เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 592 บังเอิญจริงๆ นายทานก็ตองออกไป
พบใครสักคนเหมือนกัน
เฉิงเจวี้ยนก้มหน้าจึงมองเห็นข้อความด้านใน
ข้อความทางการของ 129 มีอยู่ไม่กี่คํา พูดถึงการ ยอมรับการพบเจอของหมาปุาเดียวดายที่สโมสรลับแบบตัว ต่อตัว
เฉิงเจวี้ยนเห็นข้อความนี้แล้วค่อนข้างประหลาดใจ
เขาค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับหมาปุาเดียวดาย มานานมากแล้ว
ตอนนั้นเขายังไม่ได้ควบคุมอํานาจมากขนาดนี้ หมาปุา เดียวดายก็มีชื่อเสียงที่ 129 เหมือนกับจระเข้ยักษแและธุลี มังกร ทั้งยังมีโอกาสช่วยเหลือเขาเล็กๆ น้อยๆ ด้วย
จัดการคนของจระเข้ยักษแไปพร้อมศัตรูของเฉิงเจวี้ยน พอดี
แต่น่าเสียดายที่หลังจากครั้งนั้น อีกฝุายปรากฏตัวน้อย มาก แม้แต่ภารกิจก็แล้วแต่อารมณแว่าอยากรับหรือไม่รับ
หลังจากเขากลับประเทศมาพักฟื้นอยู่อวิ๋นเฉิง อีกฝุายก็ อยู่ในประเทศพอดี
ตอนนั้นเขาต้องจ่ายราคาสูงเป็นห้าสิบเท่าให้หมาปุา เดียวดายลงมือกับทีมห่าวที่หาข่าวการหายตัวไปโดยไม่ทราบ สาเหตุของเมืองหนิงไห่
ถ้าคนอย่างหมาปุาเดียวดายยินยอม เงินไม่ขาดมือแน่
แปลกมาก ตอนนั้นหมาปุาเดียวดายหายตัวไปปีกว่าแล้ว ในตอนนั้นเขายังใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายด้วยความเอาแต่ใจ ใครจะ ไปรู้ว่า…
อีกฝุายจะรับคําสั่งของเขาจริงๆ
ตอนนั้นเขาสนใจในหมาปุาเดียวดายเป็นอย่างมาก และ พยายามที่จะตามหาหมาปุาเดียวดาย
ท้ายที่สุดแม้แต่นามแฝงในอินเทอรแเน็ตก็มีเพียงตัวอักษร ชื่ออย่างเดียว
เพียงแต่…การปรากฏตัวของฉินหร่านทําลายแผนการ ของเขา เขาพอจะรู้ว่าเธออยากหาอะไรที่ห้องพยาบาล
โรงเรียนของเขา เขาไม่ได้พูด ทั้งยังเอ่ยปากทิ้งร่องรอยไว้ด้วย ตนเองเพราะอยากรู้ว่าอํานาจแบบไหนที่เข้าใกล้เขา
เหมือนว่าตัวเขาจะพึงพอใจหญิงสาวคนนี้
เขาแค่อยู่ในห้องพยาบาลของโรงเรียน
ใครจะไปรู้…
อยู่ไปอยู่มา ความพึงพอใจจะแปรเปลี่ยนเป็นความสนใจ จริงๆ
ต่อมา…ความสนใจที่มีต่อหมาปุาเดียวดายก็ไม่ได้มี มากมายแล้ว
มีเวลาไปหาหมาปุาเดียวดาย ก็ไม่เหมือนการคว้าคนใน ครอบครัวของตนเอง
ครั้งนี้เฉิงถู่บอกให้ติดต่อหมาปุาเดียวดายที่ช่องทาง ติดต่อ 129 เฉิงเจวี้ยนจึงคงไว้ซึ่งอารมณแสบายๆ ถึงเวลาเมือง หลวงพังทลายแล้ว เขาก็พาพวกฉินหร่านกลับไปที่ฐานทัพ หลักรัฐ F ได้
นึกไม่ถึงว่าผู้ที่เป็นเทพลึกลับจับตัวยากอย่างหมาปุา เดียวดายจะอยากออกมาจากถ้ําแล้วจริงๆ อย่างนั้นแหละ
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เฉิงเจวี้ยนอยากไปพบอีก ฝุายแน่นอน
“นายท่าน?” เฉิงสุ่ยพูดต่อไม่กี่ประโยค เห็นว่าเฉิงเจวี้ยน ไม่พูดอะไรเลยจึงอดไม่ได้ที่จะเรียกเขา
เฉิงเจวี้ยนส่งเสียง “อือ” เขาตอบสนองกลับ “มีธุระ เรื่องหนึ่ง”
เขาโยนโทรศัพทแลงบนโต฿ะ
เห็นท่าทีนี้ของเขา เฉิงสุ่ย เฉิงจิน เฉิงมู่และคนอื่นๆ ยืน ขึ้นตรง นั่งลงนิ่ง ฟังอย่างใจจดใจจ่อ “นายท่าน คุณว่ามา”
“พรุ่งนี้เก้าโมงหมาปุาเดียวดายจะคุยรายละเอียดกับ ฉัน” เฉิงเจวี้ยนพาดขาเข้าด้วยกันอย่างเกียจคร้านแล้วเลิกคิ้ว ตอบ
มือของเฉิงสุ่ยที่ดันแว่นนิ่งไป สักพักเขาจึงเงยหน้า “นาย ท่าน คุณว่าอะไรนะ”
“นายท่านเจวี้ยนบอกว่าคุยรายละเอียดกับหมาปุา เดียวดายพรุ่งนี้เก้าโมง…” เฉิงมู่พูดซ้ําอีกรอบ พูดได้ครึ่งหนึ่ง เขาก็ชะงักไปแล้วเงยหน้ามองเฉิงเจวี้ยนอย่างเงอะงะ
**
เฉิงเจวี้ยนออกมาจากห้องหนังสือตอนสามทุ่มกว่า
เขาหยุดอยู่ข้างประตูของฉินหร่าน ในมือถือบุหรี่ยืนอยู่ อย่างเงียบๆ เกือบสิบนาที คิดว่าเธอน่าจะหลับไปแล้ว
เขาจึงไม่ได้เคาะประตูเข้าไป
ตอนที่กําลังจะจากไป ประตูก็ถูกเปิดจากด้านใน
ฝีก้าวของเขาหยุด ยืนมองด้านในจากด้านนอก ฉินหร่าน สวมใส่เสื้อนอน ใบหน้าดูมีชีวิตชีวามาก ดูเหมือนว่าจะยังไม่ นอน นัยนแตาขาวแดงก่ําเล็กน้อย
“นอนไม่หลับเหรอ” เฉิงเจวี้ยนมองเธอก็รู้ถึงที่มาของ ปัญหา
ฉินหร่านเกาผม “เหนื่อยหน่าย”
เฉิงเจวี้ยนครุ่นคิด คิดว่าเธอเหนื่อยหน่ายกับเรื่องของ ตระกูลสวีและอวิ๋นกวงกรุ฿ป เขาก้มหน้าโน้มเข้ามา ลมหายใจ ของร่างกายชัดเจนมากขึ้น เสน่หแเกินต้านพัดผ่านใบหูของ ฉินหร่าน พูดด้วยเสียงเบาๆ “ไม่เป็นไร ฉันจัดการให้ได้”
ในความเป็นจริงฉินหร่านรู้สึกเหมือนตายแล้วตายอีก
นอกเสียจากว่าเธอจะหายไปจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงยากที่ จะปล่อยวาง
แค่เขาพูดแบบนี้ เธอก็สงบลงทันที จึงเอื้อมไปกอดเขา กลับ หน้าผากพิงที่ไหล่ของเขา ส่งเสียง “อา” อย่าง ครุมเครือ น้ําเสียงเหนื่อยหน่าย “คุณพูดแล้วนะ”
“แน่นอน” เฉิงเจวี้ยนยิ้มแล้วกอด สายตามองผ่าน หน้าต่างออกไปข้างนอก แสงดาวพร่างพราย “ฉันอยากเห็น จังว่าจะมีใครกล้าลงมือ”
ฉินหร่านไม่กล้าเอ่ยปากอีก
กลัวว่าแจกแจงรายชื่อศัตรูของตัวเองไป พวกเฉิงสุ่ยจะอ ยากอกแตกตาย
ยิ่งกว่านั้นกลัวว่าเฉิงเจวี้ยนจะพบอดีตของเธอ
เธอครุ่นคิดสักพักจึงพูดพึมพํา “คืนพรุ่งนี้ ฉันจะบอก เรื่องหนึ่งกับคุณ”
คืนพรุ่งนี้เฉิงเจวี้ยนก็อยากถามเธอเรื่องห้องพยาบาลของ โรงเรียนเช่นกัน ได้ยินดังนั้น จึงไม่ได้ถามอะไรเธอ เพียงยิ้ม “ได้”
**
วันต่อมา
ฉินหร่านตื่นเช้ามาก
ตอนที่เธอตื่น เฉิงเจวี้ยนตื่นก่อนแล้ว
ไม่ใช่แค่เฉิงเจวี้ยนที่ตื่น จิน-มู่-สุ่ย-หั่ว-ถู่ที่หาเจอได้ยาก ต่างนั่งพร้อมหน้าพร้อมตาอยู่ที่โต฿ะกินข้าว
ไม่ใช่ว่าทั้งห้าคนนี้ไม่กลับไปเพราะนอนหลับเกินเวลา หรือเป็นคนยุ่งมากแบบเฉิงจิน
ทุกคนต่างมีจุดที่เหมาะสมของตัวเอง เชฟจดจําบันทึก ของแต่ละคนเอาไว้
วันนี้เหมือนจะมีพิธีการ มาอยู่พร้อมกัน นั่งเพียบพร้อม อยู่โต฿ะกินข้าว
เฉิงมู่นําเอาขนมปังออกมาจากในห้องครัวด้วยท่าทีนิ่ง เฉย แล้วจึงเอียงหน้ามองอาหารเช้าอันประณีตในจานของ เฉิงสุ่ย อดไม่ได้ที่จะถามพ่อครัว “วันนี้ฉันก็ได้ขนมปังเหรอ”
“คุณเฉิงมู่ คุณเฉิงจินเอาอาหารเช้าของคุณไปแล้ว” พ่อ ครัวพูดด้วยท่าทีนิ่งเฉยเช่นกัน
สวรรคแกลับมาเกิด
เฉิงมู่กลับมายังที่นั่งของตนโดยไม่ส่งเสียงใด ฉินหร่านก็ นั่งอยู่โต฿ะกินข้าวด้วย
“ทําไมตื่นเช้าจัง” เฉิงเจวี้ยนยื่นอาหารเช้าของฉินหร่าน ให้เธอ ประหลาดใจที่เธอตื่นเช้าขนาดนี้
ฉินหร่านหาวอย่างเหนื่อยหน่าย ดื่มนมก่อนแล้วส่งเสียง “อา” อย่างครุมเครือ “ฉันจะออกไปข้างนอกพบคนคนหนึ่ง”
“บังเอิญจริงๆ อีกสักพักนายท่านก็ต้องออกไปพบคน เหมือนกัน” เฉิงสุ่ยยิ้มมองทางฉินหร่าน