เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 515 คูควรตรงไหนกัน
ฉินหร่านก่้มหน่้ามอง เป็นหมายเลขโทรศัพทแในท่้องถิ่น ของเมืองหลวง
เธอไม่รู่้จัก
เกรงว่าจะเป็นคนของห่้องปฏิบัติการ ฉินหร่านจึงรับสาย
โทรศัพทแอีกฝั่งเป็นเสียงผู่้หญิง สง่างามและเยือกเย็น “คุณฉิน สวัสดี ฉันคือโอวหยางเวย”
ชื่อนี้ ดังก่้องอยู่ในหูของฉินหร่าน ได่้ยินชื่อครั้งแรกที่ เฉิงมู่และในผู่้กองห่าว
และเคยได่้ยินที่ 129 หลายครั้งในเวลาต่อมา
พบชื่อนี้แม่้กระทั่งฝั่งของท่านสวีและพ่อบ่้านตระกูลฉิน
ฉินหร่านก็เคยลงมือตรวจสอบข่้อมูลของโอวหยางเวย ค่อนข่้างธรรมดา สมบูรณแไร่้ที่ติ ไม่เห็นความบกพร่องใดเลย
ไม่มีใครเข่้าใจไปกว่าฉินหร่าน ยิ่งข่้อมูลสมบูรณแไร่้ที่ติ ยิ่ง ไม่ธรรมดา
เธอเคยพบที่มาที่ไปของการล่มสลายของตระกูลฉินใน เมืองหลวงที่ 129
เดิมทีตระกูลฉินที่เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมือง หลวงถูกแทนที่ด่้วยตระกูลหน่้าใหม่อย่างตระกูลโอวหยาง ดู แล่้วน่าสมเหตุสมผลมาก แต่…
ฉินหร่านพิงพนักเก่้าอี้อย่างสบายใจสุดๆ เธอเลิกคิ้ว อย่างตรงไปตรงมา “มีธุระเหรอ”
“ไม่ใช่ แค่อยากจะนัดพบคุณฉิน” เสียงในโทรศัพทแของ โอวหยางเวยยังคงสง่างาม “ทางฉันมีธุระนิดหน่อย คุณ จะต่้องสนใจแน่”
ฉินหร่านหลับตา ไม่พูดอะไร
จากท่าทีของเฉิงมู่และเฉิงเวินหรู ฉินหร่านก็พอรู่้ว่าโอวห ยางเวยน่าจะชอบเฉิงเจวี้ยน
อีคิวของฉินหร่านไม่สูงนัก แต่เรื่องที่ชัดเจนขนาดนี้เธอ เองก็เดาได่้
แต่ที่เธอยังสงสัยอยู่คือ ข่าวลือที่เมืองหลวงของเฉิง เจวี้ยนไม่ดี ความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ที่มีต่อเขาคือไม่ สนใจในตระกูลเฉิงเลย โอวหยางเวยที่มีความนิยมสูงในเมือง หลวงจนน่าประหลาด ทั้งสองคนช่างต่างกันเสียจริง
สถานการณแแบบนี้ ปฏิกิริยาท่าทีนี้ของโอวหยางเวย…
ก็ค่อนข่้างน่าแปลกเช่นกัน
“เรื่องที่ฉันสนใจ ฉันหาเองได่้” ฉินหร่านไขว่ห่้าง ไม่ค่อย สนใจนัก
โอวหยางเวยอีกฝั่งไม่ได่้คาดคิดถึงคําตอบเช่นนี้ แต่ น้ําเสียงของเธอยังคงสง่างาม “ถ่้าฉันบอกว่าเป็นเหตุการณแ ระเบิดของห่้องปฏิบัติการเมืองหนิงไห่ล่ะ คุณฉิน ถ่้าคุณ สนใจ พรุ่งนี้ที่ร่้านกาแฟกลางเมือง ฉันจะรอคุณ”
พูดจบ โอวหยางเวยวางสายไป
ฉินหร่านที่อยู่ห่้องหนังสือ นั่งอยู่ข่้างโต฿ะหนังสือจึงหรี่ตา เล็กน่้อย
“กําลังคิดอะไรอยู่” เฉิงเจวี้ยนเข่้ามาจากด่้านนอก
“เปล่า” ฉินหร่านเงยหน่้ามองเขา ในใจครุ่นคิดเล็กน่้อย คําพูดของโอวหยางเวยไม่น่าเชื่อได่้ทั้งหมด แต่เธอรู่้ว่า เหตุการณแระเบิดที่ห่้องปฏิบัติการ น่าจะพอรู่้เบาะแส บางอย่างได่้
ไม่ว่าอย่างไร เธอสนใจโอวหยางเวยขึ้นมาหน่อย
“พรุ่งนี้ฉันจะไปที่สํานักงานใหญ่ของเฉิงจิน” เฉิงเจวี้ยน ไม่ได่้กลับไปนั่ง เพียงพิงที่เก่้าอี้ข่้างฉินหร่านอย่างเกียจคร่้าน “คุณไม่มีธุระก็ไปกับฉันนะ”
ฉินหร่านส่งเสียง “อา” รับรู่้สิ่งที่เขาบอกจึงนิ่งไปสักพัก “ได่้”
ร่้านกาแฟที่โอวหยางเวยบอกไม่ไกลจากสํานักงานใหญ่ ของเฉิงจิน
พอดีเลย
ฉินหร่านพูดจบ วีแชทมีข่้อความมาจากลู่จ่้าวอิ่ง…
[พรุ่งนี้น่้องสาวจะอยู่ที่นี่กับฉัน]
นิ้วของฉินหร่านนิ่งไป เธอตอบกลับซ่งลี่วแถิงประโยคหนึ่ง จึงค่อยถามเหตุผลของลู่จ่้าวอิ่ง
**
ตระกูลลู่
พานหมิงเย่วแอยู่ที่ห่้องนอนรับรองแขกของตระกูลลู่ เธอ นั่งอยู่ที่เตียง
แว่นตาที่สันจมูกถูกนําออก สายตาค่อนข่้างสับสน ใบหน่้าซีด ไม่มีเลือดฝาดสักนิด ใบหน่้าที่ถอดแว่นออกสวย สะอาด คอเรียวบางเปราะบางอย่างเด่นชัด
ลู่จ่้าวอิ่งตอบกลับฉินหร่านประโยคหนึ่งที่ด่้านนอก จึง ค่อยเคาะประตูเข่้าไป
เขาที่มักไม่สนใจรอบข่้าง เห็นคนที่อยู่บนเตียง จึงหยุด ยืนนิ่ง จากนั้นจึงนําถาดวางไว่้ที่โต฿ะข่้างเตียง แล่้วพูดขึ้นหน่้า เฉย “ทะเลาะกับคนนามสกุลเฟิงคนนั้นมาเหรอ เธอมีเรื่อง อะไรก็บอกเขาให่้ชัดเจนสิ บอกให่้ชัดเจนก็จบแล่้ว อย่าเก็บ ไว่้คนเดียว แง่มุมอื่นของตัวเฟิงฉือฉันไม่แน่ใจ แต่บุคลิกของ เขาดีมาก”
พูดจบ เขายกมือขึ้นกะจะไปตบไหล่ของพานหมิงเย่วแ หันไปได่้ครึ่งหนึ่งก็ชักมือกลับไปแตะที่ต่างหูของตัวเอง
“กินข่้าวกัน” พูดจบ เขาเหลือบมองพานหมิงเย่วแ
พานหมิงเย่วแเม่้มปาก เขามองลู่จ่้าวอิ่ง “ขอบคุณ”
หลังจากลู่จ่้าวอิ่งมองเธอสักพักจึงยิ้ม “ไม่เป็นไร”
แล่้วหันตัวออกห่้องไป
เพิ่งออกมา ก็เห็นใบหน่้าของคุณแม่ลู่
ลู่จ่้าวอิ่งตกใจ “ให่้ตายเถอะ แม่ทําไมมาไม่ให่้สุ่้มให่้ เสียง”
“จะได่้เห็นความขี้ขลาดของลูกไง” คุณแม่ลู่กอดอก มองดูลู่จ่้าวอิ่งอย่างดูถูก “ท่าทางแบบนี้ของลูก จะเป็น หายนะต่อพวกสาวๆ!”
ลู่จ่้าวอิ่ง “…”
**
ในห่้อง มือของพานหมิงเย่วแถือโทรศัพทแ ในสมองนึกไป ถึงคําพูดของลู่จ่้าวอิ่ง
เจอหมายเลขโทรศัพทแของเฟิงฉือ จึงโทรศัพทแหาเขา
โทรศัพทแดังขึ้นก่อนจะรับสาย
เฟิงฉือที่อยู่อีกฝั่งรออย่างกังวล เมื่อรับสาย จึงยอมรับ ผิดแล่้วอธิบาย “หมิงเย่วแ ฉันไม่ได่้มีความสัมพันธแกับเธอจริงๆ เป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมปลายที่รู่้จักผิวเผิน…”
เฟิงฉือและหลินจิ่นเซวียนในตอนนั้นต่างก็เรื่องอื้อฉาว เฟิงฉือไม่ได่้ปฏิเสธข่าวลือ ถึงได่้ลือเป็นคู่ที่วุ่นวายได่้ถึงขนาด นี้
พานหมิงเย่วแได่้ยินมานาน แล่้วขยับนิ้ว “ฉันแจ่้ง ความ…”
“เรื่องนี้ผ่านไปแล่้ว พวกเราไม่พูดถึงแล่้วดีไหม ฉันผิด เอง” เฟิงฉือเกาหัวตัวเอง “แล่้วตอนนี้เธออยู่ไหน”
ได่้ยินคําพูดของเฟิงฉือ พานหมิงเย่วแอดไม่ได่้ที่จะหลับตา
ที่เธอต่้องการไม่ใช่ให่้เฟิงฉือขอโทษแบบขอไปที
จึงพูดแค่คําต่อคํา “แต่เฟิงฉือ พวกเขาทําไม่ถูก”
พูดจบ พานหมิงเย่วแจึงวางสาย ก่้มหน่้าจรดหัวเข่า
โทรศัพทแดังขึ้นอีกครั้ง
พานหมิงเย่วแก่้มหน่้ามอง คุณนายเฟิง
เธอรับสายอย่างเฉยชา
“พานหมิงเย่วแ ถ่้าตอนนี้เธอชัดเจนว่าจะแยกทางกับลูก ชายฉันแล่้ว กรุณาอย่ากลับมารบกวนลูกชายฉันอีก” คุณ นายเฟิงฝั่งนั้นน้ําเสียงค่อนข่้างถือตัว ทั้งยังมีความเหน็บแนม “เธอน่าจะรู่้ว่าตัวเองเป็นยังไง มีตรงไหนคู่ควรกับเฟิงฉือกัน ล่ะ