เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 491 ขอแสดงความนับถือ สวีซื่ออิ่ง !
ตอนที่ 491 ขอแสดงความนับถือ สวีซื่ออิ่ง !
“คุณชายสาม คุณหนูฉิน” ผู้ดูแลคนอื่นๆ ที่อยู่บนโต฿ะ ลุกขึ้นทันทีพร้อมกับกล่าวด้วยความเคารพ
คนที่อยู่บนโต฿ะอาหารค่ําอดไม่ได้ที่จะมองมาทางฉินห ร่าน
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นปนกับความเคารพอย่างหาได้ ยาก
ทันทีที่เห็นทั้งสอง เฉิงเหราฮั่นก็รู้สึกจุกอก
สี่ตระกูลหลักทราบข่าวที่สถาบันวิจัยทางฟิสิกสแกลับมาสู่ สายตารัฐ M ได้อีกครั้งตั้งแต่แรกแล้ว
แน่นอนว่าฉินหร่านคนนี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าแต่อย่างใด
ถ้าจะบอกว่าฉินหร่านมาครั้งล่าสุดเพราะรายการทีวี ไวโอลิน และเรื่องจอหงวนสอบเข้ามหาวิทยาลัย คนตระกูล เฉิงก็จะชายตาแลมองเพียงเล็กน้อย ทว่าการสั่นสะเทือนใน วงการฟิสิกสแครั้งนี้กลับทําให้คนตระกูลเฉิงยําเกรงฉินหร่าน ไปโดยปริยาย
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยที่ทุกปีจะมีจอหงวนสอบเข้า มหาวิทยาลัย
ส่วนเรื่องไวโอลินพวกนั้น ตระกูลเฉิงก็ไม่ค่อยสนใจอยู่ แล้ว…
แต่รัฐ M …เธอใช้กําลังเพียงลําพังทําให้สถาบันวิจัยกลับ สู่สายตารัฐ M ได้ การเปิดตลาดเมืองหลวงนี่ก็มากพอที่จะทํา ให้ผู้ดูแลตระกูลเฉิงเล็งเห็นศักยภาพและความสามารถของ ฉินหร่าน
ยิ่งรู้ว่าในอนาคตเธอจะมีศักยภาพไร้ขีดจํากัด ดังนั้นการ ก้าวเข้าสู่ตําแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงในสถาบันวิจัยจึงไม่ใช่ เรื่องแปลกแต่อย่างใด
ด้วยเหตุนี้ก็เพียงพอที่จะได้รับความเคารพจากพวกเขา แล้ว
“ขอโทษค่ะที่มาสาย” พอทักทายเสร็จ ฉินหร่านก็ก้ม หน้าเล็กน้อย
“สายที่ไหนล่ะ” เฉิงเวินหรูนั่งไขว่ห้างก้มหน้าดูโทรศัพทแ เชิดคางขึ้น “เห็นๆ อยู่ว่ายังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง พ่อบ้าน เฉิง ให้พวกเขาขึ้นโต฿ะได้”
อาหารเสิรแฟขึ้นโต฿ะทีละอย่าง
เฉิงเวินหรูกับนายท่านเฉิงคุยกับฉินหร่านเรื่องรัฐ M
“ดึกมากแล้ว วันนี้เธอค้างที่นี่เถอะ? เรือนปีกของฉันมี ห้องสวยๆ ตั้งหลายห้องแน่ะ” เฉิงเวินหรูถือตะเกียบพลางยิ้ม ให้ฉินหร่าน “ตอนเย็นที่นี่จะมีการแสดงดอกไม้ไฟด้วยนะ”
ฉินหร่านนิ่งไปสักพัก เธอหันไปมองเฉิงเจวี้ยนเล็กน้อย
เฉิงเจวี้ยนแกะกุ้งเล็กอย่างสบายอารมณแแล้วยัดใส่ปาก เธอ พูดด้วยน้ําเสียงเกียจคร้าน “งั้นก็ค้างที่นี่เถอะ พรุ่งนี้เธอ หยุดวันนึงไม่ใช่เหรอ? ไหนจะไปเยี่ยมคุณอาอีก ที่นี่ก็เป็น ทางผ่านพอดี”
สองวันมานี้ฉินหร่านเหนื่อยจริงๆ และขี้เกียจเทียวไป เทียวมา
พอรู้เรื่องนี้ เฉิงเวินหรูกับนายท่านเฉิงก็ตื่นเต้นดีใจเป็น อย่างมาก
ทางด้านเฉิงเหราฮั่นกินอาหารอย่างไม่รู้รสชาติ
หลังจากทานอาหารเสร็จ เฉิงเวินหรูก็รีบพาฉินหร่านไป ดูเรือนปีก ฉินหร่านยื่นการแดเชิญสองใบนั้นให้เฉิงเวินหรูกับ นายท่านเฉิง “เวลากําหนดแล้วค่ะ วันที่ 1 มีนาคม”
เฉิงเวินหรูรับมาส่งๆ แน่นอนว่าเธอไม่มีทางเปิดดูต่อหน้า ฉินหร่าน
ตอนนี้เธอกําลังดีอกดีใจที่จะได้จัดห้องให้ฉินหร่านพัก เรือนปีกของเธอ เธอใส่รองเท้าส้นสูงพาฉินหร่านเดินไปที่ เรือนปีก
เฉิงเจวี้ยนใช้มือหนุนท้ายทอย มองทั้งสองอย่างเกียจ คร้าน
เรือนปีกเขากับเฉิงเวินหรูห่างกันไม่ไกล
ไม่ต้องรีบร้อน
“วันที่ 1 มีนา?” บนโต฿ะอาหาร เฉิงเหราฮั่นกับผู้ดูแลคน อื่นๆ ยังไม่ไปไหน เมื่อได้ยินประโยคนี้ก็มองมาทางนายท่าน เฉิง “คุณหนูฉินก็มีงานด้วยเหรอครับ?”
“เหมือนจะมีงานนึง” สิ้นปีมีหลายงานเลี้ยงที่มักจะชน กัน
เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งสองครั้ง
ส่วนใหญ่จะไปงานที่สําคัญๆ และส่งตัวแทนไปงานที่ สําคัญรองลงมา
“พ่อ พ่อคงไม่ยกเลิกงานเลี้ยงผู้สืบทอดของตระกูลสวี หรอกนะ?” เฉิงเหราฮั่นหน้าถอดสี
แม้เขาจะรู้ว่าพ่อของเขารักและเอ็นดูเฉิงเจวี้ยนกับฉินห ร่านมาก แต่เขากลับคิดไม่ถึงว่าพ่อของเขาจะเสียสติจนกลาย มาเป็นอย่างนี้?
คนอื่นก็เงียบไปพักหนึ่งหลังจากที่ได้ยิน
พวกเขามองนายท่านเฉิงอย่างเงียบๆ แต่การแสดงออก เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นด้วย
งานทางฝั่งตระกูลสวีเป็นงานสําคัญที่จะละเลยไม่ได้ นายท่านเฉิงโบกมือส่งๆ “ฉันรู้กาลเทศะ”
เขาเอามือไพล่หลังเดินอ้อมทางเดินไปถึงห้องหนังสือ พ่อบ้านเฉิงดันแว่นสายตาบนสันจมูก เมื่อนายท่านเฉิงหยุด อยู่ที่โต฿ะหนังสือ เขาก็ชะงัก “นายท่าน…”
“แกก็คิดว่าไม่เหมาะสม?” นายท่านเฉิงปรายตามอง พ่อบ้านเฉิง
พ่อบ้านเฉิงที่ยืนห่างออกไปเจ็ดก้าวได้ยินดังนั้นก็เม้ม ปาก หากพูดกันตามหลักเหตุผลแล้ว เขาย่อมรู้สึกว่าฉินหร่าน สําคัญกว่า
แต่ในฐานะตระกูลเก่าแก่ โดยหลักแล้วไม่อาจทําตาม อําเภอใจได้
ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ตระกูลสวีเติบโตอย่างรวดเร็ว มี อํานาจควบคู่ไปกับตระกูลเฉิง
เรื่องผู้สืบทอดตระกูลสวีนั้นสําคัญมาก การแดเชิญจะต้อง ให้เกียรตินายท่านเฉิงอย่างแน่นอน หากนายท่านเฉิงไม่ไป ร่วมงาน…ผลกระทบที่ตามมาคงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
พ่อบ้านเฉิงไม่พูด นายท่านเฉิงก้มหน้าโดยไม่รู้ว่ากําลัง คิดอะไรอยู่
ด้านนอก มีคนมาเคาะประตู
“เข้ามา” นายท่านเฉิงยังไม่เงยหน้า เขาพูดขณะเปิด การแดเชิญไปด้วย
คนที่เข้ามาคือผู้ดูแลและหัวหน้าหน่วยไม่กี่คนก่อนหน้านี้ พวกเขาโค้งคํานับเก้าสิบองศา กล่าวจากใจ “นายท่านครับ ท่านได้โปรดช่วยพิจารณาเรื่องตระกูลสวีให้รอบคอบด้วย ครับ”
ตําหนิไม่ได้ที่พวกเขาจะเคร่งเครียด
ตั้งแต่นายท่านเฉิงพบเฉิงเจวี้ยน เส้นตายก็ผ่อนปรนซ้ํา แล้วซ้ําเล่า ทําลายกฎเกณฑแอยู่บ่อยครั้ง
ตระกูลเฉิงตั้งแต่บนลงล่างแม้แต่คนในเมืองหลวงก็ชินไป เสียแล้ว
มิเช่นนั้นคําว่า“คุณชายเจวี้ยน”คํานี้คงไม่ทําให้เมือง หลวงสั่นสะเทือนไปกันหมด
เมื่อก่อนเรื่องที่ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อตระกูลเฉิงก็ถือว่า แล้วไป แต่การตัดสินใจของนายท่านเฉิงขณะนี้อาจเป็นภัยต่อ ความสัมพันธแระหว่างตระกูลเฉิงและตระกูลสวีไม่มากก็น้อย
หลังจากที่คนกลุ่มนี้พูดเสร็จก็ไม่เห็นว่านายท่านเฉิงจะมี ปฏิกิริยาตอบสนองแต่อย่างใด
เขากําลังก้มหน้าอ่านการแดเชิญที่อยู่ในมือ ดูเหมือนว่ามือ กําลังสั่นระริก
หัวหน้าหน่วยเหล่านั้นก้มหน้าสบตากัน
“นายท่านครับ?” พ่อบ้านเฉิงเดินไปเรียกข้างหน้า เสียงนี้ก็ไม่ได้ทําให้นายท่านเฉิงรู้สึกตัว
“นายท่าน?” พ่อบ้านเฉิงเรียกอีกครั้ง
จากนั้นนายท่านเฉิงก็มีการตอบสนอง “ปัง” เสียงวาง การแดเชิญ เขาไม่พูดอะไรเลยและเดินตรงออกจากห้อง หนังสือด้วยความเร่งรีบ
เบื้องหลัง พ่อบ้านเฉิงกับหัวหน้าหน่วยเหล่านั้นต่างก็ไม่ เข้าใจว่านายท่านเฉิงหมายความว่าอย่างไร
พ่อบ้านเฉิงเป็นคนที่คอยติดตามนายท่านเฉิงมานานมาก ที่สุด เขาตระหนักได้ว่าอาจจะมีปัญหาที่การแดเชิญนั้น
เขาเดินไปที่ข้างโต฿ะหนังสือแล้วหยิบการแดเชิญที่นาย ท่านเฉิงวางไว้บนโต฿ะขึ้นมา อ่านดูคร่าวๆ
มือที่จับขอบการแดเชิญชะงัก รูม่านตาสีขุ่นหดตัวอย่าง รวดเร็ว
พ่อบ้านเฉิงมีท่าทางแปลกไป…
ผู้ดูแลและหัวหน้าหน่วยเริ่มร้อนใจ “พ่อบ้านเฉิง เกิด อะไรขึ้นกันแน่? นายท่านเขาเป็นอะไร?”
“ทุกท่าน พวกคุณไม่ต้องกลุ้มใจแล้วว่านายท่านเฉิงจะ ไปงานไหน” เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเปิดการแดเชิญแสดง ให้พวกหัวหน้าหน่วยดู
การแดเชิญขลิบทองเขียนไว้อย่างชัดเจน
(เรียนเชิญ : ท่านเฉิง)
(งานจัดขึ้นในวันที่ 1 มีนาคม ณ ….)
คนอื่นไม่ได้อ่านข้อความบรรทัดกลาง สายตาทุกคนมอง มาที่มุมล่างซ้าย——
(ขอแสดงความนับถือ สวีซื่ออิ่ง)
ภายในห้องหนังสือเงียบสนิท ไม่มีใครคุยกัน
พ่อบ้านเฉิงสามารถได้ยินเสียงหายใจของตัวเองได้
สวีซื่ออิ่ง ชื่อจริงของผู้กุมอํานาจใหญ่สองฝุายแห่ง ตระกูลสวี