เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 508 อบรมบมเพาะดวยตัวเอง
“ใครเป็นคนบอกคุณ?” ฉินหร่านเดินถอยหลังไปหนึ่ง ก้าว เงยหน้าขึ้น
คนที่มาคือเฉิงเจวี้ยน
เขาดูไม่ต่างจากเมื่อก่อน สวมเสื้อโค้ตสีดํา ขาเรียวยาว ดวงตาคมกริบ
เดิมทีฉินหร่านนึกว่าช่วงนี้เฉิงเจวี้ยนกําลังสนใจเรื่องของ สมาคมแฮกเกอรแ คงไม่แบ่งสมาธิมาที่เธอ
กลัวก็แต่ว่าสมาคมแฮกเกอรแจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้ง ใหญ่ตามที่เฉิงเจวี้ยนบอก
ดังนั้นเธอจึงให้เฉิงมู่ปิดบังอย่างเงียบๆ
เป็นเรื่องปกติที่เฉิงมู่จะจําเธอได้
แต่ใครจะไปรู้ว่าเฉิงเจวี้ยนจะไม่ปล่อยไปตามน้ํา
ฉินหร่านก้มหน้า ก่อนหน้านี้เธอไม่อยากให้เฉิงเจวี้ยนรู้ เรื่องสนามมวย
แต่คืนนั้นตระกูลสวีต้องมารับผลกระทบมากมายเพราะ เธอ ที่เบิรแตได้รับการกระทบกระเทือนที่ดวงตาเป็นเพราะคน ตระกูลสวีเสียเวลาหลายนาทีเพื่อตามหาเธอบนชั้นสาม
ต่อมาสวีเหยากวงกับคนตระกูลสวีก็เสี่ยงชีวิตกลับมาหา เธออีกครั้ง
ตอนนี้ฉินหร่านไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนอื่น ความรู้สึกของสวีเหยากวงเธอจะต้องทําให้มันชัดเจน
เนื่องจากสถานการณแเร่งด่วน เธอจึงลงสนามแทนเบิรแต และเปิดทางให้อาจารยแใหญ่สวี
อันที่จริงสถานะในสนามมวยก็ไม่ได้มีความหมายอะไร อย่างมากก็ทําให้รุ่ยจินปวดหัวไปครึ่งปี แต่ก็ไม่ถือว่ากวนน้ํา ในรัฐ M ให้ขุ่น
ทว่าตอนนี้กลับปิดบังเฉิงเจวี้ยนไม่ได้
นี่เป็นเรื่องที่ฉินหร่านเสียใจ
ขณะที่เธอกําลังคิดว่าจะอธิบายเรื่องหนึ่งปีที่ผ่านมาให้ เฉิงเจวี้ยนฟังอย่างไร
เฉิงเจวี้ยนกลับไม่ถามเธอ เขายืนอยู่ริมหน้าต่าง มองเธอ อยู่สักพักก็ยื่นมือมากอด ก้มหน้าลงแล้วลูบคอเธอเบาๆ “เธอ เคลื่อนไหวซะใหญ่โต ฉันจะไม่รู้ได้ยังไง”
ฉินหร่านลังเลเล็กน้อย เฉิงเจวี้ยนมาเร็วเกินไป เธอยังไม่ ทันได้คิดถึงเรื่องพวกนี้ แค่พูดว่า “ฉัน…”
ระหว่างที่เธอกําลังจะบอกเรื่องสนามมวย ก็มีคนมาเคาะ ประตูด้านนอก
เฉิงเจวี้ยนปล่อยมือ เดินมาที่ริมประตูเงียบๆ
ด้านนอกประตูคือเฉิงมู่กับสวีเหยากวง เฉิงมู่ถือถาดไว้ใน มือ สวีเหยากวงตามหลังเฉิงมู่หนึ่งก้าว
เฉิงเจวี้ยนเปิดประตูครึ่งเดียว เอาตัวบังรอยแง้มประตูไว้ เพื่อไม่ให้เห็นสถานการณแภายในห้อง เขาไม่มองสวีเหยากวง แค่ยื่นมือไปทางเฉิงมู่แล้วหรี่เสียงลง “ให้ฉัน”
เฉิงมู่รีบยื่นถาดในมือให้เฉิงเจวี้ยน
เฉิงเจวี้ยนปิดประตูห้อง
เฉิงมู่โทรศัพทแไปถามพ่อครัวประจําถิงหลานมาแล้ว จากนั้นก็เตรียมข้าว ซุป และโจ฿กสําหรับผู้ปุวยให้ฉินหร่าน
เฉิงเจวี้ยนมองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าในโจ฿กเพิ่มส่วนผสม แบบไหน
เขาเม้มปากวางโจ฿กลงบนโต฿ะ ตักเสร็จก็หันมามองเธอ ด้วยสายตาอ่อนโยน วางมือไว้บนหัวเธอพร้อมกับพูดเบาๆ “กินก่อน”
ตั้งแต่เข้ามาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ถาม
ฉินหร่านถือช้อนด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างถือถ้วย หลังจากกินไปหนึ่งคําก็เงยหน้ามองเขา พูดไปตามความจริง “ฉันเคยต่อยมวยเถื่อนมาหนึ่งปี ตอนนั้นฉันสะเทือนใจที่รู้ว่า ยายฉันปุวย ก็เลยหาเรื่องชกต่อยกับคน…”
ส่วนมากเฉิงเจวี้ยนได้รับคําตอบมาจากกู้ซีฉือและถามหา วิดีโอบางส่วนมาจากรุ่ยจิน
เมื่อได้ยินฉินหร่านพูดด้วยท่าทางสบายๆ หัวใจก็เหมือน ถูกเข็มแทง
เขาพยักหน้าแล้วยิ้ม “ฉันรู้ ค่งไปใช่ไหม เก่งมาก”
เฉิงเจวี้ยนหยิบกระเปาเปูฉินหร่าน เอากล่องยาออกมา เทยาออกมาสองเม็ดให้เธอกิน
**
ตอนที่เฉิงเจวี้ยนคุยกับถังจวิน ฉินหร่านก็กําลังหนุนอยู่ บนแขนของเขา
เฉิงเจวี้ยนพิงหัวเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นแล้วลดเสียงลง “ท่าน ถัง”
ทางด้านถังจวินไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว เขากดหัวคิ้ว “พรุ่งนี้คุณไม่มาเหรอ?”
“อืม มีธุระนิดหน่อย” เสียงเฉิงเจวี้ยนค่อนข้างสงบ
ทางด้านถังจวินได้แต่ผงกหัว เขามองท้องฟูาที่มืดมิดไร้ ดวงดาว “ก็ได้ พรุ่งนี้คงไม่มีโอกาสชนะแล้ว ถือโอกาสตอนที่ ผมยังมีชีวิตอยู่ปลูกฝังคนรุ่นหลังให้ดีๆ”
ทั้งสองต่างก็มีเรื่องในใจ คุยกันไม่กี่คําก็วางสายไป
เฉิงเจวี้ยนเอื้อมมือไปปิดไฟบนหัวเตียง
จากนั้นก็ก้มหน้าเล็กน้อย เปิดวีแชท
แถบบนคือฉินหร่าน
กดเปิดหน้าข้อความ
เป็นบทสนทนาสุดท้ายที่พวกเขาทิ้งเอาไว้——
(แม้แต่เรื่องนี้ก็ไม่สน? เธอยังสนใจอะไรได้อีก?)
——(คุณ)
คําพูดตรงไปตรงมาและทําให้คนไม่อาจต้านทานแบบนี้ ถึงขนาดทําให้เฉิงเจวี้ยนเกือบจะเสียอาการต่อหน้าถังจวิน
ทําไมเฉิงเจวี้ยนถึงได้มาที่นี่เร็วขนาดนี้?
อาจเป็นเพราะหลังจากที่เขาเห็นข้อความนี้ เขาอยาก ออกไปทันที แต่เนื่องด้วยมิตรภาพระหว่างเขากับถังจวิน เขา
จึงอยู่ต่ออีกหนึ่งวันเพื่อจัดการอาการบาดเจ็บของถังจวินก่อน จะมาที่นี่
เฉิงเจวี้ยนบีบโทรศัพทแแน่น
หลังจากนั้นไม่นานก็ถือโทรศัพทแเปิดรูปโปรไฟลแ เฉิงสุ่ย——
(ติดต่อหมาปุาเดียวดาย129ให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน ฉัน ต้องการรู้ทุกอย่างที่ซ่อนอยู่ในเหตุการณแ 712 ที่หนิงไห่)
หลังจากส่งข้อความเสร็จ เขาก็เปิดสมุดโทรศัพทแ ลังเล ระหว่างเบอรแพานหมิงเย่วแกับเฟิงโหลวเฉิง
เขาไม่ได้รีบร้อนต่อสายออกไป เพียงแค่ก้มหน้ามองฉินห ร่าน ขณะกําลังจะดึงแขนที่เธอหนุนออกมา ฉินหร่านก็ขมวด คิ้ว
เฉิงเจวี้ยนปิดโทรศัพทแ วางโทรศัพทแไว้บนตู้ตรงหัวเตียง เบาๆ ใช้มือข้างหนึ่งรวบตัวเธอเบาๆ ถอนหายใจเบาๆ และ พูดด้วยน้ําเสียงอ่อนโยน “หลับเถอะ”
“ไม่น่าปล่อยให้เธอมาเลยจริงๆ”
ในฝัน ฉินหร่านขยับเข้าใกล้ลมหายใจที่เด่นชัดโดยไม่ รู้ตัว
**
ในเวลาเดียวกัน
สถานที่ถ่ายภาพยนตรแ รัฐ M
หลังจากที่ฉินซิวเฉินถ่ายฉากกลางคืนเสร็จ เขาก็นั่งอยู่ใน โรงแรมที่อยู่ใกล้กองถ่าย คนที่นั่งตรงข้ามคือคนสนิทของถังจ วินหรือท่านหลี่
“คุณฉิน ผมก็ไม่อยากมายุ่มย่ามกับคุณ แต่ที่มาครั้งนี้ก็ เพราะคุณชายน้อยฉินหลิง” ท่านหลี่กล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ผมเองก็คิดว่าพวกคุณคงไม่อยากให้พรสวรรคแของคุณชาย น้อยฉินหลิงสูญเปล่า พูดตามตรง พวกคุณตระกูลฉิน นอกจากนายท่านฉินท่านนั้นแล้ว คนอื่นๆ ก็ธรรมดามาก ถ้า มอบคุณชายน้อยฉินหลิงให้พวกคุณดูแล เกรงว่าพรสวรรคแ ของเขาคงไร้ความหมาย นายท่านพวกเราต้องการอบรมบ่ม เพาะเขาด้วยตัวเอง”
ฉินซิวเฉินเงยหน้าขึ้น เขาไม่ได้ปฏิเสธหรือตอบตกลง แทนฉินหลิง กล่าวอย่างมีมารยาทว่า “เรื่องนี้ผมต้องถาม ความเห็นเสี่ยวหลิง”
“ผมตกลงที่จะถามความเห็นคุณชายน้อยฉินหลิง” ท่านหลี่พยักหน้า เขามีสีหน้าจริงจังและพูดอย่างจริงใจ “คุณ ฉิน หวังว่าคุณจะพิจารณาอย่างจริงจัง เรื่องนี้ล้วนเป็นเรื่องดี สําหรับคุณชายน้อยฉินหลิงและตระกูลฉิน ถ้าพิจารณาดีแล้ว รบกวนโทร.มาหาผมด้วยนะครับ”
ท่านหลี่รู้ดีว่าฉินซิวเฉินเป็นคนดูแลตระกูลฉิน แม้พวก เขาจะฟังฉินหร่านมากกว่า แต่…ท่านหลี่ติดต่อฉินหร่านไม่ได้
อีกอย่างเขาเองก็รู้ว่าฉินหร่านไม่ค่อยสนใจเรื่องตระกูลฉิน มากนัก
หลังจากคุยกับฉินซิวเฉินเสร็จ ท่านหลี่ก็กลับตระกูลถัง ซึ่งก็ดึกมากแล้ว
วันนี้ถังจวินไม่ได้อยู่ที่สมาคมแฮกเกอรแ
ไฟชั้นหนึ่งยังคงสว่างไสว
“นายท่าน คุณชายใหญ่?” ท่านหลี่มองไปที่กลุ่มคน ตระกูลถังด้วยความแปลกใจ
“ท่านหลี่” คุณชายใหญ่ตระกูลถังมองท่านหลี่ด้วยความ ตื่นเต้น “คุณมาดูนี่สิ นี่เป็นความเคลื่อนไหวที่หัวหน้าวิศวกร ของอวิ๋นกวงกรุ฿ปส่งมา น้องรองไม่เคยพูดถึงอวิ๋นกวงกรุ฿ปมา ก่อน นี่คือโปรเจคที่เปิดวันนี้ พวกเรากําลังศึกษากันอยู่เลย”
ท่านหลี่เดินไปข้างหน้าด้วยความสงสัย มองไปที่ คอมพิวเตอรแ
คนตระกูลถังส่วนใหญ่เป็นพวกคลั่งไคล้คอมพิวเตอรแ
“นี่คืออาจารยแ poppy ที่โด่งดังในวงการนี้ เขากล้ามาก ที่เผยความลับมากมายออกไป อวิ๋นกวงกรุ฿ปก็ไม่ห้ามเสียด้วย แต่ก็จริง คนประหลาดแบบนี้อวิ๋นกวงกรุ฿ปจะไปก้าวก่ายได้ ยังไง ถ้าเขาหนีไปจะทํายังไงล่ะ” คุณชายใหญ่ถังหันมาพูด กับท่านหลี่ “ฉันอยากรู้เกี่ยวกับอาจารยแท่านนี้มาก ไม่รู้ว่า เป็นคนยังไงกันแน่”