เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 583 ท่านรองกลุ่มพันธมิตรใต้ดิน หมาปุา เดียวดาย
ในเวลาเดียวกัน
มุมหนึ่งในเมืองหลวง
ชายสวมหน้ากากทองที่นั่งฝั่งซ้ายของห้องโถงลุกพรวด เขาก้มหน้าดูข้อความ
ดวงตาสีเข้มฉายแสงออกมา
เขาเดินตรงออกจากห้องประชุมโดยไม่สนว่าคนอื่นกําลัง ประชุมกันอยู่
“คุณจะไปไหนครับ? คุณหยางกําลังรอพวกเราอยู่” ชาย วัยกลางคนที่นั่งที่นั่งแรกอดลุกขึ้นไม่ได้
ในตัวชายหนุ่มห้อมล้อมไปด้วยรังสีเย็นยะเยือก ราวกับ วิญญาณชั่วร้ายใจเหี้ยมที่มีอยู่จริง แม้แต่ลูกน้องคนสนิทผู้ จงรักภักดีที่สุดของเขายังกลัวเขาแทบทนไม่ไหว น้ําเสียงเขา เย็นเฉียบ ไร้ซึ่งอารมณแความรู้สึก “มีธุระ”
การประชุมยังไม่เสร็จสิ้น คนอื่นๆ ต่างก็มองไปที่แผ่น หลังของเขา ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา
บรรยากาศเงียบสนิท
จนกระทั่งเขาไปแล้วก็ถึงจะมีคนเอ่ยขึ้นมา “ท่าน รองเซี่ยไปแล้ว พวกเราจะทํายังไงดี? คุณหยางทางนั้น…”
“เขาไปแล้วพวกเราจะทําอะไรได้” หลังจากเซี่ยจิ่ว ออกไป ชายวัยกลางคนก็ทอดถอนใจ “เราก็บอกไปตาม ความจริง ในเมื่อท่านรองจะไป ใครจะเกลี้ยกล่อมเขาได้? ท่านหัวหน้าเขาทําอะไรท่านรองไม่ได้หรอก เขาก็เป็นสัตวแ เลือดเย็นคนหนึ่ง ถ้าไปเซ้าซี้ก็ไม่รู้ว่าจะฆ่าพวกเราไหม พวก เราอย่าเผชิญหน้ากับเขาเลย”
“ท่านหัวหน้ายังจนปัญญา…ทั้งกลุ่มพันธมิตรใต้ดินใช่ว่า จะมีใครสามารถควบคุมเขาได้…” ลูกน้องอดหดหู่ไม่ได้
น้อยมากที่ท่านหัวหน้าจะปรากฏตัวในพันธมิตรใต้ดิน
งานส่วนใหญ่ล้วนเป็นเซี่ยจิ่วจัดการ
วันนี้เพิ่งจะได้ยินเรื่องจากภายใน
“ผมก็ไม่รู้ ถึงยังไงท่านหัวหน้าก็เชื่อใจเขามาก แต่ว่า…ก็ ใช่ว่าจะไม่มีใครที่สามารถเกลี้ยกล่อมเขาได้…” ชายวัย กลางคนพูดเพียงครึ่งก็นิ่งไปสักพัก
“ใครล่ะ?” สองปีที่ผ่านมานี้ พันธมิตรใต้ดินมีคนเพิ่มเข้า มาจํานวนไม่น้อย พอได้ยินดังนั้นก็มองไปทางชายวัยกลางคน ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ห้ามเอ่ยถึง” ชายวัยกลางคนนึกอะไรขึ้นได้จึงรีบหุบ ปากทันที เขามองคนข้างๆ ด้วยท่าทางจริงจัง “โดยเฉพาะ ต่อหน้าท่านหัวหน้าหรือท่านรองและมือสังหารคนสําคัญทั้งสี่ คนของท่านรอง ไม่ว่าใครก็ห้ามพูด! ไม่อย่างนั้น ฉันไม่ รับประกันความปลอดภัยของพวกนาย!”
คนอื่นเกรงกลัวเซี่ยจิ่วในระดับหนึ่ง
เมื่อชายวัยกลางคนกล่าวเช่นนี้ พวกเขาจึงเก็บความ สงสัยไว้จนหมด
**
ไม่ต้องเสแสร้งแล้ว
หลังจากส่งประโยคนี้ไป
ฉินหร่านก็เอื้อมมือปิดหน้าต่างอย่างสงบ
จากนั้นก็เงยหน้าดูเวลาในโทรศัพทแก่อนจะเปิด คอมพิวเตอรแแล้วต่อสายวิดีโอคอล
มีดวงหน้าใบหนึ่งปรากฏขึ้นมาที่หน้าจอด้วยความ รวดเร็ว
ทางฝั่งนั้นยังเป็นเวลากลางวัน เหมือนกําลังอยู่บนถนน สวมเสื้อเชิ้ตสีดํา
กล้องหันกลับมา ในไม่ช้าก็เห็นใบหน้าคมคาย เขาถือ โทรศัพทแเข้ามาใกล้ๆ จนเห็นขนตาเรียวยาวของเขา บน ใบหน้ามีรอยยิ้มอบอุ่นที่คุ้นเคย “ดึกขนาดนี้แล้วยังไม่นอน?”
นั่นคือเฉิงเจวี้ยน
“เพิ่งกลับมาจากสถาบันวิจัย ทางฝั่งคุณคงไม่เป็นไร นะ?” ฉินหร่านดื่มนม เนื่องจากวางไว้นานจึงเย็นลงเล็กน้อย และทําให้นมมีกลิ่นแรง
“ไม่เป็นไร รอเดี๋ยว” เฉิงเจวี้ยนโน้มตัวลง มือซ้ายถือ โทรศัพทแ มือขวาดันหัวคนข้างๆ กลับมา “น้องชาย ทักทาย พี่สาวนายสิ”
ทันใดนั้นใบหน้าฉินหลิงก็โผล่ขึ้นมาบนหน้าจอ คอมพิวเตอรแ
มีเพียงดวงตาดําขลับคู่หนึ่ง ใบหน้าไม่มีอารมณแอย่างเห็น ได้ชัด ดูก็รู้แล้วว่าหงุดหงิด
เมื่อเห็นฉินหร่าน ใบหน้าหงุดหงิดก็หายไปในพริบตา กลายเป็นเรียบเฉย เขาตกใจเล็กน้อย “พี่…”
น้ําเสียงยังแฝงไปด้วยความน้อยใจ
เขายังอยากพูดอะไรต่อ แต่เฉิงเจวี้ยนพูดขัดจังหวะเขา ฟูองไปตรงๆ “น้องชายเธอแกล้งฉัน เดิมทีคิดจะโทร.หาเธอ แต่เมื่อกี้เปิดโทรศัพทแไม่ได้ตั้งหนึ่งชั่วโมง”
ฉินหร่านวางแก้วเปล่าลงบนโต฿ะ เหลือบมองไปที่ฉินหลิง
“แต่ไม่เป็นไร ยังไงก็เป็นน้องชาย” เฉิงเจวี้ยนตบหัวฉินห ลิงเบาๆ ก่อนจะมองฉินหร่าน พูดอย่างจริงจัง “ยังไงเธอก็ ระวังตัวด้วย ช่วงนี้เหตุการณแในประเทศค่อนข้างซับซ้อน มี เรื่องด่วนก็ปรึกษาเฉิงสุ่ย”
“เข้านอนเร็วๆ ละ ที่ประเทศตีสองแล้ว” เฉิงเจวี้ยน ขมวดคิ้วและให้ฉินหร่านวางสาย
“อ้อ” ฉินหร่านมองเขา เธอยื่นมือไปกําลังจะคลิกเมาสแที่ ปุุมวางสายสีแดง แต่ผ่านไปครู่หนึ่งก็ยังไม่คลิก ใช้มืออีกข้าง เท้าคาง “คุณจะกลับมาเมื่อไหร่?”
พอได้ยินดังนั้นเฉิงเจวี้ยนก็นิ่งไป เขาถอนหายใจเบาๆ “รอฉันเคลียรแธุระที่นี่เสร็จ น่าจะวันพรุ่งนี้หรือวันมะรืน ฉัน จะพยายามกลับให้เร็วที่สุด ช่วงนี้ก็ทําตัวดีๆ หน่อย รอฉัน กลับไปแล้วค่อยคุยกัน”
“ราตรีสวัสดิ์”
**
รัฐF
เฉิงเจวี้ยนวางสายเสร็จก็ก้มหน้าดูโทรศัพทแอยู่พักหนึ่ง
จากนั้นก็ถอนหายใจเบาๆ
ช่วงที่ฉินหร่านไปอวิ๋นเฉิง เขาอยู่เมืองหลวงตลอด พอ เธอกลับมาเมืองหลวง เขาก็มารัฐF
โชคดีที่ทางฉินหลิงไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“แสดงได้ไม่เลวเลยนี่ พี่สาวนายไม่สงสัยเลย” เฉิงเจวี้ยน หัวเราะ
ด้านข้าง ฉินหลิงหลุบหัวลง หลังจากนั้นไม่นานก็พูด งึมงํา “ขอบคุณ”
“ขอบคุณใคร?” เฉิงเจวี้ยนยัดโทรศัพทแใส่ในกระเปา พลางมองฉินหลิงคล้ายจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม
“ขอบคุณพี่” ฉินหลิงทําหน้าเฉยชา
เฉิงเจวี้ยนยิ้มอย่างเอ้อระเหย “น้องชาย ฉันเป็นใคร?”
ฉินหลิงหุบปาก เขาไม่ยอมพูดจนถึงที่สุด
“นายท่าน ทางด้านเฉิงสุ่ยมีข่าวมา” เฉิงถู่ถือเอกสาร กุลีกุจอเข้ามาจากทางด้านหนึ่ง
เฉิงเจวี้ยนสีหน้าจริงจัง เขาแค่หยอกฉินหลิงเล่น ตอนนี้ สั่งการไปอย่างเป็นระบบ “ให้คนพาเสี่ยวหลิงไปส่งท่านถัง ก่อน อย่างอื่นค่อยดูอีกที”
พอพูดเสร็จก็ก้มหน้ามองฉินหลิง “ไปหาปูุใหญ่นาย ก่อน”
ฉินหลิงไม่พูดอะไร
เฉิงถู่กําชับทั้งสองให้พาฉินหลิงไป
ฉินหลิงตามลูกน้องสองคนนั้นไป เขาเดินไปได้สองก้าว
แล้ววิ่งกลับมา
ก้มหัวลงต่ํา “ขอบคุณ…”
เฉิงเจวี้ยนกําลังคุยกับเฉิงถู่อยู่ เขาจึงไม่ได้สังเกตเห็นว่า ฉินหลิงย้อนกลับมาอีกครั้ง พอได้ยินที่เขาพูด เฉิงเจวี้ยนก็หัน ไปโดยไม่รู้ตัว พูดส่งๆ “อะไร?”
ฉินหลิงเงยหน้าขึ้น “ขอบคุณ พี่เขย!”
พอพูดจบก็หน้าแดงแล้ววิ่งหนีไป
ด้านหลัง เฉิงเจวี้ยนอึ้งไปไม่กี่วินาทีก่อนจะส่ายหน้า หัวเราะ “เจ้าเด็กคนนี้”
เฉิงถู่ก็มองไปทางฉินหลิงด้วยความประหลาดใจ เขา หัวเราะตามก่อนจะทําหน้าจริงจังมองเฉิงเจวี้ยน “คนของ พันธมิตรใต้ดินโผล่ที่เมืองหลวง ทางหมิงไห่หาจระเข้ยักษแเจอ แล้วครับ จระเข้ยักษแกับผมมีความแค้นกันอยู่ ถ้าเขาติดต่อห มิงไห่ขึ้นมา พวกเราจะลําบากเอาได้ นายท่าน พวกเราไปหา คุณหนูฉินกันดีไหม…”
เฉิงถู่รู้ว่าจระเข้ยักษแสนิทกับฉินหร่าน
เฉิงเจวี้ยนส่ายหน้า เขาขยับนิ้วควานหาบุหรี่ในกระเปา ออกมา คาบบุหรี่อย่างเปิดเผย “อย่าทําให้เธอลําบากใจ”
“งั้นพวกเรา…” เฉิงถู่ทอดถอนใจ “เมืองหลวงวุ่นวาย เกินไปแล้ว”
“หาคนอื่นก็ได้” เฉิงเจวี้ยนดีดเขม่าบุหรี่
เฉิงถู่ค่อนข้างแปลกใจ “ยังมีใครได้อีก?”
เฉิงเจวี้ยนหันตัวไป ปรายตามองเฉิงถู่ “หมาปุา เดียวดาย