เพราะรักสลักใจ - ตอนที่ 812 มาตรการบังคับของพระพันปี
“สมคบศัตรูก่อกบฏ เหอะๆ …” รัชทายาทลุกยืน ถอยหลังไปไกลสามก้าวแล้วจึงค่อยค้อมเอวทำความเคารพประสานมือ “สมแล้วที่เป็นสตรีที่เสด็จย่าพอพระทัย ช่างเก่งกาจมีความสามารถเสียจริง เพียงเพราะความแค้นเล็กๆ น้อยๆ ก่อนหน้านั้น ถึงกับยัดความผิดโทษประหารอย่างสมคบศัตรูก่อกบฎใส่ตัวคนบริสุทธิ์”
“ในเมื่อเสด็จย่าบอกว่าครอบครัวฮู่กั๋วกงสมคบศัตรูก่อกบฏ เช่นนั้นขอทรงพระกรุณานำหลักฐานออกมา ไม่อาจใส่ความขุนนางผู้มีความดีความชอบตามอำเภอใจเช่นนี้ได้ วังหลังไม่ว่าราชการ เรื่องของฮู่กั๋วกงก็ดี เรื่องแต่งไท่จื่อเฟยของหลานก็ดี เหล่านี้ล้วนเป็นงานราชกิจ คงไม่รบกวนเสด็จย่าเหนื่อยยากลำบากพระทัย ขอเสด็จย่าทรงพักผ่อนสงบจิตสงบใจ หลานทูลลา!”
รัชทายาทตรัสวาจายาวเป็นพรวนนี้โดยไม่หยุดพัก หันกายจากไปท่ามกลางความตกตะลึงของพระพันปี
“พระพันปี! พระพันปี! พระองค์เป็นอะไรไปเพคะ? ตามหมอหลวง ตามหมอหลวงเร็วเข้า…”
โดยรวดเร็ว ข่าวการประชวรของพระพันปีแพร่ออกไป พร้อมกันนั้นยังออกพระราชเสาวนีย์อีกหนึ่งฉบับ : นับแต่วันนี้ไป จักรพรรดิและรัชทายาท ไม่เรียกเข้าเฝ้าห้ามเหยียบย่างเข้าพระตำหนักโซ่วอันแม้แต่ครึ่งก้าว!
หากกล่าวว่าองค์จักพรรดิถูกไล่ออกจากพระตำหนักโซ่วอันคราก่อนปิดผนึกดี เป็นเพียงข่าวลือออกมากะปริบกะปรอย เรื่องของรัชทายาทคราวนี้ก็เป็นการตอกตะปูลงบนแผ่นเหล็กแล้ว พระราชเสาวนีย์ลงมาแล้ว เช่นนั้นมีหรือจะเป็นเท็จ!
จักรพรรดิกับรัชทายาทถูกไล่ติดต่อกัน พระพันปีกริ้วจนประชวร ราชสำนักและราษฎรต่างเริ่มปั่นป่วนโกลาหลขึ้นมา ต้าหรงยึดถือหลักกตัญญูครองใต้หล้า บัดนี้จักรพรรดิรัชทายาทล้วนไม่เคารพหลักกตัญญู แค่คิดก็รู้ได้ว่ามีคำนินทาหนาหูมากน้อยเพียงใด
พระพันมียังมีราชโองการลับอีกฉบับหนึ่งสั่งให้ซูย่วนเสี้ยนจู่กลับบ้านทันที หากผู้ใดกล้ารั้งให้นางอยู่ต่อ พระพันปีก็มีร้อยพันวิธีจะทำให้นางตายไร้หลุมฝังศพ
รัชทายาทไร้หนทาง จำต้องให้ซูย่วนกลับบ้าน คืนก่อนเดินทาง รัชทายาทตัดสินใจแน่วแน่ไปบอกกับซูย่วนว่าอยากแต่งนางเป็นไท่จื่อเฟย ทว่าซูย่วนกลับร้องไห้ บอกว่าคนที่ตนชมชอบคือจั้นอ๋อง บอกว่าตนเป็นคนรักเดียวใจเดียว ซึ้งพระทัยรัชทายาทดีต่อนาง ซ้ำยังร่ำไห้จนแทบหายใจไม่ออก บอกว่ากลับไปครานี้อาจไม่ได้พบหน้ากันอีก บอกว่าแม้ตนกับรัชทายาทไม่อาจอยู่ด้วยกัน บุญคุณที่ติดค้างเขาจะชดใช้ให้ในชาติหน้า
จงใจพูดให้เศร้าโศกชอกช้ำราวกับหลังกลับบ้านแล้วจะฆ่าตัวตายอย่างไรอย่างนั้น ทว่าทำให้รัชทายาทกลัวจับใจ ทั้งปวดใจทั้งแค้นเคือง บอกว่าจะช่วยนางแน่นอน ให้นางรออยู่ในบ้านให้ดีๆ ห้ามทำเรื่องโง่งมเด็ดขาด
ซูย่วนทั้งร้องทั้งร่ำอยู่พักใหญ่ ร่ำไห้จนทำเอาหัวใจรัชทายาทแทบเหลวละลายแล้วจึงค่อยแสร้งทำอาลัยอาวรณ์เหมือนจากเพื่อนรักไป
เวลาเดือนสองเดือนนี้ รัชทายาทส่งจดหมายมาหาจ้าวเซิงแทบจะทุกสองวัน ให้เขาหย่าภรรยา รีบกลับราชสำนัก ยังบอกว่ามีสตรีดีงามกำลังรอเขาอยู่ จากนั้นยังพล่ามต่ออีกเป็นกอง บอกว่าซูย่วนอ่อนโยนเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมอย่างนั้น รักแท้ไม่แปรเปลี่ยนอย่างนี้ เพื่อจ้าวเซิงแล้วแม้ให้ไท่จื่อเฟยก็ยังไม่เป็น สตรีรักเดียวใจเดียว ไม่หวังชื่อเสียงผลประโยชน์เช่นนี้มีไม่มากแล้ว…
“จดหมายของรัชทายาทอีกแล้วหรือ?” ซูเซียงกัดแอปเปิล ถามอย่างไม่ใส่ใจนัก
ตอนแรกเริ่มมากน้อยนางยังไม่สบายใจอยู่บ้าง แต่ช่วงที่ผ่านมานี้จดหมายทุกฉบับที่รัชทายาทส่งมาล้วนเป็นเรื่องเหล่านี้ ซูเซียงไม่ต้องดูก็ท่องได้คล่องปรื๋อ ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วรัชทายาทนั้นมีเครื่องถ่ายเอกสารหรือเปล่า เขียนสิ่งเดิมๆ เหมือนกันทุกวัน ไม่เหนื่อยบ้างหรือ?
เขาเขียนไม่เหนื่อย แต่ซูเซียงอ่านจนเหนื่อยแล้ว
จ้าวเซิงถือจดหมาย เพียงอ่านผ่านตาอย่างเฉยชาเช่นกัน ต่อมาก็วางลงด้านข้าง จดหมายของรัชทายาท เขาไม่อ่านไม่ได้ หากเกิดพลาดเรื่องเร่งด่วนอะไรขึ้นมาแล้วจะแย่เอา
“ไม่เป็นไร เขาอยากเขียนก็ให้เขาเขียนไป” จ้าวเซิงเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เอ่ยอย่างเรียบเฉย เพียงแต่นัยน์ตาปรากฎแสงสว่างริบหรี่ เห็นทีเรื่องบางเรื่องคงต้องรีบหน่อยแล้ว
ซูเซียงอุ้มครรภ์ร่างกายเหนื่อยล้าง่ายมาก เห็นจดหมายที่รัชทายาทส่งมานั้นเป็นเรื่องเดิมๆ ก็หาวฟอดใหญ่อย่างไร้ความสนใจ “ไม่มีเรื่องอะไรแล้วล่ะก็ข้าไปนอนก่อน เมื่อคืนเจ้าตัวน้อยนี่กวนข้าทั้งคืนจนไม่ได้หลับดีเลย”
“ได้” จ้าวเซิงพูดพลางลุกขึ้นประคองซูเซียงเดินไปห้องนอน
รอจนดูแลซูเซียงหลับเรียบร้อยดีแล้วเขาถึงค่อยออกมา “หลงฉี”
“นายท่าน” หลงฉีขานรับเสียงต่ำ เดินออกมาจากมุมมืด
“ที่ข้าให้เจ้าไปตามหาคนมีเบาะแสแล้วหรือยัง?”