เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 570 การกลับมาของธุลีมังกร ซิมการแดที่กู ซีฉือกดลงชักโครก
- Home
- เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ
- ตอนที่ 570 การกลับมาของธุลีมังกร ซิมการแดที่กู ซีฉือกดลงชักโครก
เมื่อเห็นสายตาเฉิงเวินหรู พ่อบ้านสวีก็อดเรียกเธอไม่ได้
เฉิงเวินหรูรู้สึกตัว เธอส่ายหน้า เดิมทีคิดอยากจะ เลียนแบบเฉิงเจวี้ยนโดยถามพ่อบ้านสวีว่าหัวใจแข็งแรงดีไหม
แต่พอนึกถึงนายท่านเฉิง อารมณแเฉิงเวินหรูก็ดิ่งลง
เธอมองไปที่กลุ่มผู้ดูแลธุรกิจของแต่ละตระกูลที่อยู่ข้าง หลัง พูดเบาๆ “พ่อบ้านสวี ดูเหมือนว่าคุณจะยุ่งอีกแล้ว”
ตั้งแต่ท่านสวีจากไป คนเหล่านี้แทบจะหลบเลี่ยง ตระกูลสวีและสานสัมพันธแกับตระกูลเนี่ยที่โผล่มาช่วงนี้
ทว่าไม่มีใครรู้ว่าวันนี้จะเกิดเรื่องฉินหร่านขึ้น
พ่อบ้านสวีขานรับด้วยความจนใจ
“ถ้าวิญญาณนายท่านอยู่บนฟูา คงคิดไม่ถึงแน่ๆ” พ่อบ้านสวีเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน เขานั่งบนรถ สายตาทอด
ยาวออกไปพลางพึมพํา “เขาวางแผนปูทางให้คุณหนูฉินมา โดยตลอด แต่ใครจะรู้ล่ะว่าตอนนี้ตระกูลสวีต้องพึ่งพาคุณหนู ฉิน”
พ่อบ้านสวีทอดถอนใจ
ผู้อาวุโสที่อยู่ข้างๆ พยักหน้า “นายท่านหยางให้คุณหนู ฉินไปเยี่ยมสํานักงานใหญ่ ได้ยินมานานแล้วว่าอวิ๋นกวงกรุ฿ปมี การจัดการอย่างเข้มงวด คุณว่าคุณหนูฉินเธอคงไม่ใช่…ขอ งอวิ๋นกวงกรุ฿ปหรอกนะ”
นอกจากผู้บริหารระดับสูงแล้ว ผู้อาวุโสก็คิดไม่ออกว่า นายท่านหยางจะให้คุณหนูฉินไปเยี่ยมสํานักงานใหญ่ทําไม
อย่างไรก็ตาม…
พอคิดถึงตรงนี้ ผู้อาวุโสก็ส่ายหน้าเสียเอง “ผมกําลังคิด ไร้สาระอะไรอยู่เนี่ย”
**
ฉินหร่านกลับมาถึงวิลล่าและขึ้นไปห้องหนังสือกับเฉิง เจวี้ยน
“พวกเขาเป็นอะไรไป?” เฉิงจินไม่ได้ไปกับเฉิงสุ่ย จึงไม่รู้ ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ได้แต่เหลือบมองไปที่ห้องหนังสือ
เฉิงสุ่ยส่ายหน้าอย่างครุ่นคิด ตอบกลับไปด้วยแววตา ซับซ้อน “เกรงว่าจะมีเรื่องนิดหน่อย”
น้อยมากที่จะเห็นเฉิงสุ่ยมีท่าทางเอาจริงเอาจังแบบนี้
เฉิงจินกับเฉิงมู่โน้มตัวเข้ามา เฉิงจินวางคอมพิวเตอรแใน มือลง “สถาบันวิจัยมีปัญหาเหรอ? ฉันจะไปจัดการ”
“ไม่ใช่หรอก” เฉิงสุ่ยส่ายหน้า สายตาเขาเหม่อลอยไป ไกล “ก็แค่เจอพ่อบุญธรรมคุณหนูฉินน่ะ”
“พ่อบุญธรรมคุณหนูฉิน?” เฉิงจินพยักหน้า เขาคลาย ความกังวลลง “ดูจากท่าทางของนายคงไม่ใช่คนธรรมดา ว่า มาสิ เขาเป็นใคร คงไม่มีทางเป็นจระเข้ยักษแไปได้หรอกนะ”
สําหรับจระเข้ยักษแ เขาคิดว่าตัวเองยังมีความสามารถใน การรับรู้มากพอ
เฉิงสุ่ย “อเอ” ก่อนจะพูดเรียบๆ “นายท่านหยางอวิ๋นก วงกรุ฿ปท่านนั้นน่ะ”
เฉิงจิน “…”
เขายื่นมือออกไปด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่า เช็ดน้ําที่พ่นบน หน้าจอคอมพิวเตอรแ
คนทั้งกลุ่มเงียบไปชั่วขณะ
ห้องหนังสือชั้นบน
ฉินหร่านกําลังรอให้เฉิงเจวี้ยนสอบปากคํา
“ถามมา” เธอใช้เท้าเตะประตูห้องหนังสือ
ลากเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าเฉิงเจวี้ยนมานั่งด้วยท่าทางเฉียบ ขาดเล็กน้อย เชิดคางขึ้นแล้วพูดเท่ๆ
ดูเหมือนไม่ได้หลีกเลี่ยงแต่ประการใด
เฉิงเจวี้ยนถือปากกา วางมือเปล่าไว้บนโต฿ะหนังสือแล้ว มองฉินหร่านด้วยใจที่สงบ “เธอติดต่อน้าหรือยัง?”
ฉินหร่านกําลังรอเขาถามเรื่องนายท่านหยางและเตรียม จะพูดออกมาทั้งหมด
แต่ใครจะรู้ว่าจู่ๆ เขาก็พูดถึงหนิงเวยขึ้นมากะทันหัน
“ยัง ฉันรอว่างจากเรื่องตระกูลสวีแล้วค่อยไปรับเธอ ที่อวิ๋นเฉิง น้าเป็นคนหัวรั้น การพูดโน้มน้าวให้เธอมาเมือง หลวงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ” ฉินหร่านตัดสินใจแล้วว่าจะต่อต้านน้า ของเธอ เธอเอามือเคาะโต฿ะ
เฉิงเจวี้ยนยิ้มมุมปากพลางมองมาที่ฉินหร่าน “โอเค ฉัน จะรอเธอที่เมืองหลวง”
ฉินหร่านได้ยินมาถึงตรงนี้ก็เงยหน้าขึ้นทันที สบตาเขา มือที่เคาะโต฿ะหยุดชะงัก “คุณจะอยู่เมืองหลวง?”
“อืม ต้องมีคนคอยระงับสถานการณแ” เฉิงเจวี้ยนวาง ปากกาลง มือยันโต฿ะแล้วลุกขึ้นยืน ขณะที่มองฉินหร่าน ใบหน้าก็แผ่ออก มองเธอราวกับคิดอะไรบางอย่าง อดยิ้ม ไม่ได้ เขาเดินออกไปสองก้าว ใช้มือทั้งสองข้างพยุงที่วางแขน เก้าอี้ทั้งสองด้าน โน้มตัวลงมาเล็กน้อย ศีรษะชิดกับหน้าผาก เธอ เมื่อมองมาที่ดวงตาของเธอก็เหมือนจะหัวเราะเบาๆ “เธอไปรับน้ากลับมาให้เรียบร้อย”
**
เนื่องจากต้องกลับอวิ๋นเฉิง
ฉินหร่านจึงต้องทํางานล่วงเวลาเพื่อจัดการเรื่องตระกูลส วีและสถาบันวิจัยอยู่สองสามวัน แม้จะมีเฉิงเจวี้ยนคอยช่วย แต่ช่วงไม่กี่วันมานี้เธอก็ยังมีเวลาพักผ่อนน้อยมาก
ความสัมพันธแระหว่างเธอกับนายท่านหยางแพร่กระจาย ไปในวงสังคมชั้นสูง ความลับในวงสังคมนี้ไม่เคยเป็นความลับ มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ใครที่ขึ้นพีระมิดมาหน่อยก็รู้เรื่องนี้กัน หมด
สถานการณแในเมืองหลวงเกิดแรงกระเพื่อมอีกระลอก
ตระกูลเฉิงกับตระกูลสวีที่จะล้มแหล่มิล้มแหล่ไม่เพียงแต่ มั่นคงขึ้นเท่านั้น แต่พวกเขายังไปมาหาสู่กับทางรัฐMอย่าง ใกล้ชิดอีกด้วย ซึ่งนั่นก็หมายความว่าพวกเขากําลังจะก้าวไป อีกระดับ
ฉินหร่านยิ่งรุ่งโรจนแดั่งพระอาทิตยแบนฟากฟูา
แผนการของหมิงไห่ถูกก่อกวนจนยุ่งเหยิง
ศูนยแการเงินแห่งเมืองหลวง
ห้องทํางานนายท่านหยาง
หมิงไห่นั่งตรงข้ามเขา พูดอย่างตรงไปตรงมา “ท่านห ยาง คุณรู้ไหมว่าผมหาคุณเพราะเรื่องอะไร”
“ผมก็บอกไปแล้วว่าฉินหร่านไม่สามารถแยกตัวออกจา กอวิ๋นกวงกรุ฿ปได้ เธอครองตําแหน่งที่สําคัญมากของที่นี่” นายท่านหยางเม้มปากเล็กน้อย รอยยิ้มบนใบหน้าหายไป บางส่วน
ขาดฉินหร่านกับลู่จือสิงไปคนหนึ่ง ฝุายไอทีของอวิ๋นกวง กรุ฿ปคงไม่มีวันนี้
“งั้นถ้าผมบอกคุณว่าฉินหร่านไม่ได้เป็นแค่หลานสาวห นิงเอ่อรแและในมือเธอยังมีเนื้อหางานวิจัยของหนิงเอ่อรแใน ตอนนั้นด้วยล่ะ ตอนนั้นหนิงเอ่อรแไม่ได้ทําลายเอกสารฉบับ นั้น เขาใช้กลยุทธแเปิดเมืองเพื่อให้เราตายใจ” หมิงไห่ยกถ้วย ชา พูดอย่างไม่เร่งรีบ
เมื่อได้ยินดังนั้น นายท่านหยางที่มีท่าทีสบายๆ ก็นิ่งไป โดยพลัน
มือทั้งสองยันโต฿ะลุกขึ้นยืน มองหนิงไห่ด้วยแววตาพลัน มืดพลันสว่าง “ข่าวนี้เป็นความจริง?”
“ผมโกหกคุณแล้วได้ประโยชนแอะไร?” หมิงไห่หัวเราะ ต่อ “ในอวิ๋นเฉิง คุณก็สามารถสืบเรื่องลูกหลานหนิงเอ่อรแได้ นี่”
นายท่านหยางกลับมานั่งเก้าอี้ เขามองหมิงไห่ด้วย สายตาคลุมเครือ “พอรู้ข่าวนี้ คุณก็เลยบอกผมด้วย ความหวังดีอย่างงั้นเหรอ?”
“นายท่านหยาง เชื่อไม่เชื่อแล้วแต่คุณ” ในทางกลับกันห มิงไห่ก็ไม่ได้ร้อนใจแต่อย่างใด เขาตบแขนเสื้อแล้วยืนอย่าง เอ้อระเหยลอยชาย “คุณเองก็เลือกที่จะไม่เชื่อผมก็ได้นะ”
พอพูดจบ หมิงไห่ก็ไม่รอคําตอบจากนายท่านหยาง เขา ประสานมือให้นายท่านหยาง “ลาก่อน”
หมิงไห่ไปแล้ว แต่นายท่านหยางยังอารมณแเสีย เขาไม่ อยากจะยอมรับว่าหมิงไห่จี้ใจดําเขาได้จริงๆ นายท่านหยาง นั่งประจําที่อยู่นานกว่าจะหยิบโทรศัพทแบนโต฿ะทํางานต่อสาย ไปข้างนอก “สืบเรื่องครอบครัวหนิงเอ่อรแที่อวิ๋นเฉิงมาให้ ละเอียด”
นายท่านหยางมีหน่วยข่าวกรองเป็นของตัวเอง
ผ่านไปได้ครึ่งชั่วโมง เลขาก็เคาะประตูเดินเข้ามา “ประธานหยาง นี่คือเอกสารจากฝุายไอทีครับ”
หน้าตามีความลังเลเล็กน้อย
“เอามานี่” นายท่านหยางยื่นมือไปรับ “ข้อมูลคน ตระกูลหนิงมีปัญหา?”
“จะเรียกว่ามีปัญหาก็ไม่ถูก ท่านลองดูก็จะรู้เอง” เลขา หยิบเอกสารข้างในออกมา
นายท่านหยางเปิดเอกสารโดยตรง หรี่ตาลง
จากนั้นก็ไม่จําเป็นต้องเปิดดูอีก ตระกูลหนิงมีสมาชิก หลายคน แต่ข้อมูลที่ตรวจสอบได้มีเพียงสองหน้าเท่านั้น
ข้อมูลในนั้นก็เรียบง่ายจนเกินไป
หนิงเวย
เพศหญิง
ส่วนสูง 168
อดีตพนักงานโรงงานเคมีภัณฑแ
หนิงฉิง
เพศหญิง
ส่วนสูง 170
แต่งงานครั้งที่สองกับคนตระกูลหลิน
ฉินอวี่
เพศหญิง
ส่วนสูง 167
……
นอกจากข้อมูลเหล่านี้ก็ไม่มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติม
เรียบง่ายจนน่ากลัว
**
ในเวลาเดียวกัน
ต่างประเทศ
ธุลีมังกรเพิ่งขึ้นเครื่องบินได้ไม่นาน เขาสวมรองเท้าขาด วิ่นนั่งที่นั่งตรงริมหน้าต่าง วางคอมพิวเตอรแบนโต฿ะเล็กๆ
พิมพแเสร็จก็กดปุุม “enter”เป็นตัวสุดท้าย จากนั้นก็ดีด นิ้ว กดหูฟังที่หู “เรียบร้อย”
ปลายสายในหูฟังมีเสียงเย็นชาของฉินหร่าน “ขอบใจ”
“เรื่องเล็กน้อยน่า ได้ยินลูกพี่ฉังหนิงบอกว่าเธอรู้จักแม ทธิว” ธุลีมังกรนั่งไขว่ห้าง รองเท้าผ้าใบทั้งขาดทั้งสกปรก บน เครื่องบินล้วนเป็นชาวต่างชาติ เขาพูดภาษาจีนอย่างไม่แยแส “ช่วยพูดกับเขาให้หน่อย บอกให้คนของพวกเขาอย่าจับฉัน เลย”
ฉินหร่านที่อยู่ปลายสายยังอยู่ที่สถาบันวิจัย เธอกําลังยื่น เอกสารให้หนานฮุ่ยเหยา พอได้ยินดังนั้นก็ยื่นมือปิดหน้าผาก “นายไปทําอะไรไว้?”
“นั่นไม่ใช่เสียหน่อย แค่เปลี่ยนมือช่วยจระเข้ยักษแทํา อะไรสนุกๆ นิดหน่อย” ธุลีมังกรทําเสียงจิ๊จ฿ะ “แมทธิวตามล่า
ฉันเอาเป็นเอาตายไม่ยอมปล่อย เขาจับฉันไม่ได้และสืบไม่ได้ ว่าฉันเป็นใคร ทําไมต้องยื้อเวลาซิ่งรถฉันด้วยนะ”
“นายอย่ากําเริบเสิบสานไปหน่อยเลย” ฉินหร่านยกแก้ว ไปรินน้ํา
“ยังพอไหว” ธุลีมังกรถ่อมตัว เขานึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ “ฉันเอาของที่เธอต้องการกลับไปด้วยนะ ไปถึงแล้วค่อยให้”
“มาทันพอดี” พรุ่งนี้ฉินหร่านจะกลับอวิ๋นเฉิง เธอดื่มน้ํา เสร็จก็วางแก้วลง “เจอกันที่ห้องฉังหนิง”
“OK” ธุลีมังกรวางสายไปเรียบร้อย
ทางด้านนี้ ฉินหร่านดูเวลาก็พบว่าเป็นเวลาหกโมงเช้า กว่าธุลีมังกรจะมาถึงก็เป็นเวลาบ่ายสามโมง
เธอใช้สมาธิทุ่มไปกับงานวิจัย
เวลาบ่ายสามโมง
“หร่านหร่าน” หนานฮุ่ยเหยาถือบันทึกมา “เธอดู ปริมาณให้หน่อย ฉันปรับหลายครั้งแล้วยังไม่ถูก”
ฉินหร่านกําลังดําเนินการแผนงานBร่วมกับรัฐM
ตอนนี้เธอมีห้องทํางานเป็นของตัวเองแล้ว ฉู่หัง หนาน ฮุ่ยเหยา รุ่นพี่เยี่ย รวมถึงสิงไคก็อยู่ด้วย นอกจากพวกเขาแล้ว ยังมีนักวิจัยเลี่ยวอีกคน
“พรุ่งนี้ฉันจะออกเดินทาง แผนงานBกําลังคืบหน้าถึง ช่วงเวลาสําคัญ” ฉินหร่านทํางานในส่วนตัวเองเสร็จหมดแล้ว เธอมองไปทางนักวิจัยเลี่ยว “นักวิจัยเลี่ยว รบกวนคุณดูแล พวกเขาให้มากๆ หน่อยนะคะ”
แผนงานBไม่ได้เป็นแค่ผลงานแจ้งเกิดหลังจากที่ฉินหร่าน ได้รับตําแหน่ง แต่ยังเป็นกุญแจสําคัญให้พวกหนานฮุ่ยเหยา และรุ่นพี่เยี่ยได้ปีนขึ้นไป
มีนักวิจัยขั้นหนึ่งในสถาบันวิจัยหลายคนต้องการเข้ามามี ส่วนร่วมในโครงการนี้ และยังมีฟังเจิ้นปั๋วที่พยายามขัดขวาง ฉินหร่าน หากพูดกันตามความจริงแล้ว เขาก็อยากได้ โครงการนี้เหมือนกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสําคัญของ โครงการนี้
แต่แค่ว่าฉินหร่านยืนหยัดในความคิดของตัวเอง เธอ เลือกทีมตัวเองไว้แล้วตั้งแต่แรกเริ่ม ดังนั้นการที่อยากจะ แทรกเข้ามาระหว่างการดําเนินงานจึงเป็นไปได้ยาก
ไม่มีทางหยุดกลางคัน
นักวิจัยเลี่ยวเพียงก้มหน้ารีบอ่านสรุปงานวิจัยที่ฉินหร่าน พิมพแออกมาด้วยความรวดเร็ว โบกมือส่งๆ ให้ฉินหร่าน “ตก ลง”
คนอื่นๆ ในห้องวิจัยต่างก็กําลังยุ่งอยู่กับงานวิจัยในส่วน ของตัวเอง แทบจะไม่มีเวลามาสนใจฉินหร่าน
ฉินหร่านลูบจมูกก่อนจะถือโทรศัพทแออกไปหาฉังหนิง
เธอนั่งรถไปหาฉังหนิงที่นั่น
แท็กซี่รอจนกว่าฉินหร่านลงจากรถ รถไม่ได้จอดนิ่งนาน สักพักก็ขับออกไป
ฉินหร่านดึงผ้าปิดจมูกขึ้น เดินตรงไปที่ตึก129
ห้านาทีต่อมา
ห้องทํางานฉังหนิง
ธุลีมังกรมาถึงก่อนฉินหร่านสองนาที เขากําลังคุยกับเห อเฉินอยู่
เมื่อเห็นฉินหร่านเดินเข้ามา ดวงตาก็เป็นประกาย ทักทายเหมือนพวกนักเลงหัวไม้ก่อนจะควานหาของออกมา จากกระเปา โยนมาทางฉินหร่าน “ให้เธอ”
ฉินหร่านไม่ได้ดู เธอยกมือรับของที่ธุลีมังกรมอบให้ด้วย ความแม่นยํา
“ของเล่นอะไร?” เหอเฉินวางแก้วลง มองไปทางฉินห ร่าน
ฉินหร่านหลุบตาแล้วกางมือออก——
มันคือซิมการแดสีทองใบหนึ่ง