เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 555 แจ้งมาเพื่อทราบ!
ขณะที่พูด ฉินหร่านก็ดูโทรศัพทแไปด้วย
เหอเฉินยังไม่ได้ส่งจดหมายทางราชการมาในโทรศัพทแ
เธอต้องใช้เวลาพอสมควรในการระดมจดหมายและ เจ้าหน้าที่ที่นั่น
“ที่ไหน?” ผู้กองห่าวตกตะลึง
ระหว่างที่ยังไม่ได้ข้อความ ฉินหร่านจึงไม่ได้รีบตอบ กลับไปในทันที แค่ส่ายหน้า “รอเดี๋ยว พาฉันไปดูโอวหยางเว ยก่อน”
ผู้กองห่าวหันไปสั่งคนพาฉินหร่านไปพบโอวหยางเวย
จนกระทั่งฉินหร่านไปแล้ว พวกลูกน้องของผู้กองห่าวที่ อยู่ในสํานักงานถึงได้ถอนหายใจออกมา
“คุณชายเจวี้ยน คุณรู้ปมการตายของท่านสวีหรือเปล่า? ผมมักจะรู้สึกว่ามันเกี่ยวข้องกับกองกําลังอื่นอีก” ผู้กองห่าว หันมามองเฉิงเจวี้ยน “คราวนี้คุณจะกลับทีมไหม…”
“อืม” เฉิงเจวี้ยนก้มหน้าเปิดเอกสารทางราชการ นิ้ว เคาะโต฿ะครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยท่าทางจริงจังและเคร่งขรึม
คราวนี้ถ้าไม่มีเฉิงเจวี้ยน โอวหยางเวยคงไม่ให้คําให้การ เร็วขนาดนี้
เฉิงเจวี้ยนตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับโอวหยางเวยมามาก ส่วนใหญ่จะเป็นคดีระดับสากล
ในประเทศไม่มีทางทําอะไรเธอได้
แต่ทางด้านท่านสวีก็ยังไม่มีหลักฐานใดๆ
“ลองดูไปก่อนว่าเธอจะพูดอะไรบ้าง” เฉิงเจวี้ยนปิด เอกสาร
ผู้กองห่าวพยักหน้าและพาเฉิงเจวี้ยนไปยังสถานที่กักขัง โอวหยางเวย
ฉินหร่านกําลังคุยกับโอวหยางเวยอยู่ข้างใน เมื่อมองผ่าน ห้องมอนิเตอรแจะสามารถได้ยินเสียงสนทนาของทั้งสองได้ อย่างชัดเจน
ภายในห้อง หน้าตาโอวหยางเวยทรุดโทรมเล็กน้อย แต่ ยังคงนั่งด้วยท่วงท่าสง่างาม เธอแค่มองฉินหร่านแล้วยิ้มราว กับว่ายังมีความสุขดี “การตายของท่านสวี เธอคงคิดไม่ถึง แน่ๆ”
ดวงตาดําขลับคู่นั้นของฉินหร่านมองเธอ
“เรื่องที่ควรสารภาพฉันก็สารภาพไปแล้ว” หลังจากตื่น ตระหนกครั้งก่อน โอวหยางเวยก็รักษาท่าทีสงบเสงี่ยม เธอ หลับตาและพูดอย่างเอ้อระเหย “พวกเธอจะฟูองฉันก็ได้นะ และแน่นอนว่าเธอจะตีฉันก็ได้ ที่นี่มีกล้องวงจรปิด”
“นายท่าน” เฉิงสุ่ยวางเอกสารในมือลงพลางครุ่นคิด “โอวหยางเวยกับท่านสวีอาจจะเกี่ยวข้องกันแค่ทางอ้อม เท่านั้น ยังมีอย่างอื่นอีกเธอถึงได้ไม่กลัวที่จะพูดหมดเปลือก”
“ผู้หญิงคนนี้!” ลูกน้องที่อยู่ข้างผู้กองห่าวทุบโต฿ะกัดฟัน “เป็นที่ชัดเจนว่าเธอรู้อยู่แล้วว่าเธอจะไม่เป็นอะไร มากกว่านี้ ก็แค่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง!”
อย่างมากที่สุดก็ถูกกักตัวไว้ช่วงหนึ่งในฐานะผู้ต้องสงสัย
และหลักฐานการกระทําผิดกฎหมายอื่นๆ ของโอวหยาง เวยก็จะไม่ได้รับการพิจารณาในประเทศ
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผู้กองห่าวบอกว่าไม่สามารถทําอะไร เธอได้
คนอย่างโอวหยางเวย จะไม่เหลือทางหนีทีไล่ให้ตัวเองได้ อย่างไร
นอกจากนี้ยังมีหมิงไห่ แม้โอวหยางเวยจะถูกคุมตัว แต่ เมื่อพิจารณาระดับความสําคัญที่หมิงไห่มีต่อโอวหยางเวย แล้ว เขาจะต้องใช้อิทธิพลช่วยเธอออกมาได้
“ความจริงยังมีที่ที่หนึ่งที่สามารถ…” ผู้กองห่าวนึกถึง สถานที่หนึ่งขึ้นมาได้
เฉิงสุ่ยมองผู้กองห่าวแล้วส่ายหน้า “คุณหมายถึงเรือนจํา สถานหนักสากลตรงเขตชายแดนใช่ไหม? ที่นั่นมีแต่คนชั่วช้า …ตอนที่เฉิงถู่ทําการค้ากับจระเข้ยักษแ เขาเคยไปที่นั่นมาแล้ว ครั้งหนึ่ง มีปูอมปราการที่แข็งแกร่ง แม้แต่ประตูใหญ่เขายัง เข้าไปไม่ได้”
คนที่อยู่ในที่แห่งนี้ล้วนเคยได้ยินสถานที่แห่งนั้นมาก่อน
ไม่มีนักโทษหลบหนีไปได้ตลอด 28 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้ง
ไม่มีใครรู้ประวัติที่ลึกลับซับซ้อนของเรือนจําสากลแห่งนี้
อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะใช้ชีวิตอยู่ อย่างสวัสดิภาพท่ามกลางความโกลาหลของสงคราม
เฉิงเจวี้ยนผงกหัวเล็กน้อย เขาหยิบโทรศัพทแออกมา กด ปลายนิ้วลงไปแล้วต่อสายหาเฉิงถู่
เฉิงสุ่ยมองผู้กองห่าวแล้วพูดว่า “เดี๋ยวต้องรบกวนคุณตัด ภาพกล้องวงจรปิดสักหน่อย”
กลุ่มคนที่อยู่ในห้องมอนิเตอรแรวมถึงเฉิงสุ่ยต่างก็สัมผัสได้ ว่าฉินหร่านจะลงไม้ลงมือกับโอวหยางเวยจริงๆ
ฉินหร่านไม่ได้มีนิสัยใจร้อนเพียงแค่วันสองวันเท่านั้น
ผู้กองห่าวพยักหน้า “ครับ”
หลังจากพวกเขาคุยกันเสร็จ กลับพบว่าฉินหร่านไม่ได้ เคลื่อนไหวใดๆ ในวิดีโอแม้แต่น้อย เธอแค่ตบแขนเสื้อ เมื่อ ถามในสิ่งที่ตัวเองอยากรู้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ลุกขึ้นแล้วออก จากห้องสืบสวน
กลุ่มคนในห้องมอนิเตอรแมองหน้ากัน
เฉิงเจวี้ยนถือเอกสารออกจากประตูไป
เจอฉินหร่านเดินออกจากห้องฝั่งตรงข้ามพอดี
“คุณหนูฉิน คุณอย่าโมโหกับคนอย่างเธอเลย…” เฉิง สุ่ยมองฉินหร่าน เขาดันแว่นตาแล้วพูดปลอบใจ
ฉินหร่านถือโทรศัพทแมาเล่น เปิดดูอีเมลก็ยังไม่พบ ข้อความ เธอส่ายหน้า “ไม่ได้โมโห”
“ฉันจะไปบ้านตระกูลสวีก่อน” แม้ว่ายังมีมือมืดอีกสอง สามคนที่ยังสืบไม่ได้ แต่ฉินหร่านยังต้องบอกสาเหตุการตาย ของท่านสวีกับพ่อบ้านสวีและสวีเหยากวงเสียหน่อย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องหนิงเวยอีก
ท่ามกลางสถานการณแแบบนี้ ฉินหร่านก็ไม่รู้ว่าที่อวิ๋นเฉิง จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าไม่รับหนิงเวยกับมู่หนานมาเมืองหลวง เธอก็ไม่วางใจ
**
วันรุ่งขึ้น
เฉิงเจวี้ยนนํารถมาจอดที่หน้าบ้านตระกูลสวี
พิธีศพท่านสวีจัดขึ้นวันนี้ วันนี้มีคนมาที่บ้านตระกูลสวี เป็นจํานวนมาก
ฉินหร่านลงจากรถ เธอหยุดอยู่ที่หน้าประตูบ้านตระกูลส วีโดยที่ยังไม่เข้าไป
เฉิงเจวี้ยนยืนอยู่กับเธอที่หน้าประตูบ้านตระกูลสวี
หลังจากนั้นไม่นาน โทรศัพทแในมือฉินหร่านก็ดังขึ้น
เธอก้มดู พบว่าแถบบนโทรศัพทแมีข้อความอีเมลใหม่ ปรากฏอยู่ เหอเฉินเป็นคนส่งมา
มือฉินหร่านชะงัก เธอกดเปิดดู มันคือจดหมายแจ้งจาก ทางราชการ
เธอก้มหน้าเปิดสมุดโทรศัพทแหาเบอรแผู้กองห่าวแล้วต่อ สายไป
“คุณหนูฉิน?” ปลายสายเป็นเสียงของผู้กองห่าว ค่อนข้างประหลาดใจ
ฉินหร่านพูดเบาๆ “ส่งตัวโอวหยางเวยไปเรือนจําสากล”
สําหรับผู้กองห่าว นี่แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย เขานิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะยิ้มแบบฝืนๆ “คุณหนูฉิน พวกเรา สามารถกักตัวเธอไว้ได้ แต่…”
“ได้จดหมายทางราชการแล้ว” ฉินหร่านเงยหน้ามองไป ยังแสงอาทิตยแที่ไม่แรงมากเหนือศีรษะ “ฉันจะส่งให้คุณ”
เธอพูดจบก็วางสาย
กดส่งจดหมายทางราชการของเหอเฉินไป
หลังจากส่งข้อความเรียบร้อยแล้ว ฉินหร่านก็ปิด โทรศัพทแแล้วเดินไปที่หน้าประตูบ้านตระกูลสวี
ปลายสายอีกด้านหนึ่ง ผู้กองห่าวยังนั่งอยู่ริมโต฿ะทํางาน โบกมือให้ลูกน้องนําเอกสารมาวางก่อน จากนั้นก็เปิดเอกสาร ที่ฉินหร่านส่งมา
เป็นจดหมายทางราชการหนึ่งฉบับ——
(เอกสารรับรองการออกหมายจับ
หมายจับเลขที่ 196 ปี 20X9
……
แจ้งมาเพื่อทราบ!
เรือนจําสถานหนักเขตชายแดน
เหอเฉิน)