะทันหัน
“หร่านหร่าน” เฉิงเวินหรูมองฉินหร่านอย่างว่างเปล่า รู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งเจอเรื่องไม่คาดคิด “เมื่อกี้เธอบอกว่าใครนะ”
ฉินหร่านกำลังครุ่นคิดเรื่องสารภาพ ได้ยินดังนั้น จึงพูดซ้ำอีกรอบ “พี่สาวคะ แมทธิวไง”
น้ำเสียงเรียบนิ่งอย่างเฉยเมย
??
เป็นแมทธิวแล้วทำไมเธอยังนิ่งเฉยได้แบบนี้ล่ะ
เฉิงเวินหรูหายใจเข้าลึก เธอคิดว่าบางทีฉินหร่านอาจอยู่กับงานวิจัยมากไป จึงไม่รู้ว่าแมทธิวคือใครในรัฐ M “หร่านหร่าน เธอฟังฉันนะ เธอได้ติดต่อพวกเฉิงมู่กับเฉิงหั่วรึเปล่า”
เธอพูด พลางควานหาโทรศัพท์
คนเหล่านี้ไม่ได้เอาโทรศัพท์ของทั้งสองไป
“ติดต่อไว้แล้ว คุณวางใจได้” ฉินหร่านดูออกว่าเฉิงเวินหรูค่อนข้างกลัว เธอหันกลับมา ปลอบโยนเธอประโยคหนึ่ง
ตรงนี้อยู่ใกล้อาคารหลักของแมทธิวมาก
ขณะที่กำลังพูดคุย ทั้งสองคนก็มาถึงอาคารหลักแล้ว
เพราะเป็นผู้หญิงสองคน การกระทำของฉินหร่านไม่ได้ระแวดระวังตัว เฉิงเวินหรูดูยังไงก็ไม่มีพลังในการโจมตี ที่ตัวทั้งสองคนเหมือนจะไม่มีอาวุธซ่อนอยู่ แค่พากันเข้าไปยังห้องสอบสวนที่เป็นกำแพงสีขาวทั้งสามด้าน ซึ่งกั้นด้วยประตูเหล็กและกระจกสะท้อนแสง
ประตูเหล็กเป็นการล็อกแบบบัตรแถบแม่เหล็ก
หลังจากพาทั้งสองคนเขาไปแล้วจึงปิดประตู
ในห้องสอบสวนมีเก้าอี้สองตัว ฉินหร่านเตะเก้าอี้ตัวหนึ่งออกมา “พี่เฉิง คุณนั่งก่อน”
ความตื่นตระหนกในตอนแรกเริ่มของเฉิงเวินหรูผ่านไปแล้ว ตอนนี้ใจสงบลง จึงครุ่นคิดอยู่สักพัก จึงตระหนักได้ว่าทำไมฉินหร่านถึงได้นิ่งขนาดนี้ อย่างแรกคือทั้งสองคนไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายที่รัฐ M สักหน่อย
แมทธิวเป็นตำรวจสากล ไม่น่ายุ่งเกี่ยว เฉิงเวินหรูคิดดังนั้น จึงสบายใจเล็กน้อย เธอมองไปที่ประตู “เธอนั่งเลย ฉันไม่เหนื่อย เดี๋ยวมีคนมา ฉันจัดการให้”
ฉินหร่านเห็นว่าเฉิงเวินหรูไม่คิดจะนั่ง จึงนั่งลงเองก่อน แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา
โดยทั่วไปห้องสอบสวนนี้ปิดกั้นสัญญาณ ฉินหร่านจึงก้มหน้าเริ่มเล่นเกมอยู่สักพัก
ในใจของเฉิงเวินหรูค่อนข้างแข็งแกร่งมาก พิงที่โต๊ะเหล็กมองฉินหร่านเล่นเกม
เวลานี้ที่ต้องหนักแน่นที่สุดคือจิตใจ
ด้านนอกกระจกสะท้อนแสง
คนกลุ่มหนึ่งมองฉินหร่านเล่นเกมอย่างเรื่อยเปื่อย จึงถอดหูฟัง มองหน้ากัน “เจ้านายกลับมารึยัง”
พวกเขาสงสัยว่าทั้งสองคนนี้เป็นคนธรรมดาตั้งแต่แรก
แต่ตอนนี้ ทั้งที่ถูกจับอย่างไม่รู้ที่มาที่ไป แต่ยังสบายใจขนาดนี้ เกรงว่าจะไม่ใช่บุคคลธรรมดาแล้ว
คนธรรมดาไม่ใจแข็งขนาดนี้
ที่หูฟังของคนด้านข้างมีเสียงดังขึ้น เขากดที่หูฟังทันที หลังจากตอบ ‘ตกลง’ จึงลุกขึ้นทันที “เจ้านายกลับมาแล้ว!”
ทั้งสองคนออกไปด้านนอก ลงบันไดพุ่งไปหาแมทธิว “นายท่าน เรื่องของจระเข้ยักษ์ ผู้หญิงสองคนนี้รู้แน่ๆ”
แมทธิวที่เพิ่งโกนหนวดไปท่าทางรีบเร่ง มือของเขายังถือโทรศัพท์อยู่ ได้ยินประโยคนี้ เขาหรี่ตา โทร.ออกอีกครั้ง “ไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้ที่คุณบอกฉันปล่อยไปนั้นยังทำไม่ได้ เธอต้องรู้จักจระเข้ยักษ์แน่ๆ”
โทรศัพท์อีกฝั่งคือกู้ซีฉือ เขายังอยู่ห้องปฏิบัติการ ในมือยังถือเอกสารรายงาน ได้ยินประโยคนี้ เขาตบเอกสารรายงานลงโต๊ะ “คุณลืมตอนแรกที่ฉันช่วยคุณขึ้นมาจากพวกคนตายยังไง…”
แมทธิวใจเย็น “คุณวางใจได้ ฉันไม่ลงมือกับเธอ แต่พวกเธออยู่ก่อนที่จะพบจระเข้ยักษ์ แม้จะเป็นคำพูดขอร้องของคุณ ฉันก็ปล่อยพวกเธอสักคนไปไม่ได้ นี่คือปัญหาโดยหลักการ”
แมทธิววางสายทันที
แม้ว่าฝั่งกู้ซีฉือจะเคยมีมิตรภาพช่วยเหลือกัน เขาเป็นหนี้กู้ซีฉือ แต่นี่เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยคนอื่นไป
ฝั่งห้องปฏิบัติการเมืองหลวง
กู้ซีฉือมองโทรศัพท์ในมืออย่างไม่เข้าใจสักนิด เจียงตงเยี่ยกำลังดูจานเพาะเชื้อ เขาหันหน้ามองกู้ซีฉือ “คุณไม่เป็นไรนะ?”
“ไม่มีอะไร” กู้ซีฉือส่ายหน้า “เสี่ยวหร่านของครอบครัวพวกเราไปมีความสัมพันธ์กับจระเข้ยักษ์ตอนไหนอีก”
เขาก้มหน้า เปิดหมายเลขของเฉิงเจวี้ยน
แมทธิวบอกจะไม่ลงมือกับฉินหร่าน ก็จะไม่ลงมือแน่นอน
แน่นอนว่าต้องบอกฝั่งเฉิงเจวี้ยนสักหน่อย
กู้ซีฉือเคยเห็นรายชื่อของแมทธิวมามากมาย เฉิงเจวี้ยนก็เป็นคนหนึ่งที่แมทธิวอยากจับ
เจียงตงเยี่ยมองเขาโทรศัพท์ อดเลิกคิ้วไม่ได้ “ไม่แปลกที่ช่วงนี้เมืองหลวงเงียบขนาดนี้ ไม่มีข่าวอะไรเลย”
รับรู้ได้ว่าฉินหร่านกับเฉิงเจวี้ยนที่เป็นศูนย์กลางพายุข่าวได้ออกไปจากเมืองหลวงแล้ว
**
รัฐ M อาคารหลักของแมทธิว
แมทธิวรูดบัตรเข้ามาลวกๆ
สายตาของเขาโฉบไปมาระหว่างฉินหร่านและเฉิงเวินหรู
หยุดนิ่งลงที่ฉินหร่านอยู่สักพัก
พละกำลังของแมทธิวมีอยู่มาก ใจที่เดิมทีสงบนิ่งของเฉิงเวินหรู ขณะนี้ค่อนข้างเต้นแรงขึ้นมา
แมทธิวเห็นถึงความหวั่นเกรงของเฉิงเวินหรู ท้ายที่สุดเขาเอียงหน้าเล็กน้อย ชี้ไปที่ฉินหร่าน “พาเธอออกไปก่อน”
นี่หมายความว่าต้องการสอบถามเฉิงเวินหรูเพียงผู้เดียว
ฉินหร่านนั่งอยู่เก้าอี้ เร่งมือเล่นเกมจบด่าน จึงวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะสอบสวนลวกๆ พิงพนักเก้าอี้ เงยหน้ามองแมทธิว “เดี๋ยวสิ พวกเราคุยกันก่อน”