เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 537 ไพไมตายของเธอ
แววตาของลู่จือสิงแฝงไปด้วยความเศร้าเล็กน้อย
พร้อมมองไปยังฉินหร่านอย่างไม่ค่อยเห็นด้วย
เขาพะวงเรื่องที่เธอละทิ้งวิศวกรรมซอฟตแแวรแและหันมา สนใจฟิสิกสแมาโดยตลอด
ฉินหร่านเหยียดมือออกและขมวดคิ้ว ทําไมลู่จือสิงถึงได้ มีปัญหากับเธออยู่ตลอด เป็น bug หรือไงกัน
“ฉันไม่ได้ทิ้งงานนะ ฉันยังต้องกลับไปแก้โค้ดที่เครื่อง เสมือนสี่มิติอีก” ฉินหร่านกลับตัวหมุนด้วยอารมณแกลุ้มใจ เล็กน้อย พร้อมมองไปยังลู่จือสิง
ทุกครั้งเวลาเธอทํางานส่วนของตัวเองเสร็จ ก็จะส่งต่อให้ ลู่จือสิงอยู่ตลอด
เขาเหลือบมองไปยังฉินหร่าน และรู้ดีว่าในใจเธอต้องคิด อะไรอยู่เป็นแน่
จะเอาจริงเอาจังด้านฟิสิกสแเหรอ
เป็นไปไม่ได้
“ก็ได้” ฉินหร่านเงยหัวขึ้น “ครั้งนี้พวกนายมีแผนยังไง ล่ะ”
เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พร้อมดึงเฉิงเจวี้ยนเข้ามา ใช้เท้า ปิดประตู พลันนั่งลงบนโซฟา และมองไปยังพ่อบ้านฉิน พ่อบ้านฉิน “ถือคอมมานี่หน่อย”
พ่อบ้านฉินพ่อบ้านฉินตอบสนองค่อนข้างช้า เขาไม่ เข้าใจสถานการณแในตอนนี้ แต่ก็ถือคอมพิวเตอรแเข้าไปหา
“ระบบใช้ไม่ได้ เดี๋ยวลองใช้ระบบ EA9 ที่เคยพูดคราว ก่อนดู” ลู่จือสิงนั่งตรงข้ามกับเธอ เขายกชาที่อยู่ตรงหน้าของ พ่อบ้านฉินพ่อบ้านฉินขึ้นดื่ม พร้อมเอ่ยพูด “เมื่อวานเย็นผม ลองดูแล้ว ยังมีข้อผิดพลาดนิดหน่อย”
เขาพูดพลางยืนแฟลชไดรฟให้กับฉินหร่าน
ด้านหนึ่งก็ชําเลืองมองเธอ “ดูคุณก็ไม่ได้ยุ่ง มีคนคนหนึ่ง รอคุณอยู่ที่ชั้น 28 ทุกวันมาสองเดือนแล้ว”
ฉินหร่านก้มหัวลง “ฉันไม่ได้ถอนตัวออกจากเบื้องหลังไป แล้วเหรอ”
“แล้วตอนนี้คุณไม่ได้กลับมาแล้วเหรอ” ลู่จือสิงย้อนถาม
ฉินหร่าน “…”
ได้ เยี่ยมมาก
ในห้องทํางาน นอกจากเฉิงเจวี้ยนแล้ว คนอื่นๆ ก็ฟังด้วย สีหน้าที่งุนงง เหมือนจะเข้าใจทุกคําที่พูด แต่พอพูดรวมกัน แล้ว กลับไม่ค่อยเข้าใจความหมายเท่าไหร่
ฉินหร่านเสียบแฟลชไดรแฟเข้ากับคอมพิวเตอรแ เปิดรหัส ต้นทางเพื่อตรวจสอบดู พร้อมหรี่ตาเล็กน้อย “มีช่องโหว่อยู่ บ้าง หัวหน้าแผนกฉิน มานี่หน่อย”
เธอเอ่ยพูดด้วยน้ําเสียงที่สงบเสงี่ยม
“อ่า” หัวหน้าแผนกฉินตอบรับด้วยน้ําเสียงงุนงง พร้อม เดินไปข้างฉินหร่าน ก้มมองดูรหัสที่หน้าตาซับซ้อน
ลู่จือสิงนั่งลงข้างเฉิงเจวี้ยน พลางจิบชาเบาๆ พร้อม กล่าวเตือนหัวหน้าแผนกฉินและคนอื่นรอบๆ “ไม่มีคนอัด
วิดีโอเหรอ เธอยิ่งไม่ค่อยอดทนอยู่ พูดจบรอบแรกยากที่จะ พูดซ้ํารอบสองนะ”
คนเหล่านี้ไม่ได้มีคุณสมบัติที่ดีเท่ากับเฉิงหั่ว ลู่จือสิงกลัว ว่าพวกเขาจะดูไม่เข้าใจ
หุ้นส่วนทั้งสองคนรีบตอบโต้และเริ่มบันทึกวิดีโอทันที
“ได้ยินว่าคฤหาสนแนั่นหายไปแล้ว” ลู่จือสิงด้านหนึ่งก็ เหลือบมองท่าทีของฉินหร่าน อีกด้านหนึ่งก็เหลือบตามองเฉิง เจวี้ยน
เฉิงเจวี้ยนพยักหน้า พร้อมสีหน้าเจื่อนเล็กน้อย แต่เขาก็ ไม่ได้สนใจมากนัก “ใช่”
“คุณ…” ลู่จือสิงลดเสียงลง และขมวดคิ้วเล็กน้อย “พวก คุณก็ระวังหน่อย ช่วงนี้ในเมืองหลวงกําลังวุ่นวาย เลี่ยงได้ก็ เลี่ยง”
“ผมรู้แล้ว” เฉิงเจวี้ยนมีสีหน้าสงบนิ่งเช่นเดิม เขามองไป ยังฝั่งของฉินหร่าน พบกับคิ้วที่หนาทึบ “คุณไม่ต้องกังวล หรอก”
ก่อนหน้านั้นเฉิงถู่อยากที่จะกลับมา แต่ถูกเขานั้น ขัดขวางไว้อวิ๋นกวงกรุ฿ป ลงหลักปักฐานอยู่ที่เมืองหลวงตั้งแต่
ปีที่แล้วแล้วพวกมีอํานาจพวกนี้มาในเมืองหลวงทําไมกัน ทํา ไมเฉิงเจวี้ยนถึงไม่รู้
เขาคิดอย่างเบาๆ
ทั้งหมดนี่ต้องรบกวนคุณแล้วเหรอ
ลู่จือสิงเหลือบมองเฉิงเจวี้ยน พร้อมถอนสายตากลับ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสับสน เขาผงกหัวเล็กน้อย แล้วจะไม่ คุยประเด็นนี้อีก
แต่ก่อนเขารู้สึกไม่ดีกับเฉิงเจวี้ยนเท่ากับหยางซูเยี่ยน ประการแรกเพราะเขาสนิทสนมกับหยางซูเยี่ยน ส่วน ประการที่สองเพราะ…เฉิงเจวี้ยนทําธุรกิจค่อนข้างอันตราย
ทุกสิ่งทุกอย่างถูกจับจ้องโดยแมทธิว
หยางซูเยี่ยนวางมือไปแล้วเมื่อไม่กี่ปีมานี้
ในตอนนี้…
หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว เฉิงเจวี้ยนอาจจะต้องเรียกแทน ตัวเองว่าอาตามฉินหร่าน ลู่จือสิงคิดด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณแ ความจริงก็เหมือนว่า…จะไม่ผิดนะ
ฉินหร่านจิ้มกดรหัสอย่างรวดเร็ว ในจุดนี้ คนในตระกูล ฉินได้ทดสอบความเป็นผู้สืบทอดในตัวเธอ ในตอนที่คิดจะ ทดสอบก็ได้รู้แล้วว่า ตอนนี้เธอได้จัดการระบบเรียบร้อยแล้ว
เธอมองไปยังลู่จือสิง “ความจริงมีปัญหานิดหน่อย เดี๋ยว ตอนเย็นกลับไปค่อยลองเปลี่ยนช่องทางใหม่”
“ได้” ลู่จือสิงพยักหน้า เปูาหมายของเขาได้บรรลุแล้ว และจะไม่ขัดขวางฉินหร่านอีก เขาลุกขึ้นยืน และมองไปยัง
หัวหน้าแผนกฉินที่ตัวแข็งทื่ออยู่ด้านข้างฉินหร่าน “ต่อไปไม่ ว่าเรื่องอะไร ให้ไปหาเธอก่อน เนื้อหาพวกนี้โดยพื้นฐานแล้ว เธอเป็นคนรับผิดชอบ ผมไม่ค่อยรู้อะไรมาก แน่นอนว่า ตั้งแต่ วันนี้เป็นต้นไป พวกคุณเก็บห้องทํางานให้ผมไว้ห้องหนึ่งด้วย นะ”
ฉินหร่านบีบคลึงข้อมือที่ปวดเมื่อยเล็กน้อย “งั้นให้ฉัน กลับก่อนนะ”
เธอมีอาการปวดหัวเล็กน้อย ช่วงนี้มีเรื่องที่ต้องรับมือ ค่อนข้างเยอะ
เธอแยกตัวออกไปพร้อมเฉิงเจวี้ยน ครั้งนี้ลู่จือสิงมาส่ง เธอถึงแค่นอกประตู ไม่ได้ขัดขวางเธออีก
“เมื่อกี้เขาพูดอะไรกับคุณเหรอ” ที่หน้าประตูลิฟตแ ฉินห ร่านมองดูเฉิงเจวี้ยนกดประตูลิฟตแ เธออดไม่ได้ที่จะเงยหัว ขึ้นมา
เฉิงเจวี้ยนมองดูประตูลิฟตแเปิดออก ด้านในมีคนออกมา เขาเหยียดมือดึงฉินหร่านมาอีกด้าน “บอกเรื่องพวกที่มี อํานาจในเมืองหลวงช่วงนี้มาหน่อย”
เมื่อคิดถึงตอนนี้ เฉิงเจวี้ยนก็ได้จิ้มโทรศัพทแมือถือ
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาได้เปิดเว็บเพจขึ้น แล้วส่งประโยค หนึ่งไปหาเฉิงสุ่ย
“ให้เฉิงถู่เตรียมกลับเมืองหลวง”
เมื่อได้ยินประโยคนี้จากเฉิงเจวี้ยน ฉินหร่านก็นิ่งไปครู่ หนึ่ง เหมือนกับกําลังครุ่นคิดบางอย่าง เตรียมที่จะถามฉัง หนิงในภายหลัง
ตอนที่เธออยู่อวิ๋นเฉิง เธอเคยตรวจสอบเฉิงเจวี้ยนอยู่ แต่ ก็ไม่พบอะไรมาก รู้แค่ว่าพวกที่มีอํานาจที่อยู่เบื้องหลังเขานั้น ค่อนข้างซับซ้อน
ในตอนนี้นั้นดูเหมือนจะซับซ้อนเกินไป
ไพ่ไม้ตายเหล่านั้นของเธอ
ห้องทํางาน
หลังจากที่ฉินหร่านและเฉิงเจวี้ยนแยกไป ลู่จือสิงก็ กลับมา แต่คนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยได้สติ
หัวหน้าแผนกฉินมองคอมพิวเตอรแด้วยตัวแข็งทื่อ พลาง ครุ่นคิด แล้วหันไปมองยังผู้ถือหุ้นที่ข้างๆ “ฉันเพิ่งได้ยินผิดไป หรือเปล่า คุณลู่เขาพูดว่า พูดว่า…คุณหนูฉิน…”
สมองของผู้ถือหุ้นทั้งสองนั้นได้โลดแล่นเป็นประกาย ดัง ก้องไม่หยุด ทั้งสองสบตากัน “เหมือนจะบอกว่า คุณหนูฉิน คือเทพ P ที่พูดกัน”