เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 512 ความจริงอันน่าเศร้า
ได่้ยินประโยคนี้
ใจของเฉิงเจวี้ยนสะท่้านอย่างแรง มือที่จับบุหรี่อยู่กํา แน่น มองจ่้องเฟิงโหลวเฉิงอยู่พักหนึ่ง
“คุณน่าจะเป็นแนวหลักสถาบันวิจัยในเมืองหนิงไห่ ศาสตราจารยแเฉินคือคนสุดท่้ายที่หนิงเอ่อรแเหลือไว่้ให่้ศึกษา อารยธรรมเศษซากอุกกาบาต ในตอนนั้นฉันสืบหาเจ่้าพ่อค่้า ยารายใหญ่อยู่ในทีมผู่้บัญชาการเฉียนด่้วยกันกับพ่อของ
พานหมิงเย่วแ จึงพบความจริงของเมืองหนิงไห่” เฟิงโหลวเฉิง พูดพลางนึกย่้อนถึงสถานการณแในตอนต่้น สายตาครุมเครือ
เขารู่้จักกับพ่อของพานหมิงเย่วแ
ในตอนแรกที่ไปตรวจสอบที่เมืองหนิงไห่ก็พบว่าฉินหร่าน นั้นเป็นคนแปลกมาก
ต่อมายังตรวจพบเรื่องราวบางอย่างของเฉินซูหลาน เรื่อยๆ
ตอนนั้นพานหมิงเซวียนและพานหมิงเย่วแถูกพ่อค่้ายา รายใหญ่จับตัว พวกเฟิงโหลวเฉิงเข่้าจับกุม แต่พ่อค่้ายาราย ใหญ่มีแฮกเกอรแคนหนึ่งขัดขวางการระบุวิสัยทัศนแของผู่้ บัญชาการเฉียน
ในตอนที่ไม่มีความคืบหน่้าแม่้แต่น่้อย ฉินหร่านได่้นํา คอมพิวเตอรแของพนักงานเทคนิคลูกน่้องของผู่้บัญชาการ เฉียน บุกทลายแนวปูองกันของฝุายตรงข่้าม
เพียงแต่…
ท่้ายที่สุดพานหมิงเซวียนเสียชีวิตอย่างน่าสลดต่อหน่้า พานหมิงเย่วแ
“การตัดสินใจของฉันผิดพลาด ตอนที่รีบกลับไปอีกครั้ง เหลือเพียงแค่หร่านหร่านและพานหมิงเย่วแ” ในตอนนี้เฟิง โหลวเฉิงนึกถึงสิ่งเหล่านี้ มือสั่นอย่างอดไม่ได่้ ใบหน่้าเกลียด ชังตัวเอง ทั้งยังค่อนข่้างเหน็บแนม “พ่อค่้ายารายใหญ่คนนั้น เหมือนจะซาบซึ้งในหร่านหร่าน บอกว่าจะให่้โอกาสหร่านห ร่าน ให่้เธอทําการตัดสินใจเลือก นั่นคือเครื่องปฏิกรณแ นิวเคลียรแที่เธอทําขึ้นเอง เนื้อหาที่ต่้องตัดสินใจเลือกคืออะไร คุณน่าจะรู่้แล่้ว”
ฝั่งหนึ่งคือพานหมิงเย่วแ อีกฝั่งคือพ่อของพานหมิงเย่วแ
ถ่้าไม่เลือกด่้านหนึ่ง ก็ต่้องตายทั้งหมด
ด่้านหนึ่งคือคุณแม่แซ่พานที่ปฏิบัติต่อเธอเหมือนเป็นลูก สาวแท่้ๆ และคุณพ่อแซ่พานวีรบุรุษผู่้ยิ่งใหญ่ อีกด่้านคือ พานหมิงเย่วแที่เป็นเหมือนพี่สาวน่้องสาวมาตั้งแต่ยังเล็ก
ตอนนั้นเครื่องปฏิกรณแนิวเคลียรแของหร่านหร่านยังไม่ เสร็จสมบูรณแ ดินระเบิดจึงฝังพ่อแม่ของพานหมิงเย่วแทั้งเป็น
“ตอนที่ฉันเร่งพาคนไปถึง ฉากตรงหน่้าช่างน่าสลด ถ่้า ฉันเร็วขึ้นอีกนิด… รีบไปเร็วขึ้นอีกนิด…” เฟิงโหลวเฉิงสูด หายใจเข่้าลึก “จากนั้นมา ห่้องปฏิบัติการก็เกิดเหตุการณแ ระเบิดครั้งใหญ่ มีการรั่วไหลออกไปของนิวเคลียรแ ตอนนั้น
ศาสตราจารยแเฉินไม่ได่้ทํา ทุกอย่างนี้มีส่วนร่วมจากกองกําลัง อื่นรึเปล่าฉันไม่มั่นใจ”
“งานศพของพานหมิงเซวียน รวมทั้งคุณพ่อและคุณแม่ ล่้วนจัดการโดยหร่านหร่านเพียงคนเดียว หลังจากนั้นหนึ่งวัน จิตใจของหมิงเย่วแมีปัญหา ตอนที่เธอได่้สติ จึงย่้ายตัวเองไปที่ โรงพยาบาลจิตเวชเพียงแห่งเดียวของที่นั่น ตั้งแต่นั้นมาห ร่านหร่านมักจะโดดเรียนไปเยี่ยมเธอ” พูดถึงตรงนี้ เฟิงโหลว เฉิงเม่้มปาก “หนึ่งปีต่อมา หมิงเย่วแฟื้นตัวขึ้นมามาก หร่านห ร่านพาเธอออกมาจากโรงพยาบาลจิตเวช จากนั้นจึงฝากเธอ ไว่้กับฉัน ส่วนตัวเองหายสาบสูญไป ต่างไม่มีใครรู่้ว่าเธอไป ไหนแล่้ว”
ลมที่ทางแยกค่อนข่้างเย็น
เฉิงเจวี้ยนยืนอยู่กับที่ ไม่พูดอะไรไปสักพัก
ใบหน่้านั้นมองไม่ออกถึงความเกียจคร่้านเหมือนวัน ทั่วไป ไม่มีท่าทีเลยสักนิด ดวงตาสีเข่้มลึกล้ําและเยือกเย็น
เส่้นผมบางเบาถูกลมพัดปลิว เขาก่้มหน่้า ปลายนิ้วที่สั่น เทาเล็กน่้อยหยิบบุหรี่ขึ้นมา
เฟิงโหลวเฉิงไม่ได่้พูดอย่างละเอียด ทั้งยังค่อนข่้าง ครุมเครือ
แต่เฉิงเจวี้ยนก็ยังจินตนาการฉากนั้นออก
วิดีโอบันทึกการเจริญเติบโตของฉินหร่าน เธอมี ความสัมพันธแกับคุณแม่พานและตระกูลพานมากที่สุด คน อย่างเธอ ถ่้าไม่ได่้มองว่าพานหมิงเย่วแเป็นพี่สาวแท่้ๆ และ ไม่ได่้มองว่าคุณแม่พานเป็นแม่แท่้ๆ คงไม่อดทนกับความใจ ร่้อนไปบันทึกวิดีโอวันเกิด ไม่ให่้ความร่วมมือกับตระกูลพาน หรอก…
เฟิงโหลวเฉิงกลับไม่รู่้ว่าเฉิงเจวี้ยนรู่้เรื่องเบื้องหลัง…
พานหมิงเย่วแทําใจไม่ได่้ตอนที่พ่อแม่และพี่ชายของเธอ เสียชีวิต แล่้วฉินหร่านคนที่ลงมือด่้วยตนเองจะทําใจได่้ อย่างไร
แต่เธอกับเฉินซูหลานช่วยกันจัดการเรื่องทุกอย่าง และ ยังรอผู่้ปุวยทางจิตอย่างพานหมิงเย่วแหนึ่งปี เมื่อมั่นใจว่าเธอ ไม่มีปัญหาแล่้วมอบเธอให่้เฟิงโหลวเฉิงและลบร่องรอย ทั้งหมดของพานหมิงเย่วแออก จึงค่อยไปที่รัฐ M โดยลําพัง
ที่กู่้ซีฉือบอกว่าถูกใครทําให่้ได่้รับบาดเจ็บ…
น่าจะเป็นเพราะตอนนั้นเธอไม่มีสติในการเอาตัวรอด ล่ะมั้ง…
ต่อมาจึงชกมวยสายมืดอีกหนึ่งปี เฉิงเจวี้ยนจินตนาการ ได่้ว่าในตอนแรกเธอไม่ได่้อยากเป็นคนว่างเปล่า จากสังเวียน มวยระดับที่แปดข่้ามไปยังสังเวียนระดับที่สิบเอ็ดโดยตรง และไม่ใช่เพื่อการไต่ระดับ แต่น่าจะเพียงเพื่ออยากตายอยู่ใน สังเวียน…
ถ่้าไม่ใช่ว่ากู่้ซีฉือได่้รับข่าวการปุวยของเฉินซูหลานใน ภายหลัง ฉินหร่านน่าจะยังใช่้ชีวิตอยู่ในความยากลําบาก
ดังนั้นเฉินซูหลานจึงกังวลกับเธอมากในตอนนั้น
กลัวว่าเมื่อเธอตายไป ฉินหร่านอาจจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ ต่อจริงๆ
ตอนนั้นเธออายุเท่าไหร่กันนะ
ยังไม่ครบรอบสิบหกปีล่ะมั้ง
ตอนที่เลือกคนของครอบครัวพาน เธอกําลังคิดอะไรอยู่ ในใจ
เพียงหลับตาเฉิงเจวี้ยนก็สามารถนึกได่้ว่าทําไมเธอจึงกด ปุุมคุณพ่อพานคุณแม่พาน
ไม่แปลกใจเลยที่ตกลงไปงานแข่งขันกับเขา แล่้วจู่ๆ ก็ หายตัวไป
เฟิงโหลเฉิงพูดจบจึงสูดหายใจเข่้าลึก “เรื่องนี้นายท่านส วีก็รู่้ หลังจากนั้นเธอไม่ใช่้มือขวา ไม่แม่้แต่จะแตะงานฟิสิกสแ อันที่จริง ผลการเรียนตอนเด็กของเธอดีมาก เพียงแค่ไม่ชอบ เข่้าเรียน ตกลงจะสอบเข่้ามหาวิทยาลัยเมืองหลวงกับพานห มิงเย่วแและซ่งลี่วแถิงไว่้เมื่อนานมากแล่้ว”
“โชคดีที่ตั้งแต่ต่้นจนจบเธอไม่มีความขุ่นเคืองต่อหร่านห ร่านเลย” นึกถึงพานหมิงเย่วแ เฟิงโหลวเฉิงยิ่งถอนหายใจ “เธออยู่โรงพยาบาลจิตเวช…มาเพียงพอแล่้ว”
พานหมิงเย่วแที่ในตอนแรกโดดเรียนไปไหนไปกันอย่างไร่้ ความกังวลได่้ทุกที่กับฉินหร่านโดยมีพี่ชายหลายคนคุ่้มครอง ปัจจุบันกลายเป็นนักเรียนชั้นนําด่้านกฎหมายของ มหาวิทยาลัยเมืองหลวงแล่้ว
เฟิงโหลวเฉิงนึกแล่้วกลับไม่รู่้สึกภาคภูมิใจ
มีแค่ความปวดใจ
พานหมิงเย่วแไม่ได่้อยากสอบเข่้ามหาวิทยาลัยเมืองหลวง ผลการเรียนยังไม่ดีเท่าฉินหร่านด่้วย
เธอไม่ได่้มีไอคิวสูงอย่างฉินหร่าน ต่อมาที่เธอสอบได่้ดี ขนาดนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะการสอนทางไกลของซ่งลี่วแถิง จาก ที่หนึ่งนับจากลําดับท่้ายของมัธยมปลาย กลายเป็นที่สองนับ จากลําดับแรก
เฟิงโหลวเฉิงยิ้ม เขาสูบบุหรี่อีกครั้งแล่้วมองเฉิงเจวี้ยน เล็กน่้อย “ตอนนี้ฉันบอกคุณได่้ว่า เพราะเห็นหร่านหร่าน แบบตอนนี้ได่้น่้อยมาก สายตามองผู่้คนของปูาเฉินแม่นยํา มาก”
“ขอบคุณ” เฉิงเจวี้ยนหลับตา ไม่ให่้เฟิงโหลวเฉิงเห็น ท่าทีบนใบหน่้าของตนเอง
เขาเอื้อมมือตบบ่าของเฉิงเจวี้ยน มองไปไม่ไกล “หร่านห ร่านมาแล่้ว”