เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 497 กันท่าอย่างโจ่งแจ้ง
ทางด้านรัฐ M
ผู้จัดการรับสายพ่อบ้านฉันเสร็จก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น
ท่ามกลางอากาศอันหนาวเหน็บ เขาสงสัยว่าตัวเองฟังผิดไป
หลังจากนั้นไม่นาน
ฉินซิ่วเฉินถ่ายฉากเสร็จก็เดินเข้ามา เขายื่นมือไปหยิบ เสื้อโค้ตที่วางอยู่บนเก้าอี้ ผู้จัดการที่อยู่ข้างๆ รีบยื่นน้ําให้เขา
“มีอะไร?” ฉินซิ่วเฉินสวมเสื้อโค้ตอย่างลวกๆ ระหว่างที่ ดื่มน้ําก็มองผู้จัดการไปด้วย
“เปล่า….หลานสาวนายนี่…”
ผู้จัดการเงยหน้าขึ้นและส่ง
สายตามองไปทางฉินซิ่วเฉิน ในที่สุดก็โพล่งออกมา “วิกลจริต
หรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ มือฉินซิ่วเฉินที่กําลังถือแก้วก็ชะงัก
หรี่ตาลง
ผู้จัดการหาคําบรรยายฉินหร่านมานานกว่าจะหาได้
“นายท่านตระกูลสวีท่านนั้นหมายมั่นปั้นมือให้เธอเป็นผู้สืบ
ทอดสถาบันวิจัยมาตั้งแต่สี่ปีที่แล้ว ได้ยินว่าเขายังไปอยู่ที่อวิ๋น เฉิงถึงสามปีเพื่อเธอเลยนะ นายว่าเธอวิกลจริตหรือเปล่า
ล่ะ?”
ตั้งแต่การประเมินผู้สืบทอดตระกูลฉินครั้งก่อน ผู้จัดการ ก็รู้สึกว่าฉันหร่านไม่ควรไปเรียนฟิสิกส์
เพราะคะแนนที่สูงเป็นประวัติการณ์อย่างนั้นดูจะ
เสียเวลาเกินไปที่เลือกเรียนฟิสิกส์ แต่ตอนนี้เมื่อดูจากการที่ ท่านสวีแต่งตั้งเธอแล้ว บางทีพรสวรรค์ในด้านฟิสิกส์ก็ไม่ได้
ด้อยไปกว่าคอมพิวเตอร์เลย
เรียนทั้งสองด้านได้ดีขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่วิกลจริตแล้วจะ
เป็นอะไร?
ผู้ช่วยฉินซิ่วเฉินคุ้นเคยกับผู้มีอิทธิพลในเมืองหลวงดี เมื่อ ได้ยินผู้จัดการพูดถึงท่านสวีก็รู้แล้วว่าเป็นใคร
เขารู้แจ้งในฉับพลัน “มิน่าล่ะเห็นๆ อยู่ว่าทักษะด้าน
คอมพิวเตอร์เธอดีมาก เซนส์ด้านดนตรีก็ดี แต่กลับหันไป
เรียนฟิสิกส์”
ทั้งสองพูดจบก็หันมามองฉินซิ่วเฉินโดยไม่ได้นัดหมาย
“ซุปตาร์ฉิน ไม่เป็นไรนะ?”
ฉินซิ่วเฉินเงยหน้าขึ้นอย่างเงียบๆ ปรายตามองพวกเขา
โดยไม่พูดอะไร
ยังดูสุขุมเยือกเย็น
ผู้จัดการเห็นฉินซิ่วเฉินยังนิ่งก็เลิกคิ้ว
นักแสดงนําที่อยู่อีกด้านหนึ่งมาตามฉินซิ่วเฉินไปซ้อมบท
ฉินซิ่วเฉินตอบเพียง “อืม” แล้วเดินไป
ผู้จัดการมองแผ่นหลังฉินซิ่วเฉินอยู่สักพักก็อดกระตุกมุม
ปากไม่ได้ “ฉันนึกว่าเขาจะนิ่งได้จริงๆ เสียอีก…”
ดูเกร็งไปหมด ซึ่งหาได้ยากในรอบไม่กี่ปี
**
เมืองหลวง
คอนโดถึงหลาน
ฉินหร่านเพิ่งกลับมาได้ไม่นาน
เฉิงเงินหรูกําลังคุยกับฉินหร่าน เฉิงเงินหรูนั่งบนโซฟา เอาขาพาดกัน “พวกเธอจะไปรัฐ M อีกแล้วหรอ? งั้นก็ระวัง ตัวหน่อยแล้วกัน ดูเหมือนจะได้ยินมาว่าพวกหัวหน้าหน่วย หลักบอกว่าช่วงนี้รัฐ M ไม่ค่อยสงบเท่าไหร่”
เฉิงเห็นพวกเธอจึงเดินไปในน้ําในครัว
ให้ฉันหร่านกับเฉิงเงินหรูคนละแก้ว ฉินหร่านรับชาไป หรี่ตาจิบไปหนึ่งคําแล้วผงกหัวเล็กน้อย
เฉิงเจวี้ยนถอดเสื้อนอก ปลายนิ้วยังคงกําลังบีบโทรศัพท์
เมื่อได้ยินดังนั้นเขาก็เหลือบมองเฉิงเป็นหรู กําลังจะพูด
อะไรบางอย่าง โทรศัพท์ในมือก็ส่งเสียง
เขาก้มหน้าดูก็พบว่าเป็นเบอร์จากรัฐ M
เฉิงเจวี้ยนหันหน้าไป เฉิงเงินหรูกับฉินหร่านยังคงกําลัง คุยกันอยู่ เขาเหลือบมองทั้งสองแวบหนึ่งก่อนจะกดรับสาย พร้อมกับเดินขึ้นไปข้างบน พูดเสียงเบาๆ “ท่านประธานถัง”
คนที่โทร.มาคือถังจวิน
เขาพูดเสียงเข้มเล็กน้อย “ช่วงนี้คุณอยู่ไหน?”
เฉิงเจวี้ยนเข้าห้องหนังสือไปแล้วปิดประตูห้อง เงยหน้า
ขึ้น “เมืองหลวง อีกสองวันจะไปรัฐ M มือคุณมีปัญหาอีก แล้ว?”
“ฉลาดจริงๆ ” ปลายสาย ถังจวินยืนจุดบุหรี่อยู่ข้างต้น ไม้ “สองสามปีมานี้ผมไม่ได้ใช้มือ อินทรีดําน่าจะรู้ว่าผมได้รับ บาดเจ็บ เขาต้องการตําแหน่งประธานสมาคม”
ถังจวินมีปัญหาที่มือมาสองสามปีแล้ว ตอนนั้นเฉิงเจวียน
ได้ช่วยผ่าตัดมาแล้วครั้งหนึ่ง
แม้จะดูเหมือนไม่เป็นอะไร แต่ตามความจริงระดับความ ไวก็ไม่เหมือนเมื่อก่อน หากเป็นคนทั่วไป ความไวระดับนี้
ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร แต่…ถังจวินเป็นนักแฮกเกอร์ มือกับ
คอมพิวเตอร์นั้นสําคัญเท่าชีวิต
มือทั้งสองข้างส่งผลต่อฝีมือเขามาก
แต่ถังจวินปิดบังมาตลอด
แม้เขาจะเป็นประธานสมาคมแฮกเกอร์ แต่ภายใน
สมาคมแฮกเกอร์ก็ไม่ค่อยสงบ มีการแบ่งอํานาจเป็นสองฝ่าย
หนึ่งคือนักแฮกเกอร์ที่ยืนอยู่ข้างเขา เคารพกฎระเบียบ
และศีลธรรมของนักแฮกเกอร์
อีกส่วนหนึ่งก็คือนักแฮกเกอร์ที่ไม่ยึดศีลธรรม เช่นเดียวกับอินทรีดําการ์ดเนอร์พวกนั้น
ถังจวินรู้อยู่แก่ใจว่าถ้าหากเรื่องที่มือเขาได้รับบาดเจ็บ
แพร่งพรายออกไป คนพวกนี้จะต้องฉวยโอกาสที่เหมาะสม
ลากเขาลงจากเก้าอี้แน่ พอถึงตอนนั้นวงการแฮกเกอร์จะต้อง
ปั่นป่วนกันไปหมด
ในฐานะที่เป็นผู้นําในวงการแฮกเกอร์ ถังจวินยังคงยืน
หยัดในภารกิจของตัวเอง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาได้ดึงตัวคนมีแววเข้าสู่วงการ
แฮกเกอร์ไม่น้อยเพราะต้องการหานักแฮกเกอร์ที่มีคุณสมบัติ เหมาะสมเพื่อรับช่วงต่อตําแหน่งประธานสมาคมแฮกเกอร์
และให้เขาลงจากตําแหน่งอย่างหมดห่วง
เขาเคยพิจารณาคู่คือสิ่งมาก่อน แต่จุดที่ร้ายแรงของลู่จือสิ่งก็คือเขาเรียนเขียนโปรแกรม
“อินทรีดํา? น่ารําคาญจริงๆ” เฉิงเจวียนนั่งเก้าอี้ริมโต๊ะ หนังสือ ขมวดคิ้ว
เรื่องถังจวินเขาก็เป็นคนช่วยปิด แล้วนี่แพร่งพราย
ออกไปได้อย่างไร…
อินทรีดําเป็นนักแฮกเกอร์ที่ติดหนึ่งในสิบอันดับแรก เงิน
คือชีวิต ตราบใดที่ให้เงินเขา ไม่ว่าอะไรเขาก็ทําได้หมด
เมื่อก่อนเขายังเคยแฮกคอมพิวเตอร์ของลู่จ้าววิ่งตอนที่ อยู่อวิ๋นเฉิงและทิ้งร่องรอยเอาไว้
แมทธิวจับตาดูเขามานานมาก
“เขาท้าทายผมในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อไป ในมือผมมีเด็ก
อยู่สองคน…ไม่ใช่คู่ต่อสู้เขา พอถึงตอนนั้นคุณก็มาหน่อยแล้ว
กัน” ถังจวินเงยหน้าแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ “เดิมที่ผมยังคิด จะปลูกฝังหลานสาวที่หายตัวไป แต่ตอนนี้คงไม่ทันแล้ว”
พอพูดถึงตรงนี้ ถังจวินก็อดทอดถอนใจไม่ได้ มีหลาย อย่างที่ไม่สะดวกคุยในโทรศัพท์ “รอคุณมารัฐ M เราค่อยคุย กันอย่างละเอียดอีกที”
“อืม” เฉิงเจวียนผงกหัวเล็กน้อย
เขาวางสายไปแล้วเปิดคอมพิวเตอร์ที่อยู่บนโต๊ะหนังสือ
เริ่มทําการตรวจประวัติการรักษาของถังจวิน
**
สามวันต่อมา
เช้าตรู่
ทีมตระกูลสวีออกเดินทางไปยังรัฐ N
เฉิงเจวี้ยนมีธุระจึงบินไปรัฐ M ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ฉินห ร่านกับเฉิงไปช้ากว่าหนึ่งก้าว
ตระกูลสวีพบกันที่สนามบินตอนเจ็ดโมงเช้า
ฉินหร่านกับเฉิงมาถึงไม่เร็วไป
ตอนแรกคนตระกูลสวีกําลังคุยเรื่องสถานที่รวมตัวกันอยู่
แต่พอเห็นฉันหร่าน ทุกคนก็หยุดพูดกันหมด ไม่พูดแม้แต่
ประโยคเดียว
เป็นการกันท่าอย่างโจ่งแจ้ง