เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 493 โอวหยางเวย ประจันหน้า
สวีเหยากวงสวมเสื้อสีดําติดกระดุมแน่น
แววตาสุขุม เขากําลังก่้มหน่้าคุยกับคนข่้างๆ
ใบหน่้ายังเย็นชาเหมือนเดิม
คนที่เดินไปมารอบๆ ต่างก็พยักหน่้าให่้เขา สถานะของ เขาจะเห็นได่้จากห่้องจัดเลี้ยงนี้
หลังจากเข่้ามหาวิทยาลัย ฉินอวี่ยังเคยเจอสวีเหยากวง ในเขตมหาวิทยาลัยเมืองหลวง
ตั้งแต่นั้นมาฉินอวี่ก็ไม่ได่้สนใจสวีเหยากวงมากนัก
ต่อมาสวีเหยากวงยังเคยถามเรื่องปัญหาไวโอลินกับเธอ ถึงสองครั้ง ฉินอวี่ไม่ได่้ติดต่อกับสวีเหยากวงอีกเลยหลังจาก เกิดเรื่องบนอินเทอรแเน็ต
จนมาถึงวันนี้ คนคนนี้ปรากฏตัวอยู่ต่อหน่้าเธออีกครั้ง
ฉินอวี่เดินถอยหลังไปโดยไม่รู่้ตัว เท่้าที่สวมรองเท่้าส่้นสูง เดินเซ
คุณชายสี่ตระกูลฉินเดินไปหาสวีเหยากวงและทักทาย เขา
“นายมาอยู่ที่นี่ได่้ยังไง?” เล็บฉินอวี่จิกฝุามือ เธอ พยายามสงบสติอารมณแ เงยหน่้ามองไปทางสวีเหยากวง
สวีเหยากวงหรี่ตาลง มองผ่านฉินอวี่โดยไม่มีระลอกคลื่น ใดๆ
เขาพยักหน่้าให่้กลุ่มคุณชายสี่ตระกูลฉิน
คุณชายสี่ตระกูลฉินที่ได่้รับการดูแลจากตระกูลเสิ่นและ ตระกูลหลินเป็นพิเศษไม่ได่้รู่้สึกโดนดูแคลนเลยแม่้แต่น่้อย
ตั้งแต่ต่้นจนจบไม่ได่้มองฉินอวี่เลยสักวินาทีเดียว
“เธอรู่้จักคุณชายเสี่ยวสวีด่้วยเหรอ?” จนกระทั่งเดินไป อีกด่้านหนึ่ง คุณชายสี่ตระกูลฉินถึงได่้หันมามองฉินอวี่ “จริง ด่้วย เธอกับคุณชายเสี่ยวสวีรุ่นเดียวกันนี่ ม.ปลายปีสามเขาก็ อยู่ที่อวิ๋นเฉิง พวกเธอคงจะเป็นเพื่อนโรงเรียนเดียวกันสินะ”
ฉินอวี่พยักหน่้าด่้วยความงุนงง
บางทีอาจเป็นเพราะความสัมพันธแระหว่างฉินอวี่กับสวีเห ยากวง คุณชายสี่ตระกูลฉินถึงได่้อดทนกับเธอมากขึ้น
เมื่อเห็นท่าทางเธอดูผิดหวังและตกใจก็ยิ้มเล็กน่้อย “คน อย่างคุณชายเสี่ยวสวีจําเธอไม่ได่้ก็เป็นเรื่องปกติ เขาเป็นผู่้นํา ตระกูลสวีคนต่อไปและดูแลกิจการครอบครัวมาปีหนึ่งแล่้ว แต่ถึงอย่างไรก็คงมีสายใยเพื่อนร่วมชั้นกันอยู่”
เขาพูดเรียบๆ แต่กลับไม่รู่้ว่ากระทบจิตใจฉินอวี่มาก ขนาดไหน
ตอนแรกเธอพยายามหลบเลี่ยงสวีเหยากวง สวีเหยากวง เป็นคนใช่้ชีวิตเรียบง่ายมาโดยตลอด เวลาเดินทางก็มักจะนั่ง รถสาธารณะ พักอยู่ในหอรวม …
มีเสียงอื้ออึงวนอยู่ในหัวฉินอวี่ เสียงรอบตัวเธอกลายเป็น แสงและเงา
ข่้างหูเธอก็มีเสียงอื้ออึงดังขึ้น
**
เวลาเก่้าโมงครึ่ง คนตระกูลสวีทั้งสองฝั่งส่วนใหญ่เข่้า ประจําที่แล่้ว ผู่้ที่นั่งตําแหน่งหลักและตําแหน่งรองล่้วนเป็น คนจากสี่ตระกูลหลัก
สวีเหยากวงและกลุ่มคนวัยหนุ่มสาวนั่งอยู่ตําแหน่งรอง
ผู่้อาวุโสอย่างนายท่านเฉิงก็นั่งอยู่ในตําแหน่งหลัก
ก่อนพิธีรับผู่้สืบทอดจะเริ่มขึ้นก็ถึงเวลาที่ทุกคนจะได่้ พบปะสังสรรคแกัน นอกจากตระกูลสวีกับตระกูลเฉิง ก็ไม่มี ตระกูลไหนที่มีความพร่้อมจัดงานเลี้ยงที่หรูหราเช่นนี้ได่้
“พ่อฉันยังมางานตระกูลสวีสินะ” เฉิงเหราฮั่นถือแก่้ว ไวนแและยิ้มให่้คนสนิทที่อยู่ข่้างๆ “ดูเหมือนว่าเขายังไม่เสียสติ เพราะน่้องสามกับเด็กผู่้หญิงคนนั้น”
ไม่ได่้มีแค่นายท่านเฉิงที่ไม่ได่้ไป แม่้แต่เฉิงเวินหรูก็ยังอยู่ ด่้วย
ถ่้าเป็นเมื่อก่อนทั้งคู่คงไปกันหมดแล่้ว อย่างน่้อยก็มีคน หนึ่งที่ไป
เป็นแบบนี้แล่้ว นายท่านเฉิงกับเฉิงเวินหรูก็คงไม่ได่้ มองเห็นความสําคัญของฉินหร่านมากขนาดนั้น
ไม่ไกลออกไป เฉิงเจวี้ยนกับฉินหร่านกําลังเดินมาทางนี้
เฉิงเหราฮั่นเงียบไปชั่วขณะ
เขาเยาะเย่้ย “พวกเธอสองคนมากันเองเหรอ?”
คนที่สามารถเข่้างานเลี้ยงแบบนี้ได่้โดยหลักแล่้วจะต่้อง อยู่ในแวดวงชั้นสูง คนส่วนใหญ่ต่างก็รู่้จักเฉิงเจวี้ยน แต่ไม่ได่้ สนิทกับเขา นอกจากพวกเจียงตงเยี่ยไม่กี่คน น่้อยมากที่จะมี คนกล่้าทักทายเขา
ที่นั่งฉินหร่านกับเฉิงเจวี้ยนก็เป็นที่นั่งรอง
คนวัยหนุ่มสาวที่นั่งตําแหน่งรองเพิ่มขึ้นมาหน่อยแล่้ว อา รองสวีก็นั่งอยู่ในตําแหน่งนี้ด่้วย ส่วนสวีเหยากวงยังไม่มา เพราะกําลังต่้อนรับแขก
“คุณสวี” ที่นั่งรองมีคนสอบถามอารองสวี “ผู่้สืบทอดที่ ท่านสวีหามาเป็นใครกันแน่? ไม่ใช่คุณชายเสี่ยวสวีจริงๆ น่ะ เหรอ?”
พอพูดถึงเรื่องนี้ อารองสวีก็ส่ายหน่้า พูดอย่างใจเย็น “ไม่ใช่ พวกเราก็ไม่มีข่้อมูลอะไรเลย”
อย่าว่าแต่คนอื่นที่อยากรู่้ พอใกล่้จะถึงสิบโมงคน ตระกูลสวีเองก็อยากรู่้เหมือนกัน
ขณะที่ผู่้คนกําลังพูดคุยกันอยู่นั้น เฉิงเจวี้ยนกับฉินหร่าน ก็มาถึง
สําหรับฉินหร่าน แน่นอนว่าอารองสวีย่อมรู่้จักฮีโร่ผู่้ ยิ่งใหญ่ของสถาบันวิจัยเป็นธรรมดา ความสําเร็จในอนาคตไม่ มีที่สิ้นสุด
“นักศึกษาฉินหร่าน ไม่สิ น่าจะเรียกว่าเพื่อนนักวิจัยฉิน มากกว่า” อารองสวีลุกขึ้น หลังจากทักทายเฉิงเจวี้ยนก็จับมือ ฉินหร่านอย่างสุภาพ “ต่อไปฝากเนื้อฝากตัวด่้วยนะ”
คนส่วนใหญ่ที่โต฿ะอาหารค่ําต่างก็เคยได่้ยินเรื่องฉินหร่าน มาแล่้วทั้งนั้น เธอคนนี้มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองหลวง
หลังจากมองฉินหร่าน สายตาก็หันไปมองเฉิงเจวี้ยนที่อยู่ ข่้างๆ เธอ
เฉิงเจวี้ยนลากเก่้าอี้ข่้างๆ ให่้ฉินหร่านนั่งด่้วยความเคย ชิน
คนบนโต฿ะอาหารรู่้จักเฉิงเจวี้ยนทุกคน นอกจากเฉิงเหรา ฮั่น ทุกคนก็อึ้งกันไปตามๆ กัน
ความสัมพันธแระหว่างฉินหร่านกับเฉิงเจวี้ยนมีแค่คน ภายในตระกูลเฉิงไม่กี่คนที่รู่้ ช่วงนี้เมืองหลวงเกิดเหตุการณแ มากมาย คนส่วนใหญ่จึงพุ่งความสนใจไปที่ตระกูลสวีที่รัฐ M
ส่วนข่าวรักๆ ใคร่ๆ ของลูกชายสามจอมเสเพลที่ไม่ค่อย เอาการเอางานของตระกูลเฉิง ตระกูลอื่นๆ ก็ไม่ได่้สนใจ
ยังคงอยู่กับข่าวลือที่จู่ๆ ก็โผล่เข่้ามาในวงสังคมก่อนหน่้า นี้อย่าง “เด็กเหลือขอ” “ติดสินบนมหาวิทยาลัย”
ไม่มีใครรู่้ว่าใครเป็นต่้นเหตุของข่าวลือนี้ แต่ว่ากันว่าเป็น แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ คนส่วนใหญ่จึงเชื่อกันหมด เพราะถึง อย่างไรก็ไม่มีเรื่องไหนที่ทายาทตระกูลเฉิงทําไม่ได่้
ด่้วยเหตุนี้ ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครให่้ความสําคัญกับข่าว รักๆ ใคร่ๆ อีก
จนกระทั่งวันนี้…
ข่้อมูลพื้นฐานของฉินหร่านไม่ถือว่าเป็นความลับสําหรับ คนในเมืองหลวง ไม่ว่าจะเป็นอายุหรือสถานที่กําเนิดก็เหมือน ข่าวลือก่อนหน่้านี้
ส่วนอย่างอื่น…
เด็กเหลือขอ? ติดสินบน?
ใครเป็นคนปล่อยข่าวลือนี้กันแน่?
คนที่ไม่รู่้เส่้นสนกลในบนโต฿ะฟั่นเฟือนเล็กน่้อย
มีเพียงเฉิงเหราฮั่นที่หน่้าดําคล้ําอยู่หน่อยๆ
หลังจากนั้นไม่นานกลุ่มคนเหล่านี้ก็รู่้สึกตัว อารองสวี มองมาที่ฉินหร่าน ถามเรื่องอาจารยแของเธอ “เธอไม่มี อาจารยแจริงๆ หรอ? ได่้ยินมาว่าผู่้อํานวยการฟังก็ถามไถ่ข่าว ของเธอด่้วยนะ”
“ผู่้อํานวยการฟังงั้นหรอ?” มีเสียงนุ่มดังมาจากข่้างหลัง เบาราวกับสายลม
เมื่อได่้ยินเสียงนี้ ทุกคนที่อยู่บนโต฿ะก็พากันลุกขึ้นยกเว่้น เฉิงเจวี้ยนกับฉินหร่าน พวกเขาทักทายโอวหยางเวยอย่าง กระตือรือร่้น
แม่้แต่เฉิงเหราฮั่นก็แปลกใจ
“คุณหนูโอวหยาง”
“คุณหนูโอวหยาง”
“……”
ฉินหร่านตระหนักได่้ว่าคนคนนี้มีชื่อเสียงโด่งดังในเมือง หลวง คงเป็นนางฟูาของเฉิงมู่ก่อนหน่้านี้ละมั้ง เธอเอนหลัง พิงเก่้าอี้เหลือบมองไปข่้างหลัง
โอวหยางเวยลอบมองเธอ
ในช่วงเวลาสั้นๆ เธอมองมาทางอารองสวี “ผู่้อํานวยการ ฟังเพิ่งบอกฉันเมื่อสองวันก่อนว่าตอนนี้เขาไม่มีแผนจะรับลูก ศิษยแ”
เฉิงเหราฮั่นอดซ่อนรอยยิ้มเหน็บแนมตรงมุมปากไม่ได่้ เมื่อได่้ยินโอวหยางเวยพูดแบบนี้