เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 590 การเจอกันของสองลูกพี่ใหญ
เขาระบุให้ฉินหร่านฟังเจ็ดถึงแปดคนเรียงกัน แต่ละคนที่ พูดออกมาส่งๆ ล้วนเป็นลูกพี่ใหญ่ทั้งนั้น
“มีคนหาฉันเยอะขนาดนี้เลย?” ฉินหร่านแปลกใจ
“หมาปุาเดียวดาย เธอยังไม่รู้อีกเหรอว่าเธอมีน้ําหนักแค่ ไหนใน129 หมาปุาเดียวดายเป็นนัมเบอรแวัน ข่าวลือโลก ภายนอกยังบอกว่าเธอครอง129ด้วยซ้ํา เธอว่าไงล่ะ?” ฉัง หนิงปวดหัวบีบขมับ “เธอช่วยเข้าใจตัวเองให้มันถูกต้องด้วย ได้ไหม? เอะอะก็ลาพัก โชคดีที่เธอมียี่ห้อ129”
ฉินหร่านฟังดูแล้วก็ไม่ได้ยินชื่อพวกเฉิงสุ่ย
เธอเอนหลังพิงอย่างอดไม่ได้ เลิกคิ้วเล็กน้อย “หมิงไห่ก็ หาฉัน?”
“อือ” ฉังหนิงพิงเก้าอี้ นิ้วดีดเขม่าบุหรี่ “เขาคิดการใหญ่ อยากใช้ประโยชนแจากเธอควบคุมสี่ตระกูลหลักในเมืองหลวง แต่ว่า…เธอเคยให้ฉันสืบเหตุการณแระเบิดที่หนิงไห่มาแล้ว หมิงไห่ไม่ได้เป็นคนลงมือ แต่มีคน..ยืมดาบฆ่าคน คนคนนี้ แผนสูง แต่ก็อวดดีด้วยเหมือนกัน เรื่องตระกูลสวีกับคุณชาย สามตระกูลเฉิงก็คาดการณแได้อย่างแม่นยํา ใครที่เป็นคนลง มืออยู่เบื้องหลัง เธอก็น่าจะรู้ดี”
ฉินหร่านพยักหน้า ไม่ต่างจากที่เธอคาดเดาเอาไว้
ตอนที่โอวหยางเวยบอกเธอ เธอก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
ฉินหร่านเอนหลังพิงเก้าอี้ ยื่นมือไปหยิบคอมพิวเตอรแมา ปลายนิ้วเคาะตัวหนังสือไม่กี่ตัวบนแปูนพิมพแ
ในเวลาเดียวกัน
เลขาของหมิงไห่ก็กําลังเคลียรแเอกสารอยู่ จู่ๆ ก็มี ข้อความเด้งขึ้นมาบนหน้าจอคอมพิวเตอรแหนึ่งแถว
เลขาที่กําลังเร่งเคลียรแเอกสารถึงกับสะดุ้งเมื่อกล่อง ข้อความโผล่ขึ้นมากะทันหัน
หลังจากได้สติก็อ่านเนื้อหาในนั้นชัดๆ รูม่านตาขยาย เล็กน้อย
จากนั้นก็รีบไปหาหมิงไห่ที่ห้องทํางาน
ห้องทํางานหมิงไห่
“ลูกชายฉันเจ้าแผนการจริงๆ ยังซ่อนกองกําลังใหญ่อยู่ที่ รัฐFซะด้วย ฉันประเมินเขาต่ําไปแล้ว” เขาคาบบุหรี่พลาง
มองคนชุดดําที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่เข้าใจยาก “ทางฝั่ง โอวหยางเวยมีข่าวอะไรไหม?”
“เพิ่งส่งมาครับ น่าจะไม่ผิด” คนชุดดําก้มหน้า
หมิงไห่กัดบุหรี่ ริ้วรอยแห่งกาลเวลาบนใบหน้าไม่ได้ เด่นชัดเป็นพิเศษ “ตระกูลหยางลงมือหรือยัง?”
“ช่วงนี้เมืองหลวงมีกองกําลังเพิ่มขึ้นมาหลายฝุาย” คน ชุดดําขมวดคิ้ว “ตระกูลหยางจะ…ถ้าขอความช่วยเหลือจาก 129ได้ พวกเราคงไม่ถูกสั่นคลอนจนตกอยู่ในสภาพย่ําแย่”
“พรุ่งนี้ไปหาเวยเวยก่อน ยืนยันกับเธอเรื่อง129” หมิง ไห่หรี่ตาเล็กน้อย
ขณะที่ทั้งสองกําลังคุยกันอยู่
เลขาก็เคาะประตูมาจากด้านนอก
เขาถือโทรศัพทแเดินเข้ามา
“มีอะไร?” หมิงไห่ชายตามองเขา
“ท่านประธาน” เลขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆ พูด ขึ้นมาว่า “ผมเพิ่งได้รับข้อความมาเมื่อกี้ อีกฝุายอยากนัดเจอ กับท่านครับ”
“ใคร?” หมิงไห่พ่นควันบุหรี่
เลขาก้มหน้าใช้ความคิด เมื่อแน่ใจแล้วก็บอกไปว่า “คุณ ฉินท่านนั้น”
“ฉินหร่าน?” หมิงไห่เรียกชื่อนี้ขึ้นมา เขาขมวดคิ้วโดยไม่ รู้ตัว
เมื่อเร็วๆ นี้ฉินหร่านได้อยู่ในสายตาเขาอย่างเป็นทางการ เขาได้เห็นการดําเนินการปูองกันที่ทําเพื่อตระกูลสวีและ สถาบันวิจัยหมดแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะมีโอวหยางเวยก่อน หมิงไห่จะต้องมองเธอ สูงอย่างแน่นอน
แต่น่าเสียดาย…
หมิงไห่ส่ายหน้าเบาๆ เหมือนกําลังหัวเราะ “ตระกูลสวี เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน พวกนายลงไปซะ”
เลขารออยู่นานก็ไม่รอจนกว่าจะได้คําตอบจากหมิงไห่
เขาเดินออกไปพร้อมกับคนชุดดํา
จนกระทั่งประตูปิด เลขาจึงมองมาทางคนชุดดํา “ท่าน ประธานหมายความว่ายังไง?”
“พรุ่งนี้ท่านประธานจะไปติดต่อคุณหนูโอวหยางที่ ชายแดน คุณเข้าใจหรือยัง?” คนชุดดํามองเขาด้วยสีหน้าเฉย ชา
เลขากระจ่างได้ในทันที “ผมเข้าใจแล้ว เดี๋ยวผมจะไป ตอบคุณฉินท่านนั้น”
ถ้าไม่มีโอวหยางเวย หมิงไห่อาจจะไปพบฉินหร่าน
แต่ไม่ง่ายเลยที่จะมีข่าวโอวหยางเวยเล็ดลอดออกมาได้ สถานการณแปัจจุบันในเมืองหลวงค่อนข้างซับซ้อน กองกําลัง ที่เป็นตัวกลางอย่าง129จึงสําคัญมาก
ในเวลานี้
ฉินหร่านกับโอวหยางเวย ใครสําคัญกว่ากัน คนชุดดํายัง แยกแยะได้ดี
เลขากลับไปที่ห้องทํางาน
ในคอมพิวเตอรแยังเป็นกล่องข้อความพื้นขาว
ตัวอักษรสีดําขนาดสิบจุดห้า
ระบบปูองกันของหมิงไห่ก็เป็นระบบปูองกันชั้นยอด เช่นกัน อีกฝุายซุ่มโจมตีมาอย่างเงียบๆ เลขาอดไม่ได้ที่จะชื่น ชม——
(ประทานโทษครับ คุณฉิน ช่วงนี้ท่านประธานของเราไม่ ว่าง)
เขาไม่กล้าบอกว่าไปพบโอวหยางเวย
อีกด้านหนึ่ง
ฉินหร่านเห็นคําตอบของเลขาก็อดเกาหัวไม่ได้ เธอไม่ได้ เซ้าซี้ต่อแต่แค่เคาะแปูนพิมพแ
หลังจากนั้นไม่นาน ก็เอนหลังพิงหัวเตียง
กําลังคิดอยู่ในใจเรื่องที่ฉังหนิงพูดเมื่อกี้
ช่วงนี้เมืองหลวงมีกองกําลังเพิ่มขึ้นมาไม่น้อย ออกไปก็ พันธมิตรใต้ดินและยังมีจระเข้ยักษแที่ไหลไปตามน้ําโคลน ฉินหร่านสามารถจัดการกับกองกําลังพวกนี้ได้และคงไม่สร้าง ปัญหาใหญ่อะไรมากนัก
มีเพียงหนึ่งเดียว
ฉินหร่านเม้มปาก
เมื่อกี้ฉังหนิงพูดถึงลูกพี่ใหญ่รัฐF
ฉินหร่านรู้จักคนคนนี้
เธอยังเคยเจอเขาตอนที่อยู่รัฐF และยังเคยทะเลาะวิวาท กับเขามาแล้วครั้งหนึ่ง
ตอนนั้นเธอมีสภาพจิตใจไม่ค่อยดี ส่วนอีกฝุายก็ดูเหมือน จะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
อย่างไรก็ตาม…
สถานการณแก็ย่ําแย่มาก ต่อมากู้ซีฉือก็มาช่วยเธอไว้ ตอน นั้นเธอไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ การตายด้วยน้ํามือของเจ้า พ่อก็ถือว่าเป็นการทําลายชื่อเสียงของเธอด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม…
ฉินหร่านยื่นมือกุมหน้าผาก ตอนนั้นเธอยังมีสติคลุมเครือ แต่กลับได้ยินกู้ซีฉือพึมพํามาประโยคหนึ่งอย่างชัดเจนว่าให้ เธอตามคนที่ทําร้ายเธอมาแก้แค้น…
แม้เหตุผลที่เธอต่อยมวยเถื่อนจะไม่ได้เป็นเพียงเพราะ ลูกพี่คนนั้น แต่…
สิ่งที่กู้ซีฉือพูดทําให้เธอมีความกล้าที่จะลุกขึ้นอีกครั้ง
หลายปีที่ผ่านมา ฉินหร่านรับภารกิจมาหลายภารกิจ แต่ โดยหลักๆ แล้วเธอไม่ได้รับภารกิจของทางฝั่งรัฐF
ส่วนอีกฝุายก็อยู่รัฐFมาโดยตลอดและไม่เข้าร่วมเรื่องอื่น เลย ทว่าคราวนี้จู่ๆ ก็มาเมืองหลวง…
เมืองหลวงวุ่นวายมากพออยู่แล้ว ที่รัฐMก็รวมตัวกัน หมดแล้ว เมื่อเพิ่มเขามาอีกคน ฉินหร่านก็ไม่แน่ใจว่าจะ สามารถรักษาตระกูลเหล่านี้ไว้ได้หรือไม่
ฉินหร่านขมวดคิ้ว ปลายนิ้วพิมพแโทรศัพทแ หลังจากนั้น ไม่นานเธอก็ยื่นมือส่งข้อความให้ฉังหนิง——
(คนที่คุณพูดถึงก่อนหน้านี้ ฉันเจอแล้ว)