เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 595 ถึงจะเป็นผู้นําก็ต้องเรียกเขาว่าพี่ มีคนดีอยู่ไม่กี่คนที่รัฐ F
- Home
- เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ
- ตอนที่ 595 ถึงจะเป็นผู้นําก็ต้องเรียกเขาว่าพี่ มีคนดีอยู่ไม่กี่คนที่รัฐ F
จระเข้ยักษแรอไม่ไหวแล้ว นิสัยแบบฉินหร่านที่ไม่มีความ อดทนเลยแม้กระทั่งคุยกับเขา
ให้คุยกับคนไม่คุ้นเคย คุยห้านาทีก็น่าระแวงมาก
จระเข้ยักษแไม่พูดมาก ว่าแล้วจึงผลักประตูออกไป
ที่ผ่านมาฉังหนิงเป็นคนแน่วแน่
เห็นจระเข้ยักษแออกไป เขาจึงตรงตามไป แล้วโทร.ออก “ให้พวกสหายเข้ามา”
โทร.เสร็จ ฉังหนิงจึงออกคําสั่ง “อย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่น ดูก่อนว่าผู้นํารัฐ F ท่านนั้นพูดอะไร แก้ไขได้อย่างสันติจะดี ที่สุด”
“โอเค” จระเข้ยักษแพยักหน้าเฉยเมย
จระเข้ยักษแรู้ว่าห้องรับรองอยู่ไหน
ตอนที่คุยอยู่ หลายคนก็มาถึงที่ประตูห้องรับรอง หมายเลข 5 แล้วด้วยท่าทางก้าวร้าวแล้ว
แรงพิฆาตของคนเหล่านี้มีไม่น้อย เฉิงมู่ที่กําลังนั่งยองอยู่ ประตูห้องรับรอง กําลังส่งข้อความอวดเก่งหาพวกเฉิงจิน
ได้ยินการเคลื่อนไหวของคนเหล่านี้ เขาอดไม่ได้ที่จะ แหงนหน้ามองไปทางที่นํามาโดยฉังหนิง
ใบหน้าของฉังหนิง เฉิงมู่ไม่รู้จัก แต่เขารู้จักจระเข้ยักษแที่ อยู่ด้านข้างฉังหนิง “คุณ.. คุณจระเข้ยักษแ คุณ…”
“ทําไมคุณไม่เข้าไปด้วยกันกับคุณหนูของตระกูลพวก คุณล่ะ” จระเข้ยักษแก็รู้จักเฉิงมู่ เขาขมวดคิ้วมองเฉิงมู่ ไม่ได้ พูดอะไรมาก เพียงยื่นมืออุกอาจจะผลักประตูห้องรับรอง หมายเลข 5
แต่ยังไม่ทันได้ลงมือ ประตูห้องรับรองก็เปิดออกเองแล้ว
เฉิงเจวี้ยนเปิดประตู ฉินหร่านอยู่ด้านหลังเขา
จระเข้ยักษแและฉังหนิงยังไม่ทันได้มีเวลาลงมือ
ตึกตึกตึก
ปลายทางเดิน เสียงฝีเท้าดังขึ้น
ไม่นานก็มีเสียงรีบเร่งร้อนรนของเฉิงหั่วตามมา “นาย ท่านเขาจะเผาคุณ เมื่อกี้พวกเราเห็นกําลังติดอาวุธของ 129 ที่ด้านล่าง…”
พวกเฉิงหั่วรีบขึ้นไปชั้นบน
จระเข้ยักษแ ฉังหนิง รวมทั้งฉินหร่านมองหน้ากัน
ทั้งสองฝุายตอนนี้ต่างเงียบไป
ในสมองวนเวียนอยู่เพียงความคิดเดียว
ไม่ใช่ว่าวันนี้หมาปุาเดียวดาย (นายท่าน) มาพบผู้นํารัฐ F (หมาปุาเดียวดาย) หรอกเหรอ
ท่ามกลางความเงียบที่แปลกประหลาด
เฉิงเจวี้ยนหันไปยิ้มให้จระเข้ยักษแก่อน แล้วพูดอย่าง สุภาพ “คุณโหลว เจอกันอีกแล้ว”
หลังจากทักทายจระเข้ยักษแ เฉิงเจวี้ยนจึงหันไปมองฉัง หนิงแล้วพูดต่อ “ท่านนี้คงจะเป็นคุณฉังหนิง”
สุดท้ายเขาจึงโค้งตัวพูดอย่างเคร่งขรึม “ขอบคุณหลาย ท่านที่ดูแลเธอที่ผ่านมา”
“เอเ?” ธุลีมังกรที่ได้รับคําขอบคุณจากเฉิงเจวี้ยนอย่าง งุนงงยังไม่รู้ตัว เขาเพียงส่ายมือไปมา “เรื่องเล็กน้อย เรื่อง เล็กน้อย…”
ฉินหร่านมือปิดปาก กระแอมเบา “ลูกพี่ฉังหนิง พวกคุณ เข้ามาก่อนค่อยคุย”
ฉังหนิงยังคงรักษาภาพลักษณแลูกพี่ของตัวเองเอาไว้ เขา พยักหน้าอย่างยากที่จะคาดเดา โทรศัพทแหาลูกน้อง “ไม่ต้อง มาแล้ว”
จระเข้ยักษแหน้าตายอยู่เสมอ แม้ว่าในใจจะเหลืออด ขนาดไหน แต่สีหน้าก็ยังจริงจังอยู่
ธุลีมังกรลูบศีรษะ เขาที่เป็นคนช่างพูด ตอนนี้กลับไม่ได้ พูดอะไรออกมา เพียงตามพวกฉินหร่านเข้าไป
ผู้นําทั้งหลายเข้ามาที่ห้องรับรองหมดแล้ว
ด้านนอกเหลือเพียงพวกเฉิงหั่ว เฉิงจินและอีกไม่กี่คน
“เฉิงสุ่ย ฉันรู้แล้ว” เฉิงหั่วลูบใบหน้า
เฉิงสุ่ยไม่พูด เพียงมองเฉิงมู่เงียบๆ
เฉิงมู่ได้สติกลับมาสักพักแล้ว เขาตบแขนเสื้อ เปลี่ยน จากนั่งยองเป็นยืนขึ้น เขามองพวกเฉิงสุ่ย มือไพล่หลังอย่าง งุนงงสุดๆ “อ่อ ก็สถานการณแที่พวกคุณเห็นนี่ไง”
**
ในห้อง
ธุลีมังกรเจี๊ยวจ฿าว “ไม่ใช่ พระเจ้า แบบนี้พวกคุณโอเค เหรอ”
อย่าว่าแต่ธุลีมังกร แม้กระทั่งฉังหนิงในใจก็เอ่อล้น เช่นกัน เขาดื่มชาจนหมดถ้วย จึงพยายามระงับความคาดไม่ ถึงในใจ แสร้งมองฉินหร่านนิ่ง “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่ต้อง แทรกแซงในเมืองหลวงแล้ว พรุ่งนี้ตระกูลสวีจัดการเสร็จแล้ว ใช่ไหม”
“อือ” ฉินหร่านพยักหน้า
“งั้นก็ดี” นอกจากประโยคนี้ ฉังหนิงก็ไม่รู้จะพูดอะไรได้ แล้ว เขาหันไปทางเฉิงเจวี้ยน “นายน้อยเฉิงที่สาม ความ ขัดแย้งระหว่างคุณกับจระเข้ยักษแ…”
“เป็นความเข้าใจผิดทั้งหมด” เฉิงเจวี้ยนยกแก้วไปทาง จระเข้ยักษแอย่างเคร่งขรึม
จระเข้ยักษแจิบชาหนึ่งอึกด้วยท่าทีเรียบนิ่ง
หลายคนพูดคุยถึงเรื่องราวพรุ่งนี้ ดูเหมือนฉินหร่านมี เรื่องอยากพูดกับเฉิงเจวี้ยนและคนอื่นๆ ทุกคนจึงแยกย้ายกัน กลับ
ในรถ
“หลังจากพรุ่งนี้ ที่เมืองหลวงจะเป็นฟูาหลังฝนแล้ว” ฉัง หนิงนั่งอยู่ด้านหลัง ยิ้มบาง
เขาจะไม่ยิ้มได้ไง ลูกเขยของ 129 เป็นถึงผู้นําของรัฐ F
มีฉินหร่านอยู่ แม้คุณจะเป็นผู้นําของรัฐ F ท่านนั้น ก็ยัง พูดกับเขาอย่างสุภาพ พูดได้ว่าต้องเรียกพี่
ฉังหนิงเงยหน้า
**
วันต่อมา
ช่วงพลบค่ํา
ทีมของคนตระกูลสวีออกเดินทาง
เฉิงเจวี้ยนยืนอยู่เรือนพักอย่างเคร่งขรึม สั่งการพวกเฉิงถู่ “พาคนไปก่อนล่วงหน้า อย่าเปิดเผยสถานะ อย่าหุนหันพลัน แล่นเมื่อพบคนของจระเข้ยักษแ“
เฉิงถู่รู้แล้วว่าจระเข้ยักษแเป็นทั้งเพื่อนและศัตรู
ได้ยินประโยคนี้จึงยกมือขึ้นตรง “ครับ!”
เขาตรงออกไป
“น้องชายสาม พวกคุณสองคน…” แม้ว่าสองวันนี้เฉิงเวิน หรูจะยุ่งกับเรื่องของตระกูลเฉิง แต่ก็รู้เรื่องของสถานการณแที่ เมืองหลวงอย่างแจ่มแจ้ง เห็นท่าทีนี้ของเฉิงเจวี้ยนก็อดเลิก คิ้วไม่ได้ “ฉันคิดอยู่เสมอว่ามีการหลอกลวงในครั้งนี้ ตระกูลส วีพูดไม่ถูก…อาจจะเป็นกลอุบาย”
“พี่เฉิง คุณไม่ต้องห่วง” ฉินหร่านปลอบเฉิงเวินหรู
เธอไม่ได้อยู่กับเฉิงเจวี้ยนมากนัก
และได้พบปะโดยตรงกับตระกูลสวี
สวีเหยากวงมองเฉิงเจวี้ยน ส่งเสียงเบาเรียก “นายน้อย เจวี้ยน” แล้วไม่พูดอะไรอีก
ตอนนี้ไม่มีสถานะนายน้อยเฉิงเจวี้ยนในตระกูลเฉิงที่อยู่ เมืองหลวงแล้ว น้อยคนที่จะเรียกเขาว่า “นายน้อยเจวี้ยน”
ได้ยินเสียงของสวีเหยากวง เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว มองสวีเหยากวงแต่ไม่พูดอะไร
วันนี้เป็นการซื้อขายครั้งแรกระหว่างตระกูลสวีกับรัฐ M จะผิดพลาดไม่ได้ ไม่อย่างนั้น เกรงว่าตระกูลสวีจะได้เดินตาม รอยเก่าของตระกูลฉิน แต่ตอนนี้ตระกูลฉินก็เริ่มฟื้นตัวแล้ว
ทุกคนของตระกูลสวีปลุกอารมณแขึ้น
มีเพียงอารองสวีที่มองฉินหร่านด้วยสายตาครุมเครือ