เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 494 ผู้สืบทอด เทพที่มีตัวตน
โอวหยางเวยได้รับการเลื่อนตําแหน่งให้เป็นสมาชิกคน สําคัญของ129 เธอยังรุ่งโรจนแอยู่ในหมู่ตระกูลโอวหยาง
มีความสัมพันธแอันดีกับกองกําลังมากมายทั้งใหญ่และ เล็กในเมืองหลวง
ไม่มีใครยอมขัดใจเธอ
โชคดีที่ตระกูลโอวหยางมีอิทธิพลไม่มากพอ แม้จะมี โอวหยางเวยอยู่ แต่ก็แค่เบียดตระกูลฉินได้ชั่วคราวเท่านั้น ไม่อย่างนั้นตระกูลโอวหยางคงไปได้ไกลมากกว่านี้
เฉิงเจวี้ยนเป็นคนไม่ค่อยพูด คนอื่นไม่กล้าล่วงเกินเขา
ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงตามไปพูดคุยกับโอวหยางเวย ขนาดฉินหร่านที่เพิ่งได้รับความสนใจก็เริ่มไม่มีคนให้ ความสําคัญ
เวลา 09.58 น. ท่านสวีเอามือไพล่หลังเดินมาที่เวที
พิธีกรกล่าวต้อนรับทุกคนเป็นอันดับแรกก่อนจะแจ้ง กําหนดการหลักของวันนี้ “วันนี้เป็นพิธีประกาศตัวผู้สืบทอด คนต่อไปของตระกูลสวี และเป็นครั้งแรกที่ผู้สืบทอดจะ ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน…”
เขาพูดน้ําไหลไฟดับอย่างต่อเนื่อง
ตําแหน่งที่นั่งรอง ฉินหร่านกลับทําหน้าไร้อารมณแ “เขา เข้าใจคําว่าง่ายๆ ของฉันผิดไปหรือเปล่า?”
แม้แต่พิธีกรชื่อดังก็ยังเชิญมาเพื่อช่วยสร้างบรรยากาศ ครึกครื้น?
เฉิงเจวี้ยนก็ไม่ได้สนใจคนอื่นที่อยู่บนโต฿ะ เขาแค่รินชาให้ เธอ “อย่าเพิ่งโมโห อาจารยแใหญ่สวีเขาน่าจะ…จงใจทํา”
ฉินหร่านปรายตามองเขา ดื่มชาอุ่นๆ
ไม่มีเสียงโต้ตอบ
เฉิงเจวี้ยนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
พิธีกรส่งไมโครโฟนให้ท่านสวีเป็นที่เรียบร้อย
ท่านสวีถือไมโครโฟนพลางดันแว่นตา น้ําเสียงเนิบนาบ “ขอเชิญผู้สืบทอดของผมขึ้นมาได้แล้วครับ”
ทุกคนที่อยู่ในงานตื่นตัวขึ้นมาทันที
โดยเฉพาะคนตระกูสวี ท่านสวีไม่ได้แจ้งอะไรให้คน ตระกูลสวีทราบเลย เขาเลือกผู้สืบทอดมาโดยตรง ใครจะไปรู้ ว่าผู้สืบทอดคนนี้จะขึ้นไม่ขึ้นเวที?
จะสามารถรักษาความรุ่งเรืองของสถาบันวิจัยได้หรือไม่?
หากวันนี้จัดการได้ไม่ดี ผู้สืบทอดที่ท่านสวีหามาไม่ผ่าน ด่าน ก็จะเป็นการทําลายชื่อเสียงบารมีทั้งในตระกูลสวีและ สถาบันวิจัยอย่างยิ่งยวด
คนตระกูลสวีตั้งแต่ระดับบนลงล่างต่างก็รู้สึกประหม่า เป็นอย่างมาก
ทุกคนจดจ่อไปที่บนเวที ท่านสวีส่งสายตามองไปที่โต฿ะ ฉินหร่านตรงๆ
เมื่อเห็นฉินหร่านก้มหน้าก้มตา เคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า ท่านสวีก็เข้าใจเธอจากหัวใจ เธอมักจะหงุดหงิดกับเรื่อง หยุมหยิมแบบนี้เหมือนตาเธอไม่มีผิด
แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองทําผิดตรงไหน หากวันนี้ไม่ จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ ทุกคนก็จะไม่รู้ว่าเขาจริงจังกับผู้สืบทอด คนนี้ขนาดไหน
“นักศึกษาฉินหร่าน” ท่านสวีเงยหน้าขึ้น เขาพูดอีก ประโยคอย่างใจเย็น
เมื่อสักครู่ตอนที่ท่านสวีส่งสายตามองมาที่โต฿ะฉินหร่าน คนบางส่วนก็พอจะเดาออกแล้ว แต่ก็ยังไม่อยากจะเชื่อ เพราะถึงอย่างไร…นั่นก็เป็นถึงผู้สืบทอดสถาบันวิจัยของ ท่านสวี
เวลานี้ท่านสวีเรียกชื่อพูดแซ่ออกไปแล้ว บรรยากาศใน งานจึงแปลกไปเล็กน้อย
สายตาทุกคนล้วนจดจ้องมาที่ตําแหน่งที่นั่งรอง
เฉิงเหราฮั่นหันไปมองฉินหร่านด้วยตัวที่แข็งทื่อ
ส่วนอารองสวีที่ก่อนหน้านี้ยังกังวลว่าท่านสวีจะไปหาผู้ สืบทอดที่ไม่น่าเชื่อกลับช็อกไปทั้งตัวในวินาทีต่อมา
สายตานับไม่ถ้วนมองมาที่จุดเดียวกัน
ฉินหร่านลุกขึ้นยืนและขึ้นเวทีเพื่อทําพิธีรับมอบผู้สืบ ทอดที่ยุ่งยากและซับซ้อนด้วยสีหน้าไร้อารมณแ
ท่านสวีได้ทําการมอบตราประทับให้ฉินหร่านอย่างทรง เกียรติ กล่าวด้วยน้ําเสียงหนักแน่น “อนาคตสถาบันวิจัย เมืองหลวงอยู่ในมือเธอแล้ว”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ฉินหร่านก็ยกมือขึ้นอย่างช้าๆ
ตอนแรกเธอตอบรับว่าจะเข้าควบคุมสถาบันวิจัยเพียง เพื่อสืบเรื่องตาของเธอเท่านั้น
แต่หลังจากผ่านเรื่องราวมามากมาย อาจจะมีคนใจคด ในสถาบันวิจัยอยู่บ้าง แต่คนส่วนใหญ่ล้วนทํางานหนักอย่าง สุดชีวิตเพื่อมัน ธงชาติจีนในรัฐ M ได้สร้างความตื่นตัวให้กับ วงการฟิสิกสแในประเทศ ในเวลาเพียงไม่กี่วันฉินหร่านก็รู้สึก ได้ว่านักฟิสิกสแเหล่านี้ยังคงยืนหยัดเพื่อมันเสมอมา
ตราประทับนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตราประทับ มันเป็นยิ่ง กว่าความรับผิดชอบ ยิ่งกว่าความศรัทธา
ฉินหร่านสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะยื่นมือออกไป
“วางใจเถอะ” ท่านสวีตบไหล่ฉินหร่านด้วยความหนัก แน่น ดวงตาขุ่นมัวมีน้ําบางๆ หลังจากผ่านไปได้สักพักก็พูด
ขึ้นมาช้าๆ ว่า “ถ้าฉันกับตระกูลเฉิงยังปกปูองเธอไม่ได้ สอง ตระกูลนี้ก็ไม่ต้องอยู่ในเมืองหลวงแล้ว”
“ไปเถอะ ฉันจะพาเธอลงไปทําความรู้จัก”
ฉินหร่านสัมผัสไม่ถึงอารมณแที่ซับซ้อนของท่านสวี เธอได้ แต่ถือแก้วเหล้าตามท่านสวีกับสวีเหยากวงและยังมี ผู้รับผิดชอบตระกูลสวีอีกสองท่านอยู่ข้างหลัง
ดื่มเหล้าคารวะตั้งแต่ที่นั่งตําแหน่งหลัก
“เธอน่าจะรู้จักท่านเฉิงกับอธิการบดีโจวดี คงไม่ต้อง แนะนําอะไรมาก ท่านนี้คือผู้ชักนําตระกูลสวีเราไปรัฐ M คุณ แครแโรล…” บริเวณที่นั่งตําแหน่งหลัก ท่านสวีแนะนําคุณแครแ โรลให้ฉินหร่านรู้จักเพื่อเป็นการให้เกียรติ
คุณแครแโรลไม่ค่อยเข้าใจภาษาจีน เขาแค่ชูแก้วให้ฉินห ร่าน
“คุณแครแโรลเป็นคนของตระกูลมาสในรัฐ M อาจารยแเว่ ยของเธอน่าจะรู้จัก ในอนาคตสถาบันวิจัยต้องติดต่อกับรัฐ M กองกําลังพวกนี้ในรัฐ M สําคัญมาก” อาจารยแใหญ่สวีกล่าว สั้นๆ
ทั้งสองเดินมาถึงที่นั่งตําแหน่งรอง
ที่นั่งตําแหน่งรอง อาจารยแใหญ่สวีไม่ค่อยอยากเจอเฉิง เจวี้ยน เขาแนะนําโอวหยางเวยให้ฉินหร่านรู้จัก เขาค่อนข้าง ให้ความเคารพโอวหยางเวยเป็นอย่างมาก “หร่านหร่าน นี่คือ คุณหนูโอวหยาง ผู้สืบทอดคนต่อไปของตระกูลโอวหยางและ ยังเป็นกระดูกสันหลังของ129อีกด้วย พวกเธอน่าจะอายุ ไล่เลี่ยกัน เป็นอัจฉริยะที่ไม่ธรรมดา ต่อไปทําความรู้จักกันให้ มากๆ ”
โอวหยางเวยหายจากอาการตกใจในช่วงแรกแล้ว เมื่อ เผชิญหน้ากับอาจารยแใหญ่สวีก็แค่พยักหน้าเบาๆ
เหลือบมองฉินหร่านเหมือนไม่แยแส
ใบหน้ายังคงนิ่งเฉย
หลังจากออกจากโซนที่นั่งตําแหน่งรอง อาจารยแใหญ่สวี ก็พูดกับฉินหร่านอย่างจริงจัง ลดเสียงลง “หร่านหร่าน เธอ น่าจะสงสัยว่าทําไมฉันถึงให้ความสําคัญกับโอวหยางเวยแบบ นี้”
ฉินหร่านพยักหน้า เธอสงสัยจริงๆ
เธอเคยได้ยินเรื่องโอวหยางเวยมามากกว่าร้อยครั้งแล้ว เป็นสมาชิกระดับกลางของ129 แต่สมาชิกระดับกลางมีตั้ง มากมาย แล้วทําไมเจียงตงเยี่ยเฉิงเวินหรูต่างก็ยกย่องเทิดทูน เธอมาก?
“ความจริงแล้วตัวโอวหยางเวยเองก็ไม่ได้สําคัญอะไร อิทธิพลพวกนั้นที่คอยหนุนหลังเธอต่างหากที่สําคัญ พวกเรา แค่เกรงกลัวคนที่อยู่เบื้องหลังเธอเท่านั้น เรื่อง 129 ฉันจะ อธิบายให้เธอฟังอย่างละเอียดอีกทีหลังจากงานเลี้ยงเลิก” อาจารยแใหญ่สวียังคงนิ่งเงียบ
ต่อหน้าโอวหยางเวย แม้แต่นายท่านจากสี่ตระกูลหลัก ยังให้เกียรติเธอ
คนที่อยู่ในงานใครจะไม่รู้จักบอสใหญ่ฉังหนิงหัวหน้า ผู้ก่อการร้ายที่พรางตัวอยู่ในอินเตอรแเนชั่นแนลเซ็นเตอรแ?
ลูกพี่อย่างจระเข้ยักษแสุดฮอต?
ตอนนั้นเขายังได้รื้อค้นพิพิธภัณฑแประจําตระกูลที่เก็บ รวบรวมประวัติศาสตรแในรัฐ M โดยที่ตํารวจอาชญากรรม ระหว่างประเทศจับตัวไม่ได้
เหอเฉินกับธุลีมังกรยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่มีใครสามารถขุด คุ้ยสถานการณแปัจจุบันของพวกเขาได้เลย
ส่วนหมาปุาเดียวดายนั้น…นี่คือเทพที่มีตัวตนในส่วน ภายใน129 คนอื่นไม่กล้าพูดอะไรมาก
สุ่มจับคนเหล่านี้มาสักคนก็เพียงพอที่จะเทียบเท่าสี่ ตระกูลหลักในเมืองหลวงได้แล้ว
โอวหยางเวยเป็นคนเดียวที่ประสบความสําเร็จในการ เข้าร่วม129และยังประสบความสําเร็จในการเป็นสมาชิก ระดับกลาง