เพราะรักสลักใจ - ตอนที่ 837 นี่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา / ตอนที่ 838 อาสาถอนตำแหน่ง ส่งมอบอำนาจทหารด้วยตัวเอง
- Home
- เพราะรักสลักใจ
- ตอนที่ 837 นี่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา / ตอนที่ 838 อาสาถอนตำแหน่ง ส่งมอบอำนาจทหารด้วยตัวเอง
ตอนที่ 837 นี่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา
พระพันปียิ้มเยาะอยู่ในใจ เพื่อเช็ดก้นตัวเองให้สะอาดถึงกับตัดใจทิ้งเส้นเลือดหลักลง!
อ้อ นางเกือบลืมไป เต๋อเฟยคนนี้ดูเหมือนไม่ได้รับความโปรดปราดจากฮ่องเต้นัก ก่อนหน้านี้ยังกระทบกระทั่งกัน เหอะๆ หินก้อนเดียวได้นกสองตัวสินะ ช่างสมเป็น “ลูกชายแสนดี”ที่ปีนออกมาจากท้องนาง!
พระพันปีกำลังคิดจะตรัสอะไรบางอย่าง จ้าวเซิงกลับเดินออกมาจากมุมมืด สีหน้าเขาทรุดโทรมและทึบทึมน่าสะพรึง รอบตัวแผ่ไอหนาวยะเยือกเป็นระลอก แสงตาหรุบรู่ ไม่ยินดียินร้าย มองจักรพรรดิและรัชทายาทตรงๆ อยู่อย่างนั้น กลับไม่เอ่ยวาจาแม้แต่ประโยคเดียว
เขาในตอนนี้ไม่ใช่ไม่อยากพูด แต่ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรอย่างแท้จริง พระบิดาแท้ๆ ของเขา พี่ชายแท้ๆ ของเขา ถึงกับรวมหัวกันมาทำร้ายสังหารภรรยาและลูกของเขา นี่ยังเป็นญาติพี่น้องกันอยู่หรือ?!
หากบอกว่าในเรื่องนี้ไม่มีพวกเขาสองคนอยู่ด้วย แม้จ้าวเซิงเห็นผีก็ยังไม่เชื่อ! อย่างน้อยเสด็จพ่อของเขาก็ไม่พ้นร่างแหนี้แน่นอน!
รัชทายาทรู้ตัวว่าวิธีการของตนไม่มีเกียรติ น่าละอายใจ แต่เขาทำเพราะหวังดีกับจ้าวเซิงจริงๆ มิเช่นนั้นจะยอมให้สตรีที่ตนรักออกมาได้อย่างไร เขาจริงใจควักหัวใจให้ขนาดนี้แล้ว จะให้เขาซึ่งเป็นพี่ชายทำอย่างไรอีก?!
แต่เหตุใดน้องชายกลับใช้สายตาเย็นชาเช่นนั้นจ้องมองตน ไม่มีเล่นหยอกเล่นชกต่อยเช่นยามปกติ เหลือไว้เพียงความเย็นชาและห่างเหิน
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ…
เขาคิดแค่ว่าต้องบีบให้สตรีคนนั้นแยกจากไป ไม่ยอมให้นางปีศาจจิ้งจอกชั่วช้าแบบนั้นทำร้ายน้องชาย ทำลายบ้านเมือง เขาคิดเช่นนี้จริงๆ เรื่องของซูเซียงในวันนี้ก็มิใช่เขาให้คนมาทำ เขาเองก็เป็นผู้บริสุทธิ์ ทั้งหมดนี้แท้จริงแล้วเป็นเพราะอะไรกันแน่…
รัชทายาทน้อยใจอยู่ข้างใน แต่รู้ดีว่าน้องชายของตนเพิ่งสูญเสียลูก หญิงชั่วคนนั้นก็ไม่รู้เป็นรู้ตาย แท้จริงเป็นตัวเองผิดก่อน ดังนั้นจึงฝืนทนความน้อยใจ เข้าไปพูดประจบเอาใจเล็กน้อย “ข้า ข้าเองก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ข้าก็แค่คิดว่า เจ้าเป็น จั้นอ๋องสูงศักดิ์ คู่ควรกับกุลสตรีอ่อนโยนน่ารักเช่นซูย่วน ข้า ข้าไม่ชอบหญิงชั่ว เอ่อ สตรีคนนั้น แต่ไม่เคยคิดจะเอาชีวิตของนางกับลูกในท้อง! หรือในใจของเจ้า ข้าเป็นพี่ชายที่เห็นชีวิตคนเป็นผักเป็นปลา แม้แต่ทารกยังไม่ยอมให้คลอดกำเนิดเช่นนั้นหรือ?!”
จักรพรรดิเหลือบมองรัชทายาทอย่างไม่ทิ้งร่องรอยหนึ่งสายตา อัดอั้นไม่เปล่งวาจา
จ้าวเซิงกวาดสายตามองเขาอย่างเฉยชา เค้นออกมาหนึ่งคำอย่างเยือกเย็น “ออกไป”
หากมิใช่บัดนี้จ้าวเซิงยังมีสติสัมปชัญญะเหลืออยู่เส้นหนึ่ง หากมิใช่เขาเห็นความจริงใจและห่วงใยในสายตาของรัชทายาท รู้ว่าพี่ชายของตนแม้ชอบเล่นอุบาย แต่ไม่มีทางลงมือกับเด็กบริสุทธิ์เด็ดขาด มิเช่นนั้นล่ะก็ ตอนนี้เขาคงพุ่งเข้าไปบีบคอคนให้ตาย
รัชทายาทน้อยใจไม่ได้รับความเป็นธรรม ทว่ากลับไม่อาจไม่หยุดถ้อยคำ ขอบตาแดงผ่าวมองน้องชายของตัวเอง แท้จริงแล้วเขาทำผิดอันใดกันแน่….
แต่จักรพรรดิต่างออกไป นัยน์ตามีแสงซ่อนเร้นสายหนึ่งวูบผ่าน คิดว่าความคิดของตนไม่มีคนล่วงรู้ แต่ผิดคาด ทั้งหมดนี้ล้วนถูกพระพันปีและจ้าวเซิงมองทะลุตั้งแต่แรก
สุดแท้จักรพรรดิไร้เมตตา พวกเขาเชื่อว่าเรื่องนี้มิใช่จักรพรรดิเอ่ยปากรับสั่งคนโดยตรง ทว่าผู้อยู่ยอดบนสุดของอาณาจักร เขาเพียงขมวดคิ้วก็ชักนำความสนใจให้คนไม่น้อยแล้ว
ขอเพียงเขาไม่โปรดปราน เขาชิงชัง ไม่จำเป็นต้องเอ่ยปาก คนมากมากมายก็พร้อมประจบเอาใจ
แต่เมื่อกล้าทำร้ายภรรยาและลูกของเขา ไม่ว่าพูดให้ดูดีมีเกียรติอย่างไรเขาก็ต้องสืบความจริงให้ปรากฎจงได้
พระพันปียิ่งยิ้มเย็นชา “ช่างเป็นลูกชายแสนดี หลานชายแสนดีของอายเจีย! หึ! เรื่องนี้อายเจียไม่มีทางยอมลดละรามือเป็นอันขาด พวกเจ้าดูแลตัวเองให้ดีเถิด และไม่กลัวจะบอกพวกเจ้าให้รู้ไว้ ในมืออายเจียยังถือตรามังกรของจักรพรรดิองค์ก่อนเอาไว้!”
ประโยคนี้ของพระพันปีเท่ากับฉีกหน้ากันแล้ว ในมือพระนางถือลัญจกรและพระราชโองการลับของจักรพรรดิองค์ก่อน ในสถานการณ์สุดวิสัย นางไม่เพียงแต่สามารถถอดตำแหน่งรัชทายาท ถึงขั้นสามารถปลดจักรพรรดิลงมาได้
จักรพรรดิสะท้านตกใจ เขาว่าแล้ว พระมารดาของเขาคนนี้ไม่มีทางรับมือได้ง่ายดาย
ครานั้นเสด็จพ่อมอบองครักษ์ลับที่ตนไว้ใจที่สุดให้แก่เสด็จแม่แต่กลับไม่ให้เขา เขายังเสียใจเพราะเรื่องนี้อยู่นาน ที่แท้ ที่แท้คนที่เสด็จพ่อทรงรักมากที่สุดมิใช่สนมเหมยผู้ที่แสนเอ็นดูโปรดปรานอยู่ข้างกายตลอดอะไรนั่น แต่เป็นพระมารดาของเขา! ทิ้งของแบบนี้ไว้ให้ ช่างไม่กลัวเลยว่าสตรีอย่างมารดาเขาจะแทรกแซงราชสำนัก แม่ไก่ขันตอนเช้ารึ? นี่ต้องเชื่อใจโปรดปรานเพียงไหนจึงสามารถมาถึงขั้นนี้ได้?!
อีกอย่าง ครานั้นตอนเขาขึ้นครองราชย์อันตรายถึงเพียงนั้น เสด็จแม่ไม่เคยขยับตรามังกร บัดนี้เพียงเพื่อหญิงชั่วคนหนึ่งถึงกับเป็นศัตรูกับโอรสของตน!
ตรามังกร ครานั้นตอนฝังร่วม[1]ตามหาของสิ่งนี้ไม่เจอ พวกเขายังคิดว่าเสด็จพ่อแอบซ่อนไว้ที่ไหนสักแห่ง คิดไม่ถึงว่ากลับมอบให้กับเสด็จแม่!
ความรู้สึกแปลกประหลาดสายหนึ่งค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในใจจักรพรรดิ เสด็จแม่ของเขาคงไม่…
หากมีเมล็ดพันธุ์ตกพื้น มันก็จะงอกราก แตกหน่อ จากนั้นก็เติบโตขึ้นทุกวันจนทำให้คนคนนี้จุกตาย
——
[1] ฝังร่วม (陪葬) หมายถึงประเพณีนำสิ่งของฝังกลบร่วมกับผู้วายชนม์ เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับชีวิตหลังความตายของผู้ตาย
ตอนที่ 838 อาสาถอนตำแหน่ง ส่งมอบอำนาจทหารด้วยตัวเอง
จักรพรรดิเวลานี้ในพระทัยตื่นตระหนกเหลือคณา ยังเจือด้วยความหวาดหวั่น คิดดูแล้ว ยังรู้สึกว่าไม่ควรแตกหักกับมารดาของตนด้วยเรื่องเล็กน้อย “ขนไก่เปลือกกระเทียม” เช่นนี้ ไม่คุ้มเลย
กระนั้นจึงทำท่าขึงขังรับสั่งกับผู้ว่าการศาลต้าหลี่ “สืบ! สืบให้เจิ้นให้รู้เรื่อง! ถ้าไม่สามารถสืบความจริงให้ปรากฏ ต้องมีคำอธิบาย ผลที่ตามมาเจ้าคงรู้ดี!”
ข่มขู่! เฮอะๆ นี่มันข่มขู่กันชัดเจนขึ้นตัวแดงเลย!
อะไรคือเรียกว่าสืบให้ความจริงปรากฏ อะไรคือต้องมีคำอธิบาย กระแสรับสั่งของจักรพรรดิใครบ้างจะกล้าไม่ทำตาม? ก็แค่ทำวางท่าให้พระพันปีกับจ้าวเซิงดูก็เท่านั้น
ทว่าเรื่องทำนองนี้ทุกคนรู้ดีอยู่แก่ใจ และด้วยเหตุนี้ พระพันปีจึงยิ่งผิดหวัง
“ไสหัวไป! ไสหัวออกไปให้หมด!” ในที่สุดพระพันปีก็บันดาลโทสะแล้ว ตรงเข้าคว้ากระบี่ขององครักษ์ที่อยู่ด้านข้างนายหนึ่ง พุ่งสะบัดไปทางคนทั้งสอง “รีบไสหัวไปให้ข้า! ข้าไม่มีลูกหลานแบบพวกเจ้า ไป!”
จักรพรรดิตื่นตกใจ เขารู้ดีว่าท่านยายบ้านเขาก็มีอุปนิสัยแบบนี้ แต่เสด็จแม่ของเขานั้นอยู่ในวังหลวงนานปีขนาดนี้แล้ว คิดไม่ถึงว่ายามปกติอบอุ่นอ่อนโยน ภายในนั้นห้าวหาญดุดันเหมือนกัน
เห็นพระมารดาของตนทรงกริ้วจริงจังแล้ว จักรพรรดิไหนยังจะกล้ารั้งอยู่นาน เวลานี้ก็ยังไม่ลืมลูกชายของตน ฉวยคว้ารัชทายาทได้ก็ออกวิ่งอย่างรวดเร็ว
คืนนี้เขาขายหน้าไปมากแล้ว แต่โชคดีที่คนเหล่านี้ล้วนเป็นสนิทเชื่อใจได้ของเสด็จแม่ ทั้งล้วนปากหนัก มาตรว่าคงไม่ออกไปพูดส่งเดช
เฮอะๆ แท้จริงแล้วทำไมคนพวกนี้จะไม่รู้ ก็แค่คร้านจะเปิดปากก็เท่านั้น
รุ่งเช้าวันต่อมา เนื่องด้วยเรื่องเมื่อคืนจักรพรรดิจงใจปรับแต่งสารที่เผยแพร่ออกไป โกลาหลทั่วทั้งราชสำนัก
คิดไม่ถึงเวลานี้จ้าวเซิงยกถาดใบหนึ่งเข้ามาในโถงพระที่นั่ง ขณะที่ผู้คนยังไม่ทันตอบสนองกลับมาก็ยกสิ่งของตรงไปคุกเข่าลงบนพื้นทันที “กราบบังคมทูลเสด็จพ่อ กระหม่อมไม่อาจดูแลชายแดนให้สงบมั่นคง ทั้งไม่สามารถดูแลปกป้องภรรยาและบุตร ขอเสด็จพ่อทรงถอดถอนตำแหน่งบรรดาศักดิ์ชินอ๋องของกระหม่อม กระหม่อมยินดีส่งมอบอำนาจทางการทหารของตน ขอเพียงเสด็จพ่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานอนุญาตให้กระหม่อมพาภรรยากลับบ้านเกิด”
เดิมทุกคนรับฟังข่าวลือเหล่านั้นมาบ้างแล้ว เป็นทั้งฉบับก่อนและหลังปรับแต่งหลายกระแส ทว่าบัดนี้เห็นท่าทีเช่นนี้ของจ้าวเซิงก็ต่างพากันแอบวิจารณ์กระซิบกระซาบ ดูจากท่าทีสถานการณ์นี้ ทำไมถึงรู้สึกว่าข่าวที่เล่าลือออกมาเหล่านั้นมีบ้างอย่างไม่สอดคล้องกันนะ?
แรกสุดมิใช่กล่าวว่าเซียงหรงจวิ้นจู่หกล้มในวังหลวงเองจนเป็นเหตุให้เสียบุตร จากนั้นจั้นอ๋องยังไม่ยินยอมลดละมิใช่หรือ?
ทว่า ท่าทางของ จั้นอ๋องในวันนี้ไหนจะเหมือนคนไม่รู้หนักเบา เห็นชัดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ถึงกับแม้แต่อำนาจทางการทหารก็ยังไม่ต้องการแล้ว
ทว่ายังมีคนลอบวิจารณ์อยู่ภายใน บอกว่าเรื่องพวกนี้เป็นแค่กลอุบายของจ้าวเซิงเท่านั้น บางทีเขาอาจมีใจไม่ซื่ออยู่ก่อนแล้ว เพียงแค่ใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างก็เท่านั้น
จักรพรรดิที่ประทับอยู่ทรงพระพิโรธ คู่พระหัตถ์สั่นไหวชี้จ้าวเซิง “ดี ดี ดี!”
ตรัสคำว่าดีติดต่อกันสามเสียงแล้วตบโต๊ะมังกรอย่างเคืองขุ่น “บิดาพี่น้อง เลือดเนื้อเชื้อไข ถึงที่สุดแล้วยังเทียบมิได้กับหญิงแพศยาคนหนึ่ง! ช่างเป็นลูกประเสริฐ ลูกประเสริฐ จริงๆ !”
“ลูกที่เสียไปเมื่อวาน นั่นก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของกระหม่อมเช่นกัน” จ้าวเซิงยืนกรานไม่ถอยไม่เข้า เอ่ยอย่างเฉยชา
“เจ้า!”
จักรพรรดิทรงกริ้วก็ส่วนกริ้ว แต่เขาไม่อาจตอบตกลงให้จ้าวเซิงส่งมอบอำนาจทางการทหาร เขาเกรงกลัวโอรสคนนี้ แต่ก็ช่วยไม่ได้ บัดนี้ชายแดนไม่มั่นคง เขายังต้องพึ่งบุตรชายคนนี้อยู่
นี่น่าหัวร่อแล้ว อยากให้วัวทำงาน แต่ไม่อยากให้วัวกินหญ้า วัวก็ยังช่วยทำงานให้เขาอยู่ แม้นผู้อื่นกำลังจ้องวางแผนว่าทำอย่างไรถึงจะกินเนื้อบนร่างชิ้นนั้นให้อร่อย มันช่าง…
คนในราชสำนัก ผู้ใดเล่ามิใช่คนปราดเปรื่อง และมีคนไม่น้อยมองออกว่ามีความไม่ชอบมาพากลในเรื่องนี้ สุดท้ายแล้วถ้อยคำที่ออกมาจากรั้วประตูสูงกำแพงแดงนั้นมีกี่ประโยคเป็นความจริง?
ทว่าผู้ที่นั่งบนตำแหน่งนั้นเป็นเจ้าแผ่นดิน พวกเขาจะทำอย่างไรได้ คงมิอาจป่าวประกาศกระด้างกระเดื่องจักรพรรดิได้หรอกกระมัง? นั่นเป็นเรื่องหลังปิดประตูบ้านของผู้อื่นเขา หากพวกเขาเข้าไปประสมโรงนั่นจะกลายเป็นเช่นไร? หันหน้ากลับผู้อื่นเป็นพ่อลูกพี่น้องกัน ยิ้มเดียวบุญคุณความแค้นสลาย คนที่ลำบากจะเป็นพวกเขา
จึงมีทูตไกล่เกลี่ยสองสามคนลุกออกมา พากันเกลี้ยกล่อมจ้าวเซิง บอกว่าทั้งหมดนี้ล้วนเข้าใจผิด ตนปิดประตูบ้านคุยกันในครอบครัวก็เป็นอันได้แล้ว ล้วนเป็นญาติกันทั้งนั้น อย่าได้ทำร้ายสายสัมพันธ์ของพ่อลูกพี่น้อง
จ้าวเซิงรู้ว่าคนเหล่านี้มีแผนในใจตัวเอง แต่จุดประสงค์ที่มากกว่าก็คำนึงถึงบ้านเมือง เขาเองไม่อยากติดใจถือสากับพวกเขา เพียงพยักหน้าเป็นเชิงขอบคุณไปทางพวกเขา ทว่ายังคงยืนกรานคุกเข่าอยู่บนพื้น ถวายความเคารพก้มกราบเต็มพิธีให้จักรพรรดิที่ประทับนั่ง “ขอเสด็จพ่อทรงเห็นแก่หยาดเหงื่อหยดเลือดเพื่อต้าหรงตลอดหลายปีของกระหม่อม ถอดยศชินอ๋องของกระหม่อม ปล่อยภรรยาของกระหม่อมกลับบ้านเกิด ขอเสด็จพ่อทรงพระกรุณา!”
บนท้องพระโรง จ้าวเซิงไม่อยากโพนทะนาเรื่องนี้ให้คนรู้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผู้ประทับอยู่บนตำแหน่งนั้นก็เป็นพระราชบิดาของเขา ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็เป็นพระเชษฐาของเขา ล้วนเป็นสายเลือดของตน มากน้อยเขาก็ยังอยากไว้หน้าให้พวกเขา