เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 551 พบเธอดวยตัวเอง!
หลังจากส่งข้อความวีแชทเสร็จ เหอเฉินก็หยิบเบียรแมา อีกกระปอง
เธอเปิดกระปองด้วยมือข้างเดียว อ่านวีแชทไปด้วย ดื่ม ไปด้วย
เหอเฉินได้ชื่อว่าเป็นถังเหล้าในหมู่ห้าทหารเสือแห่ง129
ฉีจื่อเซียวถามเธอในวีแชทหนึ่งประโยค เหอเฉินเหลือบดู แล้วมองเมิน ไม่ตอบกลับ เธอกําลังรอสายจากฉินหร่านอยู่
ภายในระยะเวลาไม่เกินสองนาที
โทรศัพทแในมือเหอเฉินก็ดังขึ้น
เธอก้มดูก็พบว่าเป็นฉินหร่าน
เหอเฉินหยิบมันขึ้นมา ทีแรกเธอคิดจะเอนหลังพิงโซฟา แต่พอนึกอะไรขึ้นมาได้ก็เหลือบมองผู้ชายสองคนที่อยู่
ตรงหน้า เธอชะงักไปสักพัก จากนั้นลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ ระเบียง ปิดประตูระเบียง
“พี่เฉิน” ปลายสาย ฉินหร่านยืนอยู่บนชั้นสองของวิลล่า เฉิงมู่กําลังทําความสะอาดห้องให้เธออยู่
ไฟในห้องไม่ได้เปิด ฉินหร่านยืนอยู่นอกหน้าต่างสูงจรด พื้น มองรถเฉิงเจวี้ยนที่อยู่ข้างล่างขับเข้ามาอย่างช้าๆ
เหอเฉินแก่กว่าฉินหร่านเกือบหกปี ฉินหร่านจึงเรียกเหอ เฉินว่าพี่เฉินตามคําเรียกร้องของเธอ
“ฉันไม่มีข่าวอะไรมาก” ทางด้านเหอเฉินกําลังฟุบอยู่บน ระเบียง “แต่เพราะเกี่ยวกับเธอ ตอนที่ฉันสืบคดีก็เลยถือ โอกาสสืบเรื่องพันธมิตรใต้ดินที่รัฐMดูเสียหน่อย?”
พอได้ยินประโยคนี้ ฉินหร่านก็รู้แล้วว่าข่าวที่เหอเฉิน ได้มาไม่มีทางเป็นข่าวเท็จ
เธอแค่นิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้าอย่างช้าๆ “ไม่ผิด”
“งั้นคงสืบมาถูกแล้ว” เหอเฉินหัวเราะ “น้องสาว ระวัง ตัวด้วย ล้างข้อมูลให้สะอาดหน่อย จิ๊ คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ”
“ยังมีร่องรอย?” ฉินหร่านขมวดคิ้ว
เหอเฉินส่ายหน้า “ไม่แน่ใจ แต่น่าจะยังมีคนสนิทของ เธอด้วยใช่ไหม?”
ฉินหร่านไม่พูดอะไรเมื่อได้ยินประโยคนี้
เหอเฉินรออยู่นานก็ไม่ได้ยินฉินหร่านตอบกลับ เธอเองก็ ไม่ได้ถาม ตัวฉินหร่านพัวพันกับเรื่องราวมากมาย มากจนเหอ เฉินไม่อยากสืบ “เอาเถอะ แต่ฉันอยากจะเตือนเธอเรื่องนึง เรื่องที่เกิดในเมืองหลวงช่วงนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะมีคนต้องการ บีบเธอ”
“ฉันเข้าใจแล้ว” แววตาดําขลับของฉินหร่านมองลงไป ข้างล่าง
เฉิงเจวี้ยนก็กําลังคุยโทรศัพทแอยู่ชั้นล่างเช่นกัน เขาราว กับรู้สึกได้ว่ามีคนมองเขาอยู่ เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วมอง ไปทางช่องหน้าต่างทางด้านนี้ นิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะวางสาย เดินขึ้นไปข้างบน
“เข้าใจแล้วก็ดี” เหอเฉินรู้ดีว่าฉินหร่านมีความคิดเป็น ของตัวเองมาตลอด “ฉันแค่จะเตือนเธอสักหน่อย เรื่อง บางอย่างที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงช่วงนี้มอบให้เป็นหน้าที่จระเข้ ยักษแ บอสฉังหนิงน่าจะบอกกล่าวเธอแล้วมั้ง?”
“อือ” ฉินหร่านผงกหัว
ทั้งสองคุยกันได้ไม่กี่คําก็วางสาย
ฉินหร่านเพิ่งวางสายได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงเคาะประตู สามครั้ง ไม่หนักไม่เบา
เธอไม่ได้หันไปแต่ยังคงยืนอยู่ด้านนอกหน้าต่างอย่าง เอื่อยเฉื่อย “ไม่ได้ล็อก”
เฉิงเจวี้ยนรอเสียงตอบรับจากเธอก่อนจะผลักประตูเข้า มา
“เมื่อกี้…ได้ยินคําพูดพ่อบ้านสวีหมดแล้ว?” เขายืนอยู่ ข้างๆ เธอโดยไม่ได้เปิดไฟ แต่มองเธอด้วยแสงไฟสลัวจาก ด้านนอก
ฉินหร่านเพียงพยักหน้า ไม่ตอบ
บนหน้าไม่แสดงอารมณแความรู้สึก
ตอนแรกเธอทําตามที่เฉินซูหลานกําชับมา ไม่ตอบรับคํา ขออาจารยแใหญ่สวี
แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ อาจารยแใหญ่สวีปฏิบัติกับเธอเป็น อย่างดีรองจากอาจารยแเว่ย
สวีซื่ออิ่งมีความสําคัญต่อใจเธอมาก
จนมาถึงตอนนี้ แม้กว่าเก้าสิบเปอรแเซ็นตแสวีซื่ออิ่งจะเป็น คนร้องขอความตาย ฉินหร่านก็ยังไม่อยากจะเชื่อ เห็นๆ อยู่ ว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนเขายังให้คํามั่นสัญญาว่าจะปกปูองเธอและ ปกปูองคนของเฉิงเจวี้ยน ทว่าตอนนี้ทําไมถึงนอนเย็นยะ เยือกอยู่บนเตียง
“ท่านสวีเขาก็เป็นคนอย่างนี้แหละ” เฉิงเจวี้ยนทอดถอน ใจ เขายื่นมือไปกอดเธอ มองแสงไฟที่อยู่ข้างนอก “ตั้งแต่ที่ เขาวางตําแหน่งให้เธอเป็นผู้สืบทอด เธอก็น่าจะรู้ว่าเขาเป็น คนยึดมั่นถือมั่นขนาดไหน เขารู้ความจริงเรื่องที่ตาของเธอ หนีไปจากเมืองหลวงในตอนนั้น…เขา เขาถึงตามหาตากับ ยายของเธอ”
เมื่อรู้ว่าตระกูลสวีเติบโตมาได้อย่างไร สวีซื่ออิ่งจึงทําได้ เพียงเท่านี้
“ฉันอภัยให้เขาไม่ได้นิดหน่อยตรงที่เขาไม่บอกอะไรสัก อย่าง” ฉินหร่านไม่ได้ร้องไห้ตั้งแต่ทราบว่าสวีซื่ออิ่งเสียชีวิต ขณะนี้เธอกลับอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างขมขื่น
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอมุ่งความสนใจไปที่ตระกูลฉิน ถ้าไม่ใช่ เพราะเธอมุ่งความสนใจเรื่องเหตุผลการตายของตาตัวเอง อย่างน้อยเธอก็จะพบความผิดปกติที่เกิดขึ้นในตระกูลสวี!
อย่างน้อยก็ยังสามารถห้ามอาจารยแใหญ่สวีไว้ได้!
“เธอห้ามเขาไม่ได้หรอก” เฉิงเจวี้ยนปล่อยมือ มือทั้ง สองกดไหล่ฉินหร่านไว้ เขาก้มหน้าพร้อมกับพูดด้วยน้ําเสียง เคร่งขรึมจริงจังกว่าเดิม “เธอไม่รู้เหรอว่าท่านสวีเป็นคนหยิ่ง
ในศักดิ์ศรีแค่ไหน? เมื่อก่อนเขารับไม่ได้กับพฤติกรรมของ ฟังเจิ้นปั๋ว แต่ตอนนั้นคนตระกูลสวียังน่าขยะแขยงยิ่งกว่า ฟังเจิ้นปั๋วเสียอีก การตายของท่านสวีเป็นการไถ่โทษและเป็น ปณิธานของเขา สําหรับเขาแล้วนี่คือการปลดปล่อย เขาต่าง จากยายของเธอ ตอนนั้นยายเธอเป็นห่วงเธอ”
เฉิงเจวี้ยนยังมีอีกประโยคที่ไม่ได้พูด…
การตายของท่านสวี…
ความรู้สึกผิดและเสียใจเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ทว่า…
ในขณะเดียวกันเขาก็กระตุ้นฉินหร่านไปในตัว
เห็นได้ชัดว่าท่านสวีบรรลุเปูาหมายแล้ว
เฉิงเจวี้ยนเม้มปากมองไปยังนอกหน้าต่าง แววตาเยือก เย็น ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าสวีซื่ออิ่งใช้ความคิดมากมายแบบนี้ เขา คงไม่มีทางปล่อยให้ฉินหร่านไปรับเป็นศิษยแ!
**
ข่าวการเสียชีวิตของสวีซื่ออิ่งปะทุในเมืองหลวงในไม่ช้า
พิธีศพจัดขึ้นโดยพ่อบ้านสวีและสวีเหยากวง
ก่อนหน้าคือนายท่านเฉิง ต่อมาก็เป็นท่านสวี ทั้งหมดนี้ เป็นเช่นเดียวกับตระกูลฉินในตอนนั้น ตระกูลเก่าแก่ในเมือง หลวงต่างก็จําได้ว่าตอนนั้นตระกูลฉินล่มสลายเพราะนาย ท่านฉินจากไปโดยไม่มีเหตุผล จึงทําให้ตระกูลโอวหยางเลื่อน ลําดับตามหลังมา
และการเสียชีวิตของท่านสวีก็ได้ปลุกคนทั้งเมืองหลวง
ในเวลาเดียวกัน
ตึกระฟูา ศูนยแการเงินแห่งเมืองหลวง
ในห้องทํางาน
ชายชุดดําเคาะประตู เข้าไปด้วยความเคารพ “ท่านครับ คุณหนูโอวหยางเธอ…”
“อะไรนะ?” หมิงไห่หันกลับมาเล็กน้อย เขามองไปทาง ชายชุดดํา
ชายชุดดําคุกเข่าข้างเดียว “คุณหนูโอวหยางเธอถูกฉินห ร่านจับตัวไปสองวันแล้วครับ อีกอย่าง…คนที่เราส่งไปตามก็ หายไปอย่างไร้ร่องรอย!”
“ฉินหร่าน?” หมิงไห่วางถ้วยชาลง เขาเลิกคิ้ว “ฉัน ประเมินเธอต่ําไปจริงๆ สินะ?”
ชายชุดดําไม่กล้าพูด
หมิงไห่เคาะนิ้วบนถ้วยชา จู่ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา พูดด้วย เสียงราบเรียบ “ได้ ฉันจะลงมือเอง เธอมีอะไรดีกันแน่ เป็น พวกเหนือมนุษยแงั้นเหรอ?”
“ท่านจะไปพบเธอด้วยตัวเอง? แต่ว่านั่นก็แค่กากเดน ตระกูลฉินเท่านั้น” มือชะงักครู่หนึ่ง “ไม่มีความจําเป็นอะไร เลย”