เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 542 แต่ละคนจัดการไม้ได้ง่ายๆ
มือที่ฉินหร่านถือถ้วยชานั้นบีบแน่นขึ้นเล็กน้อย
หลายปีมานี้ตระกูลสวีปักหลักอยู่ที่รัฐ Mมาโดยตลอด ไม่ นานมานี้ยังให้เธอไปรัฐ Mกับสวีเหยากวง…
เพื่ออะไรกันแน่
ไม่มีเหตุผล ตระกูลสวีเจริญถึงขีดสุดเมื่ออยู่ที่ สถาบันวิจัย นายท่านสวีรู้ดีว่าเธอไม่ได้สนอกสนใจ สถาบันวิจัย แต่ก็ยังจะให้เธอไปรับตําแหน่งผู้สืบทอดให้ได้…
เธอกําลังครุ่นคิดปัญหาเหล่านี้อยู่กับเฉิงเจวี้ยน ด้านนอก เฉิงมู่และเฉิงจินก็ได้พาตัวเฉิงถู่กลับมา
“พี่ใหญ่” เฉิงถู่ที่ใบหน้าถูกคลุมด้วยเครา เดินตรงไปยัง ด้านใน พร้อมกวาดสายตามอง และหยุดสายตาอยู่ที่ตัวของ ฉินหร่านและเฉิงเจวี้ยน ทําให้ตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด
ฉินหร่านเงยหัวขึ้น มองเฉิงถู่ครู่หนึ่ง เขาเดินเข้ามา จระเข้ยักษแก็ดูเหมือนจะอยู่ไม่ไกลกัน
“คุณหนูฉินครับ” เมื่อมองเห็นฉินหร่าน เฉิงถู่ก็เอามือ คํานับ พร้อมกล่าวด้วยความเคารพเป็นอย่างมาก
เดิมทีฉินหร่านอยากจะพูดเรื่องจระเข้ยักษแสักสองสาม ประโยคกับเฉิงถู่ แต่เพราะเนื้อหาที่คุยกับเฉิงเจวี้ยน ในตอนนี้เธอคงไม่มีกะจิตกะใจมาถามเฉิงถู่หรอก
เพียงแค่ลุกขึ้นทักทายเฉิงถู่ แล้วเดินขึ้นไปชั้นบน
“พี่ใหญ่ คุณหนูฉินเธอไม่เป็นไรใช่ไหม” เฉิงถู่เป็นคนที่ เรียบง่าย และมีนิสัยไม่สนใจใยดี แต่เมื่อครู่ทําให้เขาชะงักไป
ครู่หนึ่ง พลันมองไปยังเงาของฉินหร่านที่เดินขึ้นบันไดไป ใคร่ครวญเล็กน้อย
เฉิงเจวี้ยนรู้ว่าในใจของฉินหร่านตอนนี้ซับซ้อนมาก เขา ส่ายหัว “สถานการณแของนายที่นั่นเป็นยังไงบ้าง”
“สถานการณแในเมืองหลวงตอนนี้ ฉันยังควบคุมได้ แต่ว่า …” เฉิงถู่ขมวดคิ้ว พร้อมลังเลใจเล็กน้อย “แต่ทางที่กลับมาฉัน พบร่องรอยของจระเข้ยักษแด้วย หาก 129 เข้ามาร่วมด้วย คง ต้องวุ่นวายแน่”
ผู้บุกเบิกทั้งห้าคนของ 129 แต่ละคนจัดการไม่ได้ง่ายๆ หากเข้ามาร่วมด้วยจริงๆ คงจะเป็นศึกที่นัวเนียกันน่าดู
“พวกนายบอกว่าฉังหนิงกําลังจะทําอะไรนะ เขาไม่ได้อยู่ ที่ฐานค่ายในรัฐ F แล้วมาวุ่นวายในเมืองหลวงทําไมกัน” เฉิง หั่วอดกลั้นอารมณแไว้ไม่อยู่ “หลักๆ ให้ดูว่าเขาจะเข้าร่วมหรือ เปล่า ส่วน 129 เดี๋ยวฉันจะหาเอง หากมีพอรแตของ 129 ฉัน จะต้องพบอะไรบ้างแน่”
“เฉิงถู่ นายประมือกับจระเข้ยักษแมานานหลายปีแบบนี้ นายคิดว่าเขาน่าจะมาร่วมมือกับเราได้ไหม” เฉิงสุ่ยชายตา มองไปที่เฉิงหั่ว เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่กลับหันไปทาง เฉิงถู่
อย่างไรเสีย ผู้ที่มีอํานาจคนอื่นก็คงเป็นเช่นนั้น อย่าง น้องเฉิงถู่กับจระเข้ยักษแก็มีมิตรไมตรีต่อกัน
“ไม่รู้เหมือนกัน ความเป็นไปได้ไม่สูง” เฉิงถู่ส่ายหัว “แต่ เขาไม่น่าจะไปร่วมมือกับคนอื่นหรอก”
เฉิงเจวี้ยนกางนิ้วมืออยู่บนโต฿ะ ไม่ตอบรับบทสนทนา พร้อมเอ่ยด้วยความเย็นชา “ดําเนินการตามแผน”
“ครับ” คนอื่นๆ อีกห้าคนพยักหน้า
***
ด้านบน
ฉินหร่านเปิดลิ้นชักคอมพิวเตอรแของตัวเอง พร้อมดึง โทรศัพทแจอสัมผัสสีดําหนาเตอะของเธอออกมา
เธอเพิ่งหยิบโทรศัพทแออกมา แต่ก็ได้มีอาการสั่นขึ้นทันที
“เครื่องมือค้นหาเสมือนสี่มิติ” มือหนึ่งฉินหร่านวาง โทรศัพทแไว้อีกด้าน อีกมือก็เปิดคอมพิวเตอรแ “ใส่รหัสต้นทาง ลงในคอมพิวเตอรแของฉัน”
โทรศัพทแสีดําหนาเตอะส่งเสียง “วิ้ง” ออกมา
ไม่ถึงหนึ่งวินาที คอมพิวเตอรแของฉินหร่านก็ได้รับรหัส ต้นทางชุดหนึ่ง
ฉินหร่านพักเรื่องของคุณตาเธอไว้ชั่วคราว ตระกูลฉินยัง มีเรื่องของตระกูลสวีอยู่ วิจัยรหัสนี้ให้เสร็จก่อนชั่วคราว
ในใจเธอเข้าใจแจ่มชัด การคาดเดาของเฉิงเจวี้ยนแปด สิบเปอรแเซ็นตแนั้นไม่มีผิด
หากเป็นเช่นนี้…
คุณตาและคุณยายของเธอเป็นหนี้ตระกูลฉินมาก จนเกินไป
ฉินหร่านเม้มปาก ปลายนิ้วก็ไม่หยุดเคาะบนแปูนพิมพแ แล้วเริ่มวิจัยรหัสต้นทางชุดนี้
โทรศัพทแเครื่องนี้อยู่ตั้งแต่ตอนเธอเกิด ฉินหร่านก็ไม่รู้ว่า เพราะอะไร เฉินซูหลานบอกแค่ว่าคุณตาเก็บไว้ให้เธอ
เธอพบว่าโทรศัพทแไม่ปกติ คือตอนที่เธอทําสงครามเย็น กับหนิงฉิงครั้งแรก
วันนั้นเธอนั่งอยู่บนบันไดคนเดียว โทรศัพทแก็ได้สว่างขึ้น ด้านหลังปรากฏเป็นเงาเสมือนพร้อมรหัสจํานวนหนึ่ง
ครั้งแรกที่ตัวฉินหร่านมีความสนใจในคอมพิวเตอรแ ความ จริงมาจากโทรศัพทแที่ชาญฉลาดเครื่องนี้ เธอไม่เคยชารแจแบต มาให้มันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่ก็ยังกลับใช้ได้อยู่
ฉินหร่านจําลองโค้ดเล็กน้อย ด้วยความเร็วแบบนี้ คงใช้ เวลาสักพักหนึ่งโดยประมาณ ถึงจะนําข้อมูลเหล่านี้ส่งให้ลู่จื อสิงได้
ผ่านไปครู่หนึ่ง โทรศัพทแในกระเปาของเธอก็ได้ดังขึ้น
ฉินหร่านหยิบออกมาดู เป็นชื่อของอาจารยแเว่ย
เธอชะงักไปครู่หนึ่ง ทําไมถึงติดต่อเธอมาในเวลานี้ล่ะ
“อาจารยแคะ” มือหนึ่งฉินหร่านหยิบหูฟังใส่เข้าในหู อีก มือหนึ่งก็กดบนแปูนพิมพแเป็นประวิง
ทางด้านอาจารยแเว่ยนั้น เมื่อได้ยินเสียงของฉินหร่าน เขา ก็ได้ชะงักไปครู่หนึ่ง พลันยิ้มแล้วกล่าวออกมา “หร่านหร่าน ไม่มีเรื่องอะไรใช่ไหม”
ฉินหร่านที่ในตอนนี้จดจ่ออยู่กับการวิจัยรหัส ไม่ได้ยิน คําพูดที่ออกมาจากปากของอาจารยแเว่ย
เธอเลิกคิ้วขึ้น “ฉันจะมีเรื่องอะไรเหรอคะ”
“เปล่าค่ะ แค่ได้ยินเรื่องของตระกูลเฉิงมา” อาจารยแเว่ย พยักหน้า “เธอไม่มีเรื่องอะไรก็ดีแล้ว หากมีเรื่องอะไร จําไว้ให้ มาบอกฉันโดยตรง”
“ค่ะ” ฉินหร่านพยักหน้า
ทั้งสองคุยเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงกันสองสาม ประโยค แล้วจึงวางสายไป
ทางด้านของอาจารยแเว่ยที่อยู่รัฐ M
วังจื่อเฟิงมองไปยังอาจารยแเว่ย “อาจารยแครับ อาจารยแ ไม่ได้บอกว่าจะให้รุ่นพี่มาช่วยที่รัฐ Mเหรอครับ หรือจะให้เธอ ตกใจกับพวกนักเรียนที่อยู่ใต้มืออาจารยแครับ”
เมื่อฟังจบ อาจารยแเว่ยส่ายหัว เขาเอียงตัว “ในเมือง หลวงเหมือนจะเกิดเรื่องขึ้น…”
“รุ่นพี่ไม่น่าเกิดเรื่องนะครับ” วางจื่อเฟิงชะงักไปครู่หนึ่ง
อาจารยแเว่ยบอกว่ามีเรื่อง แต่ต้องเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แน่นอน
“รุ่นพี่ของอาจารยแจะมารัฐ Mพรุ่งนี้” อาจารยแเว่ยบีบคลึง คิ้ว เขาหยิบโทรศัพทแออกมา พร้อมโทรหาตระกูลมาสในอีก ด้านหนึ่ง
วันต่อมา
ฉินหร่านตะเกียกตะกายขึ้นมาจากเตียง พร้อมรับ โทรศัพทแของพ่อบ้านสวี
เสียงของเขายังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เพียงแต่กังวล เล็กน้อย “คุณหนูฉินครับ คุณไปที่รัฐ Mกับนายน้อยอีกครั้งได้ ไหมครับ ทางด้านของคุณผู้ชายจนปัญญาแล้วจริงๆ ครับ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่แบกหน้ามาขอร้องคุณหรอกครับ…”
“รัฐ M” ฉินหร่านเดินลงจากชั้นบน พร้อมเดินเข้าไปที่ โต฿ะอาหาร พร้อมชะงักไปครู่หนึ่ง
เฉิงเจวี้ยนดันนมสดมาทางด้านของเธอ เมื่อได้ยินเสียง เธอ เขาก็มองไปยังฉินหร่าน