เพราะรักสลักใจ - ตอนที่ 820
สตรีตั้งครรภ์เหนื่อยล้า เจตนาไม่ดี
ในพระราชโองการกล่าวว่า ทรงทราบว่าวิธีทำของต้มพะโล้และพุดดิ้งนมนั้นเป็นซูเซียงริเริ่มบุกเบิก องค์จักรพรรดิเองทรงโปรดเครื่องเสวยแปลกใหม่ กระนั้นจึงเรียกซูเซียงเข้าเฝ้าทำขึ้นถวายด้วยตัวเอง
องค์จักรพรรดิมีราชโองการเพียงเพื่อเครื่องเสวยสำรับเดียว นี่เป็นเรื่องพิเศษหาใดเปรียบ สำหรับผู้อื่น นี่คงเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ทว่าหลังได้รับราชโองการใบหน้าของซูเซียงกับจ้าวเซิงต่างดำทะมึนลง พวกเขาล้วนชัดเจนอยู่แก่ใจ คนเหล่านี้ร่ำสุรามิได้มุ่งเสพรสสุรา เข้าเมืองหลวงครานี้ เกรงว่าอันตรายยิ่งนัก
ซูเซียงคิดอยู่เสมอว่าสามารถหลบได้หนึ่งวันก็รอดพ้นได้อีกหนึ่งวัน อย่างน้อยที่สุดให้ลูกในท้องนี้คลอดออกมาอย่างปลอดภัยก่อนแล้วค่อยเผชิญหน้ากับเรื่องเหล่านั้น
อีกทั้งหลายวันนี้นางไม่เพียงแต่เป็นสตรีตั้งครรภ์ เรื่องที่ควรจัดการนางก็กำลังจัดการ รวมถึงส่งจดหมายให้องค์หญิงเต๋อฮุ่ย ให้พระนางจัดเตรียมกำลังคนจำนวนหนึ่งไว้ในวังหลวงก่อน ยังมีคนในวังคนใดบ้างที่สามารถช่วยเหลือนางได้ยามเกิดเหตุสุดวิสัย เรื่องเหล่านี้พระนางล้วนเข้าใจทะลุปรุโปร่งและเขียนจดหมายมาให้พวกเขาด้วยตนเอง
แม้นางเตรียมพร้อมเพียงพอแล้ว และรู้ว่าทางจ้าวเซิงก็แอบเตรียมการไม่น้อยเช่นเดียวกัน ทว่าในใจนางยังคงหวาดหวั่น
หลังรับราชโองการ ทุกคนในบ้านล้วนไม่มีความสุขนัก แม้ไม่รู้ว่าใครมีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องนี้แต่ก็รู้ว่าจวิ้นจู่เหนียงเนี่ยงตั้งครรภ์เจ็ดเดือนกว่าแล้ว เป็นช่วงเวลาสำคัญพอดี องค์จักรพรรดิกลับเรียกนางเข้าเมืองหลวงเวลานี้ แท้จริงแล้วหมายความว่าอะไรกันแน่? ไม่กลัวว่าการเดินทางจะทำให้เหนื่อยล้าบาดเจ็บกระทบถึงแม่ลูก เห็นชัดว่ามิได้มีเจตนาดี!
แต่ผู้สั่งราชโองการฉบับนี้ลงมาเป็นองค์จักรพรรดิ เป็นประมุขของใต้หล้า ใครจะกล้าพูดอะไร?!
ซูเซียงกับจ้าวเซิงต่างเงียบงัน มีเพียงเสียงอวิ๋น นักพรตชราผู้นั้นที่เจื้อยแจ้วอยู่ข้างๆ เห็นแต่ริมฝีปากอ้าๆหุบๆของเขา เอาแต่ประณามฮ่องเต้ด้วยคำพูดจำพวกไม่เมตตาสรรพสัตว์ ไม่เอาความรักเป็นที่ตั้ง ต้องถูกสวรรค์ลงทัณฑ์
ซูเซียงฟังเขาเขาบ่นเสียงเจื้อยแจ้วอยู่ข้างๆก็รำคาญเหลือเกิน “พอแล้ว ท่านพูดน้อยลงสักสองประโยคได้หรือไม่? ท่านมีเวลาว่างทำแบบนี้มิสู้ช่วยคิดหาหนทางดีกว่า”
นักพรตชราฮึดฮัดหนึ่งเสียง ดูเหมือนไม่พอใจท่าทางความคิดของซูเซียงอย่างมาก “รู้แล้วๆ แม้จะเพื่อเดรัจฉานน้อยของข้าก็เถอะ แต่ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าเกิดเรื่องหรอก!”
ในวังหลวง จักรพรรดิกับรัชทายาทประทับด้วยกันอีกหน พระพักตร์สองพ่อลูกล้วนลึกเข้มดุจวารี
เป็นรัชทายาทปริปากก่อน “เสด็จพ่อ ได้ยินมาว่าท่านมีราชโองการให้สตรีผู้นั้นเข้าวังหลวงแล้ว ท่านวางแผนไว้เยี่ยงไร?”
จักรพรรดิยิ้มเยาะเสียงเย็น “แม้นเจิ้นมิอาจสังหารนาง แต่มีวิธีทรมานนาง ในท้องนางมิใช่อุ้มเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลจ้าวหรอกหรือ? เจิ้นไม่แตะต้องเด็กคนนั้น รอเด็กคลอดออกมาแล้วส่งเข้าบ้านสกุลจ้าวทันทีก็เป็นอันได้ สำหรับสตรีคนนั้น หึหึ ทั้งชีวิตนี้ก็แก่ตายอยู่ในวังหลวงเถอะ!”
“เสด็จพ่อ ความหมายของท่านคือ?” รัชทายาททูลถามอย่างไม่เข้าใจนัก
“หึ นางทำอาหารเป็นมิใช่หรือ? เช่นนั้นเจิ้นจะพระราชทานพระมาหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นสักครั้ง แต่งตั้งให้นางเป็นนางข้าหลวงห้องเครื่อง เจ้าคิดเห็นเช่นไร?” องค์จักรพรรดิหมุนแหวนหยกบนนิ้วหัวแม่มือ พระโอษฐ์แย้มสรวลบิดเบี้ยว
หญิงสมควรตายนางนี้ บังอาจแย่งความดีความชอบกับจักรพรรดิผู้สูงศักดิ์เยี่ยงเขา ไม่เคยได้ยินสำนวนที่ว่างานสูงกลบนายรึ? ทำให้เขาเสียหน้ายังคิดจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ไม่มีทางเสียหรอก! ไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือว่าใต้หล้านี้ผู้ใดเป็นเจ้าของ!
หลายวันมานี้เขาเข้าใจแล้ว เสด็จแม่พูดถูก เขาอิจฉาผู้หญิงคนนี้ เขาอยากฆ่านาง เช่นนั้นแล้วอย่างไร ตนเป็นถึงประมุขผู้ครองแคว้น จะจัดการสตรีคนหนึ่งไม่ได้เชียวหรือ? ตลกแล้ว!
รัชทายาทเองก็กลัดกลุ้มไม่เปล่งวาจา ไม่ว่าเสด็จพ่อจะทำอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น ขอเพียงแค่เด็กในท้องของสตรีคนนั้นไม่เกิดเรื่องนั่นคงไม่มีปัญหาอะไร อย่างไรเสียเด็กคนนี้ก็ต้องสืบสกุลให้แม่ทัพจ้าว มิได้มีผลกระทบอะไรต่อเชื้อพระวงศ์อย่างพวกเขา จะเกิดก็เกิดไป แต่สตรีคนนั้นคิดจะยึดนั่งบนตำแหน่งจ้านหวังเฟย ไม่มีทางเสียหรอก!
พระหัตถ์ของรัชทายาทกุมแน่นอยู่ภายใต้แขนเสื้อคลุมตัวโคร่ง หลังออกจากห้องทรงพระอักษรเขาจึงสั่งการกับขันที “ไปส่งข่าว ให้รับซูย่วนเข้ามาในวันที่ซูเซียงกับจ้าวเซิงเข้าวัง บางแผนการดูท่าว่าไม่ดำเนินการไม่ได้แล้ว”
เขาเชื่อมั่นว่าสุดท้ายจ้าวเซิงจะต้องเข้าใจความปรารถนาดีทั้งหมดนี้ของเขา ซูย่วนเป็นดรุณีดีงามถึงเพียงนั้น เพื่อแต่งให้เขาแล้วแม้กระทั่งชื่อเสียงแปดเปื้อนเสียบริสุทธิ์ก่อนแต่งนางก็ยังยินดีแบกรับไว้ น้องชายของตนยังจะไม่พึงพอใจอะไรอีก?!