เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 554 เรือนจําสากล
ร้านกาแฟค่อนข้างใหญ่
ประตูทางเข้าก็กว้างขวาง
ฉินหร่านติดกระดุมเสื้อกันลมทีละเม็ด มองสี่คนที่อยู่ ตรงหน้าอย่างสงบ ค่อยๆ เก็บใบหน้าเอ้อระเหยทีละนิด เธอ ยกมือขึ้น “มาพร้อมกันเลย”
หนึ่งนาทีต่อมา
“โครม โครม โครม โครม”
สี่เสียง
บอดี้การแดทั้งสี่ของหมิงไห่นอนระเนระนาดอยู่บนพื้น
ฉินหร่านยังยืนอยู่กับที่ เธอก้มหน้าปล่อยแขนเสื้อลง อย่างช้าๆ
แสงแดดยามเช้าไม่จ้ามาก สะท้อนมาที่ใบหน้า ละเอียดลออของเธอ กลิ่นอายเย็นยะเยือกที่อยู่รอบตัวเธอน่า ตกใจยิ่งกว่า
“คุณหนูฉิน” เฉิงมู่เดินมาอย่างสงบเสงี่ยม เขายื่น โทรศัพทแให้ฉินหร่านอีกครั้ง
ฉินหร่านกดรับสายแล้วเดินไปที่หัวมุมถนน คุยกับเหอ เฉินไปด้วย
เฉิงมู่นิ่งไปพักหนึ่ง เขาก้มหน้าชมสภาพบอดี้การแดทั้งสี่ ด้วยสีหน้าไร้อารมณแแล้วส่ายหน้า
ในร้านกาแฟ
เฉิงเจวี้ยนละสายตากลับ เขามองหมิงไห่แล้วพูดเรียบๆ “คุณยังไม่ได้ข่าวสินะ? ใช้บอดี้การแดสี่คนเพื่อต้องการรั้งตัว เธอไว้งั้นเหรอ?”
พอพูดจบ เฉิงเจวี้ยนก็ประสานมือไปทางหนิงไห่ “อย่า แตะต้องเธอ”
เขาพูดประโยคนี้อย่างแผ่วเบาก่อนจะหันหลังเดินออกไป
สีหน้าหมิงไห่ที่อยู่ด้านหลังมืดมนลงทีละนิด
“นายครับ ฉินหร่านนี่ดูจะแปลกไปหน่อย…” ลูกน้องคน สนิทที่อยู่ข้างๆ มองไปยังสี่คนที่นอนอยู่ด้านนอก หน้าเปลี่ยน สี
การมาเมืองหลวงครั้งนี้ พวกเขาพาแต่คนที่มีฝีมือมาด้วย เขาเองก็ยังสู้บอดี้การแดสี่คนนี้ไม่ได้
ทว่าฉินหร่านกลับเอาชนะได้ง่ายๆ …
ลูกน้องคนสนิทหน้าถอดสีอย่างต่อเนื่อง
อย่าว่าแต่เขาเลย เพราะแม้แต่หมิงไห่ก็อดหรี่ตาไม่ได้ “ติดต่อคุณหยางให้ฉันหน่อย…”
**
ภายในรถ
ฉินหร่านนั่งข้างคนขับ ขณะที่สวมหูฟังคุยกับเหอเฉินก็ เปิดเอกสารที่เฉิงเจวี้ยนให้มาไปด้วย
“ฉันเตรียมส่งโอวหยางเวยให้พี่” ฉินหร่านพูดนิ่งๆ
เหอเฉินที่อยู่ปลายสายเลิกคิ้ว “เธอแน่ใจ?”
ยายเด็กคนนี้โหดไปหน่อย
ฉินหร่านตอบเรียบๆ “แน่ใจ”
“ได้ ฉันจะส่งจดหมายทางราชการให้เธอ จริงสิ ฉันช่วย เธอจับตาดูทางฝั่งอวิ๋นเฉิงแล้วนะ” ทางด้านเหอเฉินกําลังขับ รถ เธอหัวเราะ “ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยสงบเท่าไหร่ ที่เธอให้ฉันจับตา ดูตระกูลมู่ฉันก็ดูให้แล้ว แต่จะดีกว่าถ้ารับไปอยู่เมืองหลวง อวิ๋นเฉิงอยู่ไกลเกินกว่าจะดูแลทั่วถึง”
มือฉินหร่านที่เปิดเอกสารชะงักเมื่อได้ยินที่เหอเฉินพูด “ฉันจะลองคิดดู”
มู่หนานคุยง่าย แต่หนิงเวย…
ฉินหร่านไม่แน่ใจว่าเธอจะมาเมืองหลวงหรือไม่
ฉินหร่านวางสายเหอเฉินพลางคิดเกี่ยวกับปัญหานี้อยู่สัก พักก่อนจะเปิดเอกสารต่อ
เมื่อคืนหลังจากฉินหร่านไปก็ไม่มีใครไปหาโอวหยางเว ยอีก สภาพจิตใจโอวหยางเวยเริ่มไม่สู้ดีแล้ว เธอจึงสารภาพ เรื่องอาจารยแใหญ่สวี
เรื่องราวไม่ต่างจากที่พ่อบ้านสวีบอก
จริงๆ แล้วโอวหยางเวยเล่าความจริงที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ให้อาจารยแใหญ่สวีฟัง
เห็นได้ชัดว่าโอวหยางเวยรู้เบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่า อาจารยแใหญ่สวี
ย้อนกลับไปตอนนั้น หนิงเอ่อรแเป็นคนมีความสามารถ เขาได้ทําวิจัยอารยธรรมที่มีการจดกรรมสิทธิ์ปล่องภูเขาไฟ หลายแห่ง เดิมทีเขาสามารถปูเส้นทางอยู่เมืองหลวงและรัฐM ได้โดยอาศัยสิ่งเหล่านี้
แต่ทว่ามีกองกําลังหลายฝุายที่ก่อความเคลื่อนไหวอยู่ เบื้องหลังเขา ฟังเจิ้นปั๋วขัดขวางการทดลองของหนิงเอ่อรแ ส่วนร่างกายหนิงเอ่อรแเองก็ได้รับรังสีเช่นกัน
ขณะที่หลายตระกูลข่มเหงหนิงเอ่อรแ ตระกูลสวีก็ไม่ได้ ออกหน้าให้ความช่วยเหลือ
เมื่อถูกกลุ่มคนเหล่านี้ผลักจนติดกําแพง แต่ละคนก็ อยากได้สิ่งที่หนิงเอ่อรแวิจัย แม้ว่าในท้ายที่สุดหนิงเอ่อรแจะ ถอนตัวออกจากเมืองหลวง แต่พวกเขาก็ได้เพียงแค่ ผลิตภัณฑแกึ่งสําเร็จในห้องปฏิบัติการชั้นใต้ดินชั้นที่สามไป เท่านั้น
เรื่องราวต่อจากนั้น ฉินหร่านก็พอจะเดาได้
หนิงเอ่อรแกับเฉินซูหลานปกปิดตัวตนกลับไปที่หนิงไห่ แต่ก็ไม่ได้หยุดค้นคว้าการวิจัย
ต่อมาเกิดระเบิดครั้งใหญ่ในห้องทดลองในเมืองหนิงไห่ มี นักวิจัยหลายคนที่เสียชีวิตจากเหตุการณแนี้…
เรื่องนี้เกี่ยวโยงกับหลายชีวิตนับไม่ถ้วน และแน่นอนว่า เกี่ยวข้องกับตระกูลสวีอยู่บ้าง…
ฉินหร่านอ่านจบโดยไม่ได้แสดงอารมณแผ่านทางสีหน้า เธอได้ยินพ่อบ้านสวีเล่ามาแล้วรอบหนึ่ง พอได้อ่านคําให้การ เหล่านี้อีกครั้งจึงไม่ได้ตกใจอะไรมาก
เธอเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่าตระกูลสวีทําถูกหรือไม่
เพราะถึงอย่างไร แม้ว่าตระกูลสวีจะยื่นมือช่วยในเวลา นั้นก็ไม่มีประโยชนแ แต่อย่างไรก็ตาม…
เรื่องที่อาจารยแใหญ่สวีวางแผนไว้ให้เธอทั้งหมดนี้ล้วน เป็นเรื่องจริง
ฉินหร่านหลับตา
เธอคิดไม่ถึงว่าอาจารยแใหญ่สวีจะมีนิสัยเด็ดขาดแบบนี้ ยอมตายแต่ไม่ยอมบอกความจริงกับเธอ
รถมาจอดอยู่ที่ที่ตั้งกองพันของผู้กองห่าว
เฉิงเจวี้ยนลงจากรถเดินมาเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ “ลง มาก่อน ตระกูลสวีเป็นยังไงบ้าง?”
ฉินหร่านถือเอกสาร “ฉันให้คนไปตระกูลสวีแล้ว พอจะ ระงับสถานการณแได้”
“งั้นก็ดี” เฉิงเจวี้ยนพยักหน้าแล้วเดินไปข้างในพร้อม ฉินหร่าน “แล้วน้าเธอล่ะ?”
เขาได้ยินเธอคุยกับเหอเฉินตอนที่อยู่ในรถแล้ว
“ฉันจะลองกลับไปถามน้าดู” ฉินหร่านหน้านิ่ง “ไม่อย่างนั้นฉันจะกลับไปหาเธอด้วยตัวเอง”
ถ้าหากหนิงเวยไม่มาเมืองหลวง เธอคงวางใจไม่ได้จริงๆ
“ทางด้านพี่เฉิงไม่เป็นไรนะ?” ฉินหร่านย้อนถามเฉิง เจวี้ยน
เธอจําได้ว่าตระกูลเฉิงกําลังเตรียมเลือกผู้นําตระกูล พอ มาเจอเรื่องนายท่านสวี ตระกูลเฉิงคงต้องระงับไว้ชั่วคราว… ถึงอย่างไรตอนนี้คนจากตระกูลชั้นสูงต่างก็รู้กันดี หากไม่รวม พลังกัน สี่ตระกูลหลักคงได้กลายเป็นเพียงประวัติศาสตรแ
“ทางด้านนั้นค่อยดูสถานการณแอีกที” เฉิงเจวี้ยนส่าย หน้า เขายื่นมือเปิดประตูเดินตรงเข้าไปในสํานักงาน
ในสํานักงาน เฉิงสุ่ยกับผู้กองห่าวก็อยู่ด้วย
“นายท่าน คุณหนูฉิน” เมื่อคนกลุ่มนี้ที่กําลังประชุมกัน อยู่เห็นฉินหร่านกับเฉิงเจวี้ยนเข้ามาก็รีบลุกขึ้นทันที กลุ่มคน ในกองพันชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นฉินหร่าน
“เจอปัญหายาก?” เฉิงเจวี้ยนปรายตามองพวกเขา
ผู้กองห่าวปิดเอกสารพลางส่ายหน้า “หมายจับไม่ สามารถบังคับใช้ภายในประเทศ…”
เขาขมวดคิ้ว
มีหมิงไห่คอยกดไว้ แม้ว่าโอวหยางเวยจะถูกจับกุมไว้ ชั่วคราวก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย สถานการณแในเมืองหลวงที่ควร จะวุ่นวายก็วุ่นวาย
ฉินหร่านนั่งฝั่งตรงข้ามผู้กองห่าว เงยหน้าขึ้น “ไม่ต้อง ฉันมีที่อื่นให้ไป”