เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 569 ผานไปอยางรวดเร็ว
“ลูกสาวบุญธรรมของท่าน?” ฟังเจิ้นปั๋วที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ถึงกับอึ้ง จากนั้นก็มองไปทางที่นายท่านหยางบอก ลองเอ่ย ถามหยั่งเชิง “ลูกสาวบุญธรรมของท่านเป็นใครครับ?”
ทิศทางที่นายท่านหยางมองไปค่อนข้างแออัด เป็นที่นั่ง แขก
มีทั้งผู้หญิงผู้ชายทุกเพศทุกวัย
ตามอายุของนายท่านหยางแล้ว ฟังเจิ้นปั๋วเดาไม่ออกว่า เขาพูดถึงใคร
“พูดแล้วเธอยังเป็นดาวดวงใหม่ในวงการฟิสิกสแอีกด้วย” นายท่านหยางยังคงยิ้ม เขาโบกมือให้ฉินหร่าน น้ําเสียงเต็มไป ด้วยอารมณแ “หร่านหร่าน มานี่สิ”
เขาพูดเสียงดัง
ตอนที่นายท่านหยางพูด คนอื่นก็ไม่ค่อยกล้าคุยกัน จึงได้ ยินเสียงของเขาอย่างชัดเจน
หากเรียกชื่ออื่น คนในงานอาจจะไม่รู้จักจริงๆ
แต่ฉินหร่าน…คือคนดังของเมืองหลวงในช่วงเวลานี้ เมื่อ ได้ยินว่า “หร่านหร่าน” ทุกคนต่างก็มองไปทางฉินหร่านกัน หมด
เฉิงเวินหรูที่กําลังจิบไวนแพลางครุ่นคิดถึงกับเงยหน้าทื่อๆ มองไปทางฉินหร่าน
คําว่า “บ้าเอ฿ย” ที่เดิมอยู่ในใจเป็นพันล้านคํา ถูกเอ่ย ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ในเวลาเดียวกัน มือฉินหร่านกําลังถือน้ําผลไม้ข้างหนึ่ง และถือโทรศัพทแพลางคุยกับเฉิงเจวี้ยนอยู่ เหมือนกําลังส่ง ข้อความหาใครบางคน
พอได้ยินเสียงนายท่านหยาง เธอก็เงยหน้าขึ้นด้วยความ งุนงงเล็กน้อย
ข้างๆ เธอ มือเฉิงเจวี้ยนที่กําลังถือน้ําเปล่าชะงัก
ดวงตาของเขาทั้งมืดและดูลึกลับ
สายตาคนทั้งงานพากันมองมาทางนี้ อารมณแบนหน้าเฉิง เจวี้ยนไม่ได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
เขานิ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้น ดวงตาใสแจเวมองฉินหร่าน เหมือนหัวเราะเบาๆ “เจ฿หร่าน เรียกเธอน่ะ”
จากนั้นก็ยื่นมือไปเก็บน้ําผลไม้ในมือฉินหร่านลงอย่างใจ เย็น ถอนหายใจหน่อยๆ “มิน่าล่ะเธอถึงบอกว่าไม่ต้องไปรับ พ่อบุญธรรมของเธอ ไปสิ”
“ไม่ใช่เสียหน่อย” พอได้ยินเฉิงเจวี้ยนพูดแบบนี้ ฉินห ร่านก็ไม่ได้รีบไปในทันที เธอพลิกโทรศัพทแในมือแล้วหันมา
มองเขา จากมุมนี้จะเห็นโครงหน้าคมคายของเขาอย่าง ชัดเจน “…ฉันรวมตัวกับพวกเขาไม่บ่อย”
เฉิงเจวี้ยนเลิกคิ้ว “กลับไปแล้วค่อยคุยกัน”
“เอ฿ะ” ฉินหร่านลูบหูอย่างหงุดหงิด
**
เมื่อเห็นฉินหร่านเดินมาอย่างช้าๆ
ฟังเจิ้นปั๋วรูม่านตาหด
ลูกสาวบุญธรรมที่นายท่านหยางพูดมาจากปาก…คือ ฉินหร่าน?
นี่มันเรื่องเหลือเชื่ออะไรกันเนี่ย ? !
ฟังเจิ้นปั๋วหันไปมองนายท่านหยางทันที “นายท่านหยาง คุณหมายถึง…”
“นั่นก็คือฉินหร่าน” นายท่านหยางมองฟังเจิ้นปั๋วแล้วยิ้ม “ลูกสาวบุญธรรมของผม เธอเป็นคนของสถาบันวิจัยของ พวกคุณ”
ฟังเจิ้นปั๋วว้าวุ่นใจไปหมด
ฉินหร่านมีความเกี่ยวข้องกับอวิ๋นกวงกรุ฿ปได้อย่างไร?
ทําไมไม่ได้ข่าวในเมืองหลวงเลยแม้แต่น้อย?
ในหัวฟังเจิ้นปั๋วมีภาพมากมายนับถ้วนแวบเข้ามา แม้เขา จะทุ่มสมาธิไปที่สถาบันวิจัยเสียส่วนใหญ่ แต่เขาก็ยังให้ความ สนใจกับสถานการณแในเมืองหลวงเช่นกัน
ตระกูลเฉิง ตระกูลสวี ตระกูลฉิน และตระกูลโอวหยาง… เรื่องใหญ่ๆ ของตระกูลเหล่านี้ล้วนผ่านหูเขามาหมด การที่ ฟังเจิ้นปั๋วสามารถมาอยู่ตําแหน่งปัจจุบันนี้ได้ ก็เป็นเพราะ มันสมองที่ยอดเยี่ยม
พริบตาเดียวก็เชื่อมโยงเรื่องราวเข้าด้วยกัน
มิน่าล่ะ ฉินฮั่นชิวถึงได้โต้กลับและคว้าสัญญาความ ร่วมมือของทีมแกนหลักจากอวิ๋นกวงกรุ฿ปมาได้ เขาเอาชนะ คุณชายสี่ตระกูลฉิน!
มิน่าล่ะ แม้แต่โอวหยางเวยยังแพ้ฉินหร่าน!
มิน่าล่ะ หลังจากท่านสวีตาย ตระกูลสวีก็ยังมีกองกําลัง ตั้งมั่นอยู่กลุ่มหนึ่ง!
มิน่าล่ะ เฉิงเจวี้ยนล้ม แต่ทั้งสองก็ไม่กังวลแม้แต่น้อย!
ฉินหร่านคือลูกสาวบุญธรรมของนายท่านหยางแห่งอวิ๋ นกวงกรุ฿ป ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ทุกอย่างก็ดูจะสมเหตุสมผล กันไปหมด!
“ผมได้ยินมาว่าหร่านหร่านเธอจะรับตราประทับของ สถาบันวิจัยด้วย” นายท่านหยางยิ้มแล้วมองฟังเจิ้นปั๋ว “เธอ ยังเด็ก คงต้องรบกวนคุณช่วยดูแลเธอให้มากๆ”
ฟังเจิ้นปั๋วยกมุมปากแบบฝืนๆ
คําพูดของนายท่านหยาง เขาจะกล้าพูดอะไรได้?
นายท่านเฉิงกับนายท่านสวีไม่อยู่ เขาจึงกุมอํานาจใน สถาบันวิจัย ไม่จําเป็นต้องกลัวตระกูลสวีหรือตระกูลเฉิง แต่ นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า…เขาจะไม่กลัวนายท่านหยางหรืออวิ๋ นกวงกรุ฿ป
ฉินหร่านเป็นลูกบุญธรรมของนายท่านหยาง ซึ่งน้อยมาก ที่นายท่านหยางจะปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน แต่แล้วจู่ๆ เขาก็ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน ฟังเจิ้นปั๋วพอจะเดาออกแล้ว ว่าฉินหร่านมีความสําคัญต่อนายท่านหยางมากแค่ไหน
เรื่องวันนี้ไม่จําเป็นต้องพูด ฟังเจิ้นปั๋วกลัว…
อวิ๋นกวงกรุ฿ปคงไม่ปล่อยเขาไป
เขามองนายท่านหยาง หลังจากนั้นไม่นานน้ําเสียงแหบ แห้งก็พูดขึ้นมาว่า “นายท่านหยาง คุยกันเป็นการส่วนตัวดี ไหมครับ”
“ไปทางนั้น” นายท่านหยางเลิกคิ้ว เขาบอกฉินหร่าน หนึ่งประโยคก่อนจะชี้ไปทางที่ไม่มีคน
“ท่านน่าจะรู้ว่าผมคงไม่กล้าทําแบบนี้ถ้าไม่มีคนหนุน หลัง” ฟังเจิ้นปั๋วนิ่งไปก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า “ความจริงแล้วคน ที่อยู่เบื้องหลังผมคือท่านหมิงไห่”
นายท่านหยางฟังอย่างสงบ การแสดงออกทางสีหน้า ยังคงเหมือนเดิม “อืม”
“ผมจะมอบตราประทับนี้ให้ฉินหร่าน” แม้ฟังเจิ้นปั๋วจะ ไม่พอใจแค่ไหน แต่ช่วงเวลาแบบนี้ก็ไม่กล้าเคลื่อนไหวอะไร อีก
ทุกคนในเมืองหลวงต่างก็คิดว่าฉินหร่านกับเฉิงเจวี้ยนได้ แต่ยอมให้คนอื่นเหยียบย่ํา แต่ใครจะรู้ล่ะว่าอวิ๋นกวงกรุ฿ปจะ เผยตัวออกมาในสถานการณแที่สิ้นหวัง!
ทั้งสองพูดคุยกันช่วงหนึ่ง
เมื่อกลับมาที่เดิม ฟังเจิ้นปั๋วที่มีท่าทางเย่อหยิ่งในตอน แรกก็นําตราประทับมอบให้ฉินหร่าน “นักศึกษาฉินหร่าน ความเจริญรุ่งเรืองของสถาบันวิจัยในวันข้างหน้าล้วนต้องพึ่ง เธอแล้ว”
มีคนอยู่ในงานเป็นจํานวนมาก ส่วนใหญ่มองฉากนี้อย่าง เงียบๆ
ฉินหร่านรับตราประทับมา ก้มหน้ามองมัน
เป็นตราประทับขนาดเล็กสีเงิน
“ขอบคุณ” ฉินหร่านกุมตราประทับ พับขนตาลงแล้ว กล่าวขอบคุณ
น้ําเสียงราบเรียบ
ฟังเจิ้นปั๋วมองฉินหร่านเข้าไปลึกๆ ในตอนแรกที่เขารู้ว่า ฉินหร่านเป็นใคร เขาก็รู้แล้วว่าเธอไม่ธรรมดา จากนั้นก็ พยายามยับยั้งการเติบโตของเธอทุกรูปแบบ…
ช่างน่าเสียดายที่ท่านสวีวางแผนไว้รอบคอบมาก เขาถึง ขนาดกันไม่ให้ฉินหร่านเป็นลูกศิษยแนักวิจัยขั้นหนึ่ง แต่แล้ว เธอก็กลายมาเป็นผู้ดูแลสถาบันวิจัยคนต่อไปจนได้
ฉินหร่านไม่ได้สนใจท่าทีของฟังเจิ้นปั๋ว
เธอถือตราประทับไว้อย่างดี เปิดโทรศัพทแแล้วส่ง ข้อความให้ฉังหนิง——
(ถอนกําลัง)
ฉังหนิงส่งเครื่องหมายคําถามมาก่อน จากนั้นก็ส่ง เครื่องหมายจบประโยค——
(โอเค.)
ฉินหร่านหลุบตาดูโทรศัพทแ ที่จริงวันนี้เธอวางแผนไว้อีก แผนเพื่อเอาตราประทับมา แต่ไม่คิดว่านายท่านหยางจะช่วย เธอไว้…
เธอถือโทรศัพทแพลางใช้ความคิด
“เทพฉิน” ในที่สุดหยางเฟยก็เข้ามาเมื่อเห็นเรื่องที่ เกิดขึ้น เขาพยายามใช้น้ําเสียงนิ่งๆ “ได้ยินว่าเธอใกล้จะว่าง แล้ว หลังจากว่างแล้วยังจะกลับมาเล่นเกมท่องยุทธภพอีก ไหม?”
ฉินหร่านเบลอเล็กน้อย ช่วงนี้เธอไม่ได้เล่นเกมกับพวก หลินซือหรานเลย
พอรู้ว่าเธอยุ่ง ลู่จ้าวอิ่งกับหลินซือหรานก็ไม่ได้รบกวน เธอ
พอพูดถึงเกม ฉินหร่านก็รู้สึกห่างไกลกันคนละโลกขึ้นมา ทันที
“เล่นสิ” เธอสอดมือเข้ากระเปากางเกง หันมามองหยาง เฟย “รอฉันว่างเมื่อไหร่จะไปเล่นกับพวกนาย”
“ได้เลย!” หยางเฟยหน้าเปื้อนยิ้ม เขากดหมวกลง “พวก เราจะรอเธอ”
ฉินหร่านทํามือ “OK” ให้เขา
“หยางเฟย แกทําตัวจริงจังหน่อย อย่าเอาแต่มุ่งไปที่ เกม” นายท่านหยางต่อว่าหยางเฟยไปหนึ่งประโยคก่อนจะ พูดกับฉินหร่าน “นั่นคนตระกูลเฉิงสินะ?”
ฉินหร่านผงกหัว
ฉินหร่านถือตราประทับเล็กกลับไปราวกับไม่มีอะไร เกิดขึ้น
นายท่านหยางก็ไปพร้อมกับเธอ
“ท่านหยาง สวัสดีครับ ผมคือเฉิงเจวี้ยน” เฉิงเจวี้ยนมอง ฉินหร่านอยู่ตลอด พอเห็นนายท่านหยางเดินมาก็วางแก้วไวนแ ลง ท่าทางสงบเสงี่ยม ไม่เห็นความสิ้นหวังแม้แต่น้อย ใบหน้า หล่อเหลาดูแจ่มใส ทั้งสูงศักดิ์และสง่างาม
“คุณชายสามตระกูลเฉิง” นายท่านหยางมองเฉิงเจวี้ยน ด้วยรอยยิ้มที่มีความหมาย “ที่แท้แล้วยังหนุ่มยังแน่นอยู่เลย”
เฉิงเจวี้ยนยกมือขึ้น มองมาทางด้านข้างเล็กน้อย “ผม ไม่ใช่คุณชายสามตระกูลเฉิงแล้ว”
เนื่องจากพิธีรับตําแหน่งต้องทําหลายขั้นตอน จึงมีคนมา คุยกับนายท่านหยางอย่างไม่ขาดสาย
จนกระทั่งพิธีรับตําแหน่งเสร็จสิ้น
นายท่านหยางวางแผนจะไปสํารวจสํานักงานใหญ่ของ บริษัท
เขายืนอยู่หน้าประตูสถาบันวิจัยแล้วมองฉินหร่าน “เธอ จะกลับไปดูหน่อยไหม? ลู่จือสิงบอกว่าเธอไม่ได้กลับ สํานักงานใหญ่มาหลายเดือนแล้ว”
ฉินหร่านส่ายหน้า น้ําเสียงค่อนข้างสงบนิ่ง “รอไว้คราว หน้า”
เรื่องที่เธอควรจัดการก็บอกกับลู่จือสิงไปนานแล้ว
นายท่านหยางได้ยินดังนั้นก็ไม่พูดอะไร พากลุ่มของห ยางเฟยออกไป
“เทพฉิน พวกเราจะรอเธอกลับมา” หยางเฟยโบกมือให้ ฉินหร่านก่อนปิดประตูรถ
“ปัง——”
ประตูรถถูกปิด
“อย่างงั้นพวกเราก็กลับกันเถอะ” เฉิงเจวี้ยนจ้องมองรถ คันนั้นได้นานสักพักก็ย้ายสายตามองมาทางเฉิงเวินหรูและ พวกพ่อบ้านสวี
เฉิงเวินหรูเอาแต่จับจ้องมาที่ฉินหร่าน ตอนที่ได้ยินเฉิง เจวี้ยนพูดก็ขานรับ “อืม ขับดีๆ ล่ะ”
จนกระทั่งฉินหร่านกับเฉิงเจวี้ยนไปแล้ว
กลุ่มของเฉิงเวินหรูก็ยังยืนอยู่หน้าประตู ยังคงทบทวน เรื่องราวในชีวิต
เมื่อสักครู่เฉิงเวินหรูเพิ่งดื่มเหล้ามา ขับรถไม่ได้ นอกจากนี้เธอยังมีแขกคนสําคัญที่หามาเพื่อสนับสนุนฉินห ร่านอีกสองคน จึงเป็นธรรมดาที่ไม่สามารถกลับได้อย่าง เปิดเผยเหมือนเฉิงเจวี้ยน
หลังจากนั้นไม่นาน พ่อบ้านสวีก็ตามหาเสียงตัวเอง กลับมาได้ “ผมต้องบอกข่าวดีกับพวกเขาว่าคุณหนูฉินได้ตรา ประทับแล้ว”
เมื่อพูดมาแบบนี้ พ่อบ้านสวีก็ยังไม่ขยับเขยื้อน
เขาไม่ใช่เฉิงมู่ เฉิงมู่ผ่านประสบการณแมามากกว่าจะสงบ เสงี่ยมลงได้
เมื่อหลายวันก่อน ฉินหร่านได้บอกเขาแล้วว่าจะมีแขกมา เพิ่มอีกสองสามคน พ่อบ้านสวีคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าแขก เหล่านั้นจะเป็นพวกนายท่านหยาง
“ผมจําได้ว่าเมื่อก่อน…คุณหนูฉินอาศัยอยู่ที่หนิงไห่ใช่ ไหมครับ?” พ่อบ้านสวีมองมาทางเฉิงเวินหรู
เมื่อก่อนอวิ๋นกวงกรุ฿ปไม่มีแม้กระทั่งสํานักงานใหญ่ใน ประเทศ แล้วฉินหร่านเกี่ยวข้องกับนายท่านหยางได้อย่างไร?
เฉิงเวินหรูเหลือบมองพ่อบ้านสวี อดนิ่งไปไม่ได้
ถ้าจะพูดอีกประโยคว่าจระเข้ยักษแเป็นเพื่อนฉินหร่าน ภาวะหัวใจของพ่อบ้านสวีจะรับได้ไหม?
“คุณหนูใหญ่?”
Comments for chapter "ตอนที่ 569 ผานไปอยางรวดเร็ว"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
Pong
ตอนที่ 569 ที่แสดงอยู่ คนละเรื่องเลยนะครับ