เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 479 อันดับ
ฉินหร่านเหลือบมองคฤหาสน์หลังเล็กหลังนี้ จากนั้นก็ละสายตากลับ ใบหน้าไม่มีอาการตกตะลึงเหมือนพวกพ่อบ้านฉิน
เธอหยิบโทรศัพท์มองมาทางถังจวินพร้อมกับกล่าวลาอย่างสุภาพ “ขอโทษนะคะ ฉันขอตัวกลับก่อน พรุ่งนี้ยังมีโปรแกรมการแข่งขันที่ต้องไป”
จะไปตอนนี้?
ถังจวินอึ้ง “ฉันให้ท่านหลี่ไปส่งเธอกลับก็ได้ ตอนกลางคืนรัฐ M ค่อนข้างวุ่นวาย ไปคนเดียวไม่ปลอดภัย”
ฉินหร่านส่ายหน้า เธอเดินไปข้างหน้าแล้วโบกมือไปทางข้างหลังอย่างเกียจคร้าน “ไม่ต้องค่ะ มีคนมารับฉัน”
ถังจวินมองฉินฮั่นชิวอย่างเป็นกังวล “หร่านหร่านเธอ…”
ฉินฮั่นชิวไว้ใจฉินหร่านมาก เขาโบกไม้โบกมือ “ไม่เป็นไรครับ หร่านหร่านเธอไม่ได้ล้อเล่นอะไรหรอก จะให้พูดก็คือยังมีเสี่ยวเฉิงอยู่ทั้งคน เสี่ยวเฉิงคงมารับเธอน่ะ”
ฉินฮั่นชิวไม่ได้กังวลเรื่องนี้
เมื่อถังจวินเห็นท่าทีฉินฮั่นชิว เขาก็ใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก พากลุ่มของฉินฮั่นชิวเดินตรงเข้าไปข้างใน
ขณะนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว พอเข้าไปข้างในก็มีผู้ดูแลไม่กี่คนกำลังรอด้วยความเคารพอยู่ในห้องโถง
ถังจวินทำหน้าเข้ม ดูออกว่าโมโห “พวกคุณชายใหญ่ล่ะ?”
“คุณชายใหญ่กับพวกคุณหนูพักผ่อนแล้วครับ” ผู้ดูแลตระกูลถังตอบด้วยความเคารพ “ผมได้ส่งคนไปเชิญมาแล้วครับ”
เวลานี้เป็นเวลาพักผ่อนก็จริง แต่แน่นอนว่าโดยหลักแล้วเป็นเพราะพวกคุณชายใหญ่ไม่ได้เห็นความสำคัญลูกหลานของน้องสาวนายท่าน หากเปลี่ยนเป็นลู่จือสิง อย่าว่าแต่คุณชายใหญ่เลย เพราะแม้แต่คุณหนูถังชิงก็ต้องมานั่งรอในห้องโถงอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว
ไม่มีใครในตระกูลถังที่กล้าดูแคลนลู่จือสิง
เพราะแม้แต่นายท่านถังก็ยังให้เกียรติลู่จือสิงอยู่สามส่วน ลู่จือสิงหนีออกจากตระกูลถังและยังคงคลุกคลีอยู่ในรัฐ M เขามีเส้นสายที่น่ากลัวอยู่เยอะ
ผู้ดูแลเหล่านี้รู้อยู่แก่ใจ แต่ไม่ได้พูดออกมา
ฉินฮั่นชิวไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด ที่เขามาก็แค่ตามถังจวินมาดูห้องแม่ของเขาในอดีต “คุณลุงครับ พวกเราไปดูห้องกับต้นไม้นั่นกันก่อนดีกว่า…”
ถังจวินสะกดโทสะไว้ เปลี่ยนเป็นท่าทางใจดีและพาฉินฮั่นชิว ฉินหลิง รวมถึงพ่อบ้านฉินขึ้นไปข้างบน
ขณะที่เดินไปก็คุยกับฉินฮั่นชิวไปด้วย “นายยังมีลูกพี่ลูกน้องคนโตกับคนรองด้วยนะ ลูกพี่ลูกน้องคนรองเขาเก่งมาก พูดแล้วลูกพี่ลูกน้องคนรองก็มีนิสัยคล้ายฉินหร่านอยู่หน่อยๆ แต่เขายุ่งมาก ไม่กี่วันมานี้มีธุระ กลับมาไม่บ่อยนัก พวกนายพักสักคืนสิ ฉันจะลองดูเสียหน่อยว่าคืนนี้เขาจะกลับมาได้หรือเปล่า”
พอถังจวินพูดถึงลูกชายคนรองของตัวเอง สีหน้าก็ดูอบอุ่นอย่างเห็นได้ชัด
ในตระกูลถัง คนที่ถังจวินยอมอ่อนข้อให้ก็คือลู่จือสิง
พ่อบ้านฉินที่อยู่ด้านหลังเหลือบมองถังจวินอยู่นาน ถังจวินวางท่าออกคำสั่งกับคนตระกูลถังเสียส่วนใหญ่ มีแต่นายน้อยสองท่านนี้…
ซึ่งจะเห็นได้ว่าบุคคลท่านนี้มีสถานะไม่ธรรมดาในตระกูลถัง พ่อบ้านฉินกระจ่างขึ้นมาบ้างแล้ว
ชั้นล่าง ท่านหลี่รินชาให้ตัวเอง เขาไม่ได้ตามพวกถังจวินขึ้นไป
จนกระทั่งกลุ่มคนเหล่านั้นขึ้นไปแล้ว ผู้ดูแลไม่กี่คนนั้นก็กระซิบถามท่านหลี่เกี่ยวกับลูกหลานของคุณหนูถังผู้ใจกล้าบ้าบิ่นท่านนั้น
พอได้ยินคนถาม ท่านหลี่ก็นิ่งไปแล้วส่ายหน้า
ตระกูลฉินก็มีแค่ฉินหลิงกับฉินหร่านที่โดดเด่นอยู่นิดๆ หน่อยๆ แต่สองคนนี้ก็ยังเด็กโดยเฉพาะฉินหลิง จนถึงตอนนี้ท่านหลี่ก็ยังไม่ได้ประเมินความแปลกประหลาดของคุณหนูฉินท่านนี้เลย
ส่วนฉินฮั่นชิวนั้น…
เขาแย่เกินไป ท่านหลี่ไม่คิดจะสนใจฉินฮั่นชิว
ตอนแรกที่คุณหนูถังมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี นายท่านตระกูลฉินท่านนั้นก็เป็นบุคคลที่มีบทบาทคนหนึ่ง ตอนที่ท่านหลี่รู้จักฉินฮั่นชิวครั้งแรก ถ้าไม่ใช่เพราะผลตรวจดีเอ็นเอ เขาก็ไม่มีทางเชื่อว่านั่นคือลูกชายของคุณหนูถัง
แม้จะมีการอ้างว่าอีกฝ่ายถูกลักพาตัวไปขาย แต่ท่านหลี่ก็ยังผิดหวังเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นท่าทางท่านหลี่ ผู้ดูแลเหล่านั้นก็พอจะเข้าใจสถานการณ์ลูกหลานคุณหนูถังท่านนั้น คิดว่าคงไม่เท่าไหร่
“เมื่อกี้นายท่านบอกว่าจะให้นายน้อยสองกลับมา ไม่รู้ว่าเขาจะมาได้หรือเปล่า…” ผู้ดูแลนึกถึงอีกเรื่องขึ้นมาได้ สีหน้าเป็นไปอย่างคาดหวัง
คนตระกูลถังไม่รู้ตัวตนถังจวิน แต่รู้ว่าเมื่อก่อนลู่จือสิงเป็นสมาชิกของสมาคมแฮกเกอร์มาก่อนและยังถอนตัวออกเอง สุดท้ายเขายังไปที่อวิ๋นกวงกรุ๊ป
ตอนนี้เขาเป็นคนที่คนตระกูลถังให้ความเคารพนับถือ
คาดหวังในตัวเขาไปโดยปริยาย
**
เรื่องทางฝั่งตระกูลถัง ฉินหร่านเองก็ไม่ค่อยแน่ชัด
และไม่รู้ว่าเฉิงเจวี้ยนได้เอาตัวตนลับของเธอไปขายแล้ว
เธอยุ่งอยู่กับโครงการ ICNE ตลอดเวลา
กระบวนการขั้นตอนโครงการ ICNE ใช้เวลาสามวัน ซึ่งวันแรกจะให้สมาชิกทุกทีมจัดแสดงนิทรรศการโดยมีคณะกรรมการทำการประเมิน
ก่อนฟ้าสางของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ในรัฐ M
จะมีการประกาศอันดับทั้งหมดร้อยทีมอย่างเป็นทางการ
คืนนี้ทั้งหนึ่งร้อยทีมรวมถึงผู้นำทีมต่างก็ไม่มีใครหลับใครนอน
อาคารที่พักของสถาบันวิจัยทางฟิสิกส์แห่งรัฐ M ยังคงสว่างไสว
มหาวิทยาลัยเมืองหลวงและมหาวิทยาลัยAพักรบกันชั่วคราว ในห้องที่คณบดีเจียงและด็อกเตอร์โจวพักอยู่นั้นกำลังรอรีเฟรชหน้าเว็บตอนเที่ยงคืน
ห้องนั่งเล่นของคณบดีเจียงเต็มไปด้วยผู้คน สมาชิกทั้งสองทีมและหัวหน้าคณะคนอื่นๆ กำลังแออัดกันอยู่ ทุกคนล้วนให้ความสนใจกับการจัดอันดับนี้
นอกจากนี้วันนี้ยังเป็นวันตรุษจีนอีกด้วย หลังจากที่พวกเขาทานอาหารเย็นกันเสร็จก็มารวมตัวกันด้วยบรรยากาศครึกครื้น พอผ่านการแข่งขันกันเสร็จ นอกจากกังวลเรื่องคะแนนแล้วก็ผ่อนคลายเรื่องอื่นไปมาก
คณบดีเก๋อถือแก้วน้ำและมองดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือ——
58แล้ว เหลืออีกสองนาที
เขาดื่มน้ำไปหนึ่งอึก พอกวาดตามองออกไปก็พบว่าทีมมหาวิทยาลัยเมืองหลวงเหลือสามคน
“ฉินหร่านนักศึกษามหาวิทยาลัยพวกเธอกับนักศึกษาฉู่หังล่ะ?” สองวันที่ผ่านมา คณบดีเก๋อรู้จักคนในทีมของมหาวิทยาลัยเมืองหลวงแล้ว
หนานฮุ่ยเหยาที่ยืนอยู่ด้านหลังคณบดีเจียงไม่ได้เงยหน้าขึ้น “พวกเขายังวิจัยโครงการกันอยู่ค่ะ”
คณบดีเก๋อและทีมของมหาวิทยาลัยA “…”
โครงการแข่งกันหมดแล้วแต่ยังวิจัยกันอยู่ ดูโหดกันจัง…
เวลา 00.00 น.
คณบดีเก๋อเร่งคณบดีเจียงที่กำลังจับเมาส์ “ได้เวลาแล้ว รีบรีเฟรชดูซิ”
แน่นอนว่าคณบดีเจียงก็ใจร้อนเหมือนกัน
เขาลงทะเบียนเว็บไซต์ไว้นานแล้ว แค่กดรีเฟรชก็ได้แล้ว
คณบดีเก๋อเป็นคนเตรียมพร้อม
แม้ทางการจะบอกว่าประกาศในเวลาเที่ยงคืน แต่ก็มีความล่าช้าอยู่เสมอ
รอบแรกคณบดีเจียงรีเฟรชแล้วยังไม่ออกมา จนกระทั่งรอบที่สองถึงจะมีตารางสีเขียวอ่อนโผล่ออกมา
คอลัมน์ที่ 1 คือชื่อสถาบันของทีม คอลัมน์ที่ 2 คือหมายเลขของแต่ละทีม คอลัมน์ที่ 3, 4, 5 และ 6 คือผลการประเมิน คอลัมน์ที่ 7 คือคะแนนรวม และคอลัมน์ที่ 8 คืออันดับ
หลังจากที่รีเฟรชออกมาแล้ว มือคณบดีเจียงก็ไม่ขยับเขยื้อน คณบดีเก๋อที่เอาแต่เร่งไม่หยุดก็ไม่ได้พูดอะไร
นักศึกษามหาวิทยาลัยAที่อยู่ด้านหลังรอไม่ไหว “คณบดีเก๋อ ทำไมพวกคุณไม่เปิดดูผล…”
ขณะที่พูดก็เดินเข้ามาดู
คำพูดถูกอุดไว้ชั่วขณะ
คอลัมน์แรกของตารางคือ “มหาวิทยาลัยเมืองหลวง”
อันดับในคอลัมน์ที่แปดคือ 1