เพราะรักสลักใจ - ตอนที่ 810 เจ้าว่าพวกเขาวางแผนอะไรกันแน่
ซูเซียงคิดว่าหลังข่าวการตั้งครรภ์ของตนแพร่ออกไปแล้ว จ้าวชิงเฟิงกับเถียนเฉิงรุ่ยเจ้าทึ่มทั้งสองนั่นน่าจะตัดใจไปได้แล้ว?
ไหนจะรู้สองทึ่มนั่นราวกับสมองถูกประตูหนีบไปแล้ว กลับยิ่งทำดีกับนาง โดยเฉพาะเถียนเฉิงรุ่ย
ทุ่มเทแรงกายแรงใจลงกับการเพาะปลูกพืชสมุนไพรผืนนั้นของนาง ในหนึ่งวันก็วิ่งเหงื่อท่วมเข้ามาหานางสิบห้าสิบหกเที่ยว มาทุกครั้งก็พูดแค่ไม่กี่ประโยค เพียงถามว่านางรู้สึกไม่สบายตรงไหนบ้าง บอกว่าคนท้องต้องดื่มน้ำร้อนมากๆ จากนั้นก็รีบวิ่งไป
เมื่อครู่ก็เหมือนกัน เถียนเฉิงรุ่ยเช็ดเหงื่อท่วมศีรษะเข้ามาเที่ยวหนึ่ง ในมือถือไข่นกกระทามาสองฟอง บอกว่าเขาเก็บได้จากคันนา ยังบอกว่าไข่นกตามธรรมชาติแบบนี้บำรุงกำลังดีเป็นที่สุด ให้ชุ่ยหลิ่วรีบไปตุ๋นให้ซูเซียง
รอจนคนไปแล้วซูเซียงถึงค่อยถอนหายใจอย่างจนปัญญา “เจ้าว่าพวกคิดจะทำอะไรกันแน่? วางแผนอะไรอยู่?”
ชุ่ยหลิ่วเองก็สับสนมึนงง ส่ายหัวเป็นกลองป๋องแป๋ง “ใครเล่าจะรู้? องค์ชายปั่นหัวพวกเขาจนกลายสภาพเป็นหมีแบบนั้นแล้วก็ยังไม่ยอมไป ไม่แน่ว่าอาจยังไม่ยอมตัดใจจากฮูหยินนะเจ้าคะ!”
“…” ซูเซียงหมดคำพูด “เจ้าว่าข้าก็ท้องแล้ว พวกเขายังวางแผนทำอะไรข้าได้อีก?”
ผู้อื่นล้วนกล่าวกันว่าสตรีมีครรภ์มักอารมณ์แปรปรวนแปลกพิลึก ซูเซียงเองก็รู้สึกว่าช่วงหลายวันนี้เห็นเจ้าทึ่มสองคนนั้นขัดหูขัดตายิ่งนัก
ถือโอกาสตอนที่จ้าวซิงกลับมา ซูเซียงก็ฟ้องข้างหูเขา “ท่านพี่ เจ้าไล่คนแซ่เถียนนั่นไปได้หรือไม่ บ้านเรามีเงิน ไม่จำเป็นต้องใช้แรงงานไม่เสียเงินพวกนั้น…”
เหนือความคาดหมายจ้าวเซิงถึงกับส่ายหน้า ยื่นมือลูบๆ ศีรษะของซูเซียง ยิ้มให้อย่างอ่อนโยนยิ่ง “ภรรยา เมื่อก่อนเจ้าเคยบอกว่าแรงงานไม่เสียเงินพวกนี้ไม่ใช่ก็เสียดายประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้นเขาคุ้นเคยกับการเจริญเติบโตของแปลงสมุนไพรผืนนั้นแล้ว จู่ๆ เปลี่ยนอีกคนเข้ามา คงยุ่งยากน่าดู ทั้งยังไม่แน่ว่าจะไว้ใจได้ด้วย เจ้าว่าจริงหรือไม่?”
หลังซูเซียงตั้งครรภ์จ้าวเซิงก็เปลี่ยนแนวต่างไปจากเดิม ทำดีกับแรงงานฟรีสองคนนั้นจนไม่อาจดีไปกว่านี้ได้อีกแล้ว ไม่ว่าเมื่อใดที่ไหนก็ยิ้มแย้มเป็นมิตร เลี้ยงดูให้กินดีดื่มดี แต่ความหมายแท้จริงของเขาก็คือ “กินอิ่มแล้วก็ตั้งใจทำงาน!”
ท้องของซูเซียงขยายใหญ่ขึ้นทุกวัน ชีวิตผ่านไปอย่างสงบสุขเช่นนี้ ซูเซียงนำที่ดินโดยพื้นฐานทั้งหมดมาปลูกสมุนไพร ยืนบนระเบียงชั้นสองสามารถมองเห็นดอกจี๋เกิ่ง[1]กว้างใหญ่ทั่วทั้งผืนพลิ้วไหวท่ามกลางสายลม ไม่ต้องบอกว่างดงามมากเพียงใด
ในวังหลวงยามนี้ รัชทายาทใกล้ชิดสนิทสนมกับซูย่วน ถึงขั้นอยู่ในตำหนักเดี่ยวของซูย่วนตลอดทั้งบ่าย คนทั้งสองดีดพิณวาดภาพ สนทนาขับกลอน วันเวลาผ่านไปอย่างสุขสำราญใจ
ทุกครั้งที่รัชทายาทกลับมาจากตำหนักของซูย่วนมุมปากล้วนประดับด้วยรอยยิ้มบางๆ มีบางครั้งยังเหม่อลอยยิ้มโง่เง่ากับขอบหน้าต่าง
รัชทายาทเป็นมกุฎราชกุมารแห่งรัฐ ทุกกิริยาวาจาของเขาย่อมต้องระมัดระวัง ไม่รู้ว่าผู้ใดนำข่าวนี้ลือไปถึงพระกรรณ ของพระพันปี พระพันปีทรงกริ้วจนไม่เสวยพระกระยาหารเที่ยง ให้แม่นมไปเรียกรัชทายาทเข้าพบ
ก่อนรัชทายาทเข้าประตูมา แม่นมยังเกลี้ยกล่อมข้างหูพระพันปีเสียงเบา “เด็กยังอายุน้อย พระองค์ท่านต้องพูดกับเขาดีๆ ทรงอย่าใช้อารมณ์”
พระพันปีเอนกายบนตั่งยาว มือยันหน้าผาก พยักหน้า “ข้ารู้แล้ว จะพยายามพูดดีๆ”
เวลานี้รัชทายาทเข้าประตูมาแล้ว ไม่รู้เพราะเหตุอันใดเขายังคิดว่าพระพันปีคิดถึงเขาเช่นปกติ บนพระพักตร์ยังพกพารอยยิ้มแช่มชื่น ย่างพระบาทเข้ามาอย่างคล่องแคล่ว
เนื่องด้วยอารมณ์ดี สักเวลาเดียวก็มองไม่ออกว่าสีหน้าของพระพันปีดูไม่ถูกต้อง คุกเข่าลงบนพื้น ในน้ำเสียงยังพกพาความสุขเข้มข้น “เสด็จย่า หลานถวายบังคมเสด็จย่า!”
เดิมทีพระพันปีสงบสติอารมณ์ลงได้แล้ว พอเห็นหน้าตาชื่นมื่นภูมิใจของเขาอารมณ์ก็ดิ่งลงไปอีกครั้ง นางสามารถนั่งบนตำแหน่งหลัง (หมายถึง ฮองเฮา หรือไทเฮา) นี้ได้อย่างมั่นคงหลายปี ภูตผีปีศาจมากน้อย วิญญาณร้ายสารพัดแบบนางล้วนขจัดหมดสิ้น ท้ายที่สุดประคองโอรสของตนขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดในใต้หล้านี้ได้อย่างราบรื่น ความคิดเด็กๆ ของเขานี้มีหรือจะดูไม่ออก?!
——
[1] ดอกจี๋เกิ่ง (吉梗花) หรือดอกบัลลูน (Platycodon grandiflorus (Jacq.) A. DC. ) เป็นไม้ล้มลุก รากอวบหนา ใบออกเป็นวงรอบข้อ ดอกรูปถ้วยหรือรูประฆังกว้าง สีม่วง ชมพูอ่อน หรือขาว มีถิ่นกำเนิดในจีน รัสเซีย เกาหลี และญี่ปุ่น เป็นไม้ประดับกระถางแขวน มีหลากสายพันธุ์