เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 559 หนึ่งในหายักษแใหญ
ตระกูลเนี่ย เฉิงเวินหรูก็ไม่รู้ว่าจู่ๆ ตระกูลเนี่ยโผล่มา ตั้งแต่เมื่อไหร่
มีคนให้ความช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง
เฉิงเวินหรูไม่ใช่คุณหนูลูกเศรษฐีที่ไม่รู้อะไรเลย เธอ ค่อยๆ ค้นพบว่าตระกูลเนี่ยมีความคิดที่จะรุกรานตระกูลเฉิง และสิ่งที่น่าตกใจก็คือตระกูลเฉิงกับตระกูลสวีกําลังเดินตาม รอยตระกูลฉิน
การขนส่งสินค้าที่เป็นไปอย่างราบรื่นมาโดยตลอดถูกยึด ที่รัฐFโดยไม่ทราบสาเหตุ คาดว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคงมีอํานาจ มากถึงขนาดแทรกแซงเรื่องภายในรัฐFได้?
ตอนที่นายท่านเฉิงยังมีชีวิตอยู่ ตระกูลเฉิงกับตระกูลสวี ต่างก็เป็นเจ้าพ่อในวงสังคมนี้ วันนี้ทั้งสองตระกูลเกิดความ พลิกผันอย่างหนัก ถึงขนาดมีคนกล้าลูบหัวตระกูลเฉิง
ในช่วงเวลาแบบนี้ ภายในตระกูลเฉิงยังเกิดสงคราม ภายใน
เฉิงเวินหรูถือถ้วยชาไว้ในมือ เมื่อเธอที่กําลังเผชิญหน้า กับคนตระกูลเนี่ยได้ยินดังนั้นก็เงยหน้ามองคนของตระกูล เนี่ยคนนั้น
ไม่พูดอะไร
สัญญาฉบับนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นการเฉือนเนื้อตระกูลเฉิง และบริษัทของเธอ หลังจากเซ็นสัญญาแล้วมีการประกาศ ออกไป ชื่อเสียงและอิทธิพลของตระกูลเฉิงก็จะย่อยยับ ในทันที
นิ้วเฉิงเวินหรูสั่นระริก
“คุณหนูใหญ่เฉิง หากยื้อเวลาต่อไป พวกคุณจะเอา สินค้ากลับมาไม่ได้ ตระกูลที่ร่วมทุนมูลค่าหลายพันล้าน หยวนมีไม่ใช่น้อยๆ หากยื้อนานเข้า…” พอคนตระกูลเนี่ยเห็น เฉิงเวินหรูเงียบไป ก็พูดอย่างละมุนละม่อม
“คุณหนูใหญ่ เซ็นก่อนเถอะครับ ถ้าไม่เซ็น พวกเราจะ สูญเสียยิ่งกว่า” ผู้ถือหุ้นสองคนในบริษัทเกลี้ยกล่อมเฉิงเวิน หรู
ผู้ถือหุ้นก็คิดว่าเป็นการเฉือนเนื้อ แต่ไม่มีหนทางอื่น
ไม่ว่าพวกเขาสี่ตระกูลหลักจะเก่งกาจแค่ไหนในเมือง หลวง แต่พวกเขาก็ต้องจนปัญญากับรัฐFและรัฐM
เฉิงเวินหรูทุกขแทรมานใจ “พวกคุณแน่ใจนะว่าจะปล่อย สินค้าล็อตนั้นให้มาถึงที่นี่อย่างปลอดภัย?”
“คุณหนูใหญ่ พวกคุณคิดว่าพวกเราตระกูลเนี่ยเอาชีวิต คนมาล้อเล่น?” คนตระกูลเนี่ยมองเฉิงเวินหรู
เฉิงเวินหรูพยักหน้า เธอเอนหลังแล้วถอนหายใจ
หากไม่คํานึงถึงตระกูลเฉิง บริษัทนี้เธอกับเฉิงเจวี้ยน ทุ่มเทไปไม่น้อย การวางแผนกลยุทธแในช่วงแรกๆ ก็ล้วนเป็น เฉิงเจวี้ยนที่สอนเธอทีละนิดทีละหน่อย
สินค้าล็อตนั้นเป็นเครื่องมือการแพทยแของ ห้องปฏิบัติการทางการแพทยแและเวชภัณฑแจํานวนมาก
มีผู้ปุวยหลายหมื่นคนทั่วประเทศกําลังรอความช่วยเหลือ อยู่ เฉิงเวินหรูรู้สึกแย่มาก
“อย่างอื่นฉันรับปากได้หมด แต่ให้น้องสามฉันไปตรวจ อาการนั้นเป็นไปไม่ได้” เฉิงเวินหรูเงยหน้า “พวกคุณน่าจะรู้ ข้อกําหนดของเขา”
ไม่มีทาง!
ตระกูลเฉิงกุมอํานาจองคแกรการแพทยแทั้งประเทศ เพื่อ สินค้าล็อตนี้จึงได้แต่ก้มหัวให้ตระกูลเนี่ย!
เฉิงเวินหรูคิดโยงไปหลายเรื่อง ตั้งแต่เมืองหลวงมีข่าวลือ ว่าตระกูลเฉิงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีนายท่านเฉิง เช่นเดียวกับตระกูล ฉินที่ถูกตระกูลอื่นแทนที่
เธอเข้าใจดีว่านี่อาจจะเป็นแค่จุดเริ่มต้น
อย่างอื่นเธอถอยให้ได้ มีเพียงเรื่องเฉิงเจวี้ยนเท่านั้นที่เฉิง เวินหรูไม่คิดจะถอย
เมื่อได้ยินดังนั้น คนตระกูลเนี่ยก็เชิดคางขึ้น พูดจา กระทบกระเทียบ “คุณหนูใหญ่ ได้ยินมาตั้งนานแล้วว่าพวก คุณสองพี่สองมีความสัมพันธแที่ดีต่อกัน ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็น อย่างนั้นจริงๆ แต่ก็แค่ให้เฉิงเจวี้ยนมาช่วยดูอาการปุวยผู้นํา ตระกูลของเราเท่านั้นเอง เงื่อนไขเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้เขาคง ไม่ปฏิเสธหรอกมั้ง”
ตอนนี้เมืองหลวงต้องการเหยียบเฉิงเจวี้ยน มีคน มากมายอยากเห็นเฉิงเจวี้ยนเป็นตัวตลก
เงื่อนไขเพิ่มเติมนี้ เดิมทีตระกูลเนี่ยแค่ต้องการดูว่า คุณชายเฉิงผู้สูงส่งมาโดยตลอดจะก้มหัวอย่างไร
“พวกคุณอย่าให้มันมากเกินไป!” เฉิงเวินหรูเงยหน้าขึ้น ทันที แววตาเย็นเฉียบ
“คุณหนูใหญ่ ดูเหมือนพวกคุณจะไม่อยากร่วมงานกัน?” คนตระกูลเนี่ยไม่กระวนกระวายแม้แต่น้อย แค่มองเฉิงเวินหรู อย่างเหน็บแนม
“เฉิงเวินหรู” เฉิงเหราฮั่นที่อยู่ข้างเฉิงเวินหรูตบโต฿ะ พูด ด้วยความโมโห “ตระกูลเฉิงเลี้ยงดูมันมาตั้งนาน ให้มันไปทํา
เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่ดูอาการปุวยผู้นําตระกูลเนี่ยก็ทํา ไม่ได้?”
พอพูดจบ เฉิงเหราฮั่นก็หันไปมองคนตระกูลเนี่ย พูด ด้วยน้ําเสียงผ่อนคลาย “คุณเนี่ย ผมจะคุยเรื่องนี้กับเขาด้วย ตัวเอง”
“ไม่ได้ ตราประทับอยู่ในมือฉัน” เฉิงเวินหรูส่ายหน้า
รอยยิ้มน้อยๆ ของผู้บริหารงานตระกูลเนี่ยเปลี่ยนไปใน ที่สุด หน้าเคร่งขรึม “ดูเหมือนว่าคุณหนูใหญ่จะไม่ยอม ร่วมมือกับเรา พวกคุณคงไม่ต้องการสินค้าในรัฐFแล้วงั้นสิ อีกอย่าง เฉิงเวินหรู ที่เรียกเธอว่าคุณหนูใหญ่ก็ถือว่าเป็นการ
ให้เกียรติเธอแล้ว ที่ไม่ให้คนไปจับเฉิงเจวี้ยนมาดูอาการปุวย นายท่านของเราก็เพราะเห็นแก่หน้าเธอเหมือนกัน เธอคิดว่า ตอนนี้พวกเราตระกูลเนี่ยยังจําเป็นต้องเรียนเชิญเฉิงเจวี้ยน ไหม?”
ทันทีที่คําพูดนี้ถ่ายทอดออกมา
เฉิงเวินหรูก็เงยหน้าขึ้นทันที
ตั้งแต่ตระกูลเนี่ยเป็นฝุายหาทางมาช่วยพวกเขาปรับ ความเข้าใจ เฉิงเวินหรูก็รู้แล้วว่าต้องมีคนคอยหนุนหลัง ตระกูลเนี่ย ส่วนที่ว่าเป็นกองกําลังฝุายไหน เธอยังสืบไม่พบ
“ให้เวลาพวกเธออีกวัน พวกเธอคิดให้ดีแล้วกัน! จะให้ พวกเราไป ‘เชิญ’ เขา หรือเธอจะคุยกับเขาเอง” ผู้บริหาร งานตระกูลเนี่ยถือสัญญาเดินตรงออกไป
หลังจากคนตระกูลเนี่ยไปแล้ว
บรรยากาศในห้องทํางานกลับไม่สู้ดี
“คุณหนูใหญ่…” ผู้ถือหุ้นและคนตระกูลเฉิงต่างมองมา ทางเฉิงเวินหรู
เฉิงเวินหรูยกมือขึ้นพลางส่ายหน้า “พวกคุณให้ฉันลอง คิดดีๆ ก่อน”
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็เงยหน้ามองเฉิงเหราฮั่น “ใน เมื่อพี่แตกคอกับน้องสามแล้ว ตอนนี้ก็ไม่ต้องไปโทร.หาเขา!”
เฉิงเหราฮั่นที่กําลังถือโทรศัพทแชะงัก สีหน้าบึ้งตึง “ได้ เฉิงเวินหรู ฉันจะคอยดูว่าเธอจะลงเอยยังไง!”
เฉิงเหราฮั่นปิดประตูแล้วเดินออกไป
“เลขาหลี่ กองกําลังตระกูลเนี่ยสืบได้หรือยัง?” เฉิงเวิน หรูมองโทรศัพทแ เอนหลังพิงเก้าอี้อย่างอ่อนแรง หลับตา เล็กน้อย
เลขาหลี่ดันแว่นตาขึ้น พูดด้วยเสียงเคร่งขรึม “สืบได้แล้ว ครับ หนึ่งในห้ายักษแใหญ่แห่งเอเชีย”
เฉิงเวินหรูใจเย็นเฉียบลงครึ่งหนึ่ง
แม้จะเป็นยามที่ตระกูลเฉิงอยู่ในยุครุ่งเรือง ก็เทียบไม่ได้ กับห้ายักษแใหญ่นี้…
มิน่าล่ะ ไม่น่าแปลกใจเลยที่สามารถขัดขวางสินค้าของ ตระกูลเฉิงในรัฐFได้อย่างง่ายดาย
**
วันต่อมา
วิลล่า
“หร่านหร่าน ช่วงนี้สบายดีไหม?” เฉิงเวินหรูเข้ามาที่ ห้องโถง ท่าทีของเธอไม่ต่างจากเมื่อก่อน “เธอจะสืบทอด
สถาบันวิจัยไหม? พวกฟังเจิ้นปั๋วทางฝั่งสถาบันวิจัยกดดัน หรือเปล่า?”
ท่านสวีไม่อยู่แล้ว ตําแหน่งผู้ดูแลสถาบันวิจัยก็ว่าง
ท่านสวีเลือกฉินหร่านก่อนจากไป ทว่าตอนนี้ฉินหร่านไม่ มีท่านสวีคอยหนุนหลัง การที่เธอรับช่วงต่อสถาบันวิจัย…