เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 488 ผลสุดท้าย : รองนักวิจัยทางการขั้น สอง
จั่วชิวทรงยืนนิ่ง เธอมองแผนงานที่รุ่นพี่เยี่ยโยนมาในมือ
เธอด้วยความงุนงง
ขนมา
เมื่อกี้เธออารมณ์ไม่ดี ทันทีที่พูดออกไปก็รู้สึกเสียใจ
เธอบีบแผนงานที่อยู่ในมือ ไม่กล้าอ่านมันอย่างละเอียด
จั่วชิวหรงเงยหน้ามองรุ่นพี่เยี่ย แต่กลับเห็นรุ่นพี่เยี่ยทํา
หน้าโกรธปนไปด้วยความผิดหวัง เธอถอยหลังไปเองโดยไม่
รู้ตัว
รุ่นพี่เยี่ยสลัดความจริงทั้งหมดตั้งแต่วินาทีแรกที่จั่วชิวห
รงพูดจบ
ในเวลาเดียวกัน แผ่นหลังก็มีหยาดเหงื่อเย็นชั้นบางๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะเขายังเก็บแผนงานที่ฉันหร่านให้เขาไว้ สิ่ง
ที่จั่วชิวทรงพูดในวันนี้จะต้องทําให้ฉันหร่านแปดเปื้อน
รอยแปดเปื้อนนี้ไม่ได้น่ากลัวสําหรับคนทั่วไป แต่เมื่ออยู่ บนตัวฉินหร่านมันจะต้องถูกขยายเป็นวงกว้างอย่างไม่มีที่
สิ้นสุด
“ตั้งแต่เธอฉีกรายชื่อรุ่นน้องวันนั้น รุ่นน้องยังมอบ แผนงานนี้ให้ฉันอีก ตอนนั้นรุ่นน้องมีโครงการ ICNE อยู่
แล้วแต่ก็ยังอุตส่าห์ตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันของเธอ การ
แข่งขันนี้ไม่ได้มีน้ําหนักอะไรสําหรับเธอเลย แต่เธอก็ยังมีใจ
มาเขียนแผนงานให้ทีมเรา ฉันก็แค่ใช้สิ่งที่รุ่นน้องเขียนใน
แผนงานถึงทําให้เธอเป็นหนึ่งในสามทีมที่ประสบความสําเร็จ
ในการคว้าอันดับหนึ่งมาได้”
“อีกอย่างฉันออกจากทีมวิจัยเธอหลังจากที่ฉันทํางานใน
ส่วนของตัวเองเสร็จหมดแล้ว ซึ่งมันไม่ได้ส่งผลกระทบกับ
พวกเธอคนใดคนหนึ่งเลย” รุ่นพี่เยี่ยพูดมาจนถึงตอนท้าย เสียงค่อยๆ นิ่งลง
เขาละสายตาแล้วกลับมานั่งที่เก้าอี้ จับเมาส์เปิดไฟล์ใน
คอมพิวเตอร์ต่อ
ตอนแรกรุ่นพี่เยี่ยไม่คิดจะบอกเรื่องแผนงานกับจั่วชิวห
รง แต่วันนี้จั่วชิวทรงยั่วโมโหเขาจริงๆ
ชื่อเสียงในแวดวงวิชาการสําคัญแค่ไหน เขาไม่เชื่อว่าจั่ว
ชิวหรงจะไม่รู้
วันนี้จั่วชิวหรงพูดแบบนี้ต่อหน้าคนมากมาย เธอก็อย่ามา โทษเขาว่าไม่คิดถึงความเป็นพี่น้องก็แล้วกัน
ทั้งสองแทบจะฉีกหน้ากันเห็นๆ อาจารย์และด็อกเตอร์ที่
อยู่ในเหตุการณ์ล้วนได้ยินที่รุ่นพี่เยี่ยอธิบายมาหมดแล้ว พวก เขาเป็นคนฉลาด สักพักคงเดาเหตุการณ์ที่ผ่านมาออกกัน
หมด
จั่วชิวทรงดูถูกรุ่นน้องที่มาใหม่ ฉีกใบสมัครทิ้ง แต่รุ่นน้อง คนนี้ก็ทําแผนงานให้รุ่นพี่เยี่ยด้วยใจ….
พวกอาจารย์ต่างพากันขมวดคิ้วมองไปทางจั่วชิวหรงแล้ว
ละสายตากลับ
จากนั้นก็มาคุยกับนักวิจัยเดี่ยวต่อ รอคอยสายโทรศัพท์
นักวิจัยเลี่ยว
ทางด้านนี้ จั่วชิวหรงยังยืนนิ่งอยู่กับที่ ในที่สุดเธอก็ยื่น
มือออกมาเปิดแผนงานที่รุ่นพี่เยี่ยยื่นให้เธอด้วยมือที่สั่น
เทา-
ฉินหร่านได้คะแนนเต็มมาตั้งแต่เรียนวิศวกรรมอัตโนมัติ
แล้ว แน่นอนว่าแผนงานที่เธอทําออกมาย่อมใช้ประโยชน์ได้
มาก รูปแบบแผนงานยังดีกว่าของรุ่นพี่เยี่ยกับจั่วชิวทรงเสีย อีก และไม่ใช่ทําไปอย่างไร้เป้าหมาย
ตอนที่รุ่นพี่เยี่ยอ่านเป็นครั้งแรกก็รู้เลยว่าแผนงานที่ฉันห
ร่านทําออกมามีคุณค่าแค่ไหน แน่นอนว่าจั่วชิวทรงก็มองออก
เธอเปิดมาอีกหน้าหนึ่งด้วยนิ้วที่กําลังสั่น
รุ่นพี่เยี่ยหยิบยืมมุมมองในนั้นมาประเด็นหนึ่ง จึงทําให้ ทีมของจั่วชิวทรงโดดเด่นในหมู่สามทีมสุดท้ายที่ต้องเลือกมา
หนึ่งทีม ถ้าหาก….พวกเขาทั้งทีมทําตามแผนงานฉินหร่านล่ะ?
จั่วชิวทรงทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่งด้วยแววตาว่าง
จากการสัมภาษณ์ข่าวในประเทศ ฉินหร่านใช้เวลาไม่ถึง
ครึ่งปีในการนําลูกทีมหน้าใหม่สามคนและอีกหนึ่งคนที่เพิ่ง
เข้ามาในสองเดือนสุดท้าย ซึ่งเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ผู้ เข้าแข่งขัน ICNE ที่มีอายุเฉลี่ยน้อยที่สุด
เธอสามารถทําโครงการ ICNE ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ภายในระยะเวลาสั้นๆ ได้
ตอนนี้ฉินหร่านมีชื่อเสียงโด่งดังในวงการฟิสิกส์ ตอนนั้น
ถ้ามีเธออยู่ด้วย โครงการการขับเคลื่อนยานอวกาศของพวก
เขาก็คงประสบความสําเร็จอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ได้
เหมือนกัน และที่สําคัญก็คือถ้ามีฉันหร่านอยู่ด้วย ก็คงสร้าง ความสั่นสะเทือนที่ยิ่งใหญ่และจะต้องส่งผลต่องานวิจัยของ
เธออย่างมาก…
จั่วชิวทรงคิดมาถึงตรงนี้ ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าสิ่งที่เธอ
ฉีกทิ้งในตอนนั้นคืออะไร
น่าเสียดายที่เวลาไม่อาจไหลย้อนกลับ ไม่ว่าจะเสียใจแค่
ไหนก็ช่วยอะไรไม่ได้
เรื่องของจั่วชิวหรงเป็นแค่บทเพลงสลับฉากเท่านั้น
ฉินหร่านไม่ได้สนใจ
ระหว่างที่เธอฟังพวกโจวอิ่งคุยกัน อีกด้านหนึ่งก็ดู
โทรศัพท์ไปด้วย อาจารย์ใหญ่สวีตอบกลับมาแล้ว
เวลาสิบโมงเช้าของวันที่ 1 มีนาคม สถานที่คือบ้าน
ตระกูลสวี
เดิมทีอาจารย์ใหญ่สวีมีแผนจะจัดพิธีผู้สืบทอดในช่วง
กลางเดือนมีนาคม แต่ฉันหร่านแสดงผลงานออกมาได้อย่าง
ยอดเยี่ยม ตอนนี้คุณงามความดีของเธอมีมากพอที่จะยืนอยู่ ในวงการฟิสิกส์ อาจารย์ใหญ่สวีจึงไม่อยากรออีกต่อไป
เขาวางแผนเรื่องการสืบทอดตําแหน่งของฉินหร่านใน
เดือนมีนาคมเมื่อครึ่งปีก่อน แม้กระบวนการค่อนข้างมี
รายละเอียดแต่ก็เตรียมพร้อมไว้นานแล้ว
วันที่ 1 มีนาคมในสายตาคนตระกูลสวีดูจะรีบร้อนไป
หน่อย แต่อาจารย์ใหญ่สวีกลับไม่ได้กระวนกระวายแต่อย่าง
ใด
(เอารายชื่อทางฝั่งเธอให้ฉันด้วย ฉันจะเขียนการ์ดเชิญ
แล้วตอนเย็นจะให้คนไปส่งเธอ ทางสถาบันวิจัยแจ้งหรือยัง?)
ฉินหร่านตอบกลับอาจารย์ใหญ่สวี “ยัง” จากนั้นก็ฟัง คณบดีเจียงและโจวอิ่งพูดต่อ
นักศึกษาฉินหร่าน ความจริงแล้วผู้อํานวยการฟังเคยส่ง
คนมาถามฉันว่าเธอมีอาจารย์เข้าสถาบันวิจัยหรือยัง” คณบดี
เจียงพึ่งโต๊ะด้วยหน้าตาปลื้มปริ่ม “บอกตามตรงว่าไม่ใช่แค่
เขา คนจากสถาบันวิจัยอีกมากมายที่ติดต่อเธอไม่ได้ก็มาถาม ฉัน ก่อนจะเข้าสถาบันวิจัย จะให้ดีที่สุดก็ต้องหาอาจารย์ก่อน
เธอมีรุ่นพี่ซึ่งคุ้มหัวก็เลือกนักวิจัยขั้นพิเศษเป็นอาจารย์สิ”
“เธอมีศักยภาพไร้ขีดจํากัด ต่อไปคงมีที่ให้เธอใน
สถาบันวิจัยทางฟิสิกส์แห่งรัฐ M ได้ไม่ยาก คนที่ต้องการรับ เธอคงมีเยอะแน่ๆ รวมไปถึงผู้อาวุโสแห่งวงการฟิสิกส์พวกนั้น ด้วย ทางฝั่งเธอน่าจะมีคนติดต่อมาไม่น้อย ต้องพิจารณาให้ดี
นะ”
พอพูดถึงตรงนี้ คณบดีเจียงก็อดไม่ได้ที่จะมองฉินหร่าน
ตอนที่เขารู้ว่าฉินหร่านได้อยู่ห้องปฏิบัติการของ
นักวิจัยเลี้ยว เขายังเคยคิดว่ามีความเป็นไปได้ไหมที่
นักวิจัยเดี่ยวจะรับเธอเป็นศิษย์ แต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่ค่อยมีความ
เป็นไปได้…
ปัจจุบันผ่านไปแล้วครึ่งปี อย่าว่าแต่นักวิจัยเลี้ยวเลย
เพราะแม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงแห่งสถาบันวิจัยในประเทศ อย่างฟังเจิ้นยั่วยังมาสอบถามเรื่องอาจารย์ของฉันหร่าน
สถาบันวิจัยนั้น ตระกูลสวีเป็นผู้จัดสรรเอง
ตราบใดที่มีคนก็ต้องมีการต่อสู้ช่วงชิง
ด้วยความสําเร็จของฉันหร่านในขณะนี้ ถ้าให้เวลาเธออีก สองสามปีในการเติบโตจนกลายมาเป็นอย่างมิโรในตํานาน
ของ ICNE การมีลูกศิษย์เช่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นความภาคภูมิใจ เท่านั้น ทั้งยังเป็นการสนับสนุนเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ของ
อาจารย์อีกด้วย
ฉินหร่านลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองคณบดีเจียง
“ฉันมีอาจารย์แล้วค่ะ”
“ใคร?” คณบดีเจียงอึ้งพลางขมวดคิ้ว “คงไม่ได้โดน
หลอกไปหรอกนะ?”
ขณะกําลังจะตอบ
ไม่ไกลออกไป โทรศัพท์มือถือนักวิจัยเดี่ยวที่ทุกคนกําลังรอคอยก็ดังขึ้น
นักวิจัยเลี้ยวลุกจากเก้าอี้ เสียงพูดคุยของเหล่าอาจารย์ และด็อกเตอร์เริ่มหายไป มองมาทางนักวิจัยเดี่ยว
ไม่วางตา
กวิจัยเดี่ยวก้มดูชื่อ “ผู้ดูแลของสถาบันวิจัย”
เขากดรับสายโดยตรง
ทางด้านนั้นบอกผลรายงาน
เวลาผ่านไปประมาณนาทีครึ่ง นักวิจัยเดี่ยวก็พูด “อืม” เบาๆ แล้ววางสาย
“เป็นยังไงบ้างนักวิจัยเดี่ยว?”
“ขั้นไหน?”
เมื่อคนอื่นเห็นเขาไม่พูดไม่จาก็โน้มตัวไป
ฉินหร่านเข้าสถาบันวิจัยได้ไม่มีปัญหา สิ่งที่คนเหล่านี้ อยากรู้ก็คือเธอจะได้รับการประเมินให้อยู่ขั้นไหน
“นักวิจัยเดี่ยว ทําไมคุณไม่พูดล่ะ….” โจวอิ่งเบียดเข้ามา
นักวิจัยเลี้ยวเงียบ
เขาเพียงยื่นมือมาเปิดคอมพิวเตอร์
พิมพ์รายงานภายใน 30 วินาทีแล้วส่งให้โจววิ่งโดยตรง
โจวอิ่งก้มหน้า
คนอื่นเข้ามามุงอย่างไว
ในนั้นเป็นหนังสือแจ้งข่าวดี
เยี่ยหมิงเฉียว : นักวิจัยทางการขั้นสาม