เพราะรักสลักใจ - ตอนที่ 816 เปลือกแมลงนี้จะเป็นยาชั้นดีอะไรได้
จ้าวเซิงมองเปลือกของแมลง มุมปากกระตุก ภรรยาตัวน้อยบ้านเขาช่างคิดจริงเชียว ถ้าบอกว่าหญ้ากอหนึ่งเป็นสมุนไพรก็ยังแล้วไป นี่เปลือกแมลงลอกคราบสกปรกๆ อันเล็กๆ จะเป็นยาอะไรได้หรือ?
แต่เขายังคงปฏิบัติตามหลักภรรยาย่อมพูดถูกต้องเสมอ ถ้าไม่ถูกก็ขอให้ยึดถือสิ่งนี้เป็นมาตรฐานอันดับหนึ่ง พยักหน้ากล่าว “ดี เช่นนั้นข้าจะไปจัดเตรียมคน” ตามด้วยเอ่ยกับชุ่ยหลิ่วที่อยู่ข้างๆ “เจ้าประคองไว้หน่อย อย่าให้หกล้ม”
ซูเซียงมองดูที่ดินผืนนี้ เก็บกวาดค่อนข้างเป็นระเบียบ และไม่มีตรงที่ไหนขรุขระให้สะดุดล้ม ดังนั้นนางจึงปลดการประคองของชุ่ยหลิ่วออก เดินหาคราบจักจั่นเองคนเดียวอย่างร่าเริงสดใส
ชุ่ยหลิ่วเองก็คิดว่าไม่เป็นไร อย่างไรเสียบนทางเส้นนี้ก็ไม่ตะปุ่มตะป่ำอะไร อีกอย่างฮูหยินบ้านนางมากน้อยก็ยังพอมีวรยุทธ์ติดร่าง แม้อุ้มท้องมิได้สะดวกสบายขนาดนั้นแต่นางก็คงไม่กระทบกระแทกสุ่มสี่สุ่มห้า จึงยอมวางใจ ซูเซียงอยู่ตรงคันดินทางนี้ นางก็เดินไปตามหาคราบจักจั่นบนคันดินที่อยู่ติดกัน
สองนายบ่าวราวกับตามหาสมบัติ เล่นกันสนุกสนาน ทว่าแม่นมที่องค์หญิงเต๋อฮุ่ยส่งมาคนนั้นแทบหัวใจวายตาย! ทุกครั้งที่ซูเซียงค้อมเอว ทุกทั้งที่ย่อตัวลง นางล้วนรู้สึกเหมือนหัวใจไม่อยู่กับกับเนื้อกับตัว
ในใจภาวนาซ้ำแล้วซ้ำเล่าขอพรเทพสวรรค์อย่าให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นเด็ดขาด นางไม่เข้าใจเลยจริงๆ สตรีตั้งครรภ์ที่ไหนต้องออกกำลังมากขนาดนี้?
นางเคยเห็นกุลสตรีชั้นสูงมามาก ทุกครั้งที่ตั้งครรภ์ต่างระมัดระวังเป็นพิเศษ เวลาลงเดินดินยังน้อย แต่แม้ดูแลระวังตัวแบบนั้นแล้ว ก็ยังมีมากมายที่เป็นหนึ่งศพสองชีวิต
แต่บัดนี้จวิ้นจู่เหนียงเนี่ยงท่านนี้ไยไม่ให้ความสำคัญกับร่างกายตัวเอง ไม่รักษาตัวอยู่ในบ้านดีๆ ก็ยังแล้วไป ซุกซนเช่นนี้ จริงๆ เลย…
จ้าวเซิงเองก็กลัวว่าซูเซียงทางนี้จะเกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรขึ้น มองฟ้ายิ่งครึ้มเข้มลงทุกทีกลัวว่าฝนจะตกหนักห่าใหญ่ หากเปียกฝนตัวร้อนเป็นไข้ขึ้นมา ใช้ยารักษาจะไม่ดีต่อลูกในท้อง
ตอนจ้าวเซิงกลับมาซูเซียงกับชุ่ยหลิ่วสองคนร่วมแรงร่วมใจกันเก็บได้ครึ่งถุงใหญ่แล้ว ดีอกดีใจกันมาก รอยยิ้มเปล่งประกายบนหน้านั้นพิมพ์ประทับในสายตาของจ้าวเซิง ทำให้หัวใจทั้งดวงของเขาอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย เขายึดถือรอยยิ้มไร้เดียงสางดงามนี้ดุจสมบัติล้ำค่า
“ภรรยา ดูท่าอากาศไม่ดีมากแล้ว เรากลับบ้านกันก่อนเถอะ รอให้อากาศเย็นสบายข้าค่อยออกมาหาเป็นเพื่อนเจ้าดีหรือไม่?” จ้าวเซิงใช้แขนเสื้อเช็ดเม็ดเหงื่อบนหน้าผากให้ซูเซียง เกลี้ยกล่อมเสียงอ่อนเสียงค่อย
แม้ซูเซียงไม่ได้รู้สึกเหนื่อยล้า แต่ก็พ่ายแพ้ต่อความหวังดีของจ้าวเซิง อีกทั้งเห็นเมฆดำทะมึนก้อนนั้นเข้ามาใกล้ทุกทีก็กลัวว่าฝนจะตกหนักจริงๆ นางเป็นคนรักสนุกชอบเล่นไปหน่อย แต่ก็ไม่ใช่คนประเภทไม่รู้จักหนักเบา
จึงพยักหน้ากล่าว “ก็ได้ เช่นนั้นข้ากับชุ่ยหลิ่วกลับไปก่อน เจ้าเองก็รีบเก็บของหน่อย วันนี้ไม่เสร็จก็ค่อยทำต่อพรุ่งนี้ อย่าให้คนงานตากฝนจนไม่สบาย”
เหล่าคนงานที่ช่วยเก็บผลผลิตอยู่ด้านข้างได้ยินว่าซูเซียงเป็นห่วงพวกเขา แต่ละคนก็ต่างอบอุ่นหัวใจเหลือประมาณ
ในจำนวนนี้มีหลายคนทำงานในบ้านเจ้าของที่ดินตระกูลใหญ่ ใครบ้างเห็นพวกเขาเป็นคน? มิหนำซ้ำยังเจ้ากี้เจ้าการ มีก็แต่หวังเฟยที่นี่คนเดียว หวังเฟยเห็นทุกคนเท่าเทียมกัน ทำงานดีก็มีรางวัล ทำไม่ดีก็มีลงโทษ ไม่สนว่าเป็นใคร อีกทั้งแต่ไรมาซูเซียงไม่เคยเอาเปรียบทุกคน ของกิน ของดื่ม ของใช้ ล้วนปฎิบัติต่อพวกเขาดีกว่าเจ้าบ้านคนไหนๆ
“ขอบพระคุณหวังเฟย พวกเราร่างกายแข็งแรงขอรับ ไม่ต้องกลัว” ชายฉกรรจ์คนหนึ่งในกลุ่มพูดซื่อๆ จริงใจ
ระหว่างทางกลับ ซูเซียงพูดกับชุ่ยหลิ่วว่า “พรุ่งนี้เจ้าเชิญท่านอาหลี่มาที่จวนสักเที่ยว ข้าจะคุยเรื่องวิธีใช้คราบจักจั่นนี่กับเขา นี่เป็นตัวยาชั้นดีแท้จริงเชียว”
“พรุ่งนี้หรือเจ้าคะ พรุ่งนี้เกรงว่าจะไม่ได้ ดูเหมือนท่านหมอหลี่บอกว่าจะไปอำเภอข้างๆ สักเที่ยว” ชุ่ยหลิ่วคิดครู่หนึ่งแล้วตอบ
“เอาเถอะ นั้นรอให้เขาว่างก่อนค่อยว่ากัน”
สองคนพูดไปพูดมาก็เดินจากประตูหลังมาถึงกลางจวนแล้ว ทว่ากลับได้ยินเสียงรายงานของเด็กสาวรับใช้คนหนึ่ง “จวิ้นจู่ ข้างนอกมีนักพรตท่านหนึ่งมาขอพบท่านเจ้าค่ะ”