เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 560 นายท่่านหยาง : พ่่อบุญธรรมจะไป ร่่วมแสดงความยินดีกับเธอ
- Home
- เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ
- ตอนที่ 560 นายท่่านหยาง : พ่่อบุญธรรมจะไป ร่่วมแสดงความยินดีกับเธอ
เฉิงเวินหรูอยากช่วยเธอ ทว่ามีใจจะทําแต่กําลังไม่พอ
เวลานี้ตระกูลเฉิงก็ประสบปัญหาใหญ่เช่นกัน…
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…
เฉิงเวินหรูมองฉินหร่าน เธอคิดว่าตระกูลสวีก็คงหนีไม่ พ่่้น
หลังจากท่านสวีเสียชีวิต ฉินหร่านก็ถูกบีบบังคับให่่้ทําใน สิ่งที่ไม่อยากทํา
“ไม่เป็นไรค่ะ” เฉิงเจวี้ยนกําลังคุยธุระกับเฉิงสุ่ยอยู่ใน ห่่้องหนังสือชั้นบน ฉินหร่านชงชาอ่อนๆ ให่่้เฉิงเวินหรู จากนั้นก็ส่ายหน่่้า “พี่เฉิง คุณไม่ต่่้องเป็นห่วงฉัน ช่วงนี้คุณ สบายดีไหม?”
ฉินหร่านมองเฉิงเวินหรู เวลาพวกเฉิงสุ่ยคุยธุระกันก็ไม่ เคยปิดบังเธอ ดังนั้นเธอจึงรู่่้ว่าช่วงนี้ตระกูลเฉิงกําลังประสบ ปัญหา
เฉิงเวินหรูรั้งริมฝีปาก ยิ้มเบาๆ “ฉันจะมีปัญหาอะไรได่่้ เธอนั่นแหละ เรื่องสถาบันวิจัย ถ่่้าเธอทนไม่ไหวจริงๆ ก็ถอน ตัวออกมาเถอะ นั่นไม่ใช่สถานที่ที่ดี ไม่มีท่านสวีอยู่ ฉันล่ะ เป็นห่วงเธอจริงๆ”
เธอเห็นสิ่งที่อยู่ในตัวฉินหร่าน ฉินหร่านเป็นคนหัวรั้น ฉุนเฉียว และโมโหง่าย
ดวงตางดงามคู่นั้นแฝงไปด่่้วยสีเลือดเล็กน่่้อย ทั้งยัง ขมุกขมัวเต็มไปด่่้วยไอสังหารเฉียบคมอย่างที่เฉิงเวินหรูไม่เคย เห็นมาก่อน
แม่่้ใบหน่่้าจะสุกสกาวเหมือนพระจันทรแ แต่ก็ทําให่่้คนไม่ ค่อยกล่่้าเข่่้าใกล่่้
มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในช่วงนี้ แม่่้แต่เฉิงเวินหรู เองก็อยู่ภายใต่่้แรงกดดันมหาศาล ยิ่งไม่ต่่้องพูดถึงการ เสียชีวิตของนายท่านทั้งสอง ภาระหนักที่ทิ้งไว่่้ให่่้ฉินหร่านมี ทั้งตระกูลสวีส่วนหนึ่งและสถาบันวิจัยส่วนหนึ่ง
ฉินหร่านเป็นคนไม่ค่อยพูด เธอแค่มองเฉิงเวินหรูแล่่้ว พยักหน่่้าเบาๆ
เธอเชื่อว่าเฉิงเจวี้ยนสามารถจัดการเรื่องตระกูลเฉิงได่่้ดี
“อีกสองวันก็จะรับช่วงต่อแล่่้ว พี่เฉิง คุณไม่ต่่้องเป็น ห่วง” เมื่อพูดถึงสถาบันวิจัย สายตาฉินหร่านก็ยิ่งเฉียบคมขึ้น
ในเมื่ออาจารยแใหญ่สวีต่่้องการให่่้เธอรับช่วงต่อ สถาบันวิจัยได่่้อย่างราบรื่น อยากให่่้เธอพาตาของเธอและ สถาบันวิจัยไปสู่รัฐM เพราะฉะนั้นเธอก็จะทําให่่้ได่่้
ทั้งสองคุยกันไม่กี่ประโยค
ไม่นานเฉิงเจวี้ยนก็เดินลงมาจากชั้นบน
โทรศัพทแในกระเปาฉินหร่านส่งเสียงขึ้นมาพอดี
เธอก่่้มหน่่้าดูหมายเลขโทรศัพทแ พบว่าเป็นหมายเลขนิร นามจากรัฐM
ฉินหร่านนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะถือโทรศัพทแและบอกเฉิง เวินหรู จากนั้นก็ขึ้นไปชั้นบน
เฉิงเวินหรูก็มีเรื่องจะคุยกับเฉิงเจวี้ยนพอดี เธอจึงไม่ได่่้ สังเกตสีหน่่้าท่าทางฉินหร่าน
ต่างจากเฉิงมู่ที่เหลือบมองฉินหร่านอยู่ไม่ไกล เขา ประหลาดใจเล็กน่่้อย “คุณหนูฉินหลบคนไปรับโทรศัพทแ สาย นั้น จะต่่้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ”
เฉิงมู่คุยกับเฉิงจิน
เมื่อเฉิงจินที่กําลังคิดเกี่ยวกับเรื่องที่เขาเพิ่งคุยกับเฉิง เจวี้ยนเมื่อสักครู่ได่่้ยินดังนั้น เขาก็ปรายตามองเฉิงมู่ ไม่สนใจ เขา
**
ชั้นบน ฉินหร่านปิดประตูก่อนจะกดปุุมรับสาย
แววตาเธอเย็นยะเยือก เสียงแหบอันแสนเย็นชาฟังดู สุภาพขึ้นเล็กน่่้อย “พ่อบุญธรรม”
“หร่านหร่าน” เสียงนายท่านหยางที่อยู่ปลายสายแฝงไป ด่่้วยรอยยิ้ม “ได่่้ยินว่าเธอจะรับช่วงต่อสถาบันวิจัยเมืองหลวง เหรอ?”
“ค่ะ” ฉินหร่านยืนอยู่ริมหน่่้าต่าง ขณะที่เธอกําลังเปิด ผ่่้าม่านก็ได่่้ยินประโยคนี้ น้ําเสียงทั้งแห่่้งทั้งเย็น
นายท่านหยางหัวเราะ “งานใหญ่แบบนี้จะไม่เชิญพ่อบุญ ธรรมหน่อยเหรอ? วันไหน? พ่อบุญธรรมจะไปร่วมแสดง ความยินดีกับเธอ”
“คุณจะมา?” ฉินหร่านผงะ
นายท่านหยางอยู่ต่างประเทศมาโดยตลอด ธุระในอวิ๋นก วงกรุ฿ปล่่้วนมอบให่่้เป็นหน่่้าที่หยางซูเยี่ยน เขาไม่ได่่้เดินทาง กลับประเทศจีนมานานกว่าสิบปีแล่่้ว
“ไม่ต่่้อนรับ?” นายท่านหยางเลิกคิ้ว
“ไม่ใช่หรอกค่ะ” ฉินหร่านถอนหายใจ
เธอก็แค่คิดว่ามันวุ่นวายเกินไป
ทําไมพวกเขาแต่ละคนถึงมาเมืองหลวง
“คุณมาถึงเมื่อไหร่ ฉันจะไปรับ” ฉินหร่านคิดอยู่สักพักก็ เอ่ยถาม
“ไม่ต่่้อง มีพี่ชายเธอช่วยฉันก็พอแล่่้ว เขาอยู่จีนนานกว่า ฉัน จริงสิ หยางเฟยก็จะกลับพร่่้อมฉัน” นายท่านหยาง หัวเราะ
“เขาแข่งอยู่ที่ต่างประเทศไม่ใช่เหรอคะ?” ฉินหร่าน คํานวณเวลาดูแล่่้ว เป็นการแข่งขันรอบฤดูใบไม่่้ผลิ
อย่างไรก็ตามช่วงนี้เธอยุ่งจนปวดหัว จึงไม่รู่่้เวลาที่แน่ชัด
“วันนี้เป็นสนามสุดท่่้าย แข่งเสร็จก็ตามฉันกลับไปด่่้วย ไม่ร่วมงานเลี้ยงฉลอง” นายท่านหยางพูดอย่างสุขุม
ฉินหร่านปวดหัวกดขมับ
เธอคุยกับนายท่านหยางอีกไม่กี่ประโยคก็วางสาย
มีคนมาร่วมสนุกมากไป
คิดๆ ดูแล่่้วก็ส่งข่่้อความให่่้พ่อบ่่้านสวี——
(พิธีรับตําแหน่ง ทางฉันยังมีแขกอีกสองสามคน)
พ่อบ่่้านสวีที่ได่่้รับข่่้อความจากฉินหร่านอยู่ในระหว่าง การประชุม ตระกูลสวีกําลังประชุมด่วน
“ฟังเจิ้นปั๋วมีความเคลื่อนไหวแล่่้ว มอบสถาบันวิจัยให่่้ คุณหนูฉินตอนนี้จะเหมาะไหม…” ผู่่้ดูแลตระกูลสวีท่านหนึ่ง ส่ายหน่่้า “คราวนี้ลําบากคุณหนูฉินแล่่้วจริงๆ ”
“คุณปูุไม่อยู่ ตระกูลสวีก็ยังอยู่” สวีเหยากวงสายตาเย็น เฉียบ ท่าทางของเขาดูเย็นชากว่าเดิม “ทุกคนจงจําไว่่้ แม่่้ว่า ไม่มีคุณปูุ ฉินหร่านก็ยังเป็นผู่่้สืบทอดสถาบันวิจัยและเป็นผู่่้ สืบทอดอํานาจตระกูลสวี”
“แน่นอนว่าตระกูลสวีจะให่่้การสนับสนุนเธอ แต่ตอนนี้ ไม่มีนายท่านคุมบังเหียน ผมกลัวว่าพิธีรับตําแหน่งจะมี ปัญหา” ผู่่้อาวุโสตระกูลสวีเอ่ยขึ้นมาด่่้วยความกังวล
ทันทีที่พูดประโยคนี้ออกมา ห่่้องประชุมก็เงียบไปสักพัก
การประชุมเป็นการหารือเรื่องสถาบันวิจัย ทันทีที่ท่านส วีเสียชีวิต คนของสถาบันวิจัยต่างก็คิดว่าตระกูลสวีจะ แก่งแย่งชิงดีกันและเริ่มก่อความไม่สงบ ในช่วงเวลานี้จึงทําได่่้ เพียงเปิดตัวผู่่้สืบทอดคนใหม่
แรงกดดันทั้งหมดจึงตกอยู่ที่ฉินหร่าน
เดิมทีฉินหร่านมีตระกูลเฉิงคอยหนุนหลัง แต่ตอนนี้ เบื้องหลังกลับพังไปแล่่้ว ท่านสวีก็ไม่อยู่ เหลือเพียงตระกูลฉิน ที่โผล่มาช่วงเวลานี้ แต่หากต่่้องการจะสยบฟังเจิ้นปั๋วนั้น…
กําลังยังไม่พอ
ทั้งหมดแยกย่่้ายจากการประชุมด่่้วยความกลัดกลุ่่้ม
พ่อบ่่้านสวีถือโทรศัพทแเดินมาตรงหน่่้าสวีเหยากวง “พิธี รับตําแหน่ง ทางคุณหนูฉินยังมีแขกอีกสองสามคน ผมจะไป เตรียมการ”
“อืม เรื่องหยุมหยิมพวกนี้คงต่่้องรบกวนคุณแล่่้ว ต่่้อนรับให่่้ดี” สวีเหยากวงผงกหัว หันหลังกลับไปที่ห่่้อง หนังสือ
พ่อบ่่้านสวีก็เดินออกไปด่่้วยความกังวล