เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 549 นี่คือเบอรแของจระเข้ยักษแ ฉันช่วยเธอ โทรแล้ว
คนรับคดีมองรายละเอียดที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ คอมพิวเตอรแ
สูดลมหายใจเข้า “คุณโอวหยาง คุณหนูฉินไม่ได้จับกุม ตัวอย่างผิดกฎหมาย ต้องขอโทษด้วย คุณคงต้องติดต่อผู้ บัญชาการ”
โทรศัพทแถูกตัดสาย
ระหว่างทางหัวหน้าตระกูลโอวหยาง ไม่ได้กระวน กระวายเป็นพิเศษ ในเวลานี้ ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว
“เวยเวย พวกเราจะไม่เป็นไรใช่ไหม” เขาหันไปมองโอวห ยางเวย
โอวหยางเวยจิตใจดีมาก กิริยาท่าทางของเธอยังคงสง่า งาม ไม่เผยความกระวนกระวายออกมาแม้แต่น้อย เพียงแค่ ยิ้ม “คุณพ่อ ทําใจให้สบายนะคะ”
“เอาไปขังในห้องมืดใต้ดิน” ฉินหร่านไม่ฟังบทสนทนา ของสองพ่อลูก ออกคําสั่งทันที
เรื่องนี้พวกชิงหลินทําไม่ได้ เพราะถึงอย่างไรก็เป็นถิ่น ของเฉิงเจวี้ยน เฉิงสุ่ยรีบเดินไปด้านหน้าหนึ่งก้าว “พาตัวพวก เขาลงไป พร้อมกับ พาคนอีกสองคนลงไปสอบสวนด้วย”
เรื่องของสวีซื่ออิ่งเต็มไปด้วยความน่าสงสัย ในเมื่อฉินห ร่านพาโอวหยางเวยกลับมา แน่นอนว่าเฉิงสุ่ยไม่มีทางนิ่งดู ดาย
“คุณหนูฉิน มีอะไรจะสั่งอีกไหมครับ” ชิงหลินมองซ้าย มองขวา ไม่มีเรื่องอื่น จึงประสานมือให้ฉินหร่าน
ฉินหร่านส่ายหน้า เธอหยุดชะงักไปพักหนึ่ง กว่าจะพูด ขึ้น “ขอบคุณ”
“ไม่กล้าครับๆ” ชิงหลินเกาหัว แล้วรีบก้าวถอยหลังสอง ก้าว “เรื่องนี้แค่เล็กน้อย ถ้าคุณหนูมีเรื่องอะไร สั่งผมได้เลย ครับ หัวหน้าดื่มชาอยู่ทางด้านนู้น ให้ผมมาติดตามรับใช้ คุณหนูเป็นพิเศษ”
ทางด้านนู้นที่เขาพูดถึง แน่นอนว่าเป็นที่อยู่ของฉังหนิง
“ไม่มีอะไรแล้ว นายกลับไปก่อนเถอะ” ฉินหร่านพยัก หน้าให้เขา
“ครับ มีเรื่องอะไรคุณหนูติดต่อหัวหน้าได้เลยนะครับ” ชิง หลินผายมือ ให้คนของเขาถอยออกไป “ลูกน้องที่อยู่ โรงพยาบาลให้พวกเขาอยู่เฝูาที่นั่นไปก่อนนะครับ”
ชิงหลินพูดถึงโรงพยาบาล
ฉินหร่านเงยหน้าขึ้น เธอหันไปมองเฉิงสุ่ย “นายไป สอบสวนก่อน ฉันไปโรงพยาบาลสักหน่อย”
**
โรงพยาบาล
คนอื่นๆ ในตระกูลสวีที่อยู่เมืองหลวงก็มาจํานวนไม่น้อย
“นายน้อยเฉิง” พอเห็นเฉิงเจวี้ยน พ่อบ้านสวีก้มหัวลงโค้ง คํานับ
เฉิงเจวี้ยนมองไปที่อาจารยแใหญ่สวีก่อน แล้วค่อยหลับตา จากนั้นสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “คุณตามผมออกมา”
คําพูดนี้เขาพูดกับพ่อบ้านสวี
เวลานี้ทางเดินในโรงพยาบาลเต็มไปด้วยผู้จน
เฉิงเจวี้ยนได้ไปจนสุดทางเดิน ในมือของเขาถือบุหรี่ เอาไว้หนึ่งมวน ร่างซูบผอม หันข้าง แววตาลุ่มลึก “พ่อ บ้านสวี เรื่องที่เกิดขึ้นกับท่านสวีใหญ่ขนาดนี้ ทําไมก่อนหน้า นี้ไม่มีใครบอกคุณหนูฉิน ไม่รู้กันสักนิดเลยเหรอ คุณไม่รู้ แต่ อย่างน้อยท่านสวีก็ควรจะรู้จักนิสัยของเธอ”
คนทั้งตระกูลสวีปิดบังฉินหร่าน
ตอนที่เฉินซูหลานตายเฉิงเจวี้ยนสัมผัสได้ถึงความ เจ็บปวดที่อยู่ภายในใจของฉินหร่าน ตอนนี้มีเรื่องอาจารยแ ใหญ่สวีโผล่มาอีก
เฉิงเจวี้ยนอดไม่ได้ที่จะเม้มปาก
เขาไม่อยากจะคิด ถ้าไม่ทําทุกอย่างให้ชัดเจน ฉินหร่าน จะโทษตัวเองมากแค่ไหน
เสียงนี้ ทําให้พ่อบ้านสวีหลุดจากภวังคแ เขาส่ายหน้า ยิ้ม เศร้า “ปิดบังคุณไม่ได้จริงๆ ผมเห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว…”
เฉิงเจวี้ยนรู้ดีว่ามีความรู้สึกอยู่ด้านใน เขาหรี่ตาลง มอง พ่อบ้านสวี
พ่อบ้านสวีคุกเข่าให้เฉิงเจวี้ยน “นายน้อยเฉิง คุณน่าจะรู้ ดีที่ตระกูลสวีมีทุกวันนี้ได้เพราะอาศัยสถาบันวิจัยฟิสิกสแ”
เรื่องนี้เฉิงเจวี้ยนก็เพิ่งรู้ไม่นาน เขาไม่ได้สนใจ สถาบันวิจัยฟิสิกสแมากเท่าไหร่
โดยมากล้วนเป็นเอกสารที่ฉินหร่านนํากลับมาจาก สถาบันวิจัย
ได้ยินพ่อบ้านสวีพูดแบบนี้ เฉิงเจวี้ยนก็คิดถึงความ เป็นไปได้หนึ่ง เขาอดไม่ได้ที่จะเม้มปาก
“ตอนนั้นคุณหนิงเอ่อรแคืออันหนึ่งหนึ่งในสถาบันวิจัย ฟิสิกสแ ตัวของเขาเต็มไปด้วยความลับ ถูกคนบีบบังคับ ตอน นั้นตระกูลสวีนิ่งเฉยเพื่อรักษาสถาบันวิจัยฟิสิกสแเอาไว้ ในทาง กลับกันคนตระกูลฉินยื่นมือเข้าไปช่วย คุณหนิงเอ่อรแกับคุณ ผู้ชายฉินเป็นเพื่อนกัน ทั้งสองล้วนเป็นคนที่น่าทึ่งมาก แต่ กลับมีจุดจบที่ไม่ดี…” พ่อบ้านสวีคลานเข่าโค้งหัวอย่างแรงไป ทางเฉิงเจวี้ยน “คุณผู้ชาย…คุณผู้ชายรู้สึกผิดต่อคุณหนูฉิน คุณหนูฉินกําลังจะเข้าไปในสถาบันวิจัยแล้ว ความปรารถนา ของเขาเป็นจริงแล้ว”
เฉิงเจวี้ยนรู้สึกตกใจเล็กน้อย
ไม่ได้พูดอะไร
พ่อบ้านสวีโค้งหัวอย่างแรงอีกครั้ง “ตอนอยู่ที่อวิ๋นเฉิง คุณผู้ชายเคยไปหาคุณหนูฉิน คุณหนูฉินไม่ยอมตอบตกลง ภายใต้การครุ่นคิดอย่างหนักของเขา ตอนที่ศาสตราจารยแเฉิน กําลังจะตาย จึงกล้าไปหาศาสตราจารยแเฉิน…ครั้งนี้ คุณผู้ชาย ทราบเรื่องที่บรรพบุรุษตระกูลสวีทําเอาไว้ ให้ตายยังไงก็ไม่ ยอมมาโรงพยาบาล สุดท้ายผมกับผู้ดูแลต่างๆ เป็นคนขอร้อง ให้เขามา”
ตระกูลสวีได้ตําแหน่งโดยการเหยียบเลือดคนตระกูลห นิง สวีซื่ออิ่งเป็นคนสูงส่งมาตลอดชีวิต นอกจากคืน สถาบันวิจัยให้กับตระกูลหนิงแล้ว ก็ไม่รู้ว่ามีอะไรที่เขาทําได้ บ้าง
สวีซื่ออิ่งอยากจะตาย
ถ้าบอกเรื่องนี้ให้ฉินหร่าน?
อย่าว่าแต่สวีซื่ออิ่งเลย แม้แต่พ่อบ้านสวีก็ไม่มีหน้าที่จะ พูด
บรรพบุรุษของตระกูลสวีได้ตําแหน่งโดยการเหยียบหัว คนตระกูลหนิง ตอนที่หนิงเอ่อรแถูกบีบบังคับกลับไม่กล้า ออกมาช่วยเหลือ
สวีซื่ออิ่งอยากให้หนิงเอ่อรแกับเฉินซูหลานยกโทษให้ แต่ ว่าทั้งสองคนได้ตายไปแล้ว…
เฉิงเจวี้ยนปล่อยให้พ่อบ้านสวีคุกเข่า เขาไม่ได้พูดอะไร ทําแค่มองสุดทางเดินเท่านั้น
นานครู่หนึ่ง
กว่าเขาจะพูดขึ้น “คุณลุกขึ้นมาเถอะ”
พ่อบ้านสวีตะเกียกตะกายขึ้นมา
ความรู้สึกทั้งหมดของเขาแทบจะหันไปมองด้านหลัง
ฝั่งตรงข้าม ประตูลิฟตแค่อยๆ ปิดลง
พ่อบ้านสวีมองไม่เห็นคนในลิฟตแ
**
วิลล่า
เฉิงหั่วนั่งอยู่ตรงประตู เห็นฉินหร่านกลับมาพร้อม กับเฉิงมู่ อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ “คุณหนูฉิน ทําไมกลับมาเร็วจังครับ”
ฉินหร่านดูเยือกเย็นยิ่งกว่าเมื่อครู่
เธอเงยหน้าขึ้น ใบหน้าเยือกเย็น “ได้คําตอบอะไรบ้าง ไหม”
“ผู้บัญชาการห่าวก็มาแล้วครับ ตอนนี้ยังไม่มีอะไร คืบหน้า ผมพาคุณลงไป” เฉิงหั่วพูด พร้อมกับพาฉินหร่านเดิน ลงไป
“ปากแข็งมาก” เฉิงสุ่ยกับผู้บัญชาการห่าวได้ยินเสียงฉินห ร่านเดินลงมา เดินออกไปด้านนอก มองโอวหยางเวยผ่าน กระจกทางเดียว ขมวดคิ้ว
ผู้บัญชาการห่าวหันไปมองฉินหร่าน “อีกทั้งเบื้องหลัง ของเธอมีคนมากมาย ทําอะไรเรื่อยเปื่อยไม่ได้ และจากข่าวที่ ได้รับ ดูเหมือนว่าคนของจระเข้ยักษแจํานวนมากมาเมืองหลวง …”
“อย่างนั้นเหรอ…” ฉินหร่านพูดเสียงเฉื่อย เธอพยักหน้า เปิดประตูกระจกแล้วเดินเข้าไป
“คุณหนูฉิน…” เฉิงสุ่ยและผู้บัญชาการห่าวรีบเดินตามเข้า ไป
ฉินหร่านหันไปมองโอวหยางเวย “เธอสอบสวนอาจารยแ ใหญ่สวียังไง? หักนิ้วมือ?…”
เธอเชิดคางให้คนที่อยู่ข้างๆ ด้านในนี้มีแต่คนสนิทของ เฉิงเจวี้ยน
“ฉินหร่าน เธอกล้าหรอ?!”มือที่กําลังเล่นโทรศัพทแของ โอวหยางเวยหยุดชะงัก สีหน้าของเธอเปลี่ยนไป
“ทําไมฉันต้องไม่กล้าด้วย” ฉินหร่านเอามือวางบนโต฿ะ ขยับเข้าไปใกล้โอวหยางเวย แววตาเยือกเย็น “เธออยากจะ บอกว่าเธอมีคนคอยหนุนหลัง? ใคร ตระกูลโอวหยาง? หมิง ไห่? พวกเขากล้าทําอะไรในเมืองหลวงด้วยเหรอ ฉันคิดดูก่อน ยังมี129ใช่ไหม”
ฉินหร่านก้มหน้าลง มองโทรศัพทแของโอวหยางเวยที่เปิด ไปยังเว็บไซตแทางการของ129 เธอยื่นมือออกไป กดตัวเลขที ละตัวๆ เป็นเบอรแเรียงยาว “นี่คือเบอรแของจระเข้ยักษแ ฉัน ช่วยเธอโทรแล้ว