เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 573 รวมตัวลาออก ! !
พอพูดจบ เฉิงเจวี้ยนก็ยื่นมือลูบแขนเสื้อ พยักหน้าให้หมิ งไห่อย่างสุภาพแล้วเดินออกไป
ด้านหลัง หมิงไห่ตบโต฿ะและพูดด้วยความโมโห “เฉิง เจวี้ยน แกอยากตายหรือไงฮะ?”
เฉิงเจวี้ยนไม่หันกลับมา
**
สถาบันวิจัยเมืองหลวง
ห้องปฏิบัติการของฉินหร่าน
นักวิจัยเลี่ยวและกลุ่มรุ่นพี่เยี่ยต่างก็ทราบข่าวของอวิ๋นก วงกรุ฿ปแล้ว
นักวิจัยเลี่ยวโตที่สุดในกลุ่มนี้ เขาไม่ค่อยพูดพล่าม แต่ ความสามารถในการแยกแยะสถานการณแยังมีมากกว่าฉู่หังที่ เป็นลูกหลานตระกูลผู้ดี
“ที่ฉินหร่านได้รับตราประทับผู้สืบทอดตําแหน่ง สถาบันวิจัยได้ ก็เพราะอวิ๋นกวงกรุ฿ปปกปูองเธออย่าง
เปิดเผย” นักวิจัยเลี่ยวเรียกทุกคนมารวมตัวกัน เขาหรี่ตาลง เล็กน้อย “พวกฟังเจิ้นปั๋วจับจ้องเธอมานานแล้ว แผนงานB ของพวกเราก็ทําให้คนพวกนั้นอิจฉาตาร้อน ห้องปฏิบัติการ 301ของพวกเรากําลังเผชิญวิกฤติ ข้อมูลวิจัยที่อยู่ในมือทุก คนที่สามารถเอาไปได้ก็เอาไปด้วย ส่วนที่อยู่ในคอมพิวเตอรแก็ ทําลายให้หมด จากนั้นก็ไปจากที่นี่ซะ ส่วนอย่างอื่นมอบให้ เป็นหน้าที่ผม”
สถานการณแผันผวนเป็นคลื่นระลอกใหญ่ นักวิจัยเลี่ยวก็ คาดไม่ถึงว่าภายในเวลาไม่กี่วันจะเกิดเรื่องกับฉินหร่านได้
เนื่องจากทําวิจัยมาทั้งวันทั้งคืน สภาพจิตใจจึงไม่สู้ดี แต่ เขายังใจเย็นและสั่งการอย่างมีระเบียบแบบแผน
“นักวิจัยเลี่ยว แล้วคุณล่ะ?” หนานฮุ่ยเหยามอง นักวิจัยเลี่ยว
นักวิจัยเลี่ยวมองห้องปฏิบัติการอย่างเงียบๆ จู่ๆ ก็พูด ขึ้นมาว่า “ฉินหร่านเคยบอกเธอหรือเปล่า เรื่องคนใน ครอบครัวของเธอ?”
“พวกซุปตารแฉิน ฉันรู้” หนานฮุ่ยเหยาไม่รู้ว่าทําไม นักวิจัยเลี่ยวถึงเปลี่ยนมาคุยเรื่องนี้กะทันหัน
นักวิจัยเลี่ยวพยักหน้า “งั้นแม่ของเธอล่ะ?”
“ผมรู้” สิงไคยกมือขึ้นแล้วเกาหัว “ตอนที่ผมกับหลินซื อหรานเล่นเกมด้วยกัน ได้ยินเธอบอกว่าแม่เธอไม่ค่อยดี เท่าไหร่”
สายตานักวิจัยเลี่ยวมองไปที่เครื่องทดลอง “แม่เธอ… แซ่หนิงใช่ไหม?”
“นักวิจัยเลี่ยว คุณรู้ด้วยเหรอ?” สิงไคแปลกใจ
นักวิจัยเลี่ยวฟังจบก็พยักหน้าทันที “ฉันเข้าใจแล้ว พวก เธอไปเถอะ”
สิงไคไม่ได้คิดอะไรมาก พอได้ยินที่นักวิจัยเลี่ยวพูดก็ คัดลอกข้อมูลลงในแฟลชไดรฟแล้วออกไป
แต่กลับพบว่าพวกหนานฮุ่ยเหยาและฉู่หังยังนิ่งอยู่
“พวกเธอสองคนยังไม่ไปกันเหรอ?” สิงไคผงะ เขาเกา หัวต่อ
หนานฮุ่ยเหยาลากเก้าอี้ข้างๆ มานั่ง หมุนเครื่องมือ ทดลองในมือ “นักวิจัยเลี่ยว พวกเราเป็นทีมเดียวกัน ไม่ใช่
เอาแต่พึ่งหร่านหร่านคนเดียว ถึงเธอจะไม่อยู่ พวกเราก็จะ สนับสนุนสถาบันวิจัย”
ฉู่หังไม่พูด แต่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอรแแสดงจุดยืนของ ตัวเอง
นอกจากสิงไคที่เข้าผ่านประตูหลัง คนที่สามารถเข้า มหาวิทยาลัยเมืองหลวงได้ สติปัญญาย่อมไม่ธรรมดา
ฉู่หังและหนานฮุ่ยเหยาสามารถแยกแยะสถานการณแได้
ยิ่งอยู่ในสถานการณแแบบนี้ พวกเขาก็ยิ่งหนักแน่น
แม้ว่าพวกเขากว่าจะมีตําแหน่งในห้องปฏิบัติการอย่าง ทุกวันนี้ได้เพราะฉินหร่าน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่ มีความสามารถ
นักวิจัยเลี่ยวมองพวกเขาสามคน มุมปากขยับ ใบหน้าที่ เย็นชาดูอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย “พวกเธอ…ได้ ถ้าพวกเธอจะ อยู่ ก็ฟังฉัน…”
นักวิจัยเลี่ยวลดเสียงสั่งการ
**
ข่าวของฉินหร่านถูกส่งต่อไปอย่างรวดเร็ว
ไม่ง่ายเลยที่ตระกูลฉินจะสร้างทีมขึ้นมาได้ ตอนนี้ตกลง มาจนถึงจุดต่ําสุดภายในพริบตาเดียวเพราะอวิ๋นกวงกรุ฿ป
“ประธานฉิน ตอนนี้สถานการณแแย่แล้วครับ” หัวหน้า ฉินถือเอกสารรีบมาหาฉินฮั่นชิว “ทางคุณหนูฉินเกิดเรื่อง อะไรหรือเปล่า?”
หัวหน้าฉินคิดไม่ตกว่าทําไมอวิ๋นกวงกรุ฿ปถึงตัดสินใจทํา แบบนี้และยังประกาศสู่สาธารณชน
“ผมก็ไม่รู้” ฉินฮั่นชิวถือโทรศัพทแ เขาส่ายหน้า “เสี่ยว เฉิงไม่ให้ผมบอกข่าวนี้กับหร่านหร่าน ฝุายไอทีว่ายังไงบ้าง?”
“ไม่ดีเลยครับ” หัวหน้าฉินส่ายหน้า เมื่อไม่มีการร่วมทุน จากอวิ๋นกวงกรุ฿ป โครงการก็ดําเนินต่อไปไม่ได้ “ตั้งแต่มีข่าว ออกมาจนถึงตอนนี้ มีคนลาออกไปสี่คนแล้วครับ อันที่จริง แบบนี้ก็ดีแล้ว พวกเราจะพึ่งคุณหนูฉินไปหมดไม่ได้”
จํานวนคนลาออกยังคงเพิ่มขึ้น
เหตุการณแนี้เป็นการศึกครั้งใหญ่สําหรับทางฝั่งฉินฮั่นชิว
“ผมจะไปปลอบขวัญคนในบริษัทก่อน” พ่อบ้านฉินเอ่ย ปาก “เป็นธรรมดาของมนุษยแ เราต้องเตรียมพร้อมสําหรับ อนาคต ”
เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุดได้มอบบทเรียนให้ตระกูลฉินแล้ว
สํานักงานใหญ่อวิ๋นกวงกรุ฿ป
นายท่านหยางนั่งอยู่ในห้องทํางาน กําลังพูดคุยกับ ผู้จัดการใหญ่เกี่ยวกับการบริหารจัดการ
ในเวลานี้
ผู้จัดการแผนกวิศวกรรมชั้น28เคาะประตูเข้ามา
ชั้น28คือส่วนแกนหลักของอวิ๋นกวงกรุ฿ป ดังนั้นนาย ท่านหยางจึงรู้จักกับผู้จัดการชั้น28เป็นธรรมดา เขาหยุดคุย และยิ้มให้ผู้จัดการชั้น28 “มีอะไร?”
“ประธานหยาง ผมมาส่งจดหมายลาออกครับ ผมได้ เตรียมการส่งมอบงานให้ผู้ช่วยแล้ว” เขายื่นมือนําจดหมาย วางไว้ตรงหน้านายท่านหยาง
“ทําไมจู่ๆ ก็ลาออกล่ะ?” นายท่านหยางจัดแจงเสื้อผ้า นั่งตัวตรง
ผู้จัดการชั้น28ก้มหน้า “เพราะเหตุผลส่วนตัวครับ”
ขณะที่พูดก็ก้มหน้าดูนาฬิกาข้อมือ ใกล้จะถึงเวลา สัมภาษณแต่อแล้ว เขาบอกลานายท่านหยางแล้วเดินตรง ออกไปทันที
นายท่านหยางมองจดหมายลาออกในมือพลางขมวดคิ้ว เล็กน้อย เขาแกะดู มันเป็นจดหมายลาออกที่เป็นทางการ มาก
นายท่านหยางวางจดหมายลง กําลังจะหยิบโทรศัพทแ ข้างๆ เพื่อต่อสายไปสอบถามฝุายบุคคล
แต่ยังไม่ทันได้เอื้อมมือไปแตะ โทรศัพทแก็ดังขึ้น
เป็นผู้จัดการฝุายบุคคล ทางด้านนั้นพูดด้วยน้ําเสียง กระวนกระวาย “ท่านประธานหยาง เจ็ดขุนพลฝุายไอทีชั้น 28จะลาออกครับ!”
“ลาออกทั้งเจ็ดคน?” นายท่านหยางลุกพรวด ขมวดคิ้ว “นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? พวกคุณทําอะไรกันอยู่? ไป ตรวจสอบมาให้ละเอียด!”
วิศวกรระดับปรมาจารยแในฝุายไอทีของอวิ๋นกวงกรุ฿ปมี สิบสองคน ถ้าออกไปเจ็ดคน ฝุายไอทีจะอยู่ต่อไปได้อย่างไร?
เขาวางสาย “ปัง”
ลุกขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จะไปดูชั้น28
เพิ่งจะลุกขึ้นได้ไม่นาน ก็มีคนเข้ามาจากทางด้านนอก ลู่จือสิงถือกล่องกระดาษมาด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้าง ถือซองจดหมาย
นายท่านหยางมองซองจดหมายในมือลู่จือสิงอย่าง เงียบๆ เม้มปาก “ทําไม? นายทําอะไรกับฝุายไอที?”
“ท่านหมายความว่ายังไง?” ลู่จือสิงขมวดคิ้ว
“ขุนพลทั้งเจ็ดของฝุายไอทีจะลาออก!” นายท่านหยาง กล่าวอย่างฉุนเฉียว เพิ่มลู่จือสิงที่เป็นหัวหน้าก็เป็นแปดคน!
พอฟังจบ ลู่จือสิงก็เงยหน้าขึ้น แม้จะเพิ่งทราบข่าวนี้ แต่ เขาก็ไม่ได้แปลกใจแม้แต่น้อย “แบบนี้นี่เอง”
เขาวางจดหมายลาออกไว้บนโต฿ะนายท่านหยาง
จากนั้นก็มองนายท่านหยางด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ท่าน คงไม่คิดว่าที่ฝุายไอทีอวิ๋นกวงกรุ฿ปมีทุกวันนี้ได้เป็นเพราะ ชื่อเสียงของอวิ๋นกวงกรุ฿ปหรอกนะ?”
“หมายความว่ายังไง?” นายท่านหยางนิ่งเล็กน้อย
ลู่จือสิงดันแว่นตา พูดอย่างเฉยชา “ประทานโทษครับ เมื่อวานผมลืมบอกท่านไป พนักงานชั้นยอดของฝุายไอทีอวิ๋ นกวงกรุ฿ป หลักๆ แล้วเป็นแฟนคลับpoppy มาอวิ๋นกวงกรุ฿ป ก็เพราะเธอ ท่านไล่ไอดอลพวกเขาออกจากอวิ๋นกวงกรุ฿ปแล้ว ยังคิดจะให้พวกเขาอยู่ทุ่มเทความสามารถเพื่อช่วยท่านอย่าง งั้นสิ?”